ตอนที่แล้วบทที่ 39 รอยประทับร้อยกระบี่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 41 แมวภูเขา

บทที่ 40 การหายตัวไป


บทที่ 40 การหายตัวไป

ชูเหลียงได้เรียนรู้รอยประทับร้อยกระบี่ได้อย่างราบรื่น เขาบอกลาเจียงเสี่ยวไป๋และนัดแนะเวลาเรียนจากเธอในวันถัดไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขากลับไปที่ยอดเขาหยินเจี้ยน เขาพบว่าเขาได้รับจดหมายที่มีข่าวร้าย จดหมายฉบับนี้เป็นของเจ้มเมืองหมิงแห่งเมืองซิงโจว ข้อความว่าภรรยาของเขาหายไป

เป็นปีศาจแมวผู้ที่เมื่อเร็วๆ นี้ชูเหลียงได้ช่วยเหลือไว้

"อืม.." ชูเหลียงถอนหายใจเบา ๆ

ดูเหมือนว่าเขาจะต้องเลื่อนการเรียนรู้ทักษะศักดิ์สิทธิ์ใหม่ออกไปชั่วคราว

เขาส่งข้อความถึงเจียงเสี่ยวไป๋ทันที จากนั้นเขาก็เข้าไปแจ้งเรื่องนี้กับอาจารย์ของเขา

นี่คือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังจากขอฉายาสำหรับปีศาจ เป็นการกระทำโดยสุจริต แต่ถ้าเกิดสิ่งใดเกิดขึ้นกับปีศาจ ผู้ที่รับรองฉายาจะต้องรับผิดชอบแก้ไขถึงสิ่งที่จะตามมา

ตามกฎของนิกาย นายหญิงหมิงห้ามออกจากเมืองที่เธออาศัยอยู่เป็นเวลานาน เธอต้องมาที่ฉูซานทุกๆ สองเดือน อย่างไรก็ตาม เธอกลับหายตัวไปอย่างลึกลับ

เมื่อพิจารณาว่าเธอเป็นปีศาจที่ถูกให้ฉายาโดยนิกายฉูซาน ถ้าเธอได้รับการปฏิบัติโดยไม่หวังดี ก็ถือว่าเป็นการยั่วยุผู้มีอํานาจของฉูซาน กรณีนี้ทางศิษย์ของฉูซานจะต้องรับผิดชอบในการอำนวยความยุติธรรมให้กับเธอ

ในทางกลับกัน ถ้าเธอเป็นคนที่มีเจตนาร้าย ศิษย์ของนิกายฉูซานก็ยังต้องเข้าไปแทรกแซงเพื่อลดผลกระทบด้านลบจากการกระทําของเธอให้น้อยที่สุด ปัญหาใด ๆ ที่เธอสร้างขึ้นจะสะท้อนให้เห็นโดยชูเหลียง

เมื่อสมาชิกของนิกายนี้ยังเด็กและหุนหันพลันแล่น พวกเขาทั้งหมดรู้สึกว่าพวกเขามีภาระหน้าที่ทางศีลธรรม อย่างไรก็ตาม เป็นเพราะพวกเขาผ่านสถานการณ์ปัญหาเช่นนี้มานับครั้งไม่ถ้วน พวกเขาจึงค่อย ๆ สูญเสียความใจร้อน

อย่างไรก็ตาม ชูเหลียงเป็นคนที่จิตใจดี เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อยเพราะเขาพลาดโอกาสที่จะเรียนรู้ทักษะใหม่ แต่สำหรับปัญหาที่อาจจะเกิดจากนายหญิงหมิงนั้นอาจทำให้เขา อาจารย์ของเขา หรือนิกายของเขาเสียหายได้ เมื่อเขายื่นขอฉายาให้เธอ เขาก็เตรียมใจสำหรับความรับผิดชอบไว้แล้ว

เมื่อชูเหลียงมาถึงศาลา ตี้หนิวเฟิ่งก็กําลังดูสมุดภาพเล่มหนึ่งอยู่

ตั้งแต่ชูเหลียงเป็นศิษย์ของเธอ เขาไม่เคยเห็นเธอฝึกฝนแม้แต่วินาทีเดียว เขาไม่รู้ว่าเธอฝึกร่างกายมาอย่างไรและมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร

ระดับที่ 7 ระดับบรรลุเต๋า มุ่งสู่การตื่นรู้ เมื่อผู้ฝึกฝนมาถึงระดับนี้แล้ว พวกเขาจะไม่สามารถใช้การบ่มเพาะทั่วไปที่ใช้ในระยะที่ผ่านมาได้อีกต่อไป

แต่การอ่านหนังสือภาพทั้งวันนี่มันก็.. ตื่นรู้วิถีแห่งหนังสืองั้นหรือ..

"ท่านอาจารย์ที่เคารพ..." เขาตะโกนเมื่อเข้าใกล้ตี้หนิวเฟิ่ง "ปีศาจในตระกูลหมิงแห่งเมืองซิงโจว เธอหายไปขอรับ"

"หืม" ตี้หนิวเฟิ่งลุกขึ้นนั่งพึมพํา

ชูเหลียงบอกเนื้อหาของจดหมายจากตระกูลหมิงให้เธอฟัง

"ปีศาจลูกแมวน่ะหรือ เธอดูไม่ใช่คนเลว เธอไม่น่าจะก่อเรื่องใดได้ ถ้าเธอหายไปก็หมายความว่าอาจจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ" ตี้หนิวเฟิ่งลูบคางของเธอขณะพูด

"ข้าก็คิดอย่างนั้น" ชูเหลียงพยักหน้าเห็นด้วย

"นี่ เอานี่ไป"

ตี๋หญิงหนิวเฟิ่งยกมือขึ้นขว้างของให้เขา

ชูเหลียงมองดูปรากฏว่าเป็นเครื่องรางหยกที่ผนึกพลังตามรอย

"ปีศาจแมวใส่รอยพลังไว้ในนั้น เจ้าสามารถหาเธอด้วยเครื่องรางหยกนี้" ตี้หนิวเฟิ่งอธิบาย

นี่คือเหตุผลที่นิกายนี้ใช้คาถาติดตามปีศาจหลังจากมอบฉายา มันมีไว้เพื่อไม่ให้นิกายต้องใช้กำลังคนจำนวนมากในการค้นหาปีศาจเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด

นำหยกนั่นพกติดตัวไว้ ถ้าเกิดอุบัติเหตุ เพียงทุบทำลายมันก็เพียงพอข้าจะไปช่วยเจ้าได้ตลอดเวลา ตี้หนิวเฟิ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าขาดของดีนี่นา ข้าเห็นด้วย มันน่าจะเพียงพอที่จะชดเชยจุดนี้ได้ เก็บไว้ให้ดีล่ะ มันเป็นสิ่งช่วยชีวิตที่เจ้าต้องการ"

ชูเหลียงถือเครื่องรางหยกในมือและรู้สึกได้ว่าเครื่องรางหยกนี้หนักกว่าเครื่องรางปกติมาก และด้วยการที่เครื่องรางหยกนี้สามารถเรียกผู้ฝึกตนระดับที่เจ็ดออกมาได้ตลอดเวลา มันจึงนับว่าทรงพลังกว่าอุปกรณ์วิเศษทั่วไปมากทีเดียว

ในโลกของผู้ฝึกตน อาจารย์น้อยคนนักที่จะมอบสิ่งของเช่นนี้ให้ลูกศิษย์ เหตุผลหนึ่งคืออาจารย์ส่วนใหญ่มีธุระของตัวเองที่ต้องจัดการ และไม่มีหลักประกันว่าจะตอบสนองได้ทันท่วงที

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าลูกศิษย์คนหนึ่งตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายถึงชีวิต และอาจารย์ของเขาบังเอิญไปมีเรื่องกับคนอื่นจะทำอย่างไร คาถาอัญเชิญจะไร้ประโยชน์ หรือถ้าอาจารย์ของเขาทำกิจวัตรประจำวัน เช่น กินข้าว หรือทำธุระในห้องน้ำ จะทำอย่างไร

ผู้เป็นอาจารย์จะต้องพร้อมที่จะไปตลอดเวลาและรีบไปในวินาทีแรกที่พวกเขารู้สึกว่าเครื่องรางหยกแตกไม่เช่นนั้นมันก็จะเปล่าประโยชน์

อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ถ้าผู้เป็นอาจารย์เข้ามาแก้ไขปัญหาให้เสมอ ศิษย์อาจกลายเป็นผู้ที่เอาแต่พึ่งพา แทนที่จะพัฒนาทักษะที่หาได้จากการเรียนรู้จากประสบการณ์เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ตี้หนิวเฟิ่งผู้แหกขนบไม่สนใจเหตุผลเหล่านี้

"ท่านอาจารย์ที่เคารพ ท่านจะมาช่วยข้าได้ตลอดเวลาจริงหรือ" ชูเหลียงถามด้วยความสงสัยในใจ

"ข้าจะรีบไปทันที..." ตี้หนิวเฟิ่งตอบ จากนั้นเธอก็หยุดชั่วคราวและเสริมว่า "อืม หากข้าไม่ได้เมาในเวลานั้นล่ะก็นะ"

"..." ชูเหลียงเงียบลง

อย่างที่ข้าคิดไว้..

ข้าคงไม่สามารถคาดหวังว่าคนติดเหล้าจะไว้ใจได้เสมอไป

...

หลังจากชูเหลียงได้รับเครื่องรางหยกที่มีคาถาติดตามแล้วเขาก็รีบไปที่เมืองซิงโจวอย่างใจจดใจจ่อ

เมื่อมาถึงก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว เจ้าเมืองหมิงและครอบครัวก็ออกมาทักทายชูเหลียง

"สวัสดีท่านชู"

"สวัสดีขอรับท่านหมิง"

"ท่านชู ข้าทำให้ท่านลําบากเสียแล้ว"

“มิเป็นไร เข้าเรื่องเถิดท่านหมิง รีบบอกรายละเอียดมาได้เลย” ชูเหลียงกล่าว

"ขอรับ" หมิงตอบด้วยความสุภาพและได้พาชูเหลียงไปที่ห้องโถงแล้วจึงรายงานทุกอย่าง

"ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณที่ให้ฉายาแก่ภรรยาของข้า เราคิดว่าเราจะได้มีชีวิตที่สงบสุขตั้งแต่นั้นมา ซึ่งหลายวันมานี้เต็มไปด้วยความสุขจริงๆ อย่างไรก็ตาม สองวันก่อน ภรรยาของข้าก็ร้องไห้เสียงดังกลางดึก"

"ข้าถามเธอว่าเหตุใดเธอจึงร้องไห้ เธอบอกว่าเธอฝันถึงพ่อแม่ของเธอ เธอไม่ได้ไปเยี่ยมพวกเขามาสิบปีแล้วเพราะกลัวว่าตัวตนปีศาจของเธอจะถูกเปิดเผย แต่ตอนนี้เธอสามารถมีชีวิตอยู่อย่างสงบและเธอต้องการอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวของเธอ"

"เห้อ.. มนุษย์รักครอบครัวของพวกเขา เหตุใดปีศาจจึงรักมิได้ล่ะ นั่นคือเหตุผลที่ข้าตกลงที่จะให้เธอกลับไปที่บ้านของเธอ ข้ายังขอให้เธออนุญาตให้ข้าไปกับเธอด้วย แต่เธอกลัวว่าข้าจะตกใจกับครอบครัวของเธอ เธอจึงปฏิเสธ..”

"..ใครจะรู้ว่าเธอจะจากไปและไม่กลับมาอีกเลย"

เจ้าเมืองหมิงอ้อนวอนอย่างจริงจัง "ท่านวีรบุรุษหนุ่มชู ภรรยาของข้า เธอจะไม่ทอดทิ้งข้าไปแน่นอน ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอ ได้โปรด ท่านต้องช่วยเธอนะขอรับ"

"ท่านหมิง โปรดวางใจได้ ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่" ชูเหลียงพยักหน้า จากนั้นจึงถามว่า "บ้านของนางหมิงอยู่ที่ใด"

"ในภูเขาตะวันออกนอกเมืองซิงโจวขอรับ ครอบครัวแมวป่าของเธอเคยอาศัยและเลี้ยงที่นั่น เมื่อวานข้าเองก็พยายามค้นหาบนภูเขาแล้วแต่ไม่พบร่องรอยของเธอบนภูเขาใหญ่ลูกนั้นเลย.. คนธรรมดาอย่างข้าทําอะไรมิได้เลยจริงๆ "

ชูเหลียงเห็นเจ้าเมืองหมิงเศร้าและโกรธขนาดนี้ ในใจเขาเสียใจมาก

เจ้าเมืองหมิงและภรรยาของเขาเป็นน้ําหนึ่งใจเดียวกันจริงๆ ความรักที่พวกเขามีต่อกันนั้นลึกซึ้งและมั่นคง น่าเสียดายที่ชีวิตของพวกเขาดูเหมือนจะเต็มไปด้วยการทดสอบและความยากลําบาก

ชูเหลียงลุกขึ้นพูดว่า "ท่านหมิง วางใจได้ ตอนนี้ข้าจะไปหานางหมิงเอง ข้ามีเครื่องรางหยกอยู่ในมือ มันสามารถติดตามเธอได้ ข้าน่าจะหาเธอเจอได้ในเร็วๆ นี้"

"ท่านชู... ท่านเดินทางมาเหนื่อยๆ แน่ใจหรือว่ามิต้องการพักเสียหนึ่งคืนก่อนแล้วค่อยออกเดินทาง” เจ้าเมืองหมิงเอ่ยถาม

เกรงใจข้าเพียงนั้นเลยหรือ หากข้าค้างคืนที่นี่ ข้าสงสัยว่าท่านคงจะนอนมิได้เลยน่ะสิ ชูเหลียงพูดในใจ

ชูเหลียงยิ้มและตอบ "นี่เป็นเรื่องด่วน เสียเวลามิได้ ตอนนี้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแล้ว ท่านมิจำเป็นต้องเกรงใจข้า ข้าจะไปทันที!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด