ตอนที่ 24 งานเลี้ยงต้อนรับนักศึกษาใหม่กลายเป็นงานโปรยอาหารสุนัขได้อย่างไร?
ทันใดนั้น ความคิดที่ดีกว่าวาบเข้ามาในสมองของ สวี่ ไท่หราน
เย่เฉิน ไม่ใช่ว่าเล่น เปียโน ได้หรอกเหรอ ดี ฮ่าฮ่าๆ ดีมากๆ!
สวี่ ไท่หราน รีบแอบบอกพิธีกรผ่านหูฟัง
หลังจากฟังแล้ว พิธีกรก็พยักหน้า เข้าใจแผนใหม่นี้ทันที
“เพื่อนร่วมชั้น เย่ เราเพิ่งฟังการเล่นเปียโนธรรมดาๆ ไปแล้ว”
พิธีกรเริ่มพูด
ก่อนหน้านี้มีการแสดงเปียโนไปแล้วจริงๆ
“ไม่ทราบว่าคุณเล่นเปียโนแบบสี่มือได้ไหม?”
การเล่นแบบสี่มือคือการที่คนสองคนนั่งเล่นเปียโนหลังเดียวกัน
นั่นถือว่ามีความยากสูงมาก
เล่นแบบสี่มือ?
เมื่อได้ยินคำนี้ ผู้ชมที่เคยเฉยชา ตอนนี้กลับสนใจขึ้นมาแล้ว
พวกเขาเคยเห็นการแสดงที่น่าทึ่งแบบนี้ในทีวีเท่านั้น ซึ่งมันน่าทึ่งมาก
วันนี้ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เห็นด้วยตาตัวเองหรือเปล่า
“ได้ครับ”
เย่เฉิน พยักหน้า
“เยี่ยมมากครับ”
พิธีกรกล่าว
“งั้นผมจะหาผู้ชมอีกสักคนมาร่วมแสดงเปียโนแบบสี่มือกับคุณ”
หลังจากพูดจบ พิธีกรก้าวไปข้างหน้า และบอกกับผู้ชม :
“ไม่ทราบว่ามีเพื่อนร่วมชั้นคนใดเล่นเปียโนได้บ้างครับ ขอคนอาสาสมัครสักหนึ่งคนครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้ชมที่ตื่นเต้นเมื่อครู่พลันเงียบกันหมด
คนที่เล่นเปียโนได้มีน้อยอยู่แล้ว อย่าพูดถึงการเล่นเปียโนแบบสี่มือที่ยากกว่าเลย
เงียบกริบ ไม่มีใครยกมือขึ้น
ในอีกด้านหนึ่ง สวี่ ไท่หราน เดินออกจากหลังเวที มาที่ที่นั่งของผู้ชมอย่างเงียบๆ
เขาเพิ่งคิดแผนนี้ขึ้นมา
มันบังเอิญที่ สวี่ ไท่หราน เล่นเปียโนได้ตั้งแต่เด็ก และเขาก็เก่งไม่เบาด้วย
เขาเองเคยเรียนเปียโนแบบสี่มือมาเป็นปี เพื่อมาเกี้ยวสาว และโอ้อวด
ดังนั้นเมื่อ เย่เฉิน บอกว่าเขาเล่นเปียโนได้ สวี่ ไท่หราน ก็มีไอเดียใหม่
คนที่เล่นเปียโน และเปียโนแบบสี่มือได้ในที่นี้ ..ก็คงมีแค่เขาคนเดียว
เขาอยากขึ้นเวทีไปทำการแสดงด้วย
ยิ่งวันนี้ ดอกไม้งาม ซู ก็อยู่ที่นี่แล้ว
อีกครู่หนึ่ง เขาจะยกมือขึ้น และขึ้นไปเล่นกับ เย่เฉิน
ตอนนั้น เมื่อเปรียบเทียบความสามารถเปียโนของ เย่เฉิน ที่ธรรมดาจะยิ่งทำให้เขาดูเก่งกว่า และ..ยิ่งโดดเด่นขึ้นมา
เขาจะได้แสดงด้านที่ยอดเยี่ยมนี้ให้ ดอกไม้งาม ซู ได้เห็น..
พอเวลานั้น ดอกไม้งาม ซู ย่อมต้องเข้าใจได้ทันที
เมื่อเดินมาถึงที่นั่งผู้ชม สวี่ ไท่หราน ยังไม่รีบยกมือ แต่สอดส่องดูรอบๆ
หลังจากเห็นว่าไม่มีใครยกมือขึ้นเลย
ฮ่าฮ่า เป็นไปตามที่คิดจริงๆ
โอกาสที่จะแสดงความเก่งของตัวเอง เหยียบย้ำ เย่เฉิน และชนะใจ ดอกไม้งาม ซู ของฉันกำลังจะมาถึงแล้ว
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ สวี่ ไท่หราน ก็มีรอยยิ้มของผู้ชนะปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“ฉันยินดีที่จะแสดงร่วมกับ เย่เฉิน”
แต่ทว่า เมื่อ สวี่ ไท่หราน รู้สึกภาคภูมิใจ ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง
หืม?
ชั่วพริบตา ทุกคนก็หันไปมองด้านหลัง
เมื่อเห็นคนที่ยืนขึ้น ผู้ชมทั้งหมดก็ตกตะลึง พวกเขาแทบไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง
เป็นไปได้อย่างไร?
เสียงนี้ฉุดดึง สวี่ ไท่หราน ออกจากความฝันของเขา
สวี่ ไท่หราน ก็หันไปมองเช่นกัน และก็ต้องตะลึงไปเหมือนกัน
ดอกไม้งาม ซู?!
ดอกไม้งาม ซู ยืนขึ้นได้อย่างไร?
ใช่แล้ว คนที่ยืนขึ้น และอาสาที่จะแสดงร่วม กับ เย่เฉิน คือ ซู หนิงซวง!
เมื่อมองไปที่ ซู หนิงซวง, สวี่ ไท่หราน ถึงกับรู้สึกงงงวยโดยสิ้นเชิง
สิ่งต่างๆ มันพัฒนาไปจนเหนือความคาดหมายของเขามาก!
เขาไม่คาดคิดเลยว่า ดอกไม้งาม ซู จะยืนขึ้นจริงๆ
ตอนนี้ในหัวของ สวี่ ไท่หราน มันเต็มไปด้วยความสับสน
หลังจากพูดไปอย่างนั้น ซู หนิงซวง พลันก้าวเดินออกมาข้างหน้าแล้ว
พูดตามตรง ซู หนิงซวง เล่นเปียโนได้จริงๆ และเล่นได้ดีมากทีเดียว
แต่เธอไม่เคยได้ลองเล่นแบบสี่มือมาก่อน
เดิมหากว่าไปตามนิสัยของเธอแล้ว เธอคงไม่คิดจะยืนขึ้น
แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเต็มใจยืนขึ้นเพื่อร่วมแสดงกับ เย่เฉิน
เย่เฉิน คงจะดูอึดอัดมาก
เพื่อเป็นการขอบคุณ เย่เฉิน ที่เคยช่วยเธอเมื่อตอนที่เธอข้อเท้าแพลง ซู หนิงซวง คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตัดสินใจยืนขึ้น
บนเวที พิธีกรมองไปที่ ซู หนิงซวง ที่ยืนขึ้นก็แทบอึ้งไป
ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?
คนที่ควรจะยืนขึ้นไม่ใช่ สวี่ ไท่หราน เหรอ?
ในขณะที่พิธีกรกำลังงง ซู หนิงซวง ก็เดินขึ้นเวทีแล้ว
เมื่อพิธีกรรู้ตัว ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว
ถึงจุดนี้.. พิธีกรก็ไม่สามารถช่วย สวี่ ไท่หราน ได้แล้ว
พิธีกรจึงประกาศให้ เย่เฉิน และซู หนิงซวง แสดงร่วมกัน
ทีมงานหลายคนก็ช่วยกันยกเปียโนหลังหนึ่งขึ้นมา
เย่เฉิน และซู หนิงซวง พูดคุยกันเล็กน้อย จากนั้นทั้งคู่จึงไปนั่งอยู่หน้าเปียโนด้วยกัน
เห็นภาพนี้แล้ว ผู้ชายทุกคนต่างก็อิจฉาอย่างมาก
พวกเขาอยากไปนั่งใกล้ชิด กับดอกไม้งาม ซู แบบนี้บ้าง
“ต่อไป ขอเชิญเพื่อนร่วมชั้น เย่ แสดงเพลงเปียโนชื่อดัง ‘เหลียงจู้’ ร่วมกับดอกไม้งาม ซู ประจำมหาลัยของเรา ขอเสียงปรบมือด้วยครับ!”
[เหลียงจู้(梁祝), The Butterfly Lovers]
พิธีกรประกาศเสียงดัง
‘เหลียงจู้’ เป็นเพลงเปียโนแบบสี่มือที่มีชื่อเสียงมาก
“ฮึ่ม ฉันอยากเห็นจังว่าหากนายทำให้ ดอกไม้งาม ซู ต้องอับอาย นายมันจะเป็นยังไง?”
สวี่ ไท่หราน พูดพึมพำพลางมอง เย่เฉิน ด้วยความเกลียดชัง
ขณะนี้ เขาอิจฉา เย่เฉิน มากที่ได้เล่นเปียโนคู่กับดอกไม้งาม ซู
เขาควรที่จะยกมือขึ้นก่อนหน้านี้
ถ้าเขายกมือก่อน เย่เฉิน.. ก็คงจะไม่ได้เล่นกับดอกไม้งาม ซู แล้ว
ตอนนี้มันสายไปแล้ว สวี่ ไท่หราน ทำได้แค่รู้สึกอิจฉา เย่เฉิน และสาปแช่งให้ เย่เฉิน ทำพลาดทำให้ ดอกไม้งาม ซู ต้องอับอาย
เมื่อครู่ เย่เฉิน บอกว่าเขาเล่นเปียโนได้พอใช้ได้
ในไม่ช้า เย่เฉิน และซู หนิงซวง ก็เริ่มเล่น..
เสียงดนตรีอันไพเราะดังขึ้น ทันใดนั้นผู้ชมทุกคนก็ถูกเสียงเปียโนดึงดูด
ในขณะนี้เองทุกคนมีความรู้สึกเหมือนกัน
ราวกับว่า เย่เฉิน และซู หนิงซวง บนเวทีคือ ‘คู่รัก’ กันเหมือนในเรื่องราวตำนาน ‘เหลียงจู้’ [ม่านประเพณี/ตำนานรักผีเสื้อ (梁山伯与祝英台)]
เย่เฉิน และซู หนิงซวง ต่างมีความสามารถที่โดดเด่น ช่างเหมาะกันเหมือนกิ่งทองใบหยก(郎才女貌) พวกเขาดูเหมาะสมกันมาก
พวกเขาทั้งคู่เล่นได้อย่างสอดคล้องต้องกัน และหากบอกว่า ‘ใจตรงกัน’ คงไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย
หลังจากฟังไปสักพัก มองดู เย่เฉิน และซู หนิงซวง บนเวที ทุกคนก็รู้สึกว่าอะไรๆ ดูไม่ค่อยถูกต้องนัก
นี่มันงานเลี้ยงต้อนรับนักศึกษาใหม่ไม่ใช่เหรอ?
ทำไมพวกเขาถึงรู้สึกว่าอยู่ในฉากแพร่กระจายอาหารสุนัข? (แสดงความหวานชื่นของคู่รัก)
โดยเฉพาะกับคนโสด พวกเขารู้สึกว่ามันไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
พวกเขามาเพื่อดูการแสดง ไม่ใช่มาเพื่อกินอาหารสุนัข (รับความหวานจนเกินไป)
พวกเขารู้สึกเหมือนรับความเสียหายติดคริติคอล 10,000 แต้ม โดนเข้าเต็มๆ กระแทกเข้ากลางใจ
ส่วน สวี่ ไท่หราน เขาอึ้งไปแล้ว
เขาไม่อยากเชื่อหูของตัวเอง
นี่คือสิ่งที่ เย่เฉิน บอกว่าเขาเล่นพอใช้ได้งั้นเหรอ?
นี่มันพอใช้ได้ตรงไหนกันวะ?
นี่มันสามารถเทียบได้กับนักเปียโนระดับปรมาจารย์ของประเทศแล้ว
เขาไม่รู้เลยว่า เย่เฉิน เก่งกว่าเขามากแค่ไหน
สวี่ ไท่หราน บ่นในใจอย่างบ้าคลั่ง
ตอนนี้ สวี่ ไท่หราน รู้สึกเสียใจอย่างมาก
เดิมที..เขาตั้งใจจะทำให้ เย่เฉิน อับอายไม่ใช่เหรอ?
เหตุใดตอนนี้ถึงกลายเป็นช่วย เย่เฉิน โชว์ความสามารถ ช่วยให้ เย่เฉิน จีบ ดอกไม้งาม ซู ไปเสียได้กันเล่า?!
ถ้า สวี่ ไท่หราน รู้ว่าเพราะแผนการเล่นแบบสี่มือของเขาเองที่ทำให้ ซู หนิงซวง ตัดสินใจยืนขึ้น
สวี่ ไท่หราน คงจะกระอักเลือดตาย
เขาตั้งใจจะทำให้ เย่เฉิน อับอายต่อหน้าทุกคน รวมถึงต่อหน้า ซู หนิงซวง ด้วย แต่..แล้วทำไม?
ผลกลับกลายเป็นช่วยให้ เย่เฉิน และซู หนิงซวง พัฒนาความสัมพันธ์กัน!
สวี่ ไท่หราน เวลานี้รู้สึกแย่ไปหมด
อีกด้านหนึ่ง เมื่อเสียงดนตรีจบลง เย่เฉิน และซู หนิงซวง ก็เล่นจบแล้ว
ทันใดนั้น เสียงปรบมือพลันดังสนั่นกึกก้องขึ้นจากเหล่าผู้ชม…