ตอนที่ 308 พัฒนาโดยไร้สิ่งกีดขวาง!
ตอนที่ 308 พัฒนาโดยไร้สิ่งกีดขวาง!
ทางราชวงศ์รู้ดีว่าสิ่งที่ศิษย์ชั้นในแห่งนิกายเป่ยเที่ยนซงอย่างลู่ชางเฉิงต้องการที่สุดคืออะไร
แค่ยารู้แจ้งสามเม็ดบวกกับภาพ "หมื่นชีวิต" ก็ถือว่าเป็นการขอโทษที่ไม่อาจปฎิเสธได้อีกแล้ว
"ขอบคุณมากองค์หญิงชิวหยุน"
"ข้าเห็นแล้วว่าทางราชวงศ์นั้นไม่ได้เป็นอย่างที่ข้าคิดจริงๆ"
"เมื่อเป็นเช่นนี้เรื่องทุกอย่างก็จบลงเพียงเท่านี้ เมื่อข้ากลับไปยังนิกายเป่ยเที่ยนซงข้าก็จะไม่เอ่ยถึงเรื่องของหวางหยงอีก"
"แต่ครั้งหน้าทางราชวงศ์ควรควบคุมและดูแลคนของพวกเจ้าให้มากขึ้นและอย่าปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อีกเป็นอันขาด"
ลู่ชางเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
หลังจากนั้นเขาก็รับภาพ "หมื่นชีวิต" และยารู้แจ้งทั้งสามเม็ดมา
องค์หญิงชิวหยุนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพราะในที่สุดเธอก็ทำภารกิจที่ทางราชวงศ์มอบหมายมาได้สำเร็จ
"ขอบพระคุณนายท่านที่ไม่เอาความเพคะ"
ลู่ชางเฉิงพยักหน้าและกล่าวว่า "เอาล่ะ ภารกิจของข้าเองก็เสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้นจึงได้เวลาที่ข้าต้องเดินทางกลับนิกายแล้วเช่นกัน"
เมื่อกล่าวจบ ลู่ชางเฉิงจึงลุกขึ้นและก้าวออกไปจากห้อง
และในชั่วพริบตา ลู่ชางเฉิงก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
จางเหวินตี้และองค์หญิงชิวหยุนต่างมองหน้ากัน
ลู่ชางเฉิงไม่สนใจราชวงศ์จักรวรรดิต้าหยูเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่าองค์หญิงจะเสด็จมาด้วยพระองค์เองแต่ลู่ชางเฉิงกลับรับ "ของกำนัล" แล้วจากไป
เขาไม่แม้แต่จะใส่ใจถึงศักดิ์ศรีขององค์หญิงเลยด้วยซ้ำ
"เอ่อ..."
จางเหวินตี้ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดีเช่นกัน
องค์หญิงชิวหยุนเองก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
ก่อนมาทางราชวงศ์ได้กำชับกับนางเอาไว้อย่างหนึ่ง
นางคือสตรีที่โดดเด่นที่สุดแห่งราชวงศ์ในจักรวรรดิต้าหยู ทั้งรูปโฉมและพรสวรรค์ที่ล้วนอยู่ในระดับสูงสุดของราชวงศ์
เดิมทีทางราชวงศ์ส่งนางมาก็เพื่อหวังให้ลู่ชางเฉิงมีทัศนคติที่ดีต่อทางราชวงศ์
ยิ่งไปกว่านั้น หากลู่ชางเฉิงเกิดสนใจองค์หญิงชิวหยุนก็จะยิ่งเป็นการดีมากยิ่งขึ้น
"ลู่ชางเฉิงคนนั้น…สมแล้วเป็นศิษย์ชั้นในแห่งนิกายเป่ยเที่ยนซง"
องค์หญิงชิวหยุนมองลึกไปยังทิศทางที่ลู่ชางเฉิงจากไป และไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้นอีก
ของกำนัลในครั้งนี้ทำให้ทางราชวงศ์ต้องสูญเสียไปอย่างมาก
แต่ถึงอย่างนั้น ทางราชวงศ์ก็ได้รู้ถึงสถานะของลู่ชางเฉิงภายในนิกายเป่ยเที่ยนซงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ลู่ชางเฉิงไม่ใช่แค่ศิษย์ชั้นในธรรมดา
แต่ควรเรียกเขาว่า “ว่าที่ศิษย์หลัก” ในอนาคตถึงจะถูกต้องที่สุด!
นอกจากนี้ลู่ชางเฉิงยังมีระดับพลังจิตอยู่ในขั้นที่ 28 !
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือว่าที่ศิษย์หลักคนต่อไปอย่างแน่นอน!
แม้ว่าทางราชวงศ์จะต้องสูญเสียสมบัติไปบ้างแต่ก็ถือว่าเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลู่ชางเฉิงผู้ที่จะก้าวขึ้นเป็นศิษย์หลักในอนาคต
การได้สร้างความสัมพันธ์กับศิษย์หลักในอนาคตของนิกายเป่ยเที่ยนซงนั้น ต่อให้ต้องสูญเสียสมบัติไปมากกว่านี้ก็ยังถือว่าคุ้มค่า!
…
ลู่ชางเฉิงกลับไปถึงนิกายเป่ยเที่ยนซงและรีบตรงไปวิหารภารกิจทันที
เขามอบแก่นแท้เลือดปีศาจให้กับผู้อาวุโสผู้ดูแลวิหารภารกิจ
"เจ้าทำได้ดีมาก เจ้าทำภารกิจสำเร็จได้อย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนด้วยซ้ำ"
"นอกจากนี้เจ้ายังเป็นดาวรุ่งศิษย์ชั้นในเจ้าจึงได้รางวัลสองเท่า เท่ากับว่าเจ้าได้รับแต้ม20,000แต้ม"
ผู้อาวุโสคนนั้นรับแก่นแท้เลือดปีศาจไป
ขณะเดียวกัน แต้มของลู่ชางเฉิงก็เพิ่มขึ้นเป็น 28,000 แต้ม
เขาสามารถนำแต้มไปแลกยารู้แจ้งได้อีกถึงสองเม็ด
ทว่าลู่ชางเฉิงยังไม่ได้รีบไปแลกยารู้แจ้ง
แต่เขากลับไปยังที่พักของเขาเองก่อน
เพราะเขายังต้องตรวจสอบสิ่งที่ได้รับจากการที่ออกไปทำภารกิจนอกนิกายในครั้งนี้
ยารู้แจ้งสามเม็ด สมบัติวิเศษ "ภาพหมื่นชีวิต" หนึ่งชิ้น และแต้ม20,000แต้ม
ซึ่งจริงๆแล้วควรจะบอกว่าลู่ชางเฉิงได้ยารู้แจ้งสี่เม็ดมากกว่า
เพราะก่อนหน้านี้ลู่ชางเฉิงได้กินยารู้แจ้งไปแล้วหนึ่งเม็ดที่เมืองชิงโจว
เมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาได้มาทั้งหมดแล้ว การออกไปทำภารกิจนอกนิกายในครั้งนี้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามาก
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกครั้งที่เขาออกไปทำภารกิจและจะได้ผลตอบแทนมากมายขนาดนี้
ครั้งนี้ถือว่าจึงเขาโชคดี
นอกจากนี้ลู่ชางเฉิงต้องวางแผนให้ดีว่าจะใช้ยารู้แจ้งทั้งสามเม็ดนี้อย่างไร
เพราะเขามียารู้แจ้งอยู่สามเม็ดแต่เขามีพลังพื้นที่อาณาเขตสี่รูปแบบ
ดังนั้นเขาจึงต้องคิดว่าจะใช้ยารู้แจ้งทั้งหมดเพื่อพัฒนาพลังพื้นที่อาณาเขตรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งให้ไปถึงขั้นสมบูรณ์ หรือจะแบ่งเท่าๆกันเพื่อพัฒนาทุกพลังพื้นที่อาณาเขต?
เรื่องนี้เขาจำเป็นต้องคิดให้รอบคอบ
ลู่ชางเฉิงกำลังครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วนว่าทุกครั้งที่เขาใช้พลังพื้นที่อาณาเขต พลังพื้นที่อาณาเขตของเขาดูเหมือนจะด้อยกว่าและถูกพลังพื้นที่อาณาเขตของคู่ต่อสู้ทำลายได้ง่ายๆ
นอกจากนี้เขายังสามารถเอาชนะได้ด้วยการใช้จำนวนพลังพื้นที่อาณาเขตเข้าสู้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในที่สุดลู่ชางเฉิงก็ตัดสินใจได้
"ดูเหมือนว่าก่อนอื่นข้าจะต้องพัฒนาพลังพื้นที่อาณาเขตแห่งดวงดาวให้สมบูรณ์แบบก่อน"
ลู่ชางเฉิงมียารู้แจ้งอยู่สามเม็ด
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังสามารถใช้แต้มเพื่อแลกยารู้แจ้งได้อีกสองเม็ด
ซึ่งนั่นน่าจะมากเพียงพอที่จะยกระดับพลังพื้นที่อาณาเขตแห่งดวงดาวให้สูงขึ้นไปอีกขั้นได้
ดังนั้นเมื่อถึงเวลาตกกลางคืน ลู่ชางเฉิงจึงกินยารู้แจ้งภายในที่พักของตนเองและเริ่มต้นการพัฒนาพลังพื้นที่อาณาเขตแห่งดวงดาว
หลังจากนั้นเวลาได้ผ่านสามวัน...
ในช่วงเวลาสามวันที่ผ่านไป ลู่ชางเฉิงได้กินยารู้แจ้งไปหมดทั้งสามเม็ด
และตลอดช่วงสามวันที่ผ่านมา เขาได้ทุ่มเทการฝึกไปกับพลังพื้นที่อาณาเขตแห่งดวงดาวอย่างเต็มที่
ซึ่งนั่นทำให้ความคืบหน้าของพลังพื้นที่อาณาเขตแห่งดวงดาวเกือบจะไปถึง 57% แล้ว
อันที่จริงแล้วแค่นี้ก็ถือว่าสูงมากๆแล้ว
เพราะมันเกินกว่า 50% ไปแล้ว
ตอนนี้พลังพื้นที่อาณาเขตแห่งดวงดาวของลู่ชางเฉิงจึงถือได้ว่าแข็งแกร่งมากๆ
แต่ทว่าลู่ชางเฉิงยังคงไม่พอใจ
เขาจึงใช้แต้ม20,000แต้มเพื่อแลกยารู้แจ้งมาอีกสองเม็ด
หลังจากนั้นลู่ชางเฉิงได้กินยารู้แจ้งแล้วจึงไปฝึกฝนพลังพื้นที่อาณาเขตแห่งดวงดาวต่ออีกสองวัน
ซึ่งมันทำให้พลังพื้นที่อาณาเขตแห่งดวงดาวมีความคืบหน้ามากไปถึง 75%
ขณะเดียวกันลู่ชางเฉิงกลับรู้สึกว่าเขากำลังประสบกับบางอย่างที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก
เพราะความเร็วในการพัฒนาพลังพื้นที่อาณาเขตแห่งดวงดาวของเขาดูเหมือนจะไม่ช้าลงเลย
ราวกับว่ามันไม่มีคอขวดใดๆคอยกีดขวางหรือสกัดกันเขาอยู่
โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งพลังพื้นที่อาณาเขตมีความก้าวหน้าไปมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งพัฒนายากขึ้นเท่านั้น
แต่ทว่าความเร็วในการพัฒนาของลู่ชางเฉิงกลับไม่ช้าลง
การได้กินยารู้แจ้งไปหนึ่งเม็ด สามารถเพิ่มความก้าวหน้าของพลังพื้นที่อาณาเขตแห่งดวงดาวได้ประมาณ 8% ถึง 10%
ลู่ชางเฉิงเองก็พอจะรู้สาเหตุแล้ว
ซึ่งนั่นก็คือค่าความเข้าใจ!
บางทีอาจเป็นเพราะค่าความเข้าใจของลู่ชางเฉิงนั้นสูงมากเกินไป
แม้แต่การทำความเข้าใจพลังพื้นที่อาณาเขตไปจนถึงระดับสมบูรณ์แบบ สำหรับลู่ชางเฉิงแล้วจึงไม่ถือว่ายากมากนักก็
"ถ้าประสิทธิภาพในการทำความเข้าใจพลังพื้นที่อาณาเขตยังไม่ลดลงเช่นนี้ การกินยารู้แจ้งอีกสามเม็ดอาจจะทำให้พลังพื้นที่อาณาเขตแห่งดวงดาวไปถึงระดับสมบูรณ์แบบได้!"
แววตาของลู่ชางเฉิงเริ่มเป็นประกาย
เขาเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อพลังพื้นที่อาณาเขตแห่งดวงดาวสมบูรณ์แบบแล้วมันจะเป็นอย่างไร?
แต่ในตอนนี้เขายังขาดยารู้แจ้งนี้อีกสามเม็ด
ถ้าหากว่าจะแลก เขาก็ต้องใช้แต้มถึงสามหมื่นแต้ม
ตอนนี้ลู่ชางเฉิงเหลือแต้มเพียง8,000แต้มเท่านั้น
ดังนั้นเขาจึงต้องทำภารกิจเพิ่ม!
แต่ในตอนนี้เขายังไม่รีบร้อนมากนัก
เพราะการพัฒนาพลังพื้นที่อาณาเขตต่อไปนั่นหมายถึงการพัฒนาของด้านพลังในร่างกาย
แต่ลู่ชางเฉิงไม่เคยลืมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์คืออะไร
ซึ่งนั่นก็คือพลังจิต!