ตอนที่ 31 ฉันเป็นเพื่อนกับเจ้าของศูนย์การค้า ซินไท่ ดังนั้นการเช่าร้านที่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย
เว่ย รุ่ยเหยี่ยน มีความคิดอื่นแอบแฝงอยู่
ตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เขาเป็นคนธรรมดามาก
แต่เมื่อครึ่งปีก่อน สถานการณ์ของเขาเปลี่ยนไป
บ้านเก่าหลายหลังของครอบครัวเขาถูกเวนคืน ทำให้ครอบครัวของเขาได้รับเงินก้อนใหญ่ ตอนนี้เขาจึงถือว่าเป็น ‘รุ่นสองของคนที่ได้ประโยชน์จากการเวนคืนที่ดิน’
เมื่อได้พบกับดอกไม้งามประจำมหาวิทยาลัยในตอนนั้น เว่ย รุ่ยเหยี่ยน ก็เริ่มมีความคิดอื่น
เมื่อมีเงินแล้ว เขาเองย่อมมีความมั่นใจมากขึ้น
หลังจากรู้ถึงสถานะของ เย่เฉิน และไป๋ ฮันเยียนแล้ว เว่ย รุ่ยเหยี่ยน ก็ละเลย เย่เฉิน ทันที และเริ่มคุยกับ ไป๋ ฮันเยียน อย่างจริงจัง
“เพื่อนร่วมชั้น ไป๋ ตอนนี้คุณทำงานอะไรอยู่เหรอ?”
“ฉันทำงานที่บริษัทเอเจนซี่ค่ะ”
ไป๋ ฮันเยียน ตอบกลับอย่างสุภาพ โดยมีน้ำเสียงที่แสดงถึงความห่างเหินจากเขาอย่างชัดเจน
แม้ เว่ย รุ่ยเหยี่ยน รู้สึกได้ถึงน้ำเสียงนั้นแต่ก็แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ และยังคงพยายามคุยต่อ
“ทำงานที่บริษัท เอเจนซี่.. อืม ก็ไม่เลวนะ”
เว่ย รุ่ยเหยี่ยน พยักหน้า
“แล้วคุณล่ะ?”
ไป๋ ฮันเยียน ถามกลับอย่างสุภาพ
“ฉันเหรอ เปิดร้านอยู่ ธุรกิจก็ดี พอทำเงินได้สักสองสามแสนต่อเดือน”
พอได้ยินคำถามของ ไป๋ ฮันเยียน เว่ย รุ่ยเหยี่ยน ก็รู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมาทันที และทำเป็นแสร้งตอบอย่างไม่ใส่ใจ
เมื่อกี้เขาถาม ไป๋ ฮันเยียน ว่าทำงานอะไรเพื่อจะให้ ไป๋ ฮันเยียน ถามเขากลับคำถามนั้น
แบบนี้เขาจะได้โอกาสอวดความร่ำรวยของตัวเอง
“สองสามแสนต่อเดือนเลยเหรอ?”
ไป๋ ฮันเยียน รู้สึกประหลาดใจ
ซึ่งนี่มันมากกว่ารายได้ทั้งปีของเธอเสียอีก การเปิดร้านเดี๋ยวนี้ได้เงินขนาดนี้เชียวหรือ?
“ไม่มากหรอก บางครั้งก็ได้ถึง 500,000 หยวน”
เมื่อพูดถึงการอวดรวย เว่ย รุ่ยเหยี่ยน ก็พูดเกินจริงเข้าไปอีก
แม้ว่าเขาจะใช้เงินของครอบครัวเปิดร้าน แต่รายได้สุทธิต่อเดือนก็แค่หมื่นกว่าๆ เท่านั้น
แต่เพื่ออวดความร่ำรวยต่อหน้า ไป๋ ฮันเยียน เว่ย รุ่ยเหยี่ยน จึงต้องแสร้งทำเป็นพูดเกินจริง
ยังไงไม่ว่าเขาจะพูดมากแค่ไหนก็ไม่เป็นไร ไม่มีใครจะมาจับโกหกเขาได้อยู่แล้ว
“ร้านของฉันอยู่ในใจกลางเมือง ใช้ได้เลยล่ะ”
เมื่อเห็น ไป๋ ฮันเยียน ประหลาดใจ เว่ย รุ่ยเหยี่ยน ก็รู้สึกภาคภูมิใจ และพูดคุยโม้ต่อไป
“เพราะร้านค้าในใจกลางเมืองนั้นจำกัด ช่วงนี้ฉันสนใจอยากย้ายเข้าไปในศูนย์การค้า ซินไท่”
เว่ย รุ่ยเหยี่ยน พูดต่ออย่างมั่นใจ
“เนื่องจากที่นั่นเป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่มีผู้คนเข้ามากที่สุดในเจียงโจว ศูนย์การค้า ซินไท่ จึงมีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก”
“ฉันจึงกำลังเตรียมเช่าร้านในศูนย์การค้า ซินไท่ สักแปดถึงเก้าร้านในนั้น เพื่อลองทำธุรกิจอื่นๆ ดู”
ธุรกิจที่ร้านเก่าไม่ค่อยดีนัก ดังนั้น เว่ย รุ่ยเหยี่ยน จึงวางแผนที่จะเปิดร้านใหม่ และเขาก็สนใจศูนย์การค้า ซินไท่ จริงๆ
แต่จริงๆ แล้วเขาไม่ได้เตรียมเช่าร้านถึงแปดเก้าร้าน แค่เช่าร้านเดียวก็ดีพอแล้ว
ศูนย์การค้า ซินไท่ ในแต่ละวันมีคนเข้าออกเยอะมาก ค่าเช่าร้านจึงแพงมาก การเช่าร้านหนึ่งต่อเดือนอาจต้องใช้เงินหลายหมื่นหยวน
และการเช่าแปดถึงเก้าร้าน ต่อเดือนไม่ต้องใช้เงินหลายแสนต่อเดือนเลยเหรอไง
หนึ่งปีตกแล้วก็หลายล้านหยวน เว่ย รุ่ยเหยี่ยน ไม่สามารถแบกรับภาระนี้ได้
แม้ว่าบ้านของเขาจะถูกเวนคืน แต่ก็ได้มาแค่ไม่กี่สิบล้านหยวนเท่านั้น
ค่าเช่าที่แพงขนาดนี้ เขาไม่สามารถรับได้จริงๆ
ศูนย์การค้า ซินไท่?
เย่เฉิน ซึ่งเดิมที่กำลังคิดแผนอยู่ เมื่อได้ยินชื่อ ศูนย์การค้า ซินไท่ เขาก็รู้สึกสนใจขึ้นมา
นั่นเป็นศูนย์การค้าของเขานี่นา..
มันคือสิ่งที่เขาได้มาจากการทำภารกิจก่อนหน้านี้
จนถึงตอนนี้ เย่เฉิน ไปที่นั่นแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
“คุณจะเช่าร้านแปดถึงเก้าร้านในศูนย์การค้า ซินไท่เหรอ?”
ไป๋ ฮันเยียน รู้สึกประหลาดใจมาก
ศูนย์การค้า ซินไท่ เธอรู้จักดี เธอมักจะไปช้อปปิ้งกับเพื่อนๆ ที่นั่น
“ค่าเช่าร้านในศูนย์การค้า ซินไท่ แพงมาก และเช่ายาก ถ้าไม่รู้จักคนในวงใน แม้จะมีเงินก็ไม่แน่ว่าจะเช่าได้ เพราะมีคนจ้องจะเช่าร้านที่นั่นเยอะมาก”
ไป๋ ฮันเยียน กล่าวพลางถอนหายใจ
“เพื่อนของฉันคนหนึ่ง ครอบครัวของเธอมีฐานะดีมาก ก่อนหน้านี้เธอพยายามจะเช่าร้านในศูนย์การค้า ซินไท่ เพื่อขายเสื้อผ้า เงินทั้งหมดก็เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว”
“แต่จนถึงตอนนี้ เธอก็ยังเช่าร้านไม่ได้เลย”
ไป๋ ฮันเยียน พูดด้วยความเสียดาย
การเช่าร้านหนึ่งร้านยังยากขนาดนี้ แล้วจะให้ เว่ย รุ่ยเหยี่ยน เช่าถึงแปดเก้าร้านนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย
หลังจากได้ยิน ไป๋ ฮันเยียน พูดจบ เว่ย รุ่ยเหยี่ยน ก็ยังคงโม้ต่อไป
“ไม่เป็นไร สำหรับคนอื่นมันอาจจะยาก แต่สำหรับฉันนั้นมันง่ายมาก”
เว่ย รุ่ยเหยี่ยน รู้สึกว่าในเมื่อเขากำลังโม้ ไม่มีใครสามารถจับผิดเขาได้ ดังนั้นเขาจึงยิ่งคุยโม้ไปอย่างหน้าด้านๆ โดยไร้ข้อจำกัดมากยิ่งขึ้น
“บอกตามตรง ฉันรู้จักกับเจ้าของศูนย์การค้า ซินไท่ เราเป็นเพื่อนกัน”
“ถ้าฉันอยากจะเช่าร้าน ก็แค่โทรหาเขา ง่ายๆ สบายๆ”
“จริงเหรอ?”
ไป๋ ฮันเยียน ตกใจมาก
“แน่นอนอยู่แล้ว”
เว่ย รุ่ยเหยี่ยน พูดพร้อมตบหน้าอกของเขาอย่างมั่นใจ ทั้งนี้ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าการคุยโม้นี้ทำให้รู้สึกดีมากจริงๆ
หืม?
เขาเป็นเพื่อนกับเจ้าของศูนย์การค้า ซินไท่?
เมื่อได้ยินคำพูดของ เว่ย รุ่ยเหยี่ยน เย่เฉิน ก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสับสน
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขามีเพื่อนแบบนี้? ทำไมแม้แต่เขาเองยังไม่รู้เลย?
“คุณช่วยบอกเพื่อนคุณ ซึ่งเป็นเจ้าของศูนย์การค้า ซินไท่ ให้เช่าร้านให้เพื่อนฉันหน่อยได้ไหม? เราสามารถจ่ายค่าเช่าเพิ่มมากกว่าเดิมให้ได้”
ไป๋ ฮันเยียน ถาม เว่ย รุ่ยเหยี่ยน
เพื่อนสนิทของเธอเครียดเรื่องนี้มาสองเดือนแล้ว จนเกือบหมดกำลังใจ
ไป๋ ฮันเยียน รู้สึกสงสารเพื่อนมาก
และตอนนี้เมื่อโอกาสมาถึง.. เธอก็อยากจะช่วยเพื่อนสนิทของเธอบ้าง
“อะ...”
เมื่อถูกถามแบบนั้น เว่ย รุ่ยเหยี่ยน ถึงกับตะลึง สิ่งนี้..เขาแค่คุยโม้เท่านั้น
แต่เอาจริงๆ เขามีเบอร์โทรของเจ้าของศูนย์การค้า ซินไท่จริงๆ แต่มันเป็นเพียงหมายเลขที่เขาหาเจอตอนคิดจะเช่าร้าน แต่ยังไม่เคยโทรติดต่อเขาเลยสักครั้ง
อีกอย่างที่เขาบอกว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกัน เป็นแค่การคุยโม้เพื่อทำให้ ไป๋ ฮันเยียน ประทับใจเท่านั้น
เจ้าของศูนย์การค้า ซินไท่เป็นใคร? เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่, เป็นเศรษฐี, เป็นบุคคลสำคัญ
ตัวเขาล่ะ.. เขาเป็นแค่ลูกคนรวยรุ่นสองที่เพิ่งได้รับเงินจากการเวนคืน จะไปมีความสัมพันธ์อะไรกับคนแบบนั้นได้ยังไงเล่า?
“ทำไม.. คือมันเป็นเรื่องยากเหรอ? ถ้างั้นก็ช่างเถอะ..”
ไป๋ ฮันเยียน พูดขึ้นด้วยความเสียดาย
“อย.. อย่าพึ่งสิ”
เว่ย รุ่ยเหยี่ยน กัดฟันพูดออกมา
ถ้าเขาปฏิเสธตอนนี้ ทุกสิ่งที่เขาคุยโม้ไปก่อนหน้าจะไม่สูญเปล่าทั้งหมดเหรอ?
เขายังอยากจะทำให้ ไป๋ ฮันเยียน มีความประทับใจดีๆ และเขายังเตรียมจะไล่ตามเธอด้วย
“เอาแบบนี้ก็แล้วกัน”
สุดท้าย เพื่อที่จะได้โม้ต่อไป และเพื่อจะได้ตามจีบ ไป๋ ฮันเยียน เว่ย รุ่ยเหยี่ยน จึงตัดสินใจพูดว่า :
“แม้จะไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จหรือเปล่า แต่ฉันจะลองโทรหาเจ้าของศูนย์การค้า ซินไท่ ดู”
เมื่อได้ยินดังนั้น ไป๋ ฮันเยียน ก็พูดด้วยความตื่นเต้นว่า :
“จริงเหรอ? อย่างไรฉันขอขอบคุณคุณแทนเพื่อนของฉันด้วยนะ”
“ไม่มีปัญหา นี่แค่เล็กน้อยเอง”
เว่ย รุ่ยเหยี่ยน ยังคงโม้ต่อไป
ในขณะพูด เว่ย รุ่ยเหยี่ยน ก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาด้วยความตื่นเต้น และเลื่อนหาหมายเลขของเจ้าของศูนย์การค้า ซินไท่
ฟู่วว!
เว่ย รุ่ยเหยี่ยน ถอนหายใจยาว เพื่อที่จะได้โม้ต่อ และเพื่อไล่ตาม ไป๋ ฮันเยียน เขาก็พร้อมที่จะเสี่ยง
ก็แค่โทรไปจะเป็นไรไป?
เขาไม่เชื่อว่า ถ้าเขาเสนอราคาสูงเป็นสองเท่า เจ้าของศูนย์การค้า ซินไท่จะปฏิเสธเขา
อีกอย่าง..ใครบ้างไม่ชอบเงิน?
เพื่อไล่ตามจีบ ไป๋ ฮันเยียน ยอมเสียเงินสักหน่อยก็ไม่เป็นไร
สุดท้าย เว่ย รุ่ยเหยี่ยน ก็ตัดสินใจโทรออกไปหาเจ้าของศูนย์การค้า ซินไท่
ในเวลาเดียวกัน โทรศัพท์มือถือของ เย่เฉิน ที่วางอยู่บนโต๊ะนั้นก็… พลันดังขึ้น