ตอนที่ 23 ที่รัก?, รางวัลมูลค่า 300 ล้าน
เมื่อได้ยินคำพูดของ เย่เฉิน เจ้าอ้วน ก็พูดโพล่งออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
แค่เพียงพูดไปครึ่งทาง เมื่อมองเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของ เย่เฉิน เขาก็รู้สึกว่า เย่เฉิน อาจจะถูกผู้หญิงรวยๆ หมายตาอยู่ก็ได้
“นายถูกผู้หญิงรวยๆ หมายตาอยู่จริงๆ เหรอ?”
เจ้าอ้วนยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่
“ผู้หญิงรวยอะไรล่ะนั้น ต้องเรียกว่า ‘ที่รัก’ สิ นั่นแหละที่รักของฉัน”
เย่เฉิน ยังคงอยากจะแกล้งเจ้าอ้วนต่อ ดังนั้นเขาจึงแก้ไขคำเรียก
“อืม…”
เจ้าอ้วน ตกอยู่ในความคิด แต่เมื่อสังเกตเห็นรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากของ เย่เฉิน เขาก็เหมือนเข้าใจอะไรได้ทันที
“ไอ้บ้าเอ้ย ลืมมันไปซะถ้าแกไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร!!”
เจ้าอ้วน บ่นขึ้นมา แค่เห็นใบหน้านั้นเขาก็ไม่อยากถามอะไรต่อแล้ว
เย่เฉิน ส่งเจ้าอ้วนไปที่มหาลัยของเขา แล้วกลับไปที่คฤหาสน์ของตัวเอง
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ หลายวันต่อมา การฝึกทหารก็เสร็จสิ้นลงไปอย่างราบรื่น
ในตอนเย็น เพื่อเป็นการต้อนรับนักศึกษาใหม่อย่าง เย่เฉิน ทางมหาลัยจึงได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับนักศึกษาใหม่ขึ้น
ซู หนิงซวง เธอก็มาที่นี่พร้อมกับเพื่อนร่วมชั้นบางคนด้วย เมื่อวานนี้ ซู หนิงซวง กลับมามหาลัยแล้ว ขาของเธอก็เกือบจะหายดีแล้วเช่นกัน
ในงานเลี้ยงคืนนี้มีหลายรายการ(โชว์) แต่ที่นักศึกษาใหม่ชอบที่สุดก็คงหนีไม่พ้น การเต้นของรุ่นพี่สาวสวยเหล่านั้นไปอย่างไม่ต้องสงสัย
งานเลี้ยงดำเนินไปตามปกติ
เบื้องหลัง สวี่ ไท่หราน หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ กำลังหารือกับสมาชิกฝ่ายประชาสัมพันธ์อีกหลายคน
คืนนี้มีรายการสำคัญ
เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วม และทำให้งานเลี้ยงต้อนรับนักศึกษาใหม่คึกคักขึ้น พวกเขาได้รับความเห็นชอบจากประธานแล้ว โดยเพิ่มรายการพิเศษเข้าไป
นั่นคือการสุ่มเลือกผู้โชคดีหนึ่งคน ให้เขาขึ้นมาแสดงโชว์อะไรก็ได้
จะร้องเพลง, เต้น, เล่นมายากล หรือเล่าเรื่องตลกอะไรก็ตามแต่ได้ทั้งหมด
“เดี๋ยวเราจะเลือกผู้โชคดี ..เป็นเขา”
สวี่ ไท่หราน หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา พร้อมกับเปิดรูปถ่ายหนึ่งขึ้นมาให้เพื่อนๆ หลายคนดู
ผู้โชคดีถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว?
ด้วยความสงสัย เพื่อนๆ เหล่านั้นมองไปที่รูปถ่าย
เพียงมองรูปในโทรศัพท์มือถือของ สวี่ ไท่หราน ก็เห็นว่าเป็นรูปของ เย่เฉิน และซู หนิงซวง
เป็นรูปที่ถูกแอบถ่ายตอน ซู หนิงซวง เอาน้ำไปให้ เย่เฉิน ในวันแรกของการฝึกทหาร
ในขณะนี้ คนที่ สวี่ ไท่หราน ชี้ให้เห็น ก็คือ ..เย่เฉิน
เพียงแค่มองรูปถ่ายนี้แวบเดียว เพื่อนๆ เหล่านั้นต่างเข้าใจทันทีว่าทำไม สวี่ ไท่หราน ถึงทำเช่นนี้
การกระทำของ สวี่ ไท่หราน ในครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของ เย่เฉิน อย่างแน่นอน
พวกเขาอยู่ในฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสมาคมนักศึกษามานานพอสมควร ทุกคนจึงรู้ว่า หัวหน้า สวี่ ไท่หราน นั้นเป็นหนึ่งในผู้ไล่ตามจีบ ดอกไม้งาม ซู
เขาเคยสารภาพรักกับ ดอกไม้งาม ซู แต่ถูก ดอกไม้งาม ซู ปฏิเสธโดยไม่ลังเล
ตอนนี้ สวี่ ไท่หราน ขอให้เลือก เย่เฉิน เป็นผู้ชมผู้โชคดีในอีกครู่หนึ่ง
เห็นชัดว่าเขาต้องการทำให้ เย่เฉิน อับอายอย่างแน่นอน
“เป็นอะไรไป มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
สวี่ ไท่หราน ถาม
“เข้าใจแล้ว”
“ฉันจะไปหาตำแหน่งของ เย่เฉิน เดี๋ยวนี้”
พอ สวี่ ไท่หราน พูดขึ้น คนอื่นๆ ก็ไม่มีความเห็นใดๆ
“ฮ่าฮ่า เย่เฉิน แกรอดูเถอะ”
ใบหน้าของ สวี่ ไท่หราน ปรากฏรอยยิ้มเย็นชาขึ้น ที่จริงการเลือกผู้ชมผู้โชคดีในครั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วม และกระตุ้นบรรยากาศของงานครั้งนี้
แต่เมื่อ สวี่ ไท่หราน เห็นรูปที่ เย่เฉิน โอบกอด ซู หนิงซวง
เขาก็ระเบิดความไม่พอใจทันที
เทพธิดาของเขาจะถูกผู้ชายคนหนึ่งกอดได้ยังไง?
นี่เป็นเรื่องที่เขายอมรับไม่ได้!
ดังนั้น สวี่ ไท่หราน จึงวางแผนนี้ขึ้นมา
ตราบใดที่เขา และเพื่อนๆ ไม่บอกใคร แล้วใครมันจะไปรู้ว่าผู้ชมผู้โชคดีครั้งนี้.. ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว?
หลังจากนั้นไม่นาน พอ เย่เฉิน ได้ถูกเลือก ความสนุกจริงๆ ก็เริ่มต้นขึ้น
ก่อนหน้านี้เขาเคยสืบดูอย่างลับๆ และพบว่า เย่เฉิน ไม่มีความสามารถพิเศษอะไรใดๆ เลย
ดังนั้น เมื่อเลือกเขา..
เย่เฉิน มีโอกาสสูงที่จะปฏิเสธ
และการปฏิเสธต่อหน้าผู้คนมากมาย เย่เฉิน ต้องอับอายแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเพิ่งสังเกตว่า ดอกไม้งาม ซู ก็มาที่นี่ด้วยเช่นกัน
แบบนี้ เย่เฉิน ก็จะต้องอับอายต่อหน้า ดอกไม้งาม ซู..
และการแสดงที่จะถึงนี้.. มันต้องสนุกมากแน่
แต่แน่นอน นอกจากการปฏิเสธ เย่เฉิน อาจจะยอมรับก็ได้ด้วยเช่นกัน
ในท้ายที่สุดเมื่อถูกจับตามองจากผู้คนมากมาย โดยเฉพาะต่อหน้า ดอกไม้งาม ซู บางที เย่เฉิน มันอาจจะต้องกล้ำกลืนฝืนยอมรับไป
แต่แบบนี้ ก็ยิ่งดี..
เย่เฉิน ไม่มีความสามารถพิเศษอะไร แม้ขึ้นเวทีไปก็ต้องอับอายขายหน้าแน่นอน
ซึ่ง.. ย่อมสนุกเหมือนกัน
ไม่ว่า เย่เฉิน จะเลือกทางไหน ผลลัพธ์ก็ไม่ดี
นี่คือสิ่งที่ สวี่ ไท่หราน ต้องการเห็น
เขาไม่สนใจว่ารูปที่ เย่เฉิน โอบกอด ดอกไม้งาม ซู นั้นจะเป็นของจริงหรือไม่
ถึงแม้จะเป็นรูปปลอม แต่การที่กล้ามามีข่าวลือเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับดอกไม้งาม ซู, เย่เฉิน ต้องชดใช้!
ซึ่งนี่มันเป็นครั้งแรกที่ดอกไม้งาม ซู มีข่าวลือเช่นนี้
การแสดงบนเวทีจบลง การเลือกผู้ชมผู้โชคดีจึงเริ่มขึ้น
ในกลุ่มผู้ชมที่นั่งอยู่บางคนตื่นเต้นอยากถูกเลือก พวกเขาอยากแสดงตัวต่อหน้าผู้คนทั้งมหาลัย
และยังมีบางคนอธิษฐานไม่ให้ตัวเองถูกเลือก
เพราะตัวเองไม่มีความสามารถอะไร ถ้าถูกเลือกไปจะต้องอับอายมากแน่ๆ
ไม่นาน ไฟในที่เกิดเหตุดับลงทั้งหมด เหลือเพียงแสงสีขาวเท่านั้น
แสงสีขาวเริ่มหมุนไปรอบๆ ที่เกิดเหตุ
สุดท้ายนั้น แสงสีขาวก็ส่องลงมาที่ เย่เฉิน ไปอย่างไม่ต้องสงสัย
แผนการของ สวี่ ไท่หราน เริ่มต้นแล้ว
“เอาล่ะครับ ผู้ชมผู้โชคดีของเราได้ถูกเลือกแล้ว นั่นคือเพื่อนร่วมชั้นของเราคนนี้!”
บนเวที พิธีกร กล่าวขึ้นด้วยความตื่นเต้น
ทันทีที่พูดจบ ทุกคนในที่เกิดเหตุต่างหันไปมอง เย่เฉิน อย่างพร้อมเพรียงกัน
โดยเฉพาะคนที่รู้จัก เย่เฉิน หรือเคยได้ยินชื่อของเขา ต่างก็ประหลาดใจมากในขณะนี้
ไม่คิดเลยว่าผู้ชมผู้โชคดีจะเป็นเขา
เย่เฉิน เองก็แปลกใจ นี่บังเอิญถึงขนาดนี้เลย?
ติ๊ง
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของ เย่เฉิน ก็ดังขึ้น
เย่เฉิน หยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาดู
เขาเห็นข้อความใหม่ มาจากเกม [ด้วยเงินเดือนแค่สามพัน ฉันก็กลายเป็นมหาเศรษฐีของโลกได้]
เขาเปิดดูทันที
[ภารกิจความท้าทายใหม่]
[หยุดถ่อมตัว แล้วขึ้นไปบนเวทีแสดงความสามารถของคุณ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นได้รับรู้ถึงความสามารถของคุณ รางวัลภารกิจ : กลายเป็นประธานบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่ ได้รับหุ้น 30% ของบริษัท มูลค่า 300 ล้าน]
พอเห็นข้อความนี้ เย่เฉิน ก็ตกตะลึง
เขาไม่คิดเลยว่ารางวัลของภารกิจนี้จะมากมายขนาดนี้!
ไม่เพียงแต่ได้เป็นประธานบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่เท่านั้น
แต่เขายังได้หุ้น 30% ของบริษัท มูลค่า 300 ล้านมาอีก?
เช่นนั้นภารกิจนี้ ต้องทำให้สำเร็จ!
นี่คือรางวัลที่ใหญ่ที่สุดที่ เย่เฉิน เคยได้รับ
เย่เฉิน เก็บโทรศัพท์มือถือของเขา และเขาตัดสินใจแล้ว
ไม่นาน มีคนหนึ่งเดินเข้ามาพา เย่เฉิน ขึ้นไปบนเวที
อีกคนยื่นไมโครโฟนให้กับ เย่เฉิน
“เพื่อนร่วมชั้นคนนี้ชื่ออะไรครับ?”
พิธีกรถามอย่างสุภาพ
“เย่เฉิน”
“เพื่อนร่วมชั้น เย่ ไม่ทราบว่าเพื่อนร่วมชั้น เย่ มีความสามารถอะไรบ้าง?”
พิธีกรถาม
“ถ้ามี สามารถแสดงให้ทุกคนดูหน่อยได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร สามารถปฏิเสธได้”
“ผมเล่นเปียโนได้”
เย่เฉิน คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบกลับ
ก่อนหน้านี้ เย่เฉิน เพิ่งซื้อทักษะการเล่นเปียโนระดับปรมาจารย์มาจากร้านค้าในเกม
เขาไม่คิดเลยว่าไม่กี่วันต่อมาจะมีโอกาสได้ใช้ประโยชน์
หืม?
พอได้ยินคำตอบของเย่เฉิน พิธีกรก็ตกใจ
นี่มันไม่เหมือนกับที่ สวี่ ไท่หราน บอกนี่นา เย่เฉิน ไม่น่าจะเล่นอะไรได้ไม่ใช่เหรอ?
แล้วทำไมเขาถึงเล่นเปียโนได้กันล่ะ?
หลังเวที สวี่ ไท่หราน ก็ตกใจเช่นกัน
นี่ไม่เหมือนที่เขาสืบมา เย่เฉิน เล่นเปียโนได้..ตั้งแต่เมื่อไหร่?
“ดูจากท่าทางสบายๆ ของเพื่อนร่วมชั้น เย่ แล้ว เขาคงต้องเล่นเปียโนได้ดีมากแน่ๆ ครับ”
พิธีกรมีประสบการณ์ และเคยผ่านงานใหญ่ๆ มาหลายครั้ง เขาจึงตอบสนองได้ทันที
“พอใช้ได้ครับ”
เย่เฉิน ตอบกลับไปอย่างสบายๆ
เขาคิดเพียงว่าตอนนี้ทักษะเปียโนของเขายังพอใช้ และมันห่างไกลจากปรมาจารย์เปียโนชื่อดังระดับนานาชาติอยู่เล็กน้อย
พอใช้ได้?
เมื่อได้ยินอย่างนี้ พิธีกรพยักหน้า ..นี่ดีเลย
หลังเวที สวี่ ไท่หราน ก็พลันโล่งใจ รอยยิ้มเยาะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
ถ้าเล่นได้ระดับพอใช้ นั่นก็ถือว่า ดีเยี่ยมแล้ว…