ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2 กระทะเหล็กวิวัฒนาการ

ตอนที่ 1 ตื่นขึ้นจากความตาย


ตอนที่ 1 ตื่นขึ้นจากความตาย

 

หยาดฝนโปรยปรายไปทั่วเมืองก้อนหินน้อย ฟากฟ้าเปลี่ยนเป็นสีเทาจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม เมื่อมองออกไปจากใจกลางเมืองจะเห็นเพียงทิวทัศน์รกร้างว่างเปล่า มีเพียงซากปรักหักพังของกำแพงที่คงอยู่

รถบรรทุกหลายคันแล่นเข้ามาจอดที่หน้าอาคารใหญ่ของโรงแรมสภาพซอมซ่อแห่งหนึ่ง

คนขับเปิดประตูรถพร้อมกระโดดลงมาอย่างคล่องแคล่วพร้อมตะโกนบ่นคนอื่น ๆ อย่างหัวเสีย “เฮ้ย! สินค้าน้อยลงอีกแล้ว ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไปต้องมีคนที่กินข้าวไม่อิ่มแล้วล่ะ! บ้าเอ๊ย ผลประโยชน์ส่วนใหญ่ถูกพวกหัวหน้ายึดเอาไปหมด พวกเราเลยต้องต่อสู้กับซอมบี้เพื่อเอาชีวิตรอด แล้วยังไม่มีข้าวกินอีก!”

ขณะก่นด่า เขาปิดประตูรถเสียงดังพร้อมตะโกนบอกพวกที่อยู่ข้างหลัง

“มัวรออะไรอยู่วะ ลงมาได้แล้ว! รีบขนสินค้าเข้าไปข้างในด้วย อย่าให้เปียกล่ะ!”

ประตูโกดังถูกเปิดออกทันที ชายหกคนร่างกายกำยำกระโดดลงจากรถบรรทุกหกล้อ กลุ่มหนึ่งมีสองถึงสามคนช่วยกันขนสินค้าจากบนรถเข้าไปในอาคารหลักของโรงแรม

ขณะนั้นชายร่างผอมบางวิ่งเข้ามาพร้อมกับกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม “หัวหน้าเฉิน! คราวนี้พวกเรารอดแล้ว ข้างในคลังมีผักตั้งหลายกิโล แถมผู้เฒ่าซ่งยังแอบใส่เนื้อหมูให้พวกเราอีกตั้งสองกิโล วันนี้ได้กินหม้อไฟแล้ว!”

หัวหน้าเฉินเหลือบมองชายคนนั้นแว๊บหนึ่งก่อนเริ่มตำหนิ “หม้อไฟบ้านแกน่ะสิ! ของพวกนี้ต้องแบ่งให้กับทุกคน ผอม ๆ อย่างแกยังคิดจะตะกละอีกหรือไง!”

ลิงผอมที่โดนตำหนิหน้าเจื่อนทันทีพร้อมพึมพำออกมา “ก็มีผักแค่ไม่กี่กิโลกับเนื้ออีกสองกิโล แล้วในกลุ่มพวกเรามีตั้งหลายร้อยคนจะแบ่งกันยังไง? หรือว่าจะสับเนื้อทั้งหมดให้ละเอียดแล้วปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ แจกจ่ายให้ทุกคนกลับไปต้มชาดื่มที่บ้านล่ะครับ?”

“ฉันจำได้ว่าชั้นที่แกอยู่มีคนเป็นพ่อครัวของโรงแรมไม่ใช่หรือไง? ชื่อซ่งเจิงรึเปล่านะ… เรียกเขามาจัดการกับของพวกนี้ซะ เอาเป็นตุ๋นหมู ซุปเนื้ออะไรก็ได้ ทุกถ้วยต้องมีเนื้อให้ทุกคนกิน!”

ขณะเดียวกันนี้

ซ่งเจิงที่เพิ่งถูกกล่าวถึงกำลังยืนเหม่ออยู่ข้างหน้าต่างในห้องของโรงแรม สายตาทอดยาวมองดูอาคารสูงเสียดฟ้าที่อยู่ไกลออกไป ระหว่างทางเต็มไปด้วยถนนที่ชำรุดทรุดโทรมจากกลุ่มซอมบี้…

“เรื่องพวกนี้มันไร้เหตุผลเป็นบ้า......”

ซ่งเจิงพึมพำออกมาในขณะที่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดเช่นกัน เขารู้แค่ว่าโลกใบนี้มันโหดร้ายเกินไป

ยุคสมัยปัจจุบันเขาคือนักศึกษาที่เพิ่งจบจากโรงเรียนเทคโนโลยีโม่วเซียง แต่ในขณะที่เขาสอบเสร็จแล้วพลันเกิดพายุฝนกรรโชกแรง ภาพจำสุดท้ายของเขาคือมีเสียงกรีดร้องจากเพื่อนร่วมชั้นดังระงมไปทั่วพร้อมกับอาจารย์ที่ตื่นตระหนก แต่หลังจากลืมตาขึ้นเขาก็พบว่าตัวเองมาอยู่ที่โลกใบนี้แล้ว... แถมมาอยู่ในร่างของใครก็ไม่รู้!

ทุกอย่างคล้ายกับเรื่องบังเอิญ เจ้าของร่างเดิมชื่อซ่งเจิง เขาเป็นพ่อครัวของโรงแรมนี้ เมื่อคืนก่อนซ่งเจิงคนเดิมเป็นไข้สูงจนหมดสติไป แต่พอตื่นขึ้นมาก็กลายเป็นว่าเขาเป็นเจ้าของร่างนี้ซะแล้ว

แต่ในความมืดมนซ่งเจิงได้รับพรจากเทพเจ้าช่วยให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ทว่าโลกที่เขายืนอยู่กลับไม่เป็นดั่งฝัน เมื่อเทียบกับโลกเดิมแล้ว ที่นี่ไม่มีแม้ความปลอดภัยอะไรทั้งสิ้น แม้ว่าโลกปัจจุบันจะเต็มไปด้วยมลพิษต่าง ๆ แต่มันก็ยังไม่อันตรายขนาดนี้!

ตอนที่เขาข้ามมิติมา สมองเก็บความทรงจำก่อนหน้าได้นิดหน่อยจึงได้รู้ว่านี่คือจุดจบของวันสิ้นโลก เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้ามีการระบาดของเชื้อโรคร้ายแรงจนนำพาไปสู่ภัยพิบัติและพามนุษยชาติมุ่งหน้าสู่ความตาย!

ผู้คนจำนวนมากติดเชื้อและร่างกายของพวกเขาคล้ายกับครึ่งคนครึ่งผี ทั้งหมดถูกเรียกว่าซอมบี้ มันกินเลือดและเนื้อของมนุษย์เป็นอาหาร!

แต่มีสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าซอมบี้… นั่นก็คือสัตว์ป่าที่ติดเชื้อจนถูกเรียกว่าสัตว์กลายพันธุ์! ว่ากันว่ามันดุร้ายยิ่งกว่าซอมบี้สิบเท่า มันสามารถกินมนุษย์จนไม่เหลือแม้กระดูก!

แม้ซ่งเจิงจะเคยดูหนังฟอร์มยักษ์และอ่านนิยายแฟนตาซีในอินเทอร์เน็ตมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะหวั่นใจ แม้แต่ออร์คที่ร่างใหญ่และดุร้ายก็ยังไม่โหดเหี้ยมเท่านี้!

แต่โชคดีที่เจ้าของร่างนี้เป็นพ่อครัว ไม่อย่างนั้นเขาก็คงต้องขึ้นรถไปฆ่าซอมบี้กับคนอื่น ๆ หรือไม่เขาก็คงตื่นมาอยู่ท่ามกลางฝูงซอมบี้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นคงไม่พ้นที่จะตายอีกครั้ง

ขณะที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เสียงฝีเท้าดังขึ้น มันใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ พร้อมกับเสียงเคาะประตูในอึดใจ ซ่งเจิงรีบลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปเปิดประตู

เขาอยู่ที่โลกใบนี้มาเกือบสองวันแล้ว แต่ยังไม่เคยคุ้นเคยเท่าไหร่นัก

กลุ่มคนอาศัยอยู่ในที่ ๆ เรียกว่าโรงแรม มันสูงประมานหกถึงเจ็ดชั้น ข้างในนี้มีคนหลายร้อย พวกเขาล้วนเป็นผู้รอดชีวิตจากซอมบี้และโรคระบาด

โรงแรมนี้อยู่นอกเมือง มีอพาร์ทเม้นท์น้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่รอบเมืองก้อนหินน้อย ผู้คนส่วนใหญ่ที่อยู่แถบนี้ล้วนแต่เป็นชาวบ้านยากจนกับพลทหาร แต่เจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับสูงและเหล่ามนุษย์วิวัฒนาการล้วนแต่อาศัยอยู่ในเมืองก้อนหินน้อยทั้งสิ้น

ในวาระสุดท้ายของโลกเช่นนี้ เครื่องอุปโภคบริโภคล้วนแต่เป็นสิ่งของหายาก กฎระเบียบถูกหยิบยกออกมาใช้เพื่อจัดการสิ่งต่าง ๆ มีสิ่งของและอาหารจะถูกส่งออกมาให้ผู้รอดชีวิตนอกเมืองในทุก ๆ เดือน

ซ่งเจิงกำลังรื้อค้นความทรงจำในสมองเจ้าของร่างเดิมขณะที่เดินไปเปิดประตู

เขาเห็นชายวัยกลางคนร่างกายสูงกำยำหยุดอยู่ที่หน้าประตู

“พี่ใหญ่กุ้ย” ซ่งเจิงร้องเรียก

พี่ใหญ่กุ้ยเป็นนักรบของที่นี่ ภารกิจของเขาคือการออกไปฆ่าพวกซอมบี้อยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นตำแหน่งและสวัสดิการ เงินเดือนต่าง ๆ จะสูงกว่าคนอื่นทั่วไป ในความทรงจำของซ่งเจิง พี่ใหญ่กุ้ยคนนี้เป็นคนตรงไปตรงมาและค่อนข้างเปิดเผย เขาค่อนข้างเป็นมิตรกับทุกคน รวมถึงซ่งเจิงคนก่อนนี้ด้วยเช่นกัน

พี่ใหญ่กุ้ยยิ้มพร้อมถามไถ่ “อาเจิงเป็นยังไงบ้าง? ฉันได้ยินว่านายเป็นไข้สูงมาก ตอนนี้ดีขึ้นแล้วเหรอ?”

ซ่งเจิงเงียบไปครู่ก่อนจะสั่นศีรษะ “ก็แค่ไข้เล็กน้อย ไม่เป็นไรแล้วล่ะ ฉันน่ะแข็งแรงจะตาย!”

จุดจบของโลกใบนี้ก็คือเหล่าซอมบี้บุกกระหน่ำ ในคราวแรกมันเป็นแค่โรคระบาด แต่พอหลายคนเริ่มติดเชื้อก็กลายเป็นไข้สูงและสูญเสียสติสัมปชัญญะในท้ายที่สุด จากนั้นพวกเขาก็จะกลายเป็นซอมบี้ที่รู้จักแค่การกินเนื้อมนุษย์เท่านั้น

ตอนนี้เวลาผ่านไปกว่าสิบปีแล้ว โรคระบาดไม่ได้แพร่กระจายอย่างตอนแรก แต่ผู้รอดชีวิตก็ยังหวาดกลัวต่อโรคพวกนี้มากโข เช่นนี้เมื่อซ่งเจิงเป็นไข้เมื่อวันก่อน ทันทีที่มีคนรู้จึงรีบวิ่งไปบอกผู้ตรวจการโรงแรมทันที

แต่ก่อนหน้านี้นักรบทั้งหมดออกไปข้างนอก ผู้ตรวจการไม่ได้แพร่งพรายเรื่องนี้กับใคร แต่เมื่อเหล่านักรบกลับมาแล้วจึงรีบบอกกล่าวกับพี่ใหญ่กุ้ยทันที

ทันทีที่ซ่งเจิงได้ยินคำถาม เขารีบปฏิเสธทันควัน ถ้าเกิดว่าคนพวกนี้คิดว่าเขาเป็นซอมบี้ก็คงไม่พ้นจะถูกฆ่าทิ้ง เรื่องทั้งหมดจะยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม

พี่ใหญ่กุ้ยเห็นว่าน้ำเสียงของซ่งเจิงยังคงราบเรียบไม่คล้ายกับคนป่วย เขาจึงวางใจพร้อมพยักหน้ารับ “อ่า ก็ดีแล้ว อ้อ ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนนายเป็นพ่อครัวใช่ไหม? อย่างนั้นก็คงต้องทำอาหารได้น่ะสิ…”

“ไม่มีปัญหา ทำไมเหรอครับ มีอะไรให้ผมทำเหรอ?”

หลังจากเกิดหายนะวันสิ้นโลกมากว่าสิบปี มนุษย์มากมายสูญหายล้มตายไปจำนวนมาก มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะเป็นผู้รอดชีวิต บางคนก็มีทักษะวิชาชีพติดตัวอย่างเช่น แพทย์ พ่อครัว ทั้งหมดล้วนแต่เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่โลกขาดแคลน

สำหรับแพทย์นั้นไม่ต้องพูดถึง การจะค้นหาแพทย์สักคนที่อยู่นอกเมืองก้อนหินน้อยแห่งนี้ยากยิ่งกว่าการค้นหาแพนด้าในป่าใหญ่ซะอีก แต่ว่าพ่อครัวก็แทบจะไม่มีบทบาทเช่นกัน เพราะผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่ที่อยู่นอกเมืองล้วนแตกออกไปคนละทิศละทาง พวกเขาประทังชีวิตด้วยอาหารแห้ง ปลากระป๋อง น้อยมากที่จะมีผักหรือเนื้อโผล่มาให้เห็น ดังนั้นพ่อครัวจึงกลายเป็นอาชีพที่แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด