ตอนที่แล้วบทที่ 25 ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 27 เทคนิคบ่มเพาะพลังไร้นาม

บทที่ 26 การกลับมา


หลงเฉินมาถึงประตูทางทิศใต้ของตระกูล ซึ่งเป็นประตูเดียวกับที่เขาถูกพาตัวออกมาในตอนแรก แต่คราวนี้สถานที่แห่งนี้ไม่ได้ไร้การป้องกัน ตอนนี้มีทหารยามหลายคนประจำการอยู่ ทันทีที่เหล่าทหารยามสังเกตเห็นว่าคนที่กำลังจะเดินผ่านประตูเข้าไปนั้นเป็นใคร มันก็ทำให้พวกเขารู้สึกตกใจมาก และหนึ่งในพวกเขาก็รีบไปแจ้งผู้บังคับบัญชาของเขาทันที

ทหารยามเหล่านั้นจำหลงเฉินได้ เนื่องจากในช่วงเวลาที่เขาหายตัวไป ภาพเหมือนของเขาถูกแปะไปทั่วทุกที่ ถ้าเป็นก่อนที่เขาจะหายตัวไป คงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้คงไม่มีผู้ใดไม่รู้จักหลงเฉิน

ทหารยามรีบเปิดประตูให้เขาทันที และหลบไปยืนอยู่ด้านข้างขณะที่เขาเดินผ่านเข้าไป

“นายน้อยเทียน ขอบคุณสวรรค์ที่ท่านกลับมาได้อย่างปลอดภัย! ข้ารู้ว่าไม่มีสิ่งใดทำอัตรายท่านได้ เรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้นกับหลานชายของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลเราได้อย่างไร?” ชายชราที่มีหนวดเคราสีขาวเดินเข้ามาหาเขาและพูดอย่างมีความสุข

หลงเฉินจำอีกฝ่ายไม่ได้ แต่เขาพอคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายอาจเป็นหนึ่งในคนที่ดูแลความปลอดภัยของตระกูลหรือผู้อาวุโสสักคนหนึ่ง เพราะเขาเป็นคนที่ทหารยามเมื่อครู่รีบวิ่งไปแจ้งให้เขาทราบเป็นคนแรก และหลงเฉินก็เดาถูก ชายชราเคราขาวคนนี้เป็นผู้รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยคนใหม่แทนที่ถูเย่ว แม้ว่าเขาจะยังไม่ใช่ผู้อาวุโส แต่เขาแข็งแกร่งกว่าถูเย่วมาก และอยู่ในระดับแก่นทอง ชื่อของเขาคือ หลงจิน

ก่อนหน้านี้หลงจินกำลังรับประทานอาหารอยู่ในห้องของเขาอย่างมีความสุข แต่เมื่อมีทหารยามคนหนึ่งที่ประจำการอยู่ประตูทางทิศใต้วิ่งมาที่ห้องของเขาและเคาะประตูอย่างบ้าคลั่ง มันทำให้เขาหัวเสียมาก แต่หลังจากนั้นหลงจินก็ได้รับแจ้งจากเขาว่าหลงเทียนกลับมาแล้ว ผ่านประตูทางทิศใต้ของตระกูลหลง

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลงจินก็รีบส่งลูกน้องคนหนึ่งของเขาไปแจ้งผู้นำตระกูลหลงเหรินทันที ส่วนเขาก็รีบไปให้การต้อนรับหลงเทียน

“นายน้อย รีบเข้าไปข้างในเถิด แม่ของท่านเป็นห่วงท่านมากถึงขั้นล้มป่วย นางไม่ได้กินอะไรเลยนับตั้งแต่วันที่ท่านหายตัวไป แม้แต่ผู้นำตระกูลก็ยังเป็นห่วงท่านมากเช่นกัน และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อตามหาตัวท่าน ผู้คนทั้งตระกูลหลงเองก็เป็นห่วงท่าน พวกเรารู้สึกมีความสุขมากที่ท่านกลับมาได้อย่างปลอดภัย” ชายชราเคราขาวกล่าว

จากนั้นเขาก็พยายามวางมือบนไหล่ของหลงเฉินเพื่อพาเขาไป ทว่าหลงเฉินกลับขยับตัวหลบ

“ข้าเดินเองได้และรู้ว่าแม่ข้าอยู่ที่ไหน เจ้าไม่จำเป็นต้องบอกทางข้า” หลงเฉินพูดขณะที่เขาเริ่มเดินไปข้างหน้า

หลงจินตกใจมากเมื่อได้ยินคำพูดของหลงเฉิน หลงจินเริ่มพูดติดอ่างขณะที่เขาพูดว่า “น...น...นายน้อยเทียน....ท...ท...ท่านพูดได้?” หลงจินได้ยินมาว่าหลงเฉินกลายเป็นคนที่สูญเสียสติสัมปชัญญะไปหลังจากถูกลอบสังหาร

นอกจากนี้หลงจินยังรู้อีกว่าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาหลงเฉินก็ไม่เคยเปิดปากพูดแม้แต่ครั้งเดียว หลังจากที่เขาตกใจได้สักพัก เขาก็นึกถึงความเป็นไปได้ และเริ่มตื่นเต้นขณะที่เขาเดินติดตามหลงเฉิน

หลงเฉินเดินไปที่ตำหนักของตัวเอง โดยมีหลงจินเดินตามเขาอยู่ไม่ห่าง และพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับการหายตัวไปของเขาทำให้ตระกูลหลงออกค้นหาเขาไปทั่ว แต่หลงเฉินก็ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย

ในที่สุด เขาก็มาถึงตำหนักแม่ของเขา แต่ก่อนที่เขาจะเคาะประตู หลงจินก็หยุดเขาเอาไว้

“นายน้อยเทียน แม่ของท่านไม่ได้อยู่ที่นี่ ตั้งแต่ที่ท่านหายตัวไป แม่ของท่านคิดถึงท่านมากและอยู่ในห้องของท่าน” หลงจินบอกเขาขณะชี้ไปที่ตำหนักของหลงเทียน

“อย่างนั้นหรือ” หลงเฉินกล่าวกับหลงจิน ขณะที่เขาหยุดชะงักที่จะเคาะประตู และมองไปทางหลงจินและพยักหน้าให้อีกฝ่าย การกระทำเพียงครั้งเดียวของหลงเฉินก็เพียงพอที่จะยืนยันความคิดของหลงจิน

ตอนนี้หลงจินรู้แล้วว่านายน้อยเทียนสามารถพูดและคิดเองได้แล้ว นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่สูญเสียสติสัมปชัญญะอีกต่อไป ในอีกความหมายคือ หลงเทียนกลับมาเป็นปกติแล้ว

หลงจินตัดสินที่จะแสดงด้านดีของตนเองให้หลงเทียนเห็น เพราะเขารู้ว่าหลงเหรินรักหลงเทียนมากที่สุดในบรรดาหลานชายของเขา แล้วตอนนี้หลงเทียนได้กลับมาเป็นปกติแล้ว เขาสามารถใช้ประโยชน์จากความรักของหลงเหรินที่มีต่อหลงเทียนได้อย่างเต็มที่ และเขาอาจได้รับผลประโยชน์บางอย่าง

หลงเฉินเริ่มเดินไปที่ตำหนักของตัวเอง และเมื่อเขาเดินใกล้จะถึง หลงเฉินก็เห็นหญิงสาวที่งดงามคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ภายในสวนของเขา ทว่าหญิงสาวที่งดงามคนนั้นกลับมีสีหน้าที่โศกเศร้ามาก ทำให้บรรยากาศรอบตัวของนางดูมืดมนไปด้วย

ขณะที่หลงเฉินเดินเข้าไปในสวน หญิงสาวที่งดงามคนนั้นก็หันสายตาไปทางเขา ทันทีที่นางเห็นใบหน้าของหลงเฉิน สีหน้าที่โศกเศร้าของนางก็เปลี่ยนเป็นความสุข และเริ่มมีน้ำตาไหลรินออกมาจากดวงตาของนาง ขณะที่นางวิ่งไปหาหลงเฉินและสวมกอดเขา หลงเฉินรู้ว่าหญิงสาวที่งดงามผู้นี้คือแม่ของหลงเทียน นางคือซือหม่าจืออี้

หลงเฉินรู้สึกเศร้าเล็กน้อยเมื่อนางเข้ามาสวมกอดเขา แม้ว่านางจะไม่ใช่แม่ของเขาก็ตาม แต่เนื่องจากเขาอยู่ในร่างของหลงเทียน และความทรงจำของหลงเทียนก็อยู่กับเขา ทำให้นางเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัวของเขาจริงๆ และเป็นคนที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาเช่นกัน

หลงเฉินสามารถสัมผัสได้ถึงความรักของนางที่มีต่อลูกชายของนาง และมันทำให้เขารู้สึกเศร้ามากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาของนางไม่หยุด แล้วมันก็ทำให้เขาคิดว่านางต้องโศกเศร้าขนาดไหนตอนที่เขาหายตัวไป และเขาก็อดไม่ได้ที่จะกอดนางกลับแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้ว ดูสิ ข้ากลับมาได้อย่างปลอดภัย ท่านไม่จำเป็นต้องร้องไห้อีกแล้ว ถ้าท่านร้องไห้ไม่หยุด มันก็ทำให้ข้าอยากจะร้องไห้ออกมาเช่นกัน”

“ไม่ใช่ ไม่ใช่ ข้าแค่ร้องไห้ดีใจมากที่เจ้ากลับมาเท่านั้น ข้าจะไม่ทำให้เจ้าเศร้าตาม แม่จะ...” ซือหม่าจืออี้พูดกับหลงเฉิน แต่นางก็ต้องหยุดชะงักทันที เมื่อนางสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่าง และทำให้นางต้องเบิกตากว้าง

“เทียนเอ๋อ เจ้า...เจ้า...? เจ้าหายเป็นปกติแล้ว?” นางกล่าวและกอดเขาแน่นขึ้น และไม่รู้ว่าจะแสดงออกเช่นไรดี

“ใช่แล้ว ท่านแม่ ตอนนี้ข้าหายเป็นปกติแล้ว ข้าจะไม่ทำให้ท่านต้องเป็นห่วงอีกแล้ว” หลงเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย

“แม่มีความสุขมาก วันนี้เป็นวันที่ข้ามีความสุขมากที่สุดในชีวิต!” ซือหม่าจืออี้พูดกับหลงเฉิน

ซือหม่าจืออี้ยิ้มขณะที่น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากดวงตาของนางมากขึ้น นางร้องไห้หนักขึ้นขณะโอบกอดเขา น้ำตาพวกนี้คือน้ำตาแห่งความสุข นางรอคอยมาอย่างเนิ่น ซึ่งนางหวังว่าสักวันหนึ่งลูกชายของนางจะกลับมาเป็นคนปกติ และได้ใช้ชีวิตเหมือนกับเด็กทั่วไป ซึ่งนางได้สวดอ้อนวอนทุกวันขอให้ปาฏิหาริย์มีจริง และในที่สุดวันนี้ก็มาถึง

ทันใดนั้นก็มีเสียงของใครบางคนมุ่งหน้ามา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด