บทที่ 572 : จุดจบอีกแบบหนึ่ง (8)
[แฟนเพจBamแปลNiyay:ลงแบบราคาถูกโคตรในmy-novel(ลงช้ากว่าThai-novel100ตอน)กับthai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นนอกจากสองเว็บนี้คือไม่ใช่ผมนะ ถ้าเจอคนอ่านก็อปดันเยอะกว่าก็ท้อเป็นนะครับ]
[ถ้าอ่านฟรีแบบเถื่อนไม่ว่าจะได้มายังไงนั้น ผมไม่ว่าเลยครับ และต่อให้ไม่มีคนอ่าน ผมก็ยังจะแปลต่อจนจบด้วย แต่ถ้าจะจ่ายเงินให้เว็บหรือคนที่copyไปขายอีกที คุณโคตรแย่เลยครับ]
[หลังแปลจบจะมีการแก้คำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าคุณอ่านแบบเถื่อน ก็เชิญเลยครับ เพราะมันไม่มีอัพเดทให้หรอก]
บทที่ 572 : จุดจบอีกแบบหนึ่ง (8)
หลังจากนั้น ฉันก็วิ่งไปยังที่ที่เฟรียซิสนอนอยู่
เจนน่าสะดุดล้มต่อหน้าเฟรียซิสที่กำลังนอนนิ่งๆอยู่กับพื้น
แผ่นไม้แหลมๆแทงทะลุหน้าอกของเฟรียซิส..
“ฉันคิดว่ามันสายไปแล้วล่ะ”
เฟรียซิสยิ้มอย่างอ่อนแรง
'สายไปแล้ว'
ฉันสังเกตเห็นมันได้อย่างรวดเร็ว
แผ่นไม้แทงทะลุกลางปอดขวาของเธอ
ตอนนี้ปอดของเธอคงจะเต็มไปด้วยเลือด
“ยาล่ะ ยา ยาอยู่ไหน?”
“เราใช้มันไปหมดแล้วก่อนหน้านี้”
เวคิสพูดอย่างใจเย็น
มันก็จริงตามที่เขาพูด เราใช้ยาทั้งหมดที่เรามีระหว่างการต่อสู้บนดาดฟ้าจนหมด
"แล้ว…เจ้าหญิง…."
"ลาก่อน ขอบคุณเธอมากสำหรับทุกอย่าง”
เวคิสกระซิบ
เฟรียซิสพยักหน้ารับด้วยการเคลื่อนไหวเล็กน้อย
เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลทำให้พื้นถูกย้อมเป็นสีแดง
“ลาก่อนอะไร…”
เจนน่าพูดขึ้นด้วยแววตาที่สับสนเล็กน้อย
“ฉันอยากกลับไปที่ห้องรอ”
“ถ้าเป็นเช่นนั้น…”
เฟรียซิสขยับมือขวาของเธอเล็กน้อย
แสงสีทองจาง ๆ แผ่กระจายออกมาจากมือเธอ และพอร์ทัลทรงกลมก็ปรากฏขึ้น
“ฮึฮึ เป็นเรื่องดีที่ฉันยังมีความแข็งแกร่งเหลืออยู่บ้าง ถ้าเข้าไปในนั่น…ทุกคนจะสามารถกลับไปยังที่ที่คจากมาได้”
"ขอบคุณ"
“ไม่ ไม่ปฐมพยาบาลให้เธอก่อนเหรอ? ปฐมพยาบาลไง! เราสามารถช่วยเธอได้…ฮึ!”
“รุ่นพี่เราจะเขาไปก่อนนะครับ”
เวคิสมองมาที่ฉันและเข้าไปในพอร์ทัลโดยที่แบกเจนน่าไว้บนหลังของเขา
ตอนนี้เหลือเพียงฉันและเฟรียซิสที่นี่เพียงลำพัง
"ฮะ……"
เฟรียซิสหายใจด้วยความยากลำบาก
ทุกครั้งที่เธอหายใจออกมาก เลือดก็ไหลออกจากริมฝีปาก
ฉันไม่ได้พูดอะไร
“ฮาน ฉันมีเรื่องอยากจะขอนาย”
"อะไร?"
“ฉันอยากเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของนาย ยิ้มให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
“ทำไมจู่ๆ ถึงขอแบบนี้ล่ะ?”
“ยิ้มให้ฉันสักครั้งเถอะนะ”
ฉันหัวเราะออกมาเบาๆ
ไม่สิ ฉันคิดว่าตัวเองกำลังยิ้ม แต่ริมฝีปากกลับไม่ขยับเลยสักนิด
“มีหลายสิ่งที่ฉันต้องการ….”
ฉันจับมุมปากด้วยมือทั้งสองแล้วยกมันขึ้นมา
เฟรียซิสยิ้มเบาๆขณะมองมาที่ฉัน
และเธอก็ไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไป
"……เฮ้"
“เธอตายแล้วเหรอ?”
ไม่มีคำตอบใดๆออกมาให้ได้ยิน
ฉันคิดเอาไว้แล้ว
ตอนจบของทาวน์เนียยังไงก็จะต้องเป็นแบบนี้
ฉันตัดสินใจแล้วก่อนที่จะมาที่นี่
‘ฉันอยากเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของนาย ยิ้มให้ฉันหน่อยได้ไหม?’
นั่นคือการสนทนาขั้นสุดท้ายใช่ไหม?
'ฉันจะกลับไปไหม?'
ต้องมีการตัดสินใจที่ชัดเจน
นี่คือจุดสิ้นสุดของชั้นที่ 90 ของทาวน์เนีย
ตอนนี้ฉันสามารถไปที่ห้องรอและเตรียมพร้อมสำหรับการกลับไปยังโลก ยูเน็ตเองก็น่าจะกำลังเตรียมการเสร็จสิ้นแล้ว
มันจบแบบนี้
เธอตายสภาพไม่ต่างอะไรกับหมาข้างถนน ทำไมเลือกทางนี้?
ยอมที่จะถูกแทงด้วยเศษซากเรือเหาะที่พังทลาย?
ความตายที่ไร้ค่าเช่นนี้มันคุ้มแล้วงั้นเหรอ?
'กลับดีกว่า'
ฉันจะไม่พาตัวเองมาตายแบบนี้
มันเป็นบทเรียนที่ดีมาก
มันทำให้ฉันนึกย้อนว่านี่คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไล่ตามสิ่งที่ไร้ประโยชน์
เมื่อคิดแบบนั้นแล้วฉันก็หันหลังกลับทันที
พอร์ทัลที่สร้างโดยเฟรียซิสกำลังสั่นไหว
ฉันเดินไปทางนั้น
และก่อนจะก้าวเข้าสู่พอร์ทัล
“โอ้ย…ให้ตายเถอะ”
จิตใจของฉันมันกลับว่างเปล่า
“แม่ง…แม่ง…แม่งเอ้ย!”
ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!
ฉันเหวี่ยงไบฟรอตออกไปด้วยพลังทั้งหมดที่มี
เปรี๊ยะ! สายฟ้าสีแดงเข้มลบรัศมีความแวววาวของพอร์ทัล
“ฉันจะฆ่าแก”
ฉันเงยหน้าขึ้นมอง
แม้ฉันไม่เห็นมันแต่ฉันก็รู้สึกได้
“เอาแต่หลบอยู่ข้างหลังนะ ไอ้สารเลว!!!”
เกล็ดและปีกของมังกรก็งอกออกมาจากร่างกายฉัน
วิสัยทัศน์ที่ฉันมองเห็นเปลี่ยนเป็นสีแดง
'ฆ่ามัน'
ฉันคิดอะไรไม่ออกเลยนอกจากคำนี้
'ไม่ว่ามันจะเป็นใคร ไม่ว่ามันจะอยู่ที่ไหน'
พรึ้บ!
ฉันกางปีกของฉันออกมา
[เศษซากชิ้นส่วนแห่งความโกลาหล Lv.113 x 39135331320…….]
[เศษซากชิ้นส่วนแห่งความสิ้นหวัง Lv.108 x 13023643919…….]
[เศษซากชิ้นส่วนแห่งความแค้น Lv.121 x 29129069543…….]
เศษซากแห่งหายนะหลายสิบล้านชิ้นบิดตัวไปมาในความมืด
แต่มันไม่สำคัญ
“แม่งเอ้ย!”
ฉันจะตายแบบนี้ไม่ได้
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
ไบฟรอสมีพลังที่ใกล้จะถึงขีดจำกัด
ใครเห็นก็คงหัวเราะเยาะ
ฉันซึ่งเป็นมนุษย์อ่อนแอคนหนึ่ง พยายามท้าทาย 'โชคชะตา'
“อย่ามาล้อเล่นกับฉันนะ….”
ฉันกระโดดขึ้นไปทันที
เศษซากพวกนั้นเหมือนคลื่นยักษ์เข้ามากั้นฉันไว้
'ฉันจะฆ่าพวกมันทั้งหมด'
ฉันกำดาบให้แน่น...….
"พี่! เดี๋ยวก่อน พี่!”
มีบางอย่างกระชากฉันจากด้านข้าง
“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เราต้องกลับไปก่อน!”
“แกเป็นใคร หลีกไป!”
“พี่จำผมไม่ได้เหรอ? อารอนไง!”
“ฉันไม่รู้จักคนๆนั้น”
“พี่ใจเย็นๆก่อน!!”
“นายมาจากเนลม์ไฮมฟ์และมาปรากฏตัวที่นี่งั้นเหรอ? กำลังหลอกอะไรฉันอีกอยู๋ใช่ไหม?”
<อารอน โปรดำานายท่านกลับมาด้วย>
ฉันได้ยินเสียงของยูเน็ต
จากนั้น ประตูมิติที่ปกคลุมไปด้วยหมอกก็ปรากฏขึ้น
นอกเหนือจากประตูมิติแล้ว ฉันก็เห็นยูเน็ตก็มองมาที่ฉันและกระซิบเบาๆ
<นายท่าน เมื่อมีพบ…ก็ต้องมีจาก สงบสติอารมณ์ก่อนนะคะ>
"ออกไปซะ! …ทุกอย่ามันเป็นแค่เรื่องโกหกหลอกหลวง! ออกไปซะ!!”
<…ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ>
ดวงตาของยูเน็ตเปลี่ยนเป็นสีขาว
“ฉัน……!”
<ฝันดีนะคะนายท่าน หากลืมตาขึ้นมา ทุกอย่างจะกลายเป็นเพียงความฝัน>
และแสงสว่างก็แผ่กระจายออกมาจนปกคลุมไปทั่วบริเวณ