ตอนที่แล้วตอนที่ 59 ราตรีนี้มีแต่คนนอนไม่หลับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 61 ถูกตามใจจนเสียคน

ตอนที่ 60 เที่ยวหอปี้อวี้


ตอนที่ 60 เที่ยวหอปี้อวี้

  

แม้ยังไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น

  

แต่นั่นคือศิษย์พี่หญิงเล็กของเขา!

  

ความรู้สึกห่างเหินระหว่างเขากับศิษย์พี่หญิงเล็กได้พังทลายลง กลายเป็นเศษซากที่ทิ่มแทงหัวใจของเขา

  

ในที่สุดเขาก็กระจ่างและได้ค้นพบว่าความคิดของเขาที่มีต่อศิษย์พี่ทั้งหลายนั้นไม่ใช่ความรู้สึกที่ไร้เดียงสา

  

แต่มันสายเกินไปแล้ว ทั้งศิษย์พี่หญิงรองและศิษย์พี่หญิงเล็กกลายเป็นผู้หญิงของคนอื่นไปแล้ว

เมื่อคิดเช่นนี้หัวใจของเขาก็กระตุก ความเจ็บปวดนั้นมากจนหายใจลำบาก

  

เขาเดินอย่างไร้จุดหมาย บางครั้งดูดุร้ายและบางครั้งก็ดูบ้า ทำให้ผู้สัญจรเห็นเขาแล้วต่างหลีกหนีให้ไกล เพราะไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ‘คนบ้า’ คนนี้

  

มีเพียงชายอัปลักษณ์ที่สวมชุดผ้าป่านเนื้อหยาบเท่านั้นที่ก้าวมาข้างหน้าและเริ่มทักทายเขาก่อน

  

“คุณชายกำลังเบื่ออยู่หรือ?” ชายอัปลักษณ์ก้มลงและโน้มเข้าหาฉินอวิ๋นพลางถามด้วยรอยยิ้มแปลกๆ

  

“ไสหัวไป!” ฉินอวิ๋นตวาด ใบหน้าของเขาดุดัน

  

ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์พูดคุยกับคนอื่น

  

ประกายแสงลึกลับแวบผ่านในดวงตาของชายคนนั้น แต่เขาไม่โกรธและยังเดินตามเอาใจฉินอวิ๋นต่อ

  

“แหะ แหะ ถ้าคุณชายรู้สึกเบื่อ เช่นนั้นก็มาที่หอปี้อวี้เพื่อผ่อนคลายดีกว่า ไปสนุกสนานสักหน่อย สตรีหอปี้อวี้ของเราต่างก็งดงามอ่อนหวานและเอาใจเก่ง ทำให้คุณชายพอใจแน่นอน” ขณะที่พูด เขาแสดงรอยยิ้มกรุ้มกริ่มด้วย

  

ฉินอวิ๋นชะงัก เข้าใจทันทีว่าหอปี้อวี้ที่ชายคนนี้พูดถึงน่าจะเป็นสถานที่แบบนั้น

  

เขาไม่เคยไปสถานที่แบบนั้น แต่เคยได้ยินคนสำมะเลเทเมาบนท้องถนนพูดถึงเป็นครั้งคราว บอกว่ามันเป็นแดนสวรรค์บนโลกมนุษย์ และแม่นางน้อยในนั้นเหมือนนางฟ้าที่น่าหลงใหล

  

เพียงแต่เขาเคยดูถูกสถานที่แบบนี้มากๆ และมองว่าสตรีเหล่านั้นไม่อาจเทียบกับบรรดาศิษย์พี่ของเขาได้

  

ทว่าตอนนี้...

  

เขากำลังเจ็บปวดใจ!

  

เมื่อเห็นว่าฉินอวิ๋นมีอาการลังเลใจ ชายอัปลักษณ์ยิ่งกระตุ้น “คุณชายกำลังเป็นทุกข์เพราะความรักสินะ ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาดีที่สุดคือการหาสิ่งอื่นมาเบี่ยงเบนความสนใจ ข้าคิดว่าคุณชายรูปงามดุจหยก มีเสน่ห์และอ่อนโยน ซึ่งลักษณะเช่นนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่หญิงสาว แม้ว่าท่านจะไม่สนใจพูดคุยกับแม่นางน้อยหอปี้อวี้ แต่สามารถไปนั่งฟังดนตรีเพื่อผ่อนคลายได้ บางทีเมื่อท่านออกจากหอแล้ว ท่านอาจจะอารมณ์ดีขึ้นมาก”

คำพูดของเขาทั้งโน้มน้าวใจและเต็มไปด้วยการล่อลวง

  

ฉินอวิ๋นหวั่นไหวสุดๆ และเขาคิดถึงบรรดาศิษย์พี่หญิงอีกครั้ง ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเขากับพวกนางเป็นเพียงความสัมพันธ์ของศิษย์พี่ศิษย์น้องเท่านั้น

  

แม้ว่าเขามีความคิดเป็นอื่น แต่ก็ยากที่จะทำให้เป็นจริงได้

  

ยิ่งไปกว่านั้น ศิษย์พี่หญิงรองและศิษย์พี่หญิงเล็กยังกลายเป็นผู้หญิงของคนอื่นแล้ว

  

เมื่อนึกถึงว่าศิษย์พี่หญิงเล็กกำลังสนุกอยู่กับซูอัน นอกเหนือจากความเจ็บปวดในใจแล้ว ฉินอวิ๋นยังมีเปลวไฟริษยามากด้วย

  

“ไป! นำทางไป!”

  

“ดีเลย คุณชายเชิญตามข้ามา” ชายอัปลักษณ์หัวเราะชอบใจ

  

ฉินอวิ๋นเดินตามชายอัปลักษณ์และถูกพาไปที่ตรอกแห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยอาคารตกแต่งงดงาม ชายคายกสูง มันดูงดงามและเกินจริงไปหน่อย

  

ทันทีที่เดินเข้าตรอกก็ได้กลิ่นแป้งฉุนลอยมากระทบใบหน้า

  

“คุณชาย มาสนุกกันเถอะ~”

  

“นายท่าน มาทางนี้ดีกว่า~”

  

“คุณชาย พวกข้าน้อยอยากสนุกกับท่านเจ้าค่ะ~”

  

หญิงสาวที่แต่งหน้าจัดเต็มยืนอยู่ที่ประตู ทุกคนแต่งกายงดงาม เผยต้นขาเรียวขาวและเอวคอดผ่านผ้าแพรบาง แต่ละคนโบกมือชักชวนผู้คนที่เดินบนถนน

  

ฉินอวิ๋นกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ รูปลักษณ์ที่ตื่นตะลึงปรากฏบนใบหน้าของเขา

  

เขาเคยเห็นทัศนียภาพเช่นนี้ที่ไหนเล่า

  

แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของหญิงนางโลมเหล่านี้ด้อยกว่าพวกศิษย์พี่หญิงมากๆ แต่มีการเปิดเผยรูปร่างมากกว่า!

  

ชุดกระโปรงผ้าแพรโปร่งไม่สามารถปกปิดผิวกายที่เย้ายวนใจได้เลย เพราะมีซับในเพียงสองชั้นที่ด้านบนและด้านล่าง ซึ่งแทบจะไม่สามารถปกปิดส่วนสำคัญได้ หากไม่ระวังเกรงว่าจะหลุดออกมา ถือว่าประหยัดเนื้อผ้าสุดๆ และดูเหมือนว่าไม่ได้ใส่เสื้อผ้าด้วยซ้ำ

  

ฉินอวิ๋นซึ่งอาศัยอยู่ในนิกายที่มีแต่สตรีเรียบร้อย เมื่อได้เห็นทัศนียภาพเช่นนี้จึงราวกับว่าถูกกระตุ้นสุดขีด ศีรษะของเขาเต็มไปด้วยเลือดสูบฉีด

  

ศิษย์พี่หญิงทุกคนสวมอาภรณ์ปกปิดมิดชิด ทัศนียภาพเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

  

“คุณชาย รีบมากับข้าเถอะ รับรองว่าวันนี้ท่านจะมีความสุขแน่นอน” ชายอัปลักษณ์จับมือของฉินอวิ๋นแล้วพาเดินเข้าอาคารหนึ่ง

  

เมื่อเทียบกับภายนอกแล้ว ด้านในมีบรรยากาศคึกคักมากกว่า มีทั้งเสียงดนตรี ร้องเล่นเต้นระบำ ไม่มีสภาพแวดล้อมของการฝึกตน นี่เป็นเพียงสถานที่ขายเรือนร่างแท้จริง

  

หากใครได้เข้ามาในสถานที่แบบนี้แล้วยังนิ่งเฉยได้ เกรงว่าจะมีแค่ขันทีเท่านั้น

  

ตอนนี้ฉินอวิ๋นไม่มีความตั้งใจที่จะฟังดนตรีแล้ว เพราะไฟในใจค่อยๆ ลุกโชนขึ้นในสถานที่แห่งนี้

  

หากไม่เคยมาเจอบรรยากาศเช่นนี้ก็คงไม่เป็นไร แต่เมื่อได้มาเยือนเพียงครั้งก็ยากที่จะหยุด

  

ตามการนำทางของชายอัปลักษณ์คนนั้น ฉินอวิ๋นจึงมาถึงห้องที่ตกแต่งด้วยบรรยากาศสดใส

  

ผนังห้องทาสีชมพู กระถางดอกไม้สีแดงและสีชมพูวางอยู่ในห้องหลายใบและดูเหมือนว่ากลิ่นของกำยานที่จุดนั้นจะมีฤทธิ์กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ

  

“คุณชายโปรดรอสักครู่ ข้าจะจัดแม่นางน้อยมาดูแลท่าน”

  

“จริงสิ ท่านต้องการกี่คน?” น้ำเสียงของชายอัปลักษณ์นั้นปกติมาก ราวกับเขากำลังถามฉินอวิ๋นว่าต้องการสั่งอาหารกี่จาน

  

“ให้ข้าหนึ่ง...รอก่อน...คือคนอื่นมักจะเรียกกี่คน” เดิมทีฉินอวิ๋นอยากพูดว่าคนเดียว แต่เมื่อคิดว่าเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก ถ้าแขกปกติเรียกรับใช้หลายคนแต่เขาเรียกคนเดียว เกรงว่าเขาจะถูกล้อเอาได้

“คุณชาย แขกที่มามักกระตือรือร้นและดุเดือดมาก สามหรือสี่ไม่มากเกินไป แต่หากท่านไม่มีประสบการณ์ เหตุใดไม่ลองสักหนึ่งคนก่อนล่ะ?” ชายอัปลักษณ์ยิ้มด้วยสีหน้าแปลกประหลาด

  

“ให้ข้าห้าคน!” ฉินอวิ๋นตัดสินใจทันที

  

เขาไม่มีทางด้อยกว่าคนเหล่านั้น

  

ใบหน้าอัปลักษณ์ของชายคนนั้นกลายเป็นรอยยิ้มดอกเบญจมาศทันที “ได้ คุณชายโปรดรอสักครู่”

  

จากนั้นหญิงสาวห้าคนที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกันรีบเปิดประตูและเดินเข้ามาโดยไม่ปล่อยให้ฉินอวิ๋นต้องรอนาน

  

บั้นท้ายที่อวบอัดและเอวคอดแกว่งไปมาต่อหน้าต่อตา ทำให้ดวงตาของฉินอวิ๋นเจ็บและน้ำลายของเขาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เป็นการแสดงออกที่บ่งบอกถึงความอ่อนหัดมากๆ

  

“คารวะคุณชาย ข้าน้อยชื่อเสี่ยวหง” หญิงสาวทั้งห้าคนไม่ได้แสดงสีหน้าแปลกใจและเริ่มแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มเอาอกเอาใจ

  

“ข้าน้อยชื่อเสี่ยวหลัน”

  

“ข้าน้อยชื่อเสี่ยวลู่”

  

“ข้าน้อยชื่อเสี่ยวชิง”

  

“ส่วนข้าน้อยชื่อเสี่ยวกัง”

  

หลังจากมีเสียงผู้หญิงที่นุ่มนวลและยั่วยวนทั้งสี่แล้ว เสียงที่ห้ากลับเป็นเสียงห้าวและค่อนข้างไม่เป็นมิตร

  

ทำให้ฉินอวิ๋นมองไปที่เจ้าของเสียงทันที

  

“คุณชาย นี่คือลูกพี่ลูกน้องของข้า...ก่อนหน้านี้นางป่วยและเจ็บคอจึงทำให้เสียงแหบไปบ้างเจ้าค่ะ” เสี่ยวหงรีบอธิบาย

  

สุดท้ายแล้วฉินอวิ๋นไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้ เขาจึงไม่ค่อยสงสัย

  

ยิ่งไปกว่านั้นคือเสี่ยวกังยังสวยที่สุดในบรรดาห้าคนด้วย

  

เมื่อเห็นว่าฉินอวิ๋นสูญเสียการควบคุมตัวเองและดูเหมือนไม่รู้ว่าต้องทำอะไร เสี่ยวหงจึงยิ้มเอ่ย

  

“คุณชาย พวกเรามาดื่มกันก่อนเถอะ”

  

นางหยิบขวดสุราออกมาแล้วรินใส่จอก จากนั้นยกจอกสุราไว้ใกล้ริมฝีปากแล้วขยับเข้าใกล้ฉินอวิ๋นด้วยท่าทางยั่วเย้า

  

ประกายแสงสีดำเล็กๆ ปรากฏขึ้นในจอกสุราแล้วหายไปโดยไม่มีใครสังเกตเห็น

  

กลิ่นหอมของยาปลุกกำหนัดในห้องดูเหมือนจะแรงขึ้นและเสริมด้วยบางสิ่งเข้าไปอีก

……