ตอนที่แล้วตอนที่ 64 กระดิ่งเหอฮวน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 66 คนดีอายุสั้น คนชั่วอายุยืน

ตอนที่ 65 จงเพลิดเพลินกับช่วงเวลาดีๆ เป็นครั้งสุดท้าย


ตอนที่ 65 จงเพลิดเพลินกับช่วงเวลาดีๆ เป็นครั้งสุดท้าย

  

“ไม่ได้นะ ข้าเป็นสามีของอวี่ลั่ว”

  

ซูอันเขียนบทละครให้ตัวเองด้วยความมีสติและพูดในเรื่องมีศีลธรรม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยการต่อต้าน ท่าทางปฏิเสธเกินคำบรรยายซึ่งแตกต่างจากมุมปากที่ยกขึ้นของเขา

  

ขอบคุณลูกพี่เหอฮวนที่ช่วยเหลือ

  ……

ถึงแม้จะมีพลังของ ‘คัมภีร์มหาสุบิน’ ช่วยต่อสู้กับค่ายกลภาพลวงตา ทว่าสุดท้ายเหมือนจะสู้ไม่ไหว

  

ทันใดนั้นหัวใจของฉินอวิ๋นเจ็บปวดจากอาการประสาทหลอน เสียงฝีเท้าของเขาเบาลงและเขาตกไปในสระน้ำสีฟ้าครามด้านข้าง

  

ความรู้สึกนี้!

  

เขาระงับอาการในหัวใจและต้องใช้เวลาสักพักจึงจะฟื้นตัวจากอาการประสานหลอนได้

  

“นี่อาจเป็นผลข้างเคียงของ ‘คัมภีร์มหาสุบิน’ หรือไม่?”

  ……

หลังจากการสู้รบที่ดุเดือด

  

“ฮือฮือฮือ ข้าจะมีหน้าไปพบอวี่ลั่วได้อย่างไร!” ซูอันนั่งอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าเศร้าโศก ในบางครั้งก็แสดงแววตาสับสนและเจ็บปวดสุดแสน

  

การแสดงนี้ หากเป็นชาติที่แล้วต้องใช้นักแสดงยอดฝีมือหลายคนถึงจะจับผิดได้

  

มู่หนิงเจินเห็นภาพนี้แล้วรู้สึกผิดขึ้นมาทันที

  

นางไม่ได้คาดหวังว่าเด็กคนนี้จะค่อนข้างรักมั่นคงต่ออวี่ลั่ว

  

ครั้งนี้เป็นความผิดของนางเอง เพราะนางถูกธิดาเทพเหอฮวนวางแผนใส่ จึงทำให้นางเอาเปรียบเด็กคนนี้โดยไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

  

ทั้งๆ ที่หนุ่มน้อยคนนี้เข้ามาที่หลังเขาเพราะมีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้ทราบ

  

แม้แต่นางก็ไม่สามารถต้านทานพลังของกระดิ่งเหอฮวนได้ จึงไม่ต้องพูดถึงเขาที่อยู่ในระดับจื่อฝู่เท่านั้น

  

เมื่อมองคราบเลือดที่เปื้อนเสื้อผ้าและพื้นแล้ว นางรู้สึกเศร้าใจไม่น้อย นางอุทิศตนฝึกฝนนานหลายร้อยปีและมุ่งสู่เส้นทางยิ่งใหญ่ ไม่สนใจความรักระหว่างชายหญิง แต่นางกลับสูญเสียความบริสุทธิ์ในสถานการณ์เช่นนี้

  

ยิ่งกว่านั้นคืออีกฝ่ายเป็นแค่หนุ่มน้อยในวัยยี่สิบ เขาไม่แก่ไปกว่าลูกศิษย์ของนางเลย

  

“ท่าน ท่านจะรับผิดชอบข้าหรือไม่?” ซูอันมองมู่หนิงเจินด้วยความเขินอายราวกับเด็กดีที่ถูกล่อลวง

“รับผิดชอบ?” มู่หนิงเจินตกตะลึง นางต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยหรือ?

  

“ท่านทำลายความบริสุทธิ์ของข้า ท่านจะไม่รับผิดชอบหรือ?” ดวงตาของซูอันเหมือนถูกทรยศ ซึ่งทำให้มู่หนิงเจินรู้สึกตื่นตระหนก

  

“แต่เจ้าเป็นสามีของอวี่ลั่วไม่ใช่หรือ แล้วข้าจะรับผิดชอบเจ้าได้อย่างไร” นางยกมือลูบหว่างคิ้วของตน

  

“แต่ท่านเพิ่งจะข่มเหงสามีของอวี่ลั่ว” ซูอันกล่าว

อ่า~เขาพูดมีเหตุผล มู่หนิงเจินรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที

  

หากเป็นชายอื่นบุกรุกเข้ามาในถ้ำ นางคงจะสังหารเหมือนเศษขยะไปแล้ว

  

แต่ผู้ชายตรงหน้าคือสามีของอวี่ลั่ว ถือว่าเป็นคนใต้ปกครองครึ่งหนึ่งและความจริงแล้วนางไม่มีความรู้สึกไม่ดีต่อเขาเลย

  

แต่การรับผิดชอบ หมายความว่านางและอวี่ลั่วต้องใช้สามีคนเดียวกันหรือ?

  

เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร

  

“เจ้าควรออกไปก่อน ส่วนเรื่องนี้...ค่อยหารือกันภายหลัง”

  

พลังเวทนุ่มนวลเข้าห่อหุ้มซูอันโดยตรงแล้วส่งเขาออกจากถ้ำ

  

จากนั้นมู่หนิงเจินซ่อมแซมม่านพลังเวทที่ปากถ้ำ สวมเสื้อผ้าและนั่งขัดสมาธิ บัดนี้พลังวิญญาณที่เหลืออยู่ของธิดาเทพเหอฮวนสูญสิ้นหมดแล้ว นางพร้อมขัดเกลาสมบัติวิญญาณใหม่ทั้งหมดและใช้มันเพื่อตัวเองโดยเฉพาะ

  

“หืม?!!” ทันใดนั้นนางก็ลืมตาขึ้นมา “ช้าก่อน ข้างกายเขามีองครักษ์ระดับหยางบริสุทธิ์อยู่ไม่ใช่หรือ? เขาจะหนีไปไม่ได้อีกหรือ”

  

เมื่อกลับสู่ความสงบ สติปัญญาของนางก็ฟื้นคืนสู่จุดสูงสุดดังเดิมและนางรู้สึกผิดสังเกตทันที

  

“ข้าถูกไอ้เด็กเวรนั่นหลอก!”

  

แต่เมื่อนางใช้จิตวิญญาณตรวจหากลับไม่พบซูอันอยู่ข้างนอกแล้ว

  ……

  

“ถุย หญิงสารเลว”

  

เมื่อกลับมาที่ประตูทางเข้าเขตต้องห้ามหลังเขา ซูอันถ่มน้ำลายไปยังทิศทางที่จากมา หากไม่รับผิดชอบ เจ้าก็เป็นเพียงคนไร้ประโยชน์!

  

เมื่อมองไปที่ม่านพลังเวทลวงตา ฉินอวิ๋นยังหลงทางอยู่ในนั้น

  

ซูอันสะบัดมือเพียงครั้งเดียว ตำหนักเซียนไท่ซวีก็ตกอยู่ในมือของเขาอีกครั้ง

  

ในม่านพลังเวทลวงตา ทันใดนั้นดวงตาของฉินอวิ๋นชัดเจนขึ้นและปรากฏทางออกตรงเบื้องหน้า

  

ดวงตาของเขาสว่างวาบและรีบเดินออกไปโดยไม่ต้องคิด

  

การก่อตัวของค่ายกลภาพลวงตาที่หลังเขานั้นมองแล้วไม่แข็งแกร่งสักเท่าไร แต่ทันทีที่เขาเดินเข้าไป มันกลับทวีความลึกลับจนไม่สามารถหาทางออกได้เลย

  

เขาจะไม่มาเหยียบหลังเขาบ้าๆ นี้อีก

  

“ซูอัน เจ้ามาอยู่นี่ได้อย่างไร?”

เพียงก้าวแรกที่เดินออกมา ฉินอวิ๋นก็เห็นร่างของซูอันทันที ฉินอวิ๋นตกตะลึงและภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทั้งหมดกลายเป็นความโกรธสุมหัวใจของเขาอีกครั้ง

  

“เจ้าพูดกับสามีของอาจารย์แบบนี้หรือ” ซูอันเลิกคิ้วมองและความกดดันครอบงำฉินอวิ๋นไว้แน่นหนา มันทำให้ฉินอวิ๋นเวียนหัวและเป็นลมล้มลงกับพื้น

อืม เพราะเขาถูกฝ่ามือของบุปผามรณะทุบจนสลบ

  

ซูอันมองไปที่ฉินอวิ๋นบนพื้นแล้วยิ้มเย็น

  

ถ้าซูอันไม่ได้วางแผนไว้ เกรงว่าผู้ที่เข้าไปในถ้ำหลังเขาจะเป็นฉินอวิ๋น เมื่อถึงเวลานั้นฉินอวิ๋นจะใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วทะลวงสู่ระดับมิ่งตานได้สำเร็จ จากนั้นช่วยเหลือนิกายเทียนสุ่ยให้รอดพ้นจากการโจมตีของศัตรู เปิดเผยความแข็งแกร่งแท้จริงและสร้างความประทับใจให้บรรดาศิษย์พี่หญิง สุดท้ายกลายเป็นที่โปรดปรานของทุกคนในนิกายเทียนสุ่ย

  

แต่ตอนนี้ถูกเขาช่วงชิงวาสนานั้นไปแล้ว

  

หลังจากยึดหยวนอินของมู่หนิงเจินมาแล้ว แม้ว่านางไม่ได้มีกายศักดิ์สิทธิ์เหมือนพวกตัวเอกหญิงอื่นๆ แต่หยวนอินของผู้ฝึกตนระดับหยางบริสุทธิ์ยังมีผลดีต่อเขาไม่น้อย

  

ตอนนี้เขามาถึงจุดสูงสุดของระดับจื่อฝู่แล้ว จึงเหลือเพียงเส้นกั้นบางๆ ระหว่างระดับมิ่งตานเท่านั้น

  

แต่มิ่งตานนั้นพิเศษ ดังนั้นจึงไม่ต้องรีบร้อน

  

“เสี่ยวอวิ๋น มนุษย์ต้องดำเนินชีวิตด้วยความชัดเจน ดังนั้นเจ้าควรเลอะเลือนให้มากกว่านี้”

  

เขาเดินไปหาฉินอวิ๋นและวางฝ่ามือบนหน้าอกของฉินอวิ๋น จากนั้นพลังงานสีดำจำนวนหนึ่งเข้าสู่ร่างกายของฉินอวิ๋นโดยตรง

  

“จงเพลิดเพลินกับช่วงเวลาดีๆ เป็นครั้งสุดท้ายเถอะ”

  ……

  

“เฮือก!”

  

ฉินอวิ๋นสะดุ้งตื่นขึ้นมา ใบหน้าของเขาซีดเผือด เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลอาบใบหน้า

  

เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น?

  

ดูเหมือนเขาจะได้เจอซูอันและซูอันยังบอกด้วยว่าเป็นสามีของอาจารย์

  

ฉินอวิ๋นมองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นใครอีกเลยและเขายังเป็นคนเดียวที่อยู่หลังเขา ดังนั้นเขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

  

เขาเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก “มันคงเป็นภาพหลอนที่เกิดจากการอยู่ในม่านพลังเวทลวงตานานเกินไป”

  

ซูอันจะเป็นสามีของอาจารย์ได้อย่างไร

เป็นไปไม่ได้

  

เขายันกายขึ้นและเดินกลับไปที่ลานบ้าน ตอนนี้มีศิษย์คนหนึ่งยืนรออยู่ที่ประตูและใบหน้าวิตกกังวลของนางสว่างขึ้นเมื่อเห็นฉินอวิ๋นกลับมา

“ศิษย์อาเล็กฉินกลับมาแล้ว ในที่สุดท่านก็กลับมา”

  

“เกิดอะไรขึ้น?” ฉินอวิ๋นขมวดคิ้วถาม

  

“ศิษย์อาเล็กฉิน...” เมื่อเห็นท่าทางที่น่าสะพรึงกลัวของฉินอวิ๋น ศิษย์คนนั้นตกใจมากจนถอยหลังไปสองสามก้าวแล้วพูดเสียงสั่นเทา “ผู้ ผู้อาวุโสเฟิ่งเรียกศิษย์ทั้งหมดไปรวมตัวกันที่ห้องโถงใหญ่ของนิกาย ตอนนี้รอท่านคนเดียว”

รวมตัว? ฉินอวิ๋นรู้สึกสับสน เพราะนอกจากพวกกฎข้อบังคับของนิกายเทียนสุ่ยแล้วโดยปกติค่อนข้างให้อิสระ แต่ไม่เคยมีเหตุการณ์เรียกรวมตัวสานุศิษย์แบบนี้มาก่อน

  

อาจมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น

  

“ข้าทราบแล้ว ข้าจะรีบไปที่นั่น” เขาตอบ

  

ศิษย์หญิงตกใจมากจนหน้าซีด นางไม่สนใจสิ่งใดอีกและใช้พลังเวทหนีจากที่นี่โดยเร็วที่สุด

  

ศิษย์อาเล็กฉินมองนางด้วยสายตาเกลียดชังมาก เหมือนกับที่พวกศิษย์พี่หญิงพูดไว้ไม่พูด ผู้ชายคนนี้เป็นคนนิสัยไม่ดีและนางโชคร้ายที่ถูกส่งให้มาตามเขา

  

ท่าทางของศิษย์คนนี้ทำให้ฉินอวิ๋นสัมผัสได้ แต่เขาไม่แปลกใจกับมัน เรียกว่าชินชาแล้วดีกว่า

  

หลังจากอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาด ฉินอวิ๋นจึงไปที่ห้องโถงใหญ่ของนิกาย

  ……