ตอนที่แล้วบทที่ 42 ข้าจะจำนามของเจ้าไว้!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 44 คุณหนูลั่วเหยาต้องการพบท่าน!

บทที่ 43 ความครึกครื้นในเมืองฉีซาน!


หลัวเฉิงส่ายศีรษะและเก็บเรื่องของจินหมินไว้ข้างหลัง

สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการรักษาอาการบาดเจ็บของท่านปู่ และงานชุมนุมล่าสัตว์เท่านั้น

จวบกระทั่งเที่ยงวัน หลัวเฉิงจึงได้ออกจากหุบเขาเมฆาทมิฬได้สำเร็จ

“ถ้าข้าสามารถบินได้ ข้าคงกลับไปถึงเมืองฉีซานนานแล้ว รอก่อนเถอะไว้ข้าแข็งแกร่งขึ้นเมื่อไหร่ ข้าจะท่องยุทธภพให้สาสมใจ”

หลัวเฉิงยังรู้สึกตราตรึงใจยิ่ง เมื่อหวนคะนึงถึงความสุขที่ได้สัมผัสขณะท่องเวหากับอวิ๋นเหมิงลี่

อย่างไรก็ตาม ขั้นที่สามของการฝึกฝน ที่เรียกว่าขั้นเขตแดนลึกลับ ยังอยู่ห่างไกลเกินไปสำหรับความแข็งแกร่งของเขาในปัจจุบัน

“ข้าควรหลอมโอสถก่อน แล้วค่อยกลับไปจะดีกว่า…” หลังคิดได้เช่นนั้น เขาก็มองหาสถานที่ที่สามารถหลอมโอสถได้ทันที

หลังเดินไปได้ไม่นาน เขาก็พบถ้ำอันเงียบสงบ จากนั้นก็เข้าไปข้างในแล้วนั่งขัดสมาธิ

“ผลเกล็ดมังกรเป็นโอสถระดับสี่ดาว มันต้องสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของท่านปู่ได้สิ…”

หลัวเฉิงหยิบผลเกล็ดมังกรออกมาแล้วพึมพำกับตัวเอง

ที่เขาคิดเช่นนั้นก็เพราะว่า โอสถแต่ละชนิดล้วนมีพลังการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน

เช่น ผลผลึกทับทิมมีฤทธิ์ช่วยผู้ฝึกยุทธ์ในการหลอมกายาให้แข็งแกร่ง ขณะที่ดอกอวี้หลันสามารถชะล้างพิษในร่างกายได้ หากต้องการได้รับผลแบบเฉพาะเจาะจง จำเป็นจะต้องหลอมสมุนไพรให้กลายเป็นโอสถวิญญาณเท่านั้น

ดังนั้น หลัวเฉิงจึงไม่รู้เลยว่าผลเกล็ดมังกรออกฤทธิ์เช่นไร

“ลองหลอมมันก่อนแล้วกัน เรื่องพลังของมันค่อยว่ากันทีหลัง”

หลัวเฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้ววางผลเกล็ดมังกรลงบนฝ่ามือซ้ายที่มีรอยสัญลักษณ์เกล็ดเก้าสี

พัฟ!

ทันใดนั้น แรงดูดก็พุ่งพล่านออกมาจากสัญลักษณ์ทันที และวงแหวนแสงลึกลับก็ดูดกลืนผลเกร็ดมังกรหายไปจนหมดสิ้น

ระหว่างนั้นเอง หลัวเฉิงรู้สึกราวกับจิตวิญญาณของเขาถูกกระแทกอย่างแรง ทำให้ดวงตาของเขามืดลงก่อนจะวูบหมดสติไปในที่สุด

หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามเต็มๆ หลัวเฉิงก็ได้สติกลับคืนมา เขาค่อยๆ ลุกขึ้นพร้อมกับความรู้สึกวิงเวียนที่ยังคงอยู่

“ผลเกล็ดมังกร!”

ทันทีที่ตระหนักได้ หลัวเฉิงก็รีบมองไปยังมือซ้ายของเขาด้วยความรู้สึกตื่นตระหนก

ก่อนจะพบว่าบนฝ่ามือเขาขณะนี้ มีโอสถสีดำทองเม็ดหนึ่ง

โอสถเม็ดนี้มีขนาดประมาณครึ่งชุ่น พื้นผิวของมันมีเกล็ดสีดำทองจำนวนมากปกคลุมอยู่ ทำให้รูปลักษณ์ของมันดูค่อนข้างแปลกตายิ่งนัก

ระหว่างที่ถือโอสถไว้ในมือ เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังปราณอันบริสุทธิ์ที่พลุ่งพล่านของมันได้อย่างชัดเจน ซึ่งความแปรปรวนของมันนั้นมากกว่าโอสถผลึกทับทิมเสียอีก

“ในที่สุดมันก็สำเร็จ!”

หลัวเฉิงถอนใจยาวด้วยความโล่งอก เขายกมือขึ้นลูบศีรษะที่กำลังวิงเวียนของตน

“ดูเหมือนว่า การหลอมโอสถจำเป็นต้องใช้พลังทางจิตวิญญาณของข้า อาการมันเหมือนกับตอนที่ข้ากลืนวิญญาณสัตว์อสูรจำนวนมากด้วยระดับพลังยุทธ์ปัจจุบัน ซึ่งโอสถระดับสี่ดาวนี้ก็ผลาญพลังทางจิตวิญญาณไปใช่น้อย…”

หลังคิดได้เช่นนี้ หลัวเฉิงก็รู้สึกโชคดีเป็นมาก ที่การหลอมโอสถครั้งนี้สำเร็จไปได้ด้วยดี

มิฉะนั้น เกรงว่าจะยากหากจะหาโอสถระดับสี่ดาวอีกครั้งหนึ่ง

“จะว่าไปแล้ว ข้าจะมอบโอสถเว็บนี้ให้ท่านปู่ของข้าอย่างไรดี…”

เมื่อหลอมโอสถสำเร็จ จู่ๆ หลัวเฉิงก็นึกได้ถึงปัญหายุ่งยากอีกเรื่องหนึ่ง

เพราะนี่เป็นโอสถระดับสี่ดาว ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย หากเขามอบมันให้ท่านปู่โดยตรง มันจะต้องมีปัญหาตามมาอีกมากมายไม่รู้จบ และสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้คือเขาจะต้องถูกสืบหาความจริงเรื่องนี้แน่

ข้าคงเดินไปบอกท่านปู่ไม่ได้ว่า จู่ๆ มันก็ตกลงมาจากฟ้าโดยบังเอิญ!

“เอาไว้กลับไปก่อนแล้วค่อยคิดเรื่องนี้ทีหลัง”

โดยไม่ลังเลให้เสียเวลาเกินไป หลัวเฉิงจึงรีบออกเดินทางกลับไปยังเมืองฉีซานทันที

ทันทีที่กลับถึงเมืองฉีซาน หลัวเฉิงก็สังเกตเห็นว่าบรรยากาศในเมืองมีบางอย่างผิดปกติ ซึ่งขณะนี้ครึกครื้นกว่าเมื่อก่อนมาก

หลังจากได้สอบถามผู้คนในเมือง เขาก็ได้ทราบว่าบุตรสาวของเจ้าเมืองกลับมาแล้ว อีกทั้งนางยังมาพร้อมกับองค์ชายลำดับแปดแห่งอาณาจักรต้าเยว่!

“คงเป็นพวกเขาทั้งสองที่ข้าพบในหุบเขาเมฆาทมิฬแน่นอน”

ทันทีที่ได้ยินว่ามีบุตรสาวเจ้าเมืองกับองค์ชายมาเยือนยังเมืองฉีซาน หลัวเฉิงก็นึกถึงอวิ๋นเหมิงลี่และจินหมินทันที!

และอีกเรื่องหนึ่งที่เขานึกได้ คือราชาแห่งอาณาจักรต้าเยว่ก็แซ่จินเช่นกัน

อีกทั้งหลัวเฉิง ยังเคยได้ยินเกี่ยวกับบุตรสาวที่เป็นดั่งหยกล้ำค่าของเจ้าเมืองด้วย

ลือกันว่า บุตรสาวของเจ้าเมืองอวิ๋นเต้าเจี้ยงมีความสามารถที่โดดเด่นอย่างมาก นางถูกผู้อาวุโสของสำนักมหาอำนาจเห็นแววตั้งแต่ยังเยาว์ จึงถูกพาตัวกลับไปยังสำนักเพื่อรับการฝึกฝน

อย่างไรก็ตาม หลัวเฉิงไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากนัก เขาพลันสืบเท้าก้าวต่อไปยังศาลาหลิงอวิ๋นทันที

ครั้นบรรลุถึง ก็พบว่าศาลาหลิงอวิ๋นขณะนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวายอย่างมาก โดยมีเหล่าอัจฉริยะวัยเยาว์จำนวนมากมารวมตัวกันอยู่ที่โถงชั้นหนึ่ง

ทว่า สิ่งที่ทำให้หลัวเฉิงประหลาดใจกว่านั้นก็คือ คนเหล่านี้ดูจะไม่ได้มาเพื่อซื้อหรือขายสิ่งใด เหมือนว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อต้องการพบใครบางคนเท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด