ตอนที่ 60 เที่ยวหอปี้อวี้
ตอนที่ 60 เที่ยวหอปี้อวี้
แม้ยังไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่นั่นคือศิษย์พี่หญิงเล็กของเขา!
ความรู้สึกห่างเหินระหว่างเขากับศิษย์พี่หญิงเล็กได้พังทลายลง กลายเป็นเศษซากที่ทิ่มแทงหัวใจของเขา
ในที่สุดเขาก็กระจ่างและได้ค้นพบว่าความคิดของเขาที่มีต่อศิษย์พี่ทั้งหลายนั้นไม่ใช่ความรู้สึกที่ไร้เดียงสา
แต่มันสายเกินไปแล้ว ทั้งศิษย์พี่หญิงรองและศิษย์พี่หญิงเล็กกลายเป็นผู้หญิงของคนอื่นไปแล้ว
เมื่อคิดเช่นนี้หัวใจของเขาก็กระตุก ความเจ็บปวดนั้นมากจนหายใจลำบาก
เขาเดินอย่างไร้จุดหมาย บางครั้งดูดุร้ายและบางครั้งก็ดูบ้า ทำให้ผู้สัญจรเห็นเขาแล้วต่างหลีกหนีให้ไกล เพราะไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ‘คนบ้า’ คนนี้
มีเพียงชายอัปลักษณ์ที่สวมชุดผ้าป่านเนื้อหยาบเท่านั้นที่ก้าวมาข้างหน้าและเริ่มทักทายเขาก่อน
“คุณชายกำลังเบื่ออยู่หรือ?” ชายอัปลักษณ์ก้มลงและโน้มเข้าหาฉินอวิ๋นพลางถามด้วยรอยยิ้มแปลกๆ
“ไสหัวไป!” ฉินอวิ๋นตวาด ใบหน้าของเขาดุดัน
ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์พูดคุยกับคนอื่น
ประกายแสงลึกลับแวบผ่านในดวงตาของชายคนนั้น แต่เขาไม่โกรธและยังเดินตามเอาใจฉินอวิ๋นต่อ
“แหะ แหะ ถ้าคุณชายรู้สึกเบื่อ เช่นนั้นก็มาที่หอปี้อวี้เพื่อผ่อนคลายดีกว่า ไปสนุกสนานสักหน่อย สตรีหอปี้อวี้ของเราต่างก็งดงามอ่อนหวานและเอาใจเก่ง ทำให้คุณชายพอใจแน่นอน” ขณะที่พูด เขาแสดงรอยยิ้มกรุ้มกริ่มด้วย
ฉินอวิ๋นชะงัก เข้าใจทันทีว่าหอปี้อวี้ที่ชายคนนี้พูดถึงน่าจะเป็นสถานที่แบบนั้น
เขาไม่เคยไปสถานที่แบบนั้น แต่เคยได้ยินคนสำมะเลเทเมาบนท้องถนนพูดถึงเป็นครั้งคราว บอกว่ามันเป็นแดนสวรรค์บนโลกมนุษย์ และแม่นางน้อยในนั้นเหมือนนางฟ้าที่น่าหลงใหล
เพียงแต่เขาเคยดูถูกสถานที่แบบนี้มากๆ และมองว่าสตรีเหล่านั้นไม่อาจเทียบกับบรรดาศิษย์พี่ของเขาได้
ทว่าตอนนี้...
เขากำลังเจ็บปวดใจ!
เมื่อเห็นว่าฉินอวิ๋นมีอาการลังเลใจ ชายอัปลักษณ์ยิ่งกระตุ้น “คุณชายกำลังเป็นทุกข์เพราะความรักสินะ ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาดีที่สุดคือการหาสิ่งอื่นมาเบี่ยงเบนความสนใจ ข้าคิดว่าคุณชายรูปงามดุจหยก มีเสน่ห์และอ่อนโยน ซึ่งลักษณะเช่นนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่หญิงสาว แม้ว่าท่านจะไม่สนใจพูดคุยกับแม่นางน้อยหอปี้อวี้ แต่สามารถไปนั่งฟังดนตรีเพื่อผ่อนคลายได้ บางทีเมื่อท่านออกจากหอแล้ว ท่านอาจจะอารมณ์ดีขึ้นมาก”
คำพูดของเขาทั้งโน้มน้าวใจและเต็มไปด้วยการล่อลวง
ฉินอวิ๋นหวั่นไหวสุดๆ และเขาคิดถึงบรรดาศิษย์พี่หญิงอีกครั้ง ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเขากับพวกนางเป็นเพียงความสัมพันธ์ของศิษย์พี่ศิษย์น้องเท่านั้น
แม้ว่าเขามีความคิดเป็นอื่น แต่ก็ยากที่จะทำให้เป็นจริงได้
ยิ่งไปกว่านั้น ศิษย์พี่หญิงรองและศิษย์พี่หญิงเล็กยังกลายเป็นผู้หญิงของคนอื่นแล้ว
เมื่อนึกถึงว่าศิษย์พี่หญิงเล็กกำลังสนุกอยู่กับซูอัน นอกเหนือจากความเจ็บปวดในใจแล้ว ฉินอวิ๋นยังมีเปลวไฟริษยามากด้วย
“ไป! นำทางไป!”
“ดีเลย คุณชายเชิญตามข้ามา” ชายอัปลักษณ์หัวเราะชอบใจ
ฉินอวิ๋นเดินตามชายอัปลักษณ์และถูกพาไปที่ตรอกแห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยอาคารตกแต่งงดงาม ชายคายกสูง มันดูงดงามและเกินจริงไปหน่อย
ทันทีที่เดินเข้าตรอกก็ได้กลิ่นแป้งฉุนลอยมากระทบใบหน้า
“คุณชาย มาสนุกกันเถอะ~”
“นายท่าน มาทางนี้ดีกว่า~”
“คุณชาย พวกข้าน้อยอยากสนุกกับท่านเจ้าค่ะ~”
หญิงสาวที่แต่งหน้าจัดเต็มยืนอยู่ที่ประตู ทุกคนแต่งกายงดงาม เผยต้นขาเรียวขาวและเอวคอดผ่านผ้าแพรบาง แต่ละคนโบกมือชักชวนผู้คนที่เดินบนถนน
ฉินอวิ๋นกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ รูปลักษณ์ที่ตื่นตะลึงปรากฏบนใบหน้าของเขา
เขาเคยเห็นทัศนียภาพเช่นนี้ที่ไหนเล่า
แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของหญิงนางโลมเหล่านี้ด้อยกว่าพวกศิษย์พี่หญิงมากๆ แต่มีการเปิดเผยรูปร่างมากกว่า!
ชุดกระโปรงผ้าแพรโปร่งไม่สามารถปกปิดผิวกายที่เย้ายวนใจได้เลย เพราะมีซับในเพียงสองชั้นที่ด้านบนและด้านล่าง ซึ่งแทบจะไม่สามารถปกปิดส่วนสำคัญได้ หากไม่ระวังเกรงว่าจะหลุดออกมา ถือว่าประหยัดเนื้อผ้าสุดๆ และดูเหมือนว่าไม่ได้ใส่เสื้อผ้าด้วยซ้ำ
ฉินอวิ๋นซึ่งอาศัยอยู่ในนิกายที่มีแต่สตรีเรียบร้อย เมื่อได้เห็นทัศนียภาพเช่นนี้จึงราวกับว่าถูกกระตุ้นสุดขีด ศีรษะของเขาเต็มไปด้วยเลือดสูบฉีด
ศิษย์พี่หญิงทุกคนสวมอาภรณ์ปกปิดมิดชิด ทัศนียภาพเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“คุณชาย รีบมากับข้าเถอะ รับรองว่าวันนี้ท่านจะมีความสุขแน่นอน” ชายอัปลักษณ์จับมือของฉินอวิ๋นแล้วพาเดินเข้าอาคารหนึ่ง
เมื่อเทียบกับภายนอกแล้ว ด้านในมีบรรยากาศคึกคักมากกว่า มีทั้งเสียงดนตรี ร้องเล่นเต้นระบำ ไม่มีสภาพแวดล้อมของการฝึกตน นี่เป็นเพียงสถานที่ขายเรือนร่างแท้จริง
หากใครได้เข้ามาในสถานที่แบบนี้แล้วยังนิ่งเฉยได้ เกรงว่าจะมีแค่ขันทีเท่านั้น
ตอนนี้ฉินอวิ๋นไม่มีความตั้งใจที่จะฟังดนตรีแล้ว เพราะไฟในใจค่อยๆ ลุกโชนขึ้นในสถานที่แห่งนี้
หากไม่เคยมาเจอบรรยากาศเช่นนี้ก็คงไม่เป็นไร แต่เมื่อได้มาเยือนเพียงครั้งก็ยากที่จะหยุด
ตามการนำทางของชายอัปลักษณ์คนนั้น ฉินอวิ๋นจึงมาถึงห้องที่ตกแต่งด้วยบรรยากาศสดใส
ผนังห้องทาสีชมพู กระถางดอกไม้สีแดงและสีชมพูวางอยู่ในห้องหลายใบและดูเหมือนว่ากลิ่นของกำยานที่จุดนั้นจะมีฤทธิ์กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ
“คุณชายโปรดรอสักครู่ ข้าจะจัดแม่นางน้อยมาดูแลท่าน”
“จริงสิ ท่านต้องการกี่คน?” น้ำเสียงของชายอัปลักษณ์นั้นปกติมาก ราวกับเขากำลังถามฉินอวิ๋นว่าต้องการสั่งอาหารกี่จาน
“ให้ข้าหนึ่ง...รอก่อน...คือคนอื่นมักจะเรียกกี่คน” เดิมทีฉินอวิ๋นอยากพูดว่าคนเดียว แต่เมื่อคิดว่าเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก ถ้าแขกปกติเรียกรับใช้หลายคนแต่เขาเรียกคนเดียว เกรงว่าเขาจะถูกล้อเอาได้
“คุณชาย แขกที่มามักกระตือรือร้นและดุเดือดมาก สามหรือสี่ไม่มากเกินไป แต่หากท่านไม่มีประสบการณ์ เหตุใดไม่ลองสักหนึ่งคนก่อนล่ะ?” ชายอัปลักษณ์ยิ้มด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
“ให้ข้าห้าคน!” ฉินอวิ๋นตัดสินใจทันที
เขาไม่มีทางด้อยกว่าคนเหล่านั้น
ใบหน้าอัปลักษณ์ของชายคนนั้นกลายเป็นรอยยิ้มดอกเบญจมาศทันที “ได้ คุณชายโปรดรอสักครู่”
จากนั้นหญิงสาวห้าคนที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกันรีบเปิดประตูและเดินเข้ามาโดยไม่ปล่อยให้ฉินอวิ๋นต้องรอนาน
บั้นท้ายที่อวบอัดและเอวคอดแกว่งไปมาต่อหน้าต่อตา ทำให้ดวงตาของฉินอวิ๋นเจ็บและน้ำลายของเขาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เป็นการแสดงออกที่บ่งบอกถึงความอ่อนหัดมากๆ
“คารวะคุณชาย ข้าน้อยชื่อเสี่ยวหง” หญิงสาวทั้งห้าคนไม่ได้แสดงสีหน้าแปลกใจและเริ่มแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มเอาอกเอาใจ
“ข้าน้อยชื่อเสี่ยวหลัน”
“ข้าน้อยชื่อเสี่ยวลู่”
“ข้าน้อยชื่อเสี่ยวชิง”
“ส่วนข้าน้อยชื่อเสี่ยวกัง”
หลังจากมีเสียงผู้หญิงที่นุ่มนวลและยั่วยวนทั้งสี่แล้ว เสียงที่ห้ากลับเป็นเสียงห้าวและค่อนข้างไม่เป็นมิตร
ทำให้ฉินอวิ๋นมองไปที่เจ้าของเสียงทันที
“คุณชาย นี่คือลูกพี่ลูกน้องของข้า...ก่อนหน้านี้นางป่วยและเจ็บคอจึงทำให้เสียงแหบไปบ้างเจ้าค่ะ” เสี่ยวหงรีบอธิบาย
สุดท้ายแล้วฉินอวิ๋นไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้ เขาจึงไม่ค่อยสงสัย
ยิ่งไปกว่านั้นคือเสี่ยวกังยังสวยที่สุดในบรรดาห้าคนด้วย
เมื่อเห็นว่าฉินอวิ๋นสูญเสียการควบคุมตัวเองและดูเหมือนไม่รู้ว่าต้องทำอะไร เสี่ยวหงจึงยิ้มเอ่ย
“คุณชาย พวกเรามาดื่มกันก่อนเถอะ”
นางหยิบขวดสุราออกมาแล้วรินใส่จอก จากนั้นยกจอกสุราไว้ใกล้ริมฝีปากแล้วขยับเข้าใกล้ฉินอวิ๋นด้วยท่าทางยั่วเย้า
ประกายแสงสีดำเล็กๆ ปรากฏขึ้นในจอกสุราแล้วหายไปโดยไม่มีใครสังเกตเห็น
กลิ่นหอมของยาปลุกกำหนัดในห้องดูเหมือนจะแรงขึ้นและเสริมด้วยบางสิ่งเข้าไปอีก
……