บทที่ 43 ทูตศักดิ์สิทธิ์
ราชาแมวพูดกับชูเหลียงอย่างประหม่า "มีคนของป่าลึกลับคอยสอดส่องแน่นหนาไปหมด เราไม่สามารถเดินออกไปมั่วๆ ได้เลย ท่านชู.. ท่านต้องระวังให้มากนะ
งานแต่งงานจัดขึ้นในถ้ำกลางเขา พื้นที่ภายในมีขนาดใหญ่ แต่หลังจากสร้างห้องโถงแต่งงานและที่สำหรับแขกสำคัญจํานวนมากก็ไม่มีพื้นที่มากพอสําหรับปีศาจตัวอื่นๆ
ดังนั้นปีศาจที่มีความสามารถน้อยกว่าจะได้อยู่ข้างนอก
จากการจัดการเหล่านี้ เผ่าแมวภูเขาตะวันออกอ่อนแอมากและจะได้อยู่ในคูน้ำที่เชิงเขา โชคดีที่พวกเขาได้รับการยกย่องในฐานะครอบครัวของเจ้าสาวซึ่งเป็นเหตุผลเดียวที่พวกเขาได้รับอนุญาตให้อยู่ในพื้นที่แห่งนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นปีศาจที่เดินไปมาอยู่รอบๆ ราชาแมวก็หวาดกลัว เขาช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวและเครียดมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะเขารู้ว่ามีคนแฝงตัวมาในกลุ่มของเพื่อสร้างปัญหาที่นี่
"ข้าจะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เอง" ชูเหลียงกระซิบพร้อมกับแกล้งมองไปรอบๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น "ท่านดูเครียดจนเกินไปแล้ว เพียงมองปราดเดียวก็รู้ว่าท่านมีพิรุธ ผ่อนคลายเสียหน่อย"
"ขะ ขอรับ..." ราชาแมวพยักหน้าตอบ
จากนั้นเขาก็เริ่มปลดเข็มขัด...
"นี่นี่ ช้าก่อน" ชูเหลียงจับแขนราชาแมว "การผ่อนคลายกับการคลายเสื้อผ้าเป็นคนละเรื่องกัน..."
ราชาแมวอธิบาย "ไม่... ข้าเพียงแค่จะนำของขวัญแต่งงานที่จะมอบให้ราชาเสือออกมา..”
เขาค้นในเสื้อของเขาอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดเขาก็ดึงไข่มุกขนาดเท่าไข่ออกมา มันดูมีค่ามาก
เมื่อพิจารณาถึงมาตรฐานการครองชีพของแมวภูเขาตะวันออก พวกเขาไม่สามารถได้รับอัญมณีเช่นนี้มาได้ง่ายๆ เป็นแน่ ดังนั้น นี่อาจเป็นมรดกของครอบครัว ไม่แปลกใจเลยที่ราชาแมวจะดูเจ็บปวด
เขาหันไปหาปีศาจแมวที่เขาพามาด้วยแล้วพูดว่า "ในงานเลี้ยง ทุกคนควรกินให้มากเข้าไว้ กินให้อิ่ม ถ้ากินไม่หมดก็เอาที่เหลือกลับ อย่าทิ้งให้สิ้นเปลือง!”
แขกปีศาจอื่นๆ ก็นําของขวัญมากมายมาด้วย ปีศาจที่อาศัยอยู่บนภูเขาส่วนใหญ่ไม่ได้ร่ำรวย แต่ปีศาจที่อยู่ในงานนั้นเป็นปีศาจที่มีอำนาจและมีอิทธิพล พวกเขาจึงไม่ได้จนเหมือนปีศาจอื่นๆ
ปีศาจจิ้งจอกสูงอายุสวมหมวกใบเล็กๆ บนหัวและทําหน้าที่เป็นพิธีกร ทุกครั้งที่เขาบันทึกภาพของขวัญแต่งงานและผู้ให้ของขวัญ เขาจะประกาศเสียงดังว่าของขวัญคืออะไร มาจากราชาปีศาจตนไหน
ในบรรดาของขวัญเหล่านี้มีสิ่งของล้ำค่ามากมาย เช่น ไข่มุก มรกต นิลปะการัง นี่เป็นครั้งแรกที่ชูเหลียงตระหนักว่าสิ่งที่ปีศาจหวงแหนนั้นก็ไม่ได้ต่างจากมนุษย์เท่าใดนัก
หลังจากราชาเสือไปรับว่าที่เจ้าสาวแล้ว เขาก็เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ด้านหลัง
ครั้งแรกที่ชูเหลียงเห็นราชาเสือ เขารู้สึกว่าเพชฌฆาตสีชาดที่เขาทิ้งไว้ในเจดีย์ขาวกำลังสั่นไหวช ดาบแห่งความยุติธรรมเล่มนี้ดูเหมือนจะค้นพบความชั่วร้าย ชี่แห่งคาวเลือด เขารู้สึกได้ว่าเพชฌฆาตสีชาดต้องการประหารมัน
เมื่อเป็นเช่นนี้ แสดงว่าราชาเสือนั้นเป็นปีศาจที่ไม่ดีจริงๆ นั่นยิ่งทำให้ชูเหลียงมีความมั่นใจในการทำเช่นนี้มากขึ้นไปอีก
ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครม ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนออกมาจากปากถ้ำว่า "ทูตศักดิ์สิทธิ์มาถึงแล้ว"
ทันใดนั้นปีศาจในถ้ำก็เงียบลงไม่มีแม้แต่เสียงใดๆ ปีศาจทุกตัวหันมามองทางเข้าพร้อมกัน
คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเป็นชายรูปร่างสูง สวมเสื้อคลุมสีดำและหน้ากากสีเงิน
"นั่นคือใคร" ชูเหลียงถามราชาแมวเบาๆ
ราชาแมวตอบโดยการส่ายหัว
"แล้วเหตุใดท่านถึงไม่พูดเล่า" ชูเหลียงกล่าวอย่างไม่เข้าใจ
"ก็ทุกคนไม่พูดเลย.."เอลวิสกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
"..."
เมื่อได้ยินสิ่งเหล่านี้ ชูเหลียงก็นึกถึงฉากในอดีต ใบหน้าที่น่ากลัวปรากฏบนหน้าต่างหลังห้องเรียนของเขา เมื่อมีนักเรียนตกอยู่ในความเงียบ คนอื่นๆ ก็จะทําตาม อย่างไรก็ตาม นักเรียนส่วนใหญ่ยังไม่เห็นด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น
ชายชุดดำที่ถูกขนานนามว่าเป็นทูตศักดิ์สิทธิ์ เดินเข้าไปในถ้ำอย่างรวดเร็ว มีปีศาจประมาณสี่ตัวตามเขาไป พวกเขาแต่ละคนร่วมมือกันแบกวัตถุที่ยาวมากด้วยไหล่ข้างหนึ่งซึ่งปกคลุมด้วยผ้าไหมสีแดงและมีดอกไม้สีแดงเข้มผูกติดอยู่ซึ่งยากที่จะระบุได้ว่ามันคืออะไร
"เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านมา ข้าขอโทษท่านเป็นอย่างมากที่มิได้ออกไปต้อนรับท่าน โปรดยกโทษให้ข้าด้วย" ราชาเสือรีบวิ่งออกมาจากด้านหลังห้องโถงทันที
เขาทําท่าทางเคารพ ไม่มีความเย่อหยิ่งและความเป็นเผด็จการแม้แต่น้อย
"ราชาเสือ เจ้าไม่จําเป็นต้องเกรงใจข้าเพียงนี้" ทูตยิ้มเบาๆ และตอบอย่างสงบ "ได้ยินว่าเจ้าจะแต่งงานวันนี้ ข้าจึงนำของขวัญมาให้"
ทูตสวรรค์โบกมือและปีศาจที่อยู่ข้างหลังก็ดึงผ้าไหมสีแดงออกจากของขวัญ
ใต้ผ้าไหมสีแดงเป็นง้าวยาว 1.8 จาง ประกายสีทอง มันมีกลิ่นอายความเก่าแก่ใบมีดเฉียบคมเพียงเห็นก็ต้องตัวสั่น พร้อมความงามอันอธิบายไม่ได้
"ว้าว" ฝูงปีศาจระเบิดความวุ่นวาย
ไม่ว่าปีศาจตนใดก็สามารถบอกได้ว่ามันเป็นอาวุธที่ทรงพลังมาก
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นวัตถุโบราณ!
"นี่.." ดวงตาของราชาเสือสว่างขึ้นทันที "นี่เป็น.. อาวุธศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ.."
"ถูกต้อง นี่คือง้าวครองโลก นี่เป็นสิ่งประดิษฐ์โบราณชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว มันอยู่ในอันดับที่ 140 ในรายการสมบัติโลกมนุษย์ ทูตศักดิ์สิทธิ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม "ราชาเสือเอ๋ย ในฐานะบุรุษของวันนี้ เจ้าควรโบกสิ่งนี้เพื่อที่เจ้าจะได้ครองโลก!"
ง้าวครองโลกงั้นหรือ
ในที่สุดชูเหลียงก็เข้าใจว่าเหตุใดเขาถึงรู้สึกว่าของชิ้นนั้นดูเหมือนจะคุ้นตา นี่เป็นเพราะเขาเคยเห็นมันในรายชื่อของสมบัติโลกมนุษย์จากหนังสือข่าวเจ็ดดารา
อย่างไรก็ตามเขาจำได้อย่างแจ่มแจ้งว่าอาวุธนี้เป็นของ นิกายดารายิ่งใหญ่ หนึ่งในเก้านิกายศักดิ์สิทธิ์
ทูตศักดิ์สิทธิ์คนนี้ขโมยสิ่งนี้มาจากนิกายดารายิ่งใหญ่ได้อย่างไร..
"สิ่งประดิษฐ์นี้... ท่านได้มันมาได้อย่างไร แล้วท่านจะให้มันกับข้าจริงหรือ" ราชาเสือถาม
โดยธรรมชาติแล้วราชาเสือย่อมรู้ดีว่าการครอบครองอาวุธระดับจะช่วยเสริมพลังของเขาได้อย่างมาก เขาลูบด้ามง้าวอย่างหลงใหล
"ฮ่าๆ มันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ ระหว่างทางที่ข้ามาที่นี่ ข้าได้เจอกับคนที่มีพรสวรรค์มีทักษะ แต่ไม่ฉลาดมากนัก ข้าใช้การหลอกล่อเล็กๆ น้อยๆ และชิงอาวุธของเขามา เมื่อข้าได้เห็นสมบัติชิ้นนี้ข้าจึงคิดว่ามันน่าจะเป็นของขวัญแต่งงานที่สมบูรณ์แบบสำหรับเจ้า" ทูตศักดิ์สิทธิ์ตอบ
"สุดยอด ขอบคุณขอรับท่านทูตศักดิ์สิทธิ์ผู้ทรงเกียรติ"
ราชาเสือร่ายพลังบางอย่างและคว้าง้าวครองโลกขึ้นด้วยแขนข้างเดียว เขาโบกมันสองสามครั้งและแหวกอากาศด้วยเสียงหวืดหวาด
ปีศาจทั้งหมดที่อยู่ในที่แห่งนั้นเมื่อสัมผัสถึงลมหนาวที่ปล่อยออกมาจากง้าวนั้นก็หวาดหวั่น
ตึ้ง!
เมื่อพระราชาเสือพอใจแล้ว เขาก็ตอกด้ามง้าวลงบนพื้น แม้แต่การเคลื่อนไหวที่เรียบง่ายนี้ยังมีพลังของลมพายุและสายฟ้า
เป็นไปตามคาด มันเป็นอานุภาพอันทรงพลังของสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วทําไมเราไม่ใช้โอกาสนี้ประกาศสารของเราเลยเล่า” ราชาเสือมองทูตศักดิ์สิทธิ์แล้วถาม
"ก็ดี นั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ข้ามาที่นี่" ทูตศักดิ์สิทธิ์พยักหน้าตอบ
"ดี" ราชาเสือกู่ร้อง เขาขึ้นไปบนเวทีและประกาศเสียงดัง "เหล่าปีศาจเอ๋ย นอกเหนือจากการเฉลิมฉลองงานแต่งงานของข้าแล้ว ข้ามีเหตุผลอื่นที่ได้เรียกพวกเรามารวมตัวกันที่นี่ในวันนี้ ข้ามีข่าวสําคัญที่จะแบ่งปัน"
"ช่วงนี้ ข้าได้ไปยังภูเขาหลายลูกและบอกคําแนะนําของข้ากับราชาปีศาจหลายตน ข้าบอกให้พวกเจ้าเข้าร่วมกับกองกำลังของข้า" สายตาของราชาเสือกวาดผ่านหมู่ปีศาจด้วยแรงกดดันมหาศาล ราชาปีศาจที่อยู่ด้านล่างเวทีไม่กล้าสบตากับเขา "หากมีข้าเป็นผู้นําของพวกเจ้า พวกเราก็จะประสบความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้"
"ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ข้าจะบอกพวกเจ้าว่าสิ่งที่ยิ่งใหญ่นี้คืออะไร" ราชาเสือกล่าวและจากนั้นก็หันไปด้านข้าง
ทูตศักดิ์สิทธิ์เดินขึ้นมาบนเวทีและยืนอยู่อย่างเคร่งขรึม
"สหายปีศาจของข้า บางตนอาจรู้ว่าข้ามาจากเทือกเขาเจ็ดกษัตริย์ทางตะวันตกของภูมิภาคตะวันตกและข้ากับผู้นำสารของข้ากําลังข้ามโลกมนุษย์เพื่อส่งสารถึงพวกเจ้า
"พระเจ้า... พระเจ้ากลับมาแล้ว!"