ตอนที่แล้วบทที่ 243 ป้ายหยกหมายเลขสามสิบเอ็ดตกอยู่ที่ใครกัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 245 คิดว่าข้าจะเข้าสู่เพียงสิบอันดับแรกเท่านั้นหรือ

บทที่ 244 โง่เขลาเช่นเจ้า มีสิทธิ์วิจารณ์ข้าตั้งแต่เมื่อไร!


เจ้าสำนักเสินไห่ ส่ายศีรษะพร้อมกล่าวอย่างเชื่อมั่น “ข้ารู้จักเฉิงเซิ่งมาตั้งแต่เด็ก นิสัยใจคอเขาเป็นเช่นไร ข้าย่อมรู้ดี หยางเสี่ยวเทียนจากสำนักเสินเจี้ยน ไม่มีทางติดสินบนเขาได้แน่นอน”

เวลานี้เอง เสียงขันทีระดับสูงซึ่งประกาศเริ่มการประลองก็ดังขึ้น

ทันใดนั้น มือเฉิงเซิ่งก็กำหมัดแน่น พุ่งตัวเข้าไปหาหยางเสี่ยวเทียนด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยวพร้อมยกกำปั้นขึ้นแล้วโค้งคำนับจนผมสะบัดไหว

“ท่านเจ้าตำหนักหยางผู้องอาจห้าวหาญไร้เทียมทานยิ่ง เฉิงเซิ่งรู้ดีว่ามิอาจรับหมัดของเจ้าตำหนักหยางได้แม้เพียงหมัดเดียว ดังนั้น ข้าจึงเต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้”

“หวังว่าท่านเจ้าตำหนักหยาง จะอนุญาต”

เจ้าสำนักเสินไห่สะดุ้งตื่นตะลึง เขาเพิ่งกล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจว่าเฉิงเซิ่งไม่มีทางเป็นคนขลาดเช่นเติ้งอี้ชุน แต่ไฉนเฉิงเซิ่งกลับหักหน้าเขา

ผู้อาวุโสทุกคนจากสำนักเสินไห่ก็ตกตะลึงมิต่างจากเขา

เรือนร่างอันงดงามของเฉินจื่อหานพลันสะท้านสั่นด้วยบันดาลโทสะ หลังเฉิงเซิ่งแสดงความสุภาพ ทั้งยังมีท่าทียำเกรงต่อหยางเสี่ยวเทียน

นางไม่คิดมาก่อนเลยว่าเฉิงเซิ่ง จะเป็นอีกคนที่เขาติดสินบน หยางเสี่ยวเทียนมีของล้ำค่าอันใดกัน ถึงทำให้คนหยิ่งในศักดิ์ศรีเช่นเฉิงเซิ่งยอมรับความพ่ายแพ้ได้

หลินหยง เฉินหยวน หยางเฉาและคนอื่นๆ ต่างหันซ้ายแลขวามองหน้ากันอย่างฉงนสงสัยมิน้อยไปกว่าทุกคนเพลานี้

คราวนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไยเป็นเช่นนี้ไปได้อีก

ครั้งเติ้งอี้ชุนยอมรับความพ่ายแพ้ต่อหยางเสี่ยวเทียน ก็ทำผู้คนจำนวนมากสับสนอยู่แล้ว ทว่าตอนนี้ เฉิงเซิ่งก็เป็นอีกผู้ ที่ยอมรับความพ่ายแพ้ต่อหยางเสี่ยวเทียนเช่นกัน

เรื่องนี้ จะมิให้พวกเขายิ่งมีความสับสนไม่รู้จบผุดขึ้นในหัวได้อย่างไร

ไม่เข้าใจ ข้าไม่เข้าใจจริงๆ!

“หยางเสี่ยวเทียนเจ้ามันคนไร้ยางอาย เจ้าจะใช้วิธีสกปรกเช่นนี้เอาชนะการแข่งขันจริงๆ หรือ” เฉินจื่อหานเอ่ยร้องออกมาอย่างขุ่นเคือง

วาจาของนาง หมายถึงหยางเสี่ยวเทียนใช้อำนาจในฐานะเจ้าตำหนักกระบี่แห่งสำนักเสินเจี้ยน ติดสินบนเฉิงเซิ่งอีกคน

หยางเสี่ยวเทียนทำหูทวนลม ขี้เกียจเกินกว่าจะใส่ใจสตรีปากมากนางนี้

หลังขันทีระดับสูงประกาศว่าเขาชนะในการประลองรอบนี้ เขาก็หมุนตัวเดินตรงกลับไปหาทุกคนจากสำนักเสินเจี้ยนดังเดิม

ขณะเฉิงเซิ่งกำลังเดินออกจากลานประลองยุทธ์ เฉิงหลงก็จ้องเขม็งไปยังเขาอย่างเย็นชา “เฉิงเซิ่ง เจ้ามันเป็นความอัปยศสำหรับราชวงศ์เสินไห่เรา!”

“อัปยศงั้นรึ หึ!” เฉิงเซิ่งเยาะเย้ย “คนโง่เขลาเช่นเจ้า มีสิทธิ์วิจารณ์การตัดสินใจข้าได้อย่างไร!”

โง่เขลา! กล้าดีอย่างไรกล่าวหาว่าข้าเป็นคนโง่เขลา!

ใบหน้าเฉิงหลงมืดลงด้วยเดือดพล่าน ระหว่างเขาอ้าปากจะโต้ตอบ เฉิงเซิ่งก็หันหลังเดินออกไปอย่างไม่แยแส ซึ่งมันยิ่งทำให้เขาดูน่าเกลียดภายใต้การจับจ้องของผู้คนเวลานี้มาก

ดวงตาเฉิงหลงลุกโชนด้วยไฟโทสะ เขาพ่นลมพร้อมสบถนึกกล่าวอย่างเจ็บแค้น พวกเจ้าทั้งสองวางใจเถอะ หลังการแข่งขันระดับสำนักสิ้นสุดลงเมื่อใด เขาจะดูแลทั้งเจ้าและเติ้งอี้ชุนเป็นอย่างดี

การแข่งขันประลองยุทธ์ยังคงดำเนินต่อไป

หลังการแข่งขันรอบสองของศิษย์ทั้งหมดจบลง รอบสามและสี่ก็ตามมา

โดยบังเอิญ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันรอบสามหรือสี่ คู่ต่อสู้ของหยางเสี่ยวเทียนที่สุ่มเลือกได้ ต่างล้วนเป็นศิษย์จากสำนักเสินไห่และสำนักยวินฮุย

ซึ่งศิษย์สองคนนั้น ก็เป็นหนึ่งในศิษย์ผู้ที่เคยได้ลิ้มรสพลังหมัด จนร่างพุ่งกระเด็นกลับหลัง ณ ดินแดนสัตว์อสูรกันทั้งคู่

จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ทั้งสองจะยอมรับความพ่ายแพ้เช่นเดียวกับเติ้งอี้ชุนและเฉิงเซิ่ง

ในรอบห้า คู่ต่อสู้ของหยางเสี่ยวเทียนเป็นศิษย์จากสำนักเหล่ยถิง กระทั่งถึงรอบที่สิบ คู่ต่อสู้ผู้ชะตาผูกกับเขาก็ล้วนเป็นศิษย์จากสำนักหลักทั้งสามแห่ง ที่ต่างประสบความรู้สึกเช่นเดียวกันหมด

การประลองยุทธ์ตั้งแต่รอบแรกจนรอบที่สิบ ศิษย์ผู้สุ่มได้เขาก็ต่างยอมรับความพ่ายแพ้ไปโดยบริบูรณ์

ส่งผลให้หยางเสี่ยวเทียนเข้าสู่ร้อยอันดับแรกได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องออกแรงแม้แต่สักกระบวนท่า การดำเนินไปเช่นนี้ทำทุกคนต่างดูขลาดเขลาอย่างช่วยไม่ได้

“ไม่มีทาง สิ่งนี้ไม่ปกติแล้ว” ศิษย์จากสำนักอื่นคนหนึ่งกลืนน้ำลาย “เพียงเขาลุกขึ้นยืนครู่เดียว ก็สามารถเข้าสู่ร้อยอันดับแรกในการแข่งขันระดับสำนักได้

“เหตุการณ์เช่นนี้ บันทึกเป็นประวัติศาสตร์ระหว่างการแข่งขันระดับสำนักของอาณาจักรเสินไห่เราได้เลย”

“ไม่เพียงบันทึกลงเป็นประวัติศาสตร์ของอาณาจักรเสินไห่เราเท่านั้น แต่แทบบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ในการเข้าร่วมแข่งขันของสำนักเทียนโต้วได้ด้วย” ศิษย์อีกคนส่ายศีรษะแล้วเผยยิ้ม

ในการแข่งขันระดับสำนักครั้งก่อน ก็มีเหตุการณ์ที่คู่ต่อสู้เต็มใจยอมแพ้เช่นกัน เพียงแต่นี่เป็นครั้งแรก ที่คู่ต่อสู้สมัครใจยอมแพ้ทั้งสิบรอบการประลองติดต่อกัน

หนึ่งในศิษย์ผู้หนึ่งหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้นว่า “พวกเจ้าคิดว่าในรอบที่สิบเอ็ด คู่ต่อสู้ของหยางเสินจะยอมรับความพ่ายแพ้โดยสมัครใจหรือไม่”

“อาจเป็นไปได้ บางทีฝ่ายตรงข้ามของหยางเสิน อาจสมัครใจยอมรับความพ่ายแพ้ จากนั้นเขาก็เข้าสู่สิบอันดับแรกในการแข่งขันระดับสำนักได้โดยแค่ลุกแล้วก็นั่ง” ศิษย์อีกคนหัวเราะขณะกล่าว

“บางที หยางเสินอาจไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยก็ชนะอันดับหนึ่งไปได้ง่ายๆ !”

ทุกคนระเบิดเสียงหัวเราะอย่างอิจฉา

เมื่อได้ยินคำกล่าวติดตลกของบรรดาศิษย์เหล่านี้ เหล่ยจื่อ เฉินไห่หลิน เฉิงหวู่ และคนอื่นๆ ต่างนึกคิดเงียบๆ เพราะหยางเสี่ยวเทียนต้องใช้เวลากว่าสามรอบประลองจึงจะชนะสิบอันดับแรก และเวลาอีกเจ็ดรอบประลองจึงจะชนะเป็นอันดับหนึ่ง

หากคู่ต่อสู้ซึ่งหยางเสี่ยวเทียนเผชิญหน้าในสองสามรอบที่จะถึงนี้ คือหนึ่งในพวกเขา หยางเสี่ยวเทียนก็ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวใดๆ เพื่อคว้าอันดับหนึ่งจริงดังกล่าว

ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องตลก!

เดิมทีหลินหยง หยางเฉา และคนอื่นๆ ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนระหว่างการประลอง แต่ตอนนี้ เมื่อพวกเขาเห็นหยางเสี่ยวเทียนเข้าสู่ร้อยอันดับแรกได้อย่างน่าทึ่ง พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะแสดงความรู้สึกอย่างไรไปชั่วขณะหนึ่ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด