ตอนที่แล้วตอนที่ 53 บุปผาโฉด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 55 เพราะข้าไร้ศีลธรรม

ตอนที่ 54 ตัวเอกหญิงอำมหิต?


ตอนที่ 54 ตัวเอกหญิงอำมหิต?

  

ณ ยอดเขาอวี่เฟิง

  

นี่คือยอดเขาที่เซียวอวี่ลั่วอาศัยอยู่

มีไอน้ำหนาแน่น ฝนตกและหมอกหนาตลอดทั้งปี เหมาะแก่การฝึกเสินทงแห่งน้ำที่สุด

  

เป็นอีกวันที่ฝนตกและเมฆดำกำลังเคลื่อนตัวเข้าหาอวี่เฟิง

มีสายฟ้าฟาดลงมาเป็นระยะ เกิดเสียงคล้ายฟ้าระเบิดดังสนั่น

  

เซียวอวี่ลั่วซุกตัวอยู่ที่มุมห้องด้านใน กอดขาและก้มหน้ามุดเข่าโดยไม่มีแสงส่องโดนร่างกายของนาง

  

เมื่อเทียบกับฉินอวิ๋นซึ่งเป็นศิษย์น้องเล็ก พวกศิษย์พี่หญิงคนอื่นๆ ไม่ได้ให้ความสนใจกับเซียวอวี่ลั่วซึ่งเป็นศิษย์น้องหญิงเล็ก อาจเพราะนางมีเหตุผลมากกว่าและไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไปในสายตาของพวกศิษย์พี่

  

แต่ไม่มีใครทราบภูมิหลังของเซียวอวี่ลั่วเลย

  

ในอดีตนั้นความแข็งแกร่งของตระกูลเซียวถือได้ว่าอยู่ในระดับสูงสุดของชิงโจว

  

ท่านเจ้าบ้านอยู่ในระดับหยางบริสุทธิ์และยังมีสมาชิกในตระกูลอยู่ในระดับมิ่งตานอีกจำนวนมาก การเรียกว่ากองกำลังระดับเจ้าโลกนั้นไม่เกินจริง

  

แต่เซียวอวี่ลั่วไม่ยอมรับการเป็นคุณหนูตระกูลเซียว

  

ในทางตรงกันข้ามคือนางเกลียดชังตระกูลเซียวเข้าไส้

  

บิดาของนางเป็นบุตรชายคนเล็กของตระกูลเซียวสาขาย่อย แต่เนื่องจากมีความสามารถสูง เขาจึงได้รับเลือกให้คุ้มกันนายน้อยของตระกูลเซียวสายหลักและทำงานหนักเสมอ

  

ระหว่างการเดินทางครั้งหนึ่ง บิดาของนางได้พบกับมารดาของนางซึ่งเป็นเพียงบุตรสาวของผู้ฝึกตนธรรมดา

  

ในเหตุการณ์ภัยพิบัติของพวกอสูร มีสัตว์อสูรบุกเข้าเมืองจำนวนมาก

  

บิดาของนางช่วยผู้หญิงคนนี้จากสัตว์อสูรแล้วทั้งสองตกหลุมรักกันโดยง่ายดาย

  

ท่านแม่งดงามมากเมื่อเทียบกับใบหน้าธรรมดาของท่านพ่อ ทั้งยังเป็นหญิงมากความสามารถ มีผู้ชายหลายคนหมายปองในตัวนาง แต่นางทะนงเกินกว่าจะชอบใครก็ได้ ทว่าสุดท้ายนางกลับตกหลุมรักท่านพ่อ

  

ท่านแม่มักจะยิ้มเสมอเมื่อพูดถึงท่านพ่อ ‘ชายที่ถือดาบวิญญาณหักขวางหน้าของนางเอาไว้ ฉากที่เขาพยายามจะกัดสัตว์อสูรให้ตายและในที่สุดเขาก็เป็นลมหมดสติในอ้อมแขนของนาง ทำให้นางได้ตระหนักว่าชายคนนี้ครอบครองหัวใจนางแล้ว’

  

ในตอนนั้นเซียวอวี่ลั่วตัวน้อยไม่เข้าใจว่าเห็นใดท่านแม่ถึงยิ้ม แต่เมื่อเห็นท่านแม่มีความสุข นางจึงมีความสุขไปด้วย

  

แต่เมื่อนางอายุได้หกขวบ ชีวิตของนางก็เปลี่ยนไป

  

ท่านแม่เริ่มมีสีหน้ากังวล ส่วนท่านพ่อดูเศร้าหมองอยู่เสมอ

  

ทั้งคู่ยิ้มน้อยลงมาก

  

จนวันนั้นท่านพ่อกลับบ้านพร้อมความกังวลใจ เขาโอบกอดท่านแม่พลางสนทนากันอยู่นาน จากนั้นจึงวางนางไว้ในอ้อมแขนของท่านแม่แล้วเดินถือดาบวิญญาณออกไป

  

ท่านแม่ใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ให้ท่านพ่อและกำชับให้ท่านพ่อใส่ใจเรื่องความปลอดภัย

  

ตอนนั้นเสียงของท่านแม่เหมือนติดสะอื้น นางจำได้ดี

  

และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่นางได้เจอท่านพ่อ

  

ท่านพ่อยังไม่กลับมา แต่นางถูกท่านแม่อุ้มออกไป ท่านแม่เดินเร็วมาก ท่านแม่พานางเดินไปเกือบครึ่งหนึ่งของชิงโจวทั้งหมด ไม่รู้ว่าเดินนานแค่ไหนแล้ว

  

มักจะมีคนเลวมาทำร้ายท่านแม่ระหว่างเดินทางเสมอและยังต้องการจับนางไว้เพื่อข่มขู่ท่านแม่ด้วย

  

แม้ว่าทุกครั้งท่านแม่จะเอาชนะพวกคนเลวได้ แต่เสื้อผ้าของท่านแม่ค่อยๆ กลายเป็นสีแดงฉานของโลหิต

  

ขณะที่เกิดการไล่ล่าและหลบหนีไปเช่นนี้ ใบหน้าของท่านแม่ซีดลงเรื่อยๆ และมีบาดแผลบนร่างกายมากขึ้นเช่นกัน จนกระทั่งพานางหนีไปยังหุบเขาแห่งหนึ่ง ท่านแม่มัดนางไว้ในโพรงไม้โดยไม่สนว่านางร้องไห้หนักแค่ไหน และยังติดยันต์สีเหลืองไว้บนตัวนางด้วย

  

ท่านแม่สัมผัสใบหน้าของนางเบาๆ และแสดงรอยยิ้มที่หายไปนานอีกครั้ง ท่านแม่บอกนางว่าอย่าส่งเสียงและปล่อยให้ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับโชคชะตา

  

จากนั้นโพรงไม้ถูกปิดไว้ด้วยพุ่มไม้ ไม่นานหลังจากนั้นเกิดเสียงการต่อสู้และเสียงตะโกนแหบแห้งของท่านแม่ดังอยู่นอกโพรง

  

น้ำตาของนางไหลและนางรู้ว่าท่านแม่อาจจะไม่กลับมาเช่นกัน นางมองเห็นผ่านช่องว่างของพุ่มไม้จึงเห็นร่างสีดำเป็นเงาตะคุ่มอยู่ไกลๆ และร่างนั้นใช้ดาบฟันเข้าที่เอวของท่านแม่จนขาดเป็นสองท่อน

  

ร่างท่อนบนของท่านแม่ล้มลงกับพื้น ศีรษะหันหน้ามาทางนาง ดวงตาของท่านแม่เบิกกว้าง มีความไม่เชื่ออยู่ในแววตาและยังอ้าปากค้าง

  

   เหมือนอยากจะพูดเตือนนางว่าอย่าออกมาเด็ดขาด

  

เงาดำยืนอยู่ต่อหน้าท่านแม่และยกดาบยาวในมือขึ้นอีกครั้ง ไม่มีร่องรอยของความโกรธหรือสงสารในดวงตาที่ไม่แยแสของมันและปลายดาบกดลงที่ลำคอของท่านแม่

  

ด้วยว่าหยาดน้ำตาทำให้ดวงตาของนางพร่ามัวจึงมองเห็นใบหน้าของเงาดำไม่ชัดเจน แต่นางจำดวงตาที่โหดเหี้ยมและเย็นชาคู่นั้นได้เสมอ

  

นางมองท่านแม่ถูกเงาดำเหล่านั้นฆ่าตาย แต่นางก็ไม่กล้าที่จะร้องไห้ด้วยซ้ำ

  

ความกลัวแผ่ซ่านไปทั่วจิตใจของเด็กหญิง

  

ที่โชคดีรอดมาได้ อาจเพราะเซียวอวี่ลั่วยังเด็กและมีพลังวิญญาณอ่อนแอ เมื่อรวมกับยันต์ที่ท่านแม่ติดไว้จึงทำให้คนเหล่านั้นไม่พบนาง

  

ร่างของท่านแม่ถูกลากออกไป นางซ่อนอยู่ในโพรงไม้เป็นเวลาสามวัน อดอาหารนานสามวันเช่นกัน และในที่สุดนางก็ถูกค้นพบโดยอาจารย์ซึ่งพานางกลับมาที่นิกายเทียนสุ่ยและรับเป็นศิษย์

  

แต่นางไม่เคยบอกใครเกี่ยวกับอดีต รวมถึงท่านอาจารย์และศิษย์พี่ทั้งหลายก็ไม่เว้น

  

เพราะนี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง แต่เป็นแผลทางใจที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้

  

เนื่องจากประสบการณ์ในวัยเด็กจึงเป็นสาเหตุที่นางเกลียดฉินอวิ๋นศิษย์น้องเล็กมาก เพราะเห็นได้ชัดว่าเขามีความสามารถที่แข็งแกร่ง แต่เขาเกียจคร้านไม่ยอมพัฒนาตัวเอง เมื่อเขาเผชิญกับอันตราย เขากลับไม่มีทางสู้เลย

  

นางเกลียดความรู้สึกไม่มีทางสู้นี้

  ……

“ฮึ เซียวอวี่ลั่วมีภูมิหลังเช่นนี้เอง”

  

ซูอันอ่านเอกสารเกี่ยวกับศิษย์พี่ทั้งหลายของฉินอวิ๋นที่รวบรวมโดยบุปผามรณะ เมื่อเขาเปิดมาถึงหน้าของเซียวอวี่ลั่ว เขาก็หยุดอ่านเป็นเวลานาน

  

ถึงอย่างไรตระกูลเซียวมีพลังอำนาจมาก ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงถูกเก็บไว้ในระบบข่าวกรองของหน่วยบุปผามรณะ

  

นอกจากการสืบเรื่องของเซียวอวี่ลั่ว เขายังมอบหมายให้หน่วยข่าวกรองสืบเรื่องตระกูลเซียวด้วย

  

เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความปั่นป่วนในตอนนั้น จึงสืบไม่ยาก

  

สาเหตุเพราะนายน้อยที่บิดาของเซียวอวี่ลั่วคุ้มกันอยู่นั้นเป็นหนุ่มเจ้าชู้ เขาถูกใจมารดาของเซียวอวี่ลั่วและต้องการให้บิดาของนางยกภรรยาบำเรอแก่เขา

  

แน่นอนว่าบิดาของเซียวอวี่ลั่วยืนกรานปฏิเสธ

  

อีกฝ่ายจึงยกเซียวอวี่ลั่วขึ้นมาข่มขู่ บิดาของนางบันดาลโทสะและทำร้ายนายน้อยจนพิการ

  

แม้ว่านายน้อยคนนั้นจะมีความสามารถระดับปานกลาง แต่เขาก็เป็นหลานชายคนเล็กของผู้อาวุโสสูงสุดแห่งตระกูลเซียว ทั้งยังเป็นที่โปรดปรานด้วย

  

พวกเขาไม่ปล่อยให้ทายาทในตระกูลสาขาลงมือทำร้ายนายน้อยของตระกูลสายหลักและส่งคนออกตามล่าเซียวอวี่ลั่วทั้งครอบครัวทันที

  

เหตุการณ์นี้เกือบทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างตระกูลสาขาและตระกูลเซียวสายหลัก

หากไม่เกิดความขัดแย้งและทำให้ตระกูลสายหลักวุ่นวายชั่วคราว เกรงว่ามารดาของเซียวอวี่ลั่วจะไม่สามารถหลบหนีได้ไกลขนาดนั้น

อืม เป็นเรื่องราวนองเลือดมาก

  

แต่เมื่อพิจารณาว่าตระกูลเซียวเจริญรุ่งเรืองเพียงไม่กี่พันปีเท่านั้น จึงมีรากฐานเพียงเล็กน้อยและเป็นเรื่องปกติที่ลูกหลานของตระกูลสาขากับตระกูลหลักจะไม่สามัคคีกัน

  

“อ่า~เมื่อมองเช่นนี้เซียวอวี่ลั่วมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยม!”

  

ซูอันยกมือลูบคาง

  

ตัวเอกหญิงอำมหิตหรืออะไรทำนองนั้น แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว

  ……

  

ฉินอวิ๋นเดินอยู่ในนิกายเทียนสุ่ยและรู้สึกแปลกต่อการเปลี่ยนแปลงรอบตัวเมื่อเร็วๆ นี้

  

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกสานุศิษย์หญิงของนิกายเทียนสุ่ยเห็นเขาแล้วมีแต่ถอยหลังออกห่าง ซึ่งทำให้เขารู้สึกถูกแบ่งแยก

  

แต่หลายครั้งที่เขาเดินเข้าไปถามว่ามีสิ่งใดผิดปกติ สานุศิษย์เหล่านั้นจะบอกว่าไม่มี ซึ่งทำให้เขาสับสนมาก

แน่นอนว่านี่เป็นมุมมองจากฝั่งฉินอวิ๋น