บทที่ 14 ฮัมเพลงอย่างมีความสุข
บทที่ 14 ฮัมเพลงอย่างมีความสุข
การเรียนครั้งแรกของ โซล กลายเป็นการทำความสะอาด
โชคดีที่ โซล มีประสบการณ์ข้ารับใช้ก่อนหน้าจึงปรับได้สบาย
มาร์คเห็นว่าเขา ทำความสะอาดอย่างขยันขันแข็ง เขาจึงบอกบ้างสิ่งที่จำเป็นการศึกษาให้กับโซล
2 ชั่วโมงผ่านไป มาร์คมีบางอย่างต้องไปทำ เขาจึงสั่งงานโซลครั้งสุดท้าย
"เจ้าต้องทิ้งขยะลงในถังขยะสีเหลือง อย่าลืมว่ามันต้องเป็นสีเหลือง ถ้าไม่ใช่สีเหลือง ก็ใส่ถุงแล้ววางมันเอาไว้ค่อยจัดการมัน วันพรุ่งนี้!"
โซล มองยังรอบห้องทดลอง และเห็นถังขยะสีเหลือง เขาจึงพยักหน้าตอบกลับมาร์ค "ขอรับ"
มาร์คดึงเก้าอี้ออกมานั่ง เหยียดขา "เอาละ ข้าจะให้เวลาเจ้า 5 นาทีถามคำถามที่อยากรู้ ก่อนที่ข้าจะไป"
เขามีคำถามที่คิดเอาไว้แล้ว
"รุ่นพี่ พลังจิตและพลังเวทมนต์ ส่งผลต่อการเรียนรู้เวทมนตร์อย่างไรขอรับ?"
มาร์คประหลาดใจกับคำถามของโซล แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของ อาจาร์ยแคซ ว่า รุ่นน้องตรงหน้าผู้นี้ มีพรสวรรค์พลังเวทมนตร์อ่อนด้อย แต่โดนเด่นในด้านพลังจิต
เขาคงไม่เต็มใจที่เชื่ออย่างนั้น
"ถ้าเราดูจากในหนังสือ ทั้ง 2 อย่างต่างมีความสำคัญพอๆกัน แต่ในฐานพ่อมด เราจะให้ความสำคัญกับการฝึกฝนเวทมนตร์ โดยการเปลี่ยนความรู้ในหัวให้เป็นคาถา"
"ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟัง มีเส้นชัยอยู่ตรงหน้า ห่างจากเจ้าไป 100 เมตร พลังจิตของเจ้าคือความเร็วในการวิ่ง และพลังเวทมนตร์ของเจ้าคืออุปกรณ์ที่ใช้แบกน้ำอยู่ภายใน"
มาร์คแสดงท่าทางด้วยมือของเขา
"พ่อมดฝึกหัดทั่วไป มักจะใช้ถังน้ำในการขนน้ำ" แต่แล้วเขาก็ทำมือแคบลง "แต่ของเจ้ามันกับเป็นชามข้าว ดังนั้นมันจึงทำให้เจ้าไปถึงเส้นชัยได้ช้ามาก เจ้าเข้าใจไหม"
โซล พูดขึ้นทันที "ถ้าอย่างนั้น ข้าแค่ต้องวิ่งให้มากกว่านี้ หลายๆรอบ ใช่ไหม" มาร์คส่ายหัว "ในโลกเวทมนตร์ เจ้าไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น แล้วเจ้าจะทำอย่างไรในเมื่อเจ้ามีแค่ชาม"
โซล ก้มหัวลง มือของเขาเลื่อนขึ้นมาจับคาง "รุ่นพี่ มันพอมีวิธีที่จะเปลี่ยนชามในมือของข้าให้กลายเป็นถังน้ำขนาดใหญ่หรือไม่?"
มาร์คเหลือบมองไปยังมือซ้ายของ โซล ด้วยการเปลี่ยนแปลงของร่างกายมันไม่ได้ทำให้เขาตกใจแม้แต่น้อย
"แน่นอนว่ามี แต่แทบจะไม่มีพ่อมดฝึกหัดระดับ 1 คนใดที่สามารถทนได้ การเพิ่มพลังเวท ตามที่ท่านอาจาร์ยได้กล่าว นั้นเป็นพ่อมดฝึกหัดระดับ 2 เป็นอย่างน้อย"
เขายกมือขึ้น ฝ่ามือของเขาเผยออก ปากขนาดใหญ่ขยับไม่หยุด ลิ้นของเขาห้อยลงมา
โซลกัดฟัน บังคับตัวเองไม่ให้ถอยตามสัญชาตญาณ ในขณะเดียวกัน มือซ้ายก็เตรียมพร้อมเอาไว้
เมื่อบรรยากาศในห้องเริ่มเย็นลง มาร์คก็ดึงมือกลับไป
"ไม่ต้องกลัวไป ที่นี่คือห้องทดลอง"
เขาพูดด้วยสีหน้าปกติ ราวกับว่าเขาแค่อยากให้ โซล ตกใจกลัวเท่านั้น "รุ่นพี่มาร์ค"
โซลเอามือซ้ายของเขาลง และยังคงถามอยู่โดยไม่ยอมแพ้ "ไม่มีสิ่งใดที่พ่อมดฝึกหัดระดับ 1 สามารถทำได้เลยงั้นหรือ? ตัวข้ามีเวลาเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น"
"ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ทำได้เพียงเดิมพันด้วยชีวิต ไปที่ห้องสมุดและดูตำราเวทของ พ่อมดฝึกหัดระดับ 2"
โซล เห็นว่ามาร์คกำลังจะออกไปแล้ว เขาเหลือเวลาไม่มากแล้ว
เขารีบเดินตามมาร์คไปที่ประตู "ข้าสามารถขอยืมหนังสือของพ่อมดระดับ 2 ได้ไหม"
มาร์คเดินอย่างรวดเร็ว และเปิดประตูด้วยมือข้างเดียว
"เจ้าสามารถไปขอยืมหนังสือได้ ที่นั้นเป็นห้องสมุดสาธารณะ" เขาหันกลับมาเผยรอยยิ้มที่แปลกประหลาด "ห้องสมุดไม่เคยปิดกั้นพ่อมดระดับต่ำไม่ให้อ่านหนังสือของพ่อมดระดับสูง แต่มันออกจะน่าเบื่อไปซักหน่อย"
หลังจากพูดจบ มาร์คก็ออกจากห้องทดลองไปและปิดประตู
โซลยืนอยู่หน้าประตู ก้มหัวลงพลางครุ่นคิด "ข้าต้องเดิมพันด้วยชีวิตของข้างั้นหรือ?"
เป็นไปไม่ได้ที่ โซล จะบรรลุข้อกำหนดของ อาจาร์ย แคซ ภายในระยะเวลา 3 เดือนด้วยการทำสมาธิเพียงอย่างเดียว
เขามองไปยังสมุดที่ลอยอยู่เหนือหัวไหล่ซ้ายของเขา "ข้าเก่งอยู่แล้ว ในเรื่องเดิมพันชีวิต"
ทันใดนั้น ห้องทดลอง ก็เปิดขึ้นอีกครั้ง มาร์คโผล่หัวมา "ก่อนกลับ อย่าลืมเก็บของให้เรียบร้อยละ"
"ขอรับ รุ่นพี่"
โซล สะดุ้งทันทีมองไปยังหน้ามาร์คที่โผล่เข้ามา
เมื่อประตูปิดลง
มันจึงเหลือเพียงโซลเท่านั้นในห้องทดลอง
ฟู่....
โซล หันกลับมามองรอบๆ เขาเหลืองานอีกไม่มากแล้ว เพียงแค่แยกขยะ นำไปทิ้ง และตรวจสอบดูว่าตู้ทั้งหมดปิดสนิทหรือไม่
โซลเดินไปรอบๆ ห้องทดลอง
เขาดันเก้าอี้ ที่มาร์คดึงออกมากลับเข้าไป ตักขยะใต้โต๊ะใส่ถังขยะสีเหลือง
ถังขยะสีเหลืองด้านในมืดมากมองไม่เห็นก้นถังเลย มันดูไม่เหมือนถังขยะแม้แต่น้อย
โซล ไม่ได้หันกลับไปมอง รีบปิดฝาทันทีหลังจากที่ทิ้งขยะแล้ว
"ข้ารู้สึกไม่สบายใจเลย ในห้องทดลองนี้เหลือข้าเพียงคนเดียว" โซล จับแขนของเขา รู้สึกขนลุกภายใต้แขนเสื้อของเขา
โซล พบภาพวาดอีก 2 3 อันบนโต๊ะกลางห้องทดลอง มีบางอย่างวาดอยู่บนกระดาษ ถูกขีดเขียนด้วยเส้นสีดำปกคลุมไปทั่ว มองไม่เห็นอะไรแม้แต่น้อย
กระดาษยับยูยี่ ราวกับมันถูกขยำทิ้งแล้วถูกเก็บขึ้นมาใหม่
"เมื่อกี้กระดาษพวกนี้ อยู่ที่นี่งั้นหรือ?"
โซลกวาดพวกมันใส่ถังขยะอย่างระมัดระวัง เมื่อเขาหันกลับมาเตรียมจะทิ้งมัน
ปรากฏว่า ขณะที่ โซลเอื้อมมือออกไปเปิดฝาถัง ถังขยะก็เปลี่ยนเป็นสีแดงต่อหน้าโซลทันที
มือของโซล หยุดชะงักกลางอากาศ ค่อยๆ หดกลับไป
เขาแสร้งทำเป็นไม่เห็นอะไร และปิดฝาถังนำมันไปวางไว้ใต้โต๊ะ
ทันใดนั้น เขาก็หวนนึกถึงรูปภาพ มนุษย์และสัตว์ประหลาดที่เขาใช้สำหรับการทำสมาธิในวันนี้
ตามลำดับในภาพ ตอนนี้ โซล ยืนอยู่ในตำแหน่งของสัตว์ประหลาด
เขาส่ายหัวอย่างรวดเร็วเพื่อขจัดความคิดแย่ๆ ออกไป เมื่อเขาก้าวออกไปอีกครั้ง ดูเหมือนเขาเหยียบเขากับอะไรบางอย่าง
เมื่อมองลงไป เขาเกือบจะกระโดดโหยง
กลายเป็นว่ามันเป็นหุ่นเชิด ที่พวกเขาใช้เมื่อครั้งที่เขาทดสอบความสามารถด้านพลังจิต
ดวงตาของ หุ่นเชิด เห็นได้ชัดว่ามี 2 รู แต่โซลรู้สึกเหมือนกับว่ามีดวงตาจ้องมองเขาจากด้านใน
"... เมื่อเจ้าออกไปต้องไม่มีสิ่งใดบริเวณหน้าตู้ ให้เจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อย ถ้าเจออะไรบนพื้น ก็ไม่ต้องกังวลให้มองไปรอบๆ และนำมันกลับเข้าไปในตู้ และอย่าลืมปิดตู้ให้สนิท"
โซล นึกถึงคำพูดของมาร์คเมื่อครู่
ทันทีที่เขาหันไปรอบๆ เขาก็เห็น ตู้เปิดอยู่เป็นรอยแยกเล็กๆ
สิ่งที่อยู่ภายในตู้ นั้น คือ กองหุ่นเชิดที่วางเรียงกันหันไปในทิศทางต่างๆ
"เอาละ ดูเหมือนนั้นจะเป็นบ้านของเจ้านะ"
โซล หันไปทางอื่น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองมองเข้าไปในดวงตาของหุ่นเชิดที่อยู่บนพื้น เขาโน้มตัวลงไปหยิบ หุ่นเชิดนั้นขึ้นมา
เมื่อปลายนิ้วของโซล สัมผัสเข้ากับตัวของหุ่นเชิด
"พรึ่บบ.."
เสียงที่มีเพียงโซลเท่านั้นที่ได้ยินก็ดังขึ้น สมุดปกแข็งลอยมาตรงหน้าโซล หน้ากระดาษ พลิกออกไปอย่างรวดเร็ว ปรากฏเนื้อหาใหม่
[ในวันที่ 26 พฤกษาคม ปี 314 ของปฏิทินพระจันทร์ใหม่
โซลถูกมาร์คทิ้งให้ทำความสะอาดห้องทดลอง
นี่ไม่ใช่ชีวิตที่ดีเลย
โซลถูกหุ่นเชิดกัดเข้าที่เท้า ก่อนที่โซลจะโยนมันกลับไปยังที่ๆมันควรอยู่
โซลเปิดประตู ตู้ จับหุ่นเชิดแล้วโยนมันกลับเข้าไปข้างใน
แต่แล้ว..
หัวของโซลถูกยกขึ้นและวางลงอย่างระมัดระวัง
โซลนอนลงกับเพื่อนๆ ของเขาและมองดูตู้ปิดลง ร่างของเขาที่อยู่นอกตู้ฮัมเพลงอย่างมีความ สุขก่อนจะวิ่งออกไป]