ตอนที่ 62 ชายเจ้าชู้หญิงรัก ฟ้าอุ้มสม
ตอนที่ 62 ชายเจ้าชู้หญิงรัก ฟ้าอุ้มสม
ซูอันไม่ใช่คนดี ฉินอวิ๋นมองออกตั้งแต่แรก
ยิ่งไปกว่านั้นคือฉินอวิ๋นยังรู้สึกว่าซูอันมีความคิดชั่วร้ายต่อศิษย์พี่หญิงทั้งหลาย และตอนนี้เขาถูกศิษย์พี่หญิงเข้าใจผิดแล้ว หากซูอันใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้...
เมื่อนึกถึงฉากในฝันร้ายนั้น เขาก็ขนลุกไปทั้งกาย
สำหรับเรื่องแบบนั้น เขาไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด
“ถึงแม้ว่าศิษย์พี่หญิงจะเห็นเรื่องที่ไม่ควรเห็นจากข้า แต่ความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์พี่ศิษย์น้องนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตัดขาดกันแน่นอน”
“ตราบใดที่ข้าทำตัวดีๆ พวกศิษย์พี่ต้องยกโทษให้ข้าแน่!” ฉินอวิ๋นพูดกับตัวเองและวิเคราะห์เข้าข้างตัวเองด้วย
เพื่อที่จะสร้างความประทับให้พวกศิษย์พี่ เขาจึงหยุดการฝึกฝน ‘คัมภีร์มหาสุบิน’ และเปลี่ยนมาใช้การฝึกแบบนั่งขัดสมาธิดั้งเดิมเพื่อที่ใครมาเห็นจะได้คิดว่าเขามีความพยายาม
แต่ผ่านไปหลายวันแล้วยังไม่มีใครมาชมการแสดงบังหน้าของเขาเลย
ไม่ต้องพูดถึงศิษย์พี่ เพราะแม้แต่สานุศิษย์ยังไม่มาให้เห็นหน้าสักคน
มีเพียงฉินอวิ๋นที่นั่งแสดงให้ตัวเองชม
วันแล้ววันเล่าผ่านไปเช่นนี้
“ไม่ได้การ อยู่แค่ในนี้มันลับสายตาเกินไป!”
“ข้าต้องออกไปแสดงข้างนอก เช่นนี้พวกศิษย์พี่หญิงจึงจะมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของข้า”
สุดท้ายฉินอวิ๋นไม่สามารถนั่งนิ่งได้อีกต่อไป
เขารวบรวมความกล้าแล้วเดินออกจากลานบ้านเป็นครั้งแรกนับจากเหตุการณ์นั้น
“ไปดูทางศิษย์พี่ใหญ่ก่อน”
โดยปกติแล้วศิษย์พี่ใหญ่ใส่ใจเขามากที่สุด แต่กลายเป็นว่านางโกรธเขาจนหายหน้าหายตาไปเลย แต่เขาเชื่อว่าตราบใดที่ยอมรับความผิดด้วยความจริงใจและอธิบายถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เข้าใจผิดเหล่านั้น ศิษย์พี่ใหญ่จะเข้าใจเขาแน่นอน
เมื่อเขาจินตนาการถึงภาพที่ศิษย์พี่ใหญ่จะให้อภัยและแผนของซูอันล้มเหลว รอยยิ้มชั่วร้ายจึงปรากฏบนใบหน้าของเขาโดยไม่รู้ตัว
หลังกำหนดทิศทางแล้ว ฉินอวิ๋นจึงออกเดินทางทันที
เขารู้สึกชินชากับสายตาแปลกๆ ของสานุศิษย์ที่พบระหว่างทางไปแล้ว เขาจึงไม่ได้สนใจมากนัก
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็มาถึงเชิงเขาเฟิ่งหมิงและกำลังจะเดินขึ้นไป
แต่ทันใดนั้น กระแสแสงหนึ่งตกลงที่ยอดเขาเฟิ่งหมิงในระยะไกล ปรากฏร่างที่หล่อเหลาและสง่างาม
นั่นคือซูอัน!
ร่างของฉินอวิ๋นแข็งทื่อ ซูอันมาทำอะไรที่นี่?
หรือว่าซูอันพุ่งเป้ามาที่ศิษย์พี่ใหญ่แล้ว?
“คุณชายซูมาหาผู้อาวุโสเฟิ่งอีกแล้ว!” สานุศิษย์ที่อยู่ไม่ไกลจากเชิงเขาเห็นซูอันแล้วเริ่มพูดคุยกันทันที
“ผู้อาวุโสเฟิ่งดูเหมือนสนใจคุณชายซูเช่นกันนะ ผู้ชายมากความสามารถ ผู้หญิงก็งดงาม มวลดอกไม้ใต้แสงจันทร์ [1] แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว”
“ข่าวของเจ้าน่ะเก่าแล้ว เพราะตอนนี้ผู้อาวุโสเฟิ่งกับคุณชายซูได้แสดงความรู้สึกแท้จริงต่อกันและให้คำสัญญาต่อกันแล้ว”
“ข่าวเก่าข่าวใหม่สำคัญอย่างไร สุดท้ายแล้วผู้อาวุโสเฟิ่งกับคุณชายซูต่างก็เป็นอัจฉริยะแห่งยุค ทั้งทรงพลังและไม่มีทางแก่เฒ่าด้วย”
“ถูกต้อง ชายเจ้าชู้หญิงรัก ฟ้าอุ้มสม พวกเราจะได้เห็นผู้อาวุโสเฟิ่งกับคุณชายซูแต่งงานกันหรือไม่นะ”
คำพูดมากมายลอยเข้าหูฉินอวิ๋นทีละคำ มันทำให้เขารู้สึกปั่นป่วนและร่างกายเกิดความหนาวเหน็บ
เป็นไปไม่ได้!
ศิษย์พี่ใหญ่จะตกหลุมรักซูอันผู้ชายเจ้าชู้ได้อย่างไร
ฉินอวิ๋นไม่อยากเชื่อว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
ศิษย์พี่ใหญ่ของเขาสูงส่งราวกับบุปผาศักดิ์สิทธิ์เกินเอื้อมถึง แล้วนางจะเป็นเหมือนที่สานุศิษย์พูดได้อย่างไร
ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ยอดเขาเฟิ่งหมิง ใจหวังว่าจะเห็นเฟิ่งหลวนขับไล่ซูอันโจรชั่วออกมา
รออยู่ครู่หนึ่ง
เฟิ่งหลวนเดินออกจากลานบ้านเพื่อต้อนรับซูอัน
“คุณชายซูมาแล้วหรือ” นางยิ้มและเริ่มทักทายเขาก่อน
ในช่วงไม่กี่วันที่ได้ติดต่อกันนี้ ความรู้สึกที่นางมีต่อซูอันเกิดการเปลี่ยนแปลง
เพราะก่อนหน้านี้ด้วยเรื่องของฉินอวิ๋นและการถูกซูอันตบหน้า ทำให้นางค่อนข้างรังเกียจซูอัน
แต่หลังจากได้พูดคุยกันจริงๆ นางก็ตระหนักว่าซูอันไม่เหมือนในความคิดและเขาไม่ใช่อันธพาล
ซูอันไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ที่พิเศษเท่านั้น แต่เขายังมีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับการฝึกตนและพลังเวท มีบางแง่มุมที่ทำให้นางซึ่งอยู่ในระดับหยางบริสุทธิ์ต้องประหลาดใจและตระหนักได้ว่ามีบางจุดที่นางเข้าใจผิดมาโดยตลอด
อุปนิสัยรวมถึงความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับการฝึกตนและพลังเวททำให้ซูอันไร้ที่ติ
ลองคิดดูแล้วถ้าไม่ใช่เพราะเสี่ยวอวิ๋น ความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ระหว่างทั้งสองคงไม่ตึงเครียดมากนัก
อีกทั้งเมื่อได้ไตร่ตรองให้ดีก็ดูเหมือนว่าซูอันไม่ได้ทำผิดเลย
แม้ว่าเขาเคยลงมือกับเสี่ยวอวิ๋นมาก่อน แต่ไม่ได้ทำร้ายเสี่ยวอวิ๋นจริงๆ มันเป็นการสั่งสอนที่เสี่ยวอวิ๋นพูดจาให้ร้ายเขาเท่านั้น
สาเหตุที่เขาตบหน้านางครั้งนั้นเพราะนางเชื่อคำใส่ร้ายของเสี่ยวอวิ๋นและทำร้ายองครักษ์ของซูอันก่อน
บัดนี้ได้ละทิ้งความคับข้องใจในอดีตแล้วลองสื่อสารกันใหม่อีกครั้ง นางจึงพบว่าการสนทนาค่อนข้างเป็นกันเองขึ้น
ความคิดแปลกใหม่ของซูอันทำให้นางได้รับแรงบันดาลใจท่วมท้น
หากไม่มีเสี่ยวอวิ๋นเป็นตัวแปร ไม่แน่ว่าทั้งสองอาจกลายเป็นสหายรู้ใจกันได้จริงๆ
เมื่อนึกได้เช่นนี้เฟิ่งหลวนจึงได้แต่ทอดถอนใจ ดูเหมือนว่าเสี่ยวอวิ๋นมีความเกลียดชังต่อซูอันรุนแรงกว่าและตั้งมั่นว่าจะไม่ยอมรับซูอัน หากความสัมพันธ์ระหว่างนางกับซูอันใกล้ชิดเกินไปจึงยากที่จะจินตนาการว่าเสี่ยวอวิ๋นมีการตอบสนองอย่างไร
แม้ว่าช่วงที่ผ่านมานี้ฉินอวิ๋นจะกระทำความผิดมากมาย แต่นางทำใจยกเขาให้ซูอันลงโทษไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็นศิษย์น้องเล็กและผูกพันกันเหมือนครอบครัว
บางทีนางควรหาเวลาไปพบเสี่ยวอวิ๋นและชี้นำให้เขากลับสู่เส้นทางถูกต้อง
นางไม่ได้สังเกตว่าที่เชิงเขานั้นมีดวงตาคู่หนึ่งที่เต็มไปด้วยความโกรธ ความขุ่นเคืองและความสับสนจ้องมองขึ้นมา
นับตั้งแต่ซูอันมาที่ยอดเขาเฟิ่งหมิงในฐานะแขก สานุศิษย์มาเฝ้าดูตลอดทั้งวัน เฟิ่งหลวนจึงคุ้นชินกับสายตาของคนอื่นแล้วละเลยความคิดศักดิ์สิทธิ์ที่นางทิ้งไว้ในนิกาย
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองถูกจ้องมองโดยฉินอวิ๋น
ตอนนี้ร่างกายของเขาสั่นโดยแรง
คำพูดที่เขาได้ยินจากสานุศิษย์ดังก้องอยู่ในใจ
ชายเจ้าชู้หญิงรัก! ฟ้าอุ้มสม!
ความใกล้ชิดของเฟิ่งหลวนกับซูอันและรอยยิ้มที่นางมีต่อซูอัน
เห็นได้ชัดว่าเป็นการสื่อสารที่ปกติมาก แต่ในสายตาของฉินอวิ๋นนั้นไม่สมควรเลย
เพราะเหตุใด!
ศิษย์พี่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาเกลียดซูอันเข้ากระดูกดำ
ซูอันยังเกือบจะฆ่าเขาด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้นางมาใกล้ชิดกับโจรชั่ว พูดคุยและหัวเราะกันแบบมีความสุข ประพฤติตนใกล้ชิดกันมาก
ช่างเป็นคู่ที่ปรองดองกันเสียจริง!
ฉินอวิ๋นขบกรามแน่นจนฟันเกือบแตก
ความหึงหวงอัดแน่นเต็มหัวใจ
“ซูอัน! เฟิ่งหลวน!”
เขาหันหลังและเดินจากไปโดยไม่สนใจทิศทางข้างหน้า แค่อยากจะหนีจากสถานที่อันน่าเศร้านี้ก็พอ
เมื่อยอดเขาที่อยู่ด้านหลังเล็กลงเรื่อยๆ จนมองไม่เห็นแล้ว อารมณ์ต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ในใจของฉินอวิ๋นไม่สามารถระงับได้อีก เขาคำรามลั่น ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำและโจมตีทุกสิ่งรอบกายด้วยความดุเดือด
จนกระทั่งหมดแรงแล้วหมดสติลงไปตรงนั้น
……
บนยอดเขาเฟิ่งหมิง สีหน้าของซูอันเปลี่ยนไป
“เทพธิดาเฟิ่ง ข้าจำได้ว่ายังมีธุระต้องทำ ดังนั้นข้าขอตัวก่อน” เขายกมือคารวะแล้วกล่าวคำอำลา
เฟิ่งหลวนพูดคุยกับซูอันได้ครึ่งทางแล้ว เมื่อถูกขัดจังหวะโดยกะทันหัน นางรู้สึกจุกอยู่ในอก มันเหมือนความรู้สึกที่การฝึกควบรวมอินหยางสิ้นสุดลงโดยกะทันหันทั้งที่กำลังไต่ระดับขึ้นสูง แต่เมื่อเห็นว่าซูอันอยากออกไปจริงๆ นางก็ยากที่จะรั้งไว้
“คุณชายซูมีธุระสำคัญก็ไปทำเถอะ หากครั้งต่อไปคุณชายมาเยือนยอดเขาเฟิ่งหมิงอีก ข้ายินดีต้อนรับเสมอ”
“อืม ข้าจะมาอีกแน่นอน”
……
เชิงอรรถ
[1] มวลดอกไม้ใต้แสงจันทร์ (花前月下) หมายถึง สถานที่มีทิวทัศน์สวยงาม เหมาะสำหรับให้หนุ่มสาวมาพลอดรักกัน