ตอนที่ 57 ตัดสินใจล้างแค้นตระกูลเซียว
ตอนที่ 57 ตัดสินใจล้างแค้นตระกูลเซียว
นายน้อยเจ้าสำราญแห่งตระกูลเซียว คนที่บิดาของนางเคยปกป้องและยังเป็นต้นเหตุให้ครอบครัวของนางต้องพบกับชะตากรรมที่น่าสังเวช
ภาพเหตุการณ์เมื่อยี่สิบปีก่อนย้อนกลับมาฉายซ้ำในใจของนาง รอยแผลเป็นที่ฝังอยู่ในใจไม่เคยบรรเทา ความเกลียดชังและความเจ็บปวดปรากฏขึ้นในดวงตาของเซียวอวี่ลั่ว
ไอสังหารแผ่เต็มอากาศและกระบี่ยาวถูกเรียกออกมาทันที
“ได้โปรด ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย” นายน้อยตระกูลเซียวยังร้องขอความเมตตาแม้อ่อนแรง
สวรรค์รู้ว่าเขากำลังทุกข์ทรมานเพียงใด
เขาเพิ่งออกไปเที่ยวหอนางโลม แต่ถูกจับมาทรมานที่นี่
ผู้ชายคนนี้คือปีศาจ!
เอาแต่ถามว่าเขามีอะไรจะพูดหรือไม่ แต่เขายังไม่มีโอกาสได้พูดเลย เพราะเขาถูกทรมานทั้งทางจิตใจและร่างกายไม่หยุด
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้จักหญิงสาวที่อยู่ตรงเบื้องหน้าเลยและยิ่งไม่รู้ว่านางเป็นลูกสาวขององครักษ์ข้างกายที่เขารังแกเมื่อยี่สิบปีก่อน
“พวกเขาทั้งหมด…” เซียวอวี่ลั่วพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
“ใช่แล้ว พวกเขาคือคนร้ายที่ตามล่าพ่อแม่ของเจ้าในตอนนั้น” ซูอันชี้ไปที่ไม้กางเขนข้างๆ นายน้อยของตระกูลเซียวและแสดงรอยยิ้มประหลาดออกมา “สำหรับคนผู้นี้ คือคนที่ฆ่าแม่ของเจ้า”
“ลองดูให้ดีว่าเขาเป็นใคร”
เซียวอวี่ลั่วมองตามทิศทางที่ซูอันชี้ นางอยากรู้มากว่าหน้าตาของผู้ที่สังหารมารดาและทำให้นางฝันร้ายตลอดชีวิตนั้นเป็นใคร
แค่แวบแรก
เกร๊ง!
กระบี่ยาวในมือหล่นกระทบพื้น
“เป็น เป็นไปไม่ได้...”
ทันใดนั้นนางก็ล้มลงกับพื้น ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ ดวงตาเบิกกว้างเหมือนดวงตาของมารดาตอนที่เสียชีวิต
ใบหน้าที่พร่ามัวในความทรงจำค่อยๆ ชัดเจนขึ้นและมันซ้อนทับกับผู้ชายตรงหน้านี้
ใบหน้าเกือบจะเหมือนกัน ยกเว้นว่าคนหนึ่งมีแววตาเมตตา แต่อีกคนมีแววตาไม่แยแส แม้ว่าจะถูกตรึงไว้ที่นี่ แต่ดวงตายังไม่เปลี่ยนแปลง
เหมือนก้อนหินหรือท่อนไม้ที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์
สายตานั้นคุ้นเคยมาก
“ท่านพ่อ...”
“เป็นท่านพ่อได้อย่างไร!”
นางยกมือกุมศีรษะแล้วใบหน้าทรุดลงจนกู่ไม่กลับ
เป็นไปไม่ได้ ท่านพ่อจะฆ่าท่านแม่ได้อย่างไร นางปฏิเสธข้อเท็จจริงนี้จากก้นบึ้งของหัวใจ
“เขาไม่ใช่พ่อของข้า!” นางต่อต้านเสียงดังลั่ง
“เขาเป็นพ่อของเจ้า!” ซูอันทำลายการหลอกตัวเองของนางโดยไร้ความปรานี “ตอนนี้เขาเป็นเพียงสุนัขรับใช้ของตระกูลเซียว”
แม้ว่าเซียวอวี่ลั่วอารมณ์ไม่มั่นคง แต่ซูอันยังพูดถึงเรื่องทั้งหมดต่อไป
“เพื่อซื้อเวลาให้เจ้าหลบหนี พ่อของเจ้าจึงไปเบี่ยงเบนความสนใจของตระกูลสายหลักเพียงลำพัง หลังจากถูกจับได้ เขาไม่ได้ถูกฆ่าตายทันที แต่ถูกทำให้เป็นหุ่นเชิดที่มีชีวิตและถูกส่งออกมาตามล่าเจ้าสองแม่ลูก” เขามองเซียวอวี่ลั่วที่ยังแสดงออกว่ายากจะยอมรับ
ให้สามีตามล่าภรรยาและลูกสาว นายน้อยเจ้าสำราญคนนี้รู้วิธีเล่นจริงๆ
ซูอันเริ่มสนใจตระกูลเซียวบ้างแล้ว
คนตระกูลนี้เป็นศัตรูกับตัวเอกหญิงและยังสมรู้ร่วมคิดกับผู้ปลูกฝังมาร ดังนั้นจึงไม่ใช่คนดีเลย
ซึ่งหุ่นเชิดนี้ค่อนข้างคล้ายกับหุ่นเชิดอสูรที่เขาสร้างขึ้น อย่างไรก็ตามขั้นตอนการผลิตน่าจะซับซ้อนและมีราคาแพงกว่ามาก
“เจ้ายังอยากผดุงความยุติธรรมต่อไปหรือไม่?” ซูอันเดินไปหาเซียวอวี่ลั่วแล้วก้มมองนาง “ในเมื่อความมีน้ำใจและความขี้ขลาดของเจ้าไม่สามารถทำให้แก้แค้นได้ เหตุใดไม่ลองดึงความมืดมาใช้ล่ะ?” เขาถามเหมือนชี้แนะถึงข้อเท็จจริง
“อ๊าก! อ๊าก! อ๊าก! ตระกูลเซียว!”
ความเกลียดชังถึงกระดูกระเบิดออกมาทางดวงตาของเซียวอวี่ลั่ว...สาวน้อย...เปลี่ยนไปแล้ว
นายน้อยตระกูลเซียวมองเซียวอวี่ลั่วยืนขึ้นด้วยความหวาดกลัว นางหยิบกระบี่ขึ้นมาแล้วเดินมาหาเขาช้าๆ
เพียงฟังบทสนทนาระหว่างทั้งสอง เขาก็เข้าใจในตัวตนของผู้หญิงคนนี้แล้ว
เด็กหญิงวัยหกขวบคนนั้นรอดชีวิตมาได้จริงๆ
ด้วยความแค้นระหว่างเขากับนาง ยังมีทางใดที่เขาจะอยู่รอดได้อีก?
“อย่า อย่าฆ่าข้าเลย!”
เขาดิ้นรนอย่างหนัก ทว่าตะปูวิญญาณที่ตอกบนแขนขาของเขาไม่มีวันขยับ เมื่อมองหญิงสาวที่เข้ามาใกล้เรื่อยๆ สีหน้าของเขาก็ค่อยๆ สูญเสียการควบคุม
กระแสความร้อนเปียกที่เป้ากางเกงของเขา กลิ่นคาวนั้นทำให้ซูอันขมวดคิ้ว
“บัดซบ”
กลัวจนฉี่ราด
“ลงมือเถอะ แสดงความมุ่งมั่นของเจ้าให้ข้าดูหน่อย”
เซียวอวี่ลั่วยกกระบี่ในมือขึ้นโดยไม่พูดสักคำ ใบหน้างดงามของนางเต็มไปด้วยความดุร้าย
ฉึก!
กระบี่แทงทะลุต้นขาของนายน้อยของตระกูลเซียว ทำให้เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
แน่นอนว่าเซียวอวี่ลั่วไม่สนใจ
ฉึก!
อีกหนึ่งคมกระบี่เข้าที่ข้อมือ
ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก!
ข้อเท้า หน้าท้องส่วนล่าง หน้าอกและแขน
กระบี่แล้วกระบี่เล่าแทงออกไป เซียวอวี่ลั่วไม่ลืมที่จะใช้พลังเวทเพื่อรักษาชีวิตของอีกฝ่ายด้วย
เพราะนางอยากฟังเสียงร้องไห้เจ็บปวดนั้น
เมื่อมองภาพที่เลือดเนื้อสาดกระเซ็น หัวใจของเซียวอวี่ลั่วก็เต็มไปด้วยความสุข
ฉับ!
คมกระบี่สุดท้ายตัดศีรษะที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและเจ็บปวด
การสังหารยังคงดำเนินต่อไป และผู้คนบนไม้กางเขนถูกตัดศีรษะทีละคน สุดท้ายจึงเหลือเพียงหุ่นเชิดที่ถูกตอกตะปูไว้ถัดจากนายน้อยตระกูลเซียวซึ่งเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดของเซียวอวี่ลั่ว
ฉึก ฉึก!
คมกระบี่แทงเข้าที่ศีรษะเจ้าของดวงตาไม่แยแสนั้นโดยไม่มีการหยุดพัก
ซูอันรู้สึกประหลาดใจกับท่าทางที่เด็ดเดี่ยวนี้ ดูเหมือนว่าตัวเอกหญิงจะเปลี่ยนแปลงได้ดี
ซ่า!
เม็ดฝนที่ตกหนักกระทบลานบ้าน ชะล้างเลือดบนพื้น เซียวอวี่ลั่วถอนพลังเวทออกและปล่อยให้เม็ดฝนขนาดใหญ่กระทบร่างกายของตน
เส้นผมปรกใบหน้าของนางและหยดน้ำไหลลงมาตามแก้ม แต่แยกไม่ออกว่านั่นคือเม็ดฝนหรือหยาดน้ำตา
ไม่มีความสุขที่ได้แก้แค้นในใจของนางเลย
ความเกลียดชังไม่เคยบรรเทาและยิ่งนำทางหญิงสาวให้ลึกลงไปในเหวลึก
“ตระกูล! เซียว!”
นางเกลียดผู้เป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมทั้งหมด
จากนั้น
คางของนางถูกบีบ ใบหน้าของนางถูกดึงไปหาซูอัน
“ถ้าอยากให้ตระกูลเซียวชดใช้ ต้อง...”
มุมปากของซูอันโค้งงอขึ้น เมื่อมองใบหน้างดงามที่ยังเปียกโชกเพราะสายฝน รูปลักษณ์ที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังนี้ช่างน่าติดตามจริงๆ
“ได้โปรดช่วยข้าด้วย!”
น่าลุ้นว่าจะกลายเป็นตัวเอกหญิงอำมหิตหรือเปล่า
เขาก้มหน้าลงและประกบริมฝีปากของหญิงสาวด้วยอวัยวะเดียวกัน ดูดกลืนลมหายใจของหญิงสาวโดยไม่ลังเล
รูม่านตาของเซียวอวี่ลั่วหดลงและกระบี่ในมือของนางกระชับขึ้น แต่แล้วกลับผ่อนคลายลง
การจุมพิตที่ตะกละตะกลามของซูอันทำให้นางลืมเลือน
ในที่สุดนางทิ้งกระบี่ หลับตาและตอบสนองด้วยความฉุนเฉียวแต่รุกกลับ
ตราบใดที่นางสามารถแก้แค้นได้ ก็ไม่มีปัญหาหากจะโยนตัวเองเข้าไปในความมืด
สิ่งที่เรียกว่าความเมตตาและความยุติธรรมในโลกนี้ล้วนเป็นเรื่องเสแสร้งไม่มีอยู่จริงใช่ไหม?
หญิงสาววางภาระในใจลงและหมกมุ่นอยู่กับความละโมบของซูอัน ซึ่งเขาดูเหมือนอยากบดกระดูกของนางและดูดเอาไขกระดูกของนางออกมาอย่างไรอย่างนั้น
……
“ศิษย์พี่ ข้าเห็นเองกับตาว่าศิษย์พี่หญิงเล็กถูกซูอันดึงเข้าไป เร็วเถอะ รีบเข้าไปดู ข้ากลัวว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับศิษย์พี่หญิงเล็ก!”
นอกลานบ้าน ฉินอวิ๋นเร่งเร้าศิษย์พี่ใหญ่เฟิ่งหลวน
“เสี่ยวอวิ๋น เจ้าแน่ใจหรือว่าอวี่ลั่วถูกดึงเข้าไป?”
เมื่อมองไปที่ลานด้านหน้า เฟิ่งหลวนเกิดความลังเล
นางยังไม่พร้อมที่จะบาดหมางกับซูอัน เพราะซูอันเป็นท่านโหวแห่งต้าชาง ว่ากันว่าเขามีสถานะเป็นราชเลขาธิการของจักรพรรดินีด้วย หากเขามาเป็นอันตรายอยู่ที่นี่ นิกายเทียนสุ่ยของนางไม่สามารถทนต่อความโกรธเกรี้ยวของต้าซางได้แน่
“ศิษย์พี่ ข้าแน่ใจว่าศิษย์พี่หญิงเล็กถูกลากเข้าไปโดยคนชั่ว” ฉินอวิ๋นมองไปที่ลานบ้านของ ‘คนชั่ว’ และพูดด้วยความริษยา