ตอนที่ 34 ดัชนีดับแสง
ทีละหนึ่ง ผู้บ่มเพาะหนุ่มหลายคนจากสำนักใญ่ไปรับใช้ขุนนางในฐานะผู้คุ้มกัน ข่าวนี้ทำให้เกิดความวุ่นวายในสังคมจอมยุทธ์ของเมืองหลวง แต่ไม่ช้าก็โดนเหตุการณ์อื่นกลบ สุดท้าย ตงฉ่างก็สามารถวางสายไว้ในจวนของขุนนางคนสำคัญได้ และเดือนพฤศจิกายนก็สิ้นสุด
ถึงเวลานับคะแนนของเกาหลิงเฟิง
[คำนวณโชคลาภบ้านเมืองของสิ้นเดือน!]
[ก่อตั้งตงฉ่าง : -5000]
[ใช้ความโปรดปรานในทางที่ผิด : -1000]
[ปัญหาทางการเงินในกรมคลัง : -2000]
[แนะนำการเก็บภาษีการค้า : +6000]
[สื่อสารกับขุมอำนาจอื่น ทำการค้ากับคนเถื่อนทางเหนือ : -2000]
[โชคลาภตอนต้นเดือน : 94000!]
[โชคลาภตอนท้ายเดือน : 90000!]
[การเสียโชคลาภรวม : 4000!]
[ระบบกำลังคำนวณ!]
[กำลังบ่มเพาะเคล็ดทำลายโชคชะตาโดยอัตโนมัติ!]
[ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านได้บ่มเพาะถึงขั้นสองของเคล็ดทำลายโชคชะตา!]
[รางวัลเพิ่มเติม ! สองล้านตำลึงทองในคลังชั้นใน!]
พอเห็นรางวัล เกาหลิงเฟิงก็ไม่พอใจ ถ้าไม่ใช่เพราะการ+6000 เขาคงจะบ่มเพาะถึงขั้นสาม!
เหมือนตอนต้นเดือน จู่ๆก็มีพลังเข้าตัวเกาหลิงเฟิง มันสบาย!ความไม่บริสุทธิ์ในเส้นปราณเขาโดนลบหายและเกาหลิงเฟิงก็รู้สึกสบายถึงวิญญาณ จากนั้น กลิ่นอายทำลายล้างในตัวเขาก็ทวีคูณอีก!
นอกจากนี้ เกาหลิงเฟิงยังยกนิ้วเล็กน้อย แสงทั้งหมดในห้องบรรจบที่นิ้วนี้ เขาชี้นิ้วและลำแสงก็ยิงออกจากปลายนิ้ว จู่โจมภูเขาเทียมด้านนอกหน้าต่าง!โดยปราศจากเสียงดัง หินครึ่งหนึ่งบนภูเขาโดนตัด
นี่น่าเหลือเชื่อ! มันคือเคล็ดบ่มเพาะที่ก้าวข้าวคำว่าจอมยุทธ์ไปแล้ว! ดัชนีดับแสง วิชาที่เกาหลิงเฟิงเข้าใจหลังเลื่อนขั้นในเคล็ดทำลายโชคชะตา พลังมันน่าเกรงขามมาก!เกาหลิงเฟิงพยักหน้าพอใจ เขาสาปส่งพ่อตาเขา หลินเจี้ยนเฉิงอีกครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะการทรยศของตาแก่นี่ เขาควรจะไปถึงขั้นสาม!
เขาลุกออกเตียง เข้าใกล้ฉากกั้นพับ มองชื่อที่เขียนบนฉาก และครุ่นคิด เดือนนี้ ไม่มีความสำเร็จเดียวที่ถูกกระตุ้น ดูเหมือนการพึ่งพาการเลื่อนตำแหน่งขุนนางโกงกินเพื่อทำลายโชคลาภจะยากขึ้น
แต่ ระบบนโยบายมีประสิทธิภาพ นโยบายทั้งสองได้ทำลายโชคลาภไปหน่อย ชื่อหลายชื่อถูกเขียนบนฉาก หลินเจี้ยนเฉิง เสี่ยวเต๋อจือ เฉินฟู่ไป่ เจียเต๋าตี๋และองค์ชายแปด ชื่อเหล่านี้คือ’ขุนนางโกงกิน’ที่เกาหลิงเฟิงพึ่งพา การทำลายโชคลาภบ้านเมือง ข้าต้องพึ่งพาพวกเจ้าแล้ว!
พอมองชื่อ เขาก็ถอนหายใจ
มีขุนนางโกงกินในราชสำนักน้อยเกินไป! จะมีแค่หยิบมือเดียวได้ไง?พวกเจ้าบัณฑิตไม่ทำงานให้ดี!ไม่!ข้าไม่สามารถจดจ่อกับการคัดเลือกขุนนางจากฝ่ายบุ๋นได้ ข้าต้องบ่มเพาะขุนนางฝ่ายบู๊ด้วย!นี่จะเปิดแนวคิดใหม่ ข้าต้องพัฒนาขุนนางทั้งสองฝ่ายไปพร้อมกัน!แต่ ใครจะได้เลื่อนตำแหน่ง?ใครที่เหมือนขุนนางโกงกิน?
เกาหลิงเฟิงครุ่นคิด ตระหนักว่าเขาไม่รู้เกี่ยวกับทหารเลย เขาจึงตะโกน“เสี่ยวเต๋อจือ!”
“ขอรับ ฝ่าบาท!”เสี่ยวเต๋อจือปรากฏทันที
ระหว่างนี้ เสี่ยวเต๋อจือกลายเป็นเข้าใจยากขึ้น แต่เมื่อใดที่เกาหลิงเฟิงต้องการตัว เขาจะมักปรากฏจากสถานที่ประหลาด หรือเจ้าหมอนี่จะฝึกวิชาประหลาด?
เกาหลิงเฟิงถาม“เสี่ยวเต๋อจือ การเตรียมการของตงฉ่างเป็นอย่างไรบ้าง?”
เสี่ยวเต๋อจือกำลังจะเปิดเผยแผนควบคุมจอมยุทธ์หนุ่มด้วยผนึกชีวิตและความตายและบังคับให้พวกเขาแทรกซึม แต่ยับยั้งชั่งใจไว้ เปิดเผยเรื่องนี้โดยไม่ได้รับข้อมูลที่สำคัญก่อนจะเท่ากับการหลอกฝ่าบาท ถ้าไม่มีผลลัพธ์ เสี่ยวเต๋อจือก็ต้องเงียบไว้ก่อน
เขาพูด“ฝ่าบาท ตงฉ่างเพิ่งก่อตั้ง เราเริ่มซื้อตัวคนในตลาดและรวบรวมข่าวลือที่หมุนเวียนในเมืองหลวง”
เกาหลิงเฟิงเกิดสนใจ“บอกข้าที ใครในแวดวงขุนนางที่มีชื่อเสียงเลวร้าย?”
หัวใจของเสี่ยวเต๋อจือดำดิ่ง นี่ไม่ดี!ฝ่าบาทกำลังทดสอบเขา!ฝ่าบาทฉลาดล้ำ เขาต้องรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับขุนนาง เขากำลังทดสอบข้าแน่!แต่ เขาจะพูดยังไง?เสี่ยวเต๋อจือรู้สึกหมดหนทาง ครั้งก่อน ตอนเขาใส่ร้ายราชเลขาว่าเป็นขุนนางโกงกิน เขาทำให้จักรพรรดินีไม่พอใจ ถ้าเขาต้องพูดชื่อตอนนี้ เขาจะไม่สามารถได้ใจสนมเอกเช่นกัน!
เขาควรทำยังไง?ตอแยสองสตรีผู้ทรงอิทธิพลสุดในวัง?เขาจะมีชีวิตอยู่ยังไง?รอก่อน!พอมองไปในตาของเกาหลิงเฟิง เสี่ยวเต่อจือก็เข้าใจ!เขาเป็นคนของฝ่าบาท!เขาจะไปกลัวใคร!
เสี่ยวเต๋อจือตระหนัก!ฝ่าบาทกำลังเตือนเขาว่าในโลกนี้ เขาได้แต่เป็นข้ารับใช้ที่ภักดี!เสี่ยวเต๋อจือจะภักดีต่อฝ่าบาทคนเดียว!ฝ่าบาทกำลังทดสอบเขา!เสี่ยวเต๋อจือเห็นแจ้ง อำนาจของตงฉ่างไม่ได้น้อย เขาไม่ต้องเอาใจใครในราชสำนัก
แม้กระทั่งคนอย่างจักรพรรดินีกับสนมเอกก็ไม่ต้องกลัว!เขาจะต้องภักดีต่อจักรพรรดิเพียงผู้เดียว!
เสี่ยวเต๋อจือหลั่งเหงื่อเย็น นี่ลำบาก!โชคดี เขาเข้าใจเจตนาของพระองค์!ตอนนี้เสี่ยวเต๋อจือรู้สึกเหมือนขี่หลังเสือ!ตั้งแต่อดีต การรับใช้จักรพรรดิที่ชอบธรรมในฐานะขันทีคืองานท้าทายสุดในโลก!
เสี่ยวเต๋อจือคุกเข่า“ข่าวลือนั้นเอ่ยถึงฮวามู่หลาน โหวชิงหยวนว่าเขาหยิ่งและบุ่มบ่าม และมีชื่อเสียงเลวร้ายท่ามกลางขุนนาง”
ฮวามู่หลาน โหวชิงหยวน?น้องชายของสนมฮวา? ขุนนางโกงกินอยู่ข้างข้านี่เองเหรอ?สนมฮวา!เจ้าทำให้ข้าแปลกใจ!
เกาหลิงเฟิงดีใจ!