ตอนที่ 65 จงเพลิดเพลินกับช่วงเวลาดีๆ เป็นครั้งสุดท้าย
ตอนที่ 65 จงเพลิดเพลินกับช่วงเวลาดีๆ เป็นครั้งสุดท้าย
“ไม่ได้นะ ข้าเป็นสามีของอวี่ลั่ว”
ซูอันเขียนบทละครให้ตัวเองด้วยความมีสติและพูดในเรื่องมีศีลธรรม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยการต่อต้าน ท่าทางปฏิเสธเกินคำบรรยายซึ่งแตกต่างจากมุมปากที่ยกขึ้นของเขา
ขอบคุณลูกพี่เหอฮวนที่ช่วยเหลือ
……
ถึงแม้จะมีพลังของ ‘คัมภีร์มหาสุบิน’ ช่วยต่อสู้กับค่ายกลภาพลวงตา ทว่าสุดท้ายเหมือนจะสู้ไม่ไหว
ทันใดนั้นหัวใจของฉินอวิ๋นเจ็บปวดจากอาการประสาทหลอน เสียงฝีเท้าของเขาเบาลงและเขาตกไปในสระน้ำสีฟ้าครามด้านข้าง
ความรู้สึกนี้!
เขาระงับอาการในหัวใจและต้องใช้เวลาสักพักจึงจะฟื้นตัวจากอาการประสานหลอนได้
“นี่อาจเป็นผลข้างเคียงของ ‘คัมภีร์มหาสุบิน’ หรือไม่?”
……
หลังจากการสู้รบที่ดุเดือด
“ฮือฮือฮือ ข้าจะมีหน้าไปพบอวี่ลั่วได้อย่างไร!” ซูอันนั่งอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าเศร้าโศก ในบางครั้งก็แสดงแววตาสับสนและเจ็บปวดสุดแสน
การแสดงนี้ หากเป็นชาติที่แล้วต้องใช้นักแสดงยอดฝีมือหลายคนถึงจะจับผิดได้
มู่หนิงเจินเห็นภาพนี้แล้วรู้สึกผิดขึ้นมาทันที
นางไม่ได้คาดหวังว่าเด็กคนนี้จะค่อนข้างรักมั่นคงต่ออวี่ลั่ว
ครั้งนี้เป็นความผิดของนางเอง เพราะนางถูกธิดาเทพเหอฮวนวางแผนใส่ จึงทำให้นางเอาเปรียบเด็กคนนี้โดยไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
ทั้งๆ ที่หนุ่มน้อยคนนี้เข้ามาที่หลังเขาเพราะมีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้ทราบ
แม้แต่นางก็ไม่สามารถต้านทานพลังของกระดิ่งเหอฮวนได้ จึงไม่ต้องพูดถึงเขาที่อยู่ในระดับจื่อฝู่เท่านั้น
เมื่อมองคราบเลือดที่เปื้อนเสื้อผ้าและพื้นแล้ว นางรู้สึกเศร้าใจไม่น้อย นางอุทิศตนฝึกฝนนานหลายร้อยปีและมุ่งสู่เส้นทางยิ่งใหญ่ ไม่สนใจความรักระหว่างชายหญิง แต่นางกลับสูญเสียความบริสุทธิ์ในสถานการณ์เช่นนี้
ยิ่งกว่านั้นคืออีกฝ่ายเป็นแค่หนุ่มน้อยในวัยยี่สิบ เขาไม่แก่ไปกว่าลูกศิษย์ของนางเลย
“ท่าน ท่านจะรับผิดชอบข้าหรือไม่?” ซูอันมองมู่หนิงเจินด้วยความเขินอายราวกับเด็กดีที่ถูกล่อลวง
“รับผิดชอบ?” มู่หนิงเจินตกตะลึง นางต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยหรือ?
“ท่านทำลายความบริสุทธิ์ของข้า ท่านจะไม่รับผิดชอบหรือ?” ดวงตาของซูอันเหมือนถูกทรยศ ซึ่งทำให้มู่หนิงเจินรู้สึกตื่นตระหนก
“แต่เจ้าเป็นสามีของอวี่ลั่วไม่ใช่หรือ แล้วข้าจะรับผิดชอบเจ้าได้อย่างไร” นางยกมือลูบหว่างคิ้วของตน
“แต่ท่านเพิ่งจะข่มเหงสามีของอวี่ลั่ว” ซูอันกล่าว
อ่า~เขาพูดมีเหตุผล มู่หนิงเจินรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที
หากเป็นชายอื่นบุกรุกเข้ามาในถ้ำ นางคงจะสังหารเหมือนเศษขยะไปแล้ว
แต่ผู้ชายตรงหน้าคือสามีของอวี่ลั่ว ถือว่าเป็นคนใต้ปกครองครึ่งหนึ่งและความจริงแล้วนางไม่มีความรู้สึกไม่ดีต่อเขาเลย
แต่การรับผิดชอบ หมายความว่านางและอวี่ลั่วต้องใช้สามีคนเดียวกันหรือ?
เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร
“เจ้าควรออกไปก่อน ส่วนเรื่องนี้...ค่อยหารือกันภายหลัง”
พลังเวทนุ่มนวลเข้าห่อหุ้มซูอันโดยตรงแล้วส่งเขาออกจากถ้ำ
จากนั้นมู่หนิงเจินซ่อมแซมม่านพลังเวทที่ปากถ้ำ สวมเสื้อผ้าและนั่งขัดสมาธิ บัดนี้พลังวิญญาณที่เหลืออยู่ของธิดาเทพเหอฮวนสูญสิ้นหมดแล้ว นางพร้อมขัดเกลาสมบัติวิญญาณใหม่ทั้งหมดและใช้มันเพื่อตัวเองโดยเฉพาะ
“หืม?!!” ทันใดนั้นนางก็ลืมตาขึ้นมา “ช้าก่อน ข้างกายเขามีองครักษ์ระดับหยางบริสุทธิ์อยู่ไม่ใช่หรือ? เขาจะหนีไปไม่ได้อีกหรือ”
เมื่อกลับสู่ความสงบ สติปัญญาของนางก็ฟื้นคืนสู่จุดสูงสุดดังเดิมและนางรู้สึกผิดสังเกตทันที
“ข้าถูกไอ้เด็กเวรนั่นหลอก!”
แต่เมื่อนางใช้จิตวิญญาณตรวจหากลับไม่พบซูอันอยู่ข้างนอกแล้ว
……
“ถุย หญิงสารเลว”
เมื่อกลับมาที่ประตูทางเข้าเขตต้องห้ามหลังเขา ซูอันถ่มน้ำลายไปยังทิศทางที่จากมา หากไม่รับผิดชอบ เจ้าก็เป็นเพียงคนไร้ประโยชน์!
เมื่อมองไปที่ม่านพลังเวทลวงตา ฉินอวิ๋นยังหลงทางอยู่ในนั้น
ซูอันสะบัดมือเพียงครั้งเดียว ตำหนักเซียนไท่ซวีก็ตกอยู่ในมือของเขาอีกครั้ง
ในม่านพลังเวทลวงตา ทันใดนั้นดวงตาของฉินอวิ๋นชัดเจนขึ้นและปรากฏทางออกตรงเบื้องหน้า
ดวงตาของเขาสว่างวาบและรีบเดินออกไปโดยไม่ต้องคิด
การก่อตัวของค่ายกลภาพลวงตาที่หลังเขานั้นมองแล้วไม่แข็งแกร่งสักเท่าไร แต่ทันทีที่เขาเดินเข้าไป มันกลับทวีความลึกลับจนไม่สามารถหาทางออกได้เลย
เขาจะไม่มาเหยียบหลังเขาบ้าๆ นี้อีก
“ซูอัน เจ้ามาอยู่นี่ได้อย่างไร?”
เพียงก้าวแรกที่เดินออกมา ฉินอวิ๋นก็เห็นร่างของซูอันทันที ฉินอวิ๋นตกตะลึงและภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทั้งหมดกลายเป็นความโกรธสุมหัวใจของเขาอีกครั้ง
“เจ้าพูดกับสามีของอาจารย์แบบนี้หรือ” ซูอันเลิกคิ้วมองและความกดดันครอบงำฉินอวิ๋นไว้แน่นหนา มันทำให้ฉินอวิ๋นเวียนหัวและเป็นลมล้มลงกับพื้น
อืม เพราะเขาถูกฝ่ามือของบุปผามรณะทุบจนสลบ
ซูอันมองไปที่ฉินอวิ๋นบนพื้นแล้วยิ้มเย็น
ถ้าซูอันไม่ได้วางแผนไว้ เกรงว่าผู้ที่เข้าไปในถ้ำหลังเขาจะเป็นฉินอวิ๋น เมื่อถึงเวลานั้นฉินอวิ๋นจะใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วทะลวงสู่ระดับมิ่งตานได้สำเร็จ จากนั้นช่วยเหลือนิกายเทียนสุ่ยให้รอดพ้นจากการโจมตีของศัตรู เปิดเผยความแข็งแกร่งแท้จริงและสร้างความประทับใจให้บรรดาศิษย์พี่หญิง สุดท้ายกลายเป็นที่โปรดปรานของทุกคนในนิกายเทียนสุ่ย
แต่ตอนนี้ถูกเขาช่วงชิงวาสนานั้นไปแล้ว
หลังจากยึดหยวนอินของมู่หนิงเจินมาแล้ว แม้ว่านางไม่ได้มีกายศักดิ์สิทธิ์เหมือนพวกตัวเอกหญิงอื่นๆ แต่หยวนอินของผู้ฝึกตนระดับหยางบริสุทธิ์ยังมีผลดีต่อเขาไม่น้อย
ตอนนี้เขามาถึงจุดสูงสุดของระดับจื่อฝู่แล้ว จึงเหลือเพียงเส้นกั้นบางๆ ระหว่างระดับมิ่งตานเท่านั้น
แต่มิ่งตานนั้นพิเศษ ดังนั้นจึงไม่ต้องรีบร้อน
“เสี่ยวอวิ๋น มนุษย์ต้องดำเนินชีวิตด้วยความชัดเจน ดังนั้นเจ้าควรเลอะเลือนให้มากกว่านี้”
เขาเดินไปหาฉินอวิ๋นและวางฝ่ามือบนหน้าอกของฉินอวิ๋น จากนั้นพลังงานสีดำจำนวนหนึ่งเข้าสู่ร่างกายของฉินอวิ๋นโดยตรง
“จงเพลิดเพลินกับช่วงเวลาดีๆ เป็นครั้งสุดท้ายเถอะ”
……
“เฮือก!”
ฉินอวิ๋นสะดุ้งตื่นขึ้นมา ใบหน้าของเขาซีดเผือด เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลอาบใบหน้า
เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น?
ดูเหมือนเขาจะได้เจอซูอันและซูอันยังบอกด้วยว่าเป็นสามีของอาจารย์
ฉินอวิ๋นมองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นใครอีกเลยและเขายังเป็นคนเดียวที่อยู่หลังเขา ดังนั้นเขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก “มันคงเป็นภาพหลอนที่เกิดจากการอยู่ในม่านพลังเวทลวงตานานเกินไป”
ซูอันจะเป็นสามีของอาจารย์ได้อย่างไร
เป็นไปไม่ได้
เขายันกายขึ้นและเดินกลับไปที่ลานบ้าน ตอนนี้มีศิษย์คนหนึ่งยืนรออยู่ที่ประตูและใบหน้าวิตกกังวลของนางสว่างขึ้นเมื่อเห็นฉินอวิ๋นกลับมา
“ศิษย์อาเล็กฉินกลับมาแล้ว ในที่สุดท่านก็กลับมา”
“เกิดอะไรขึ้น?” ฉินอวิ๋นขมวดคิ้วถาม
“ศิษย์อาเล็กฉิน...” เมื่อเห็นท่าทางที่น่าสะพรึงกลัวของฉินอวิ๋น ศิษย์คนนั้นตกใจมากจนถอยหลังไปสองสามก้าวแล้วพูดเสียงสั่นเทา “ผู้ ผู้อาวุโสเฟิ่งเรียกศิษย์ทั้งหมดไปรวมตัวกันที่ห้องโถงใหญ่ของนิกาย ตอนนี้รอท่านคนเดียว”
รวมตัว? ฉินอวิ๋นรู้สึกสับสน เพราะนอกจากพวกกฎข้อบังคับของนิกายเทียนสุ่ยแล้วโดยปกติค่อนข้างให้อิสระ แต่ไม่เคยมีเหตุการณ์เรียกรวมตัวสานุศิษย์แบบนี้มาก่อน
อาจมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น
“ข้าทราบแล้ว ข้าจะรีบไปที่นั่น” เขาตอบ
ศิษย์หญิงตกใจมากจนหน้าซีด นางไม่สนใจสิ่งใดอีกและใช้พลังเวทหนีจากที่นี่โดยเร็วที่สุด
ศิษย์อาเล็กฉินมองนางด้วยสายตาเกลียดชังมาก เหมือนกับที่พวกศิษย์พี่หญิงพูดไว้ไม่พูด ผู้ชายคนนี้เป็นคนนิสัยไม่ดีและนางโชคร้ายที่ถูกส่งให้มาตามเขา
ท่าทางของศิษย์คนนี้ทำให้ฉินอวิ๋นสัมผัสได้ แต่เขาไม่แปลกใจกับมัน เรียกว่าชินชาแล้วดีกว่า
หลังจากอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาด ฉินอวิ๋นจึงไปที่ห้องโถงใหญ่ของนิกาย
……