ตอนที่ 31 ดาบโม่

คนที่รับดาบชุดนี้คือโหวชิงหยวน ฮวามู่หลาน นอกจากตำแหน่งโหวที่สืบทอดตามสายเลือด เขายังเป็นขุนพลในกองทหารรักษาการณ์

ตามกฎของราชวงศ์ต้าเฉียนขุนนางที่รับใช้ในกองทัพต้องเริ่มจากขั้นต่ำสุด ผู้บัญชาการหมู่ ผู้บัญชาการกองร้อย ผู้บัญชาการกองทัพ ขุนพล รองแม่ทัพ แม่ทัพ ที่อายุของฮวามู่หลาน การมาถึงขั้นขุนพลได้แสดงถึงความสามารถ สิ่งนี้บ่งชี้ว่าฮวามู่หลานมีพรสวรรค์จริงๆ

เรื่องเช่นการรับของมักไม่ต้องให้คนระดับฮวามู่หลานจัดการเอง แต่ หลังสินค้าครั้งก่อนจากโรงงานทหาร ฮวามู่หลานก็เคืองใจ คราวนี้เขาเลยมารับดาบชุดนี้เอง

คลังอาวุธได้บรรจุดาบโม่ลงในลังแล้ว ฮวามู่หลานมาถึงพร้อมคนของเขาและสั่ง!เปิดลัง!เราต้องตรวจสอบพวกมันก่อนจะเอาไปใช้!”

โดยธรรมชาติแล้ว คนงานจากคลังอาวุธไม่กล้าบ่นและทำตามคำสั่งของฮวามู่หลาน

ฮวามู่หลานหยิบขึ้นมาและเหวี่ยงมันสองครั้ง มันรู้สึกดีในมือ จากนั้นเขาก็เหวี่ยงมันใส่ลังเปล่าที่อยู่ติดกัน! ครั้งนี้ ฮวามู่หลานถ่ายพลังปราณลงไป ทำให้เกิดปราณดาบแผ่จากตัวดาบ และกล่องไม้ก็แหลก

นี่คือดาบชั้นดี! ฮวามู่หลานถือดาบอย่างยินดี อาวุธที่ผู้บ่มเพาะต้องการแตกต่างจากที่คนธรรมดาต้องการ ตามช่าฝีมือในยุทธภพที่เชีร่ยวชาญการสร้างอาวุธ อาวุธที่ผู้บ่มเพาะใชย้ต้องมีพลังปราณ มีเพียงอาวุธที่ตีซ้ำๆถึงเนียนพอจะทนพลังปราณและนำไปใช้กับใบดาบได้

ดาบนี้ประสบความสำเร็จเช่นนั้น! ฮวามู่หลานแปลกใจมาก ดาบโม่มีคุณภาพสูงขนาดนี้เชียว? ดาบเหล่านี้สามารถขายเป็นสินค้าชั้นสูงให้เด็กบ้านรวยได้ อาวุธหลายชิ้นที่แจกจ่ายโดยสำนักต่างๆยังไม่ดีเท่าดาบโม่พวกนี้ หรือแค่ดีเล่มเดียว?

ฮวามู่หลานทดสอบอีกห้าหรือหกเล่ม ทำลายไปห้าหรือหกกล่อง สุดท้าย ดาบแต่ละเล่มไม่เพียงคมมาก ไม่เพียงจะเหมาะกับการไหลของพลังปราณ แต่ยังสามารถตัดเหล็กเหมือนตัดโคลน!

ฮวามู่หลานเชื่อมั่นอย่างสมบูรณ์ ผู้ดูแลคลังอาวุธุสดยอดจริง!แต่ ฮวามู่หลานไม่รู้ว่าในหมู่ผู้ใต้บัญชาเขามีคนที่เห็นทุกอย่าง ทหารคนนี้กลับไปค่ายและเขียนสั้นๆว่าเกิดอะไรขึ้นที่โรงงานทหาร และวางมันไว้ข้างแจกันน้ำนอกค่าย

ในช่วงดึก ทหารลาดตระเวนหยิบจดหมายขึ้นมาและส่งมันไปข้างนอกค่าย เช้าวันรุ่งขึ้น เรื่องที่โหวชิงหยวนผ่ากล่องเปล่าซ้ำๆถูกวางในห้องทำงานของเสี่ยวเต๋อจือ

ตั้งแต่ก่อตั้งตงฉ่าง มันมักเก็บตัวเสมอ แม้กระทั่งราชสำนักก็ไม่รู้ถึงสำนักนี้ เสี่ยวเต๋อจือยังสอนวิชายุทธ์ในตงฉ่าง ด้วยคนสอนที่เป็นนักรบขั้นหนึ่ง ระดับวิชายุทธ์ของขันทีในตงฉ่างจึงทะยาน

เสี่ยวเต๋อจือไม่เพียงแต่เป็นอัจฉริยะด้านยุทธ์ แต่ยังเข้าใจมันอย่างลึกล้ำ ผ่านการชี้แนะของเขา กลุ่มขันทีจึงเป็นเลิศในเพลงยุทธ์ หลายคนยังเลื่อนเป็นนักรบขั้นเจ็ด!

นอกจากการฝึกวิชายุทธ์ เสี่ยวเต๋อจือยังมีอีกงาน สร้างเครือข่ายข่าวกรองของตงฉ่าง หลังไตร่ตรองไปมาก สุดท้ายเสี่ยวเต๋อจือก็นึกถึงคำแนะนำของเกาหลิงเฟิง ใช้คำสอนทั้งสามและโรงเรียนเก้าแห่ง!

การพยายามซื้อตัวคนรอบเหล่าเสนาบดีเป็นไปไม่ได้ ดีกว่าที่จะบ่มเพาะช้าๆและก่อตั้งเครือข่ายใหญ่ก่อน ดังนั้น เสี่ยวเต๋อจือจึงลงเงินและสั่งขันทีให้พัฒนาตงฉ่าง ทหารภายใต้โหวชิงหยวนคือสายที่ตงฉ่างส่งไป

ด้วยเงินกรุนทาง ควบคู่กับความจริงที่ตงฉ่างคือสำนักชั้นใน อิทธิพลของมันจึงขยับขยาย เจ้าหน้าที่เหล่านี้ไม่ต้องทำงานเสี่ยยงอันตราย พวกเขาแค่ต้องรายงานสิ่งที่เกิดขึ้น

เสี่ยวเต๋อจือรับสมัครขันทีอีกกลุ่มและมอบหมายงานเอกสารสำคัญ แม้เครือข่ายจะก่อตั้ง แต่ก็ยังจับตาดูขุนนางอาวุโสไม่ได้ อย่างไรก็ตาม วังชั้นในสามารถเห็นสถานการณ์จริงของเมืองหลวงได้

จักรพรรดิทรงตรัสรู้!ด้วยตงฉ่าง จักรพรรดิจะรับรู้ปัญหาจากมุมต่างๆ ไม่เหมือนจักรพรรดิองค์ก่อนที่พึ่งพาจดหมายเหตุ

สิ่งที่ทำให้เสี่ยวเต๋อจือพอใจสุดคือเฟิงอวี่ได้แทรกซึมเข้าที่พักขององค์ชายแปดได้สำเร็จ เสี่ยวเต๋อจือไม่ได้สั่งให้เขาส่งข้อมูล แต่สั่งให้อยู่เฉยๆ ระหว่างนี้ เฟิงอวี่ได้รับความไว้วางใจแลกลายเป็นองครักษ์ฝีมือดีข้างเขา!

แม้จะยังไม่แน่ใจถึงบทบาทของเฟิงอวี่ แค่การแทรกซึมเข้าข้างองค์ชายแปดก็น่าประทับใจพอแล้ว

สถานการณ์ของเฟิงอวี่ได้มอบแรงบันดาลใจให้เสี่ยวเต๋อจือ แต่วิธีนี้สุดยอด! ทำไมไม่ฝังสายลับไว้ในบ้านของขุนนางอาวุโส?ใช่!เสี่ยวเต๋อจือคิดแผนอันชาญฉลาด

เขาสั่งลูกบุญธรรมเขา เสี่ยวเว่ยจื่อ“ข้าจะออกวังไปสักพัก ระหว่างนี้ เจ้าจะมาแทนที่ข้าและรับใช้ฝ่าบาท!”

เสี่ยวเว่ยจื่ออุทาน.“ขอบคุณ ท่านพ่อ!”

“เจ้าจะดูแลเรื่องของตงฉ่าง.”เสี่ยวเต๋อจือเปลี่ยนไปใส่ชุดผู้บ่มเพาะธรรมดาและออกวังไป แต่ ชุมชนจอมยุทธ์ของเมืองหลวงไม่รู้ว่าพวกเขากำลังจะเจอกับหายนะ!