ตอนที่ 35 : ทำไมต้องเป็นมารหัวใจฉันตลอด ?
ตอนที่ 35 : ทำไมต้องเป็นมารหัวใจฉันตลอด ?
“ผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์ !”
ที่ชั้น 26
ฉือเหล่ยตะโกนออกมาพร้อมแสงสีทองที่ส่องประกายออกมาจากตัว ก่อตัวเป็นโล่สีทองครอบคลุมตัวเขา, มู่หรงเสวี่ยเหินและหลี่เหมยเอาไว้
“หอกศักดิ์สิทธิ์ !”
ตูม !
เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมฉือเหล่ยที่เปิดทางให้กับทั้งสามคนให้หนีออกจากที่นั่น
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก...” หลี่เหมยหอบหายใจและพูดขึ้นมา “ที่ชั้น 26 มอนเตอร์เยอะจริงๆ พวกมันใช้พิษกันหมด เลเวลก็มากกว่า 30 เรารับมือพวกมันไม่ไหวแล้ว !”
มู่หรงเสวี่ยเหินพูดขึ้นมา “ไม่ต้องห่วง พี่เหมย ฉันจะปกป้องพี่เอง”
หลี่เหมยมองไปที่มู่หรงเสวี่ยหินด้วยสายตาอิจฉา “เสวี่ยเหิน บางครั้งฉันก็อิจฉาเธอ...”
“เธอน่ะสวยและยังปลุกพลังอาชีพระดับ S ขึ้นมาได้ มีผู้ชายหลายคนอยากจะอยู่ข้างกายเธอ”
“ยกตัวอย่างฉือเหล่ย, เฉินผิงอันและแม้แต่ตงฟางเหอ...”
“ด้วยความช่วยเหลือของพวกเขา เราต้องได้อันดับ 1 ของเมืองมาแน่ เธอน่ะแข่งกับพวกอัจฉริยะในเมืองอื่นๆได้ด้วยซ้ำ...”
มู่หรงเสวี่ยเหินถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “พี่เหมย พี่เป็นอะไรไป ? ถ้ามีฉันอยู่ ฉันจะไม่ยอมให้มอนเตอร์พวกนี้ทำอะไรพี่เด็ดขาด !”
ทันทีที่เธอพูดจบ แสงสีทองก็ส่องประกายออกมาจากตัว
แสงสีทองนี้ไม่ได้สว่างจ้าและแผ่แรงกดดันออกมา ทว่ามันกลับทำให้รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยน
“พลังแสงศักดิ์สิทธิ์ !”
ภายใต้แสงนี้ อาการบาดเจ็บของฉือเหล่ยและหลี่เหมยก็ฟื้นฟูขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกันจิตใจที่อ่อนล้าของพวกเขาก็เริ่มดีขึ้น ภายใต้แสงศักดิ์สิทธิ์นี้
มู่หรงเสวี่ยเหินชี้หอกไปพร้อมแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนหนึ่งเอาไว้ หลังจากนั้นมันก็รวมตัวกันเป็นเปลวไฟพุ่งลงมาจากฟากฟ้าเข้าโจมตีฝูงมอนเตอร์
[ไฟศักดิ์สิทธิ์] !
ตูม !
เปลวไฟสีทองลุกไหม้ ตะขาบตาม่วงและค้างคาวสพิษกรีดร้องออกมาก่อนจะโดนเผาเหลือแต่เถ้า
มอนเตอร์เริ่มมารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ
ฉือเหล่ยหอบหายใจและกัดฟันแน่น “มีบางอย่างผิดปกติ ! ทำไมมอนเตอร์ถึงได้มาล้อมเราเยอะแบบนี้ ? ส่วนมากเป็นตะขาบตาม่วงด้วย ?”
“พวกมันเยอะเกินไป เราคงผ่านไปไม่ได้ !”
ทั้งสามคนอยู่ในหุบเขา มันมีตะขาบตาม่วงอย่างน้อย 100 ตัวที่ล้อมพวกเขาเอาไว้ แต่ละตัวพากันพุ่งเข้าใส่พวกเขาอย่างบ้าคลั่ง
นันย์ตาของพวกมันเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
มู่หรงเสวี่ยเหินสีหน้าเปลี่ยนไป เธอเห็นบางอย่างผิดปกติ
“เสวี่ยเหิน ฉือเหล่ย ฉันขอโทษ...” เสียงของหลี่เหมยดังขึ้นมาจากด้านหลัง “เพื่อตงฟางเหอกับฉันจะได้อยู่ด้วยกัน พวกเธอช่วยแพ้ทีเถอะ”
“ว่าไงนะ ?” ฉือเหล่ยตะโกนออกมาด้วยสีหน้าโกรธ เขาคอยคุ้มกันให้กับมู่หรงเสวี่ยเหินและพูดขึ้น “ฝีมือพวกเธอนี่เอง !”
หลี่เหมยหน้าแดงขึ้นมา เธอพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “ไม่ ไม่ใช่ ไม่ใช่ฝีมือตงฟางเหอ ! ฝีมือฉันต่างหาก !”
“เขารับปากกับฉันว่าถ้าเขาชนะการสอบครั้งนี้ได้อันดับ 1 เขาจะแต่งงานกับฉัน !”
“เสวี่ยเหิน พี่เหมยไม่เคยขอร้องอะไรเธอมาก่อน ถือซะว่าเห็นแก่ความเป็นพี่น้องของเรามาหลายปี เพื่อตงฟางเหอกับฉันที่จะได้อยู่ด้วยกัน เธอช่วยแพ้ทีเถอะ !”
“ตงฟางเหอต้องผ่านชั้น 26 รึไปถึงชั้น 27 ได้แน่....”
มู่หรงเสวี่ยเหินมองไปที่หลี่เหมยก่อนจะส่ายหน้าและพูดขึ้นมา “พี่เหมย เธอน่ะโดนหลอกแล้ว...”
“ไม่จริง ! พี่เหอไม่เคยโกหกฉัน !” หลี่เหมยกัดฟันแน่นพูดขึ้นมา “เขารับปากกับฉันว่าจะให้ฉันเป็นแฟนและแนะนำฉันให้กับครอบครัว...”
“คุณหนู ! พูดกับคนแบบนี้ไปจะไปมีประโยชน์อะไร ? คนทรยศสมควรตาย !” ฉือเหล่ยตะโกนออกมาและกำลังจะลงมือ ทว่าเขาก็ถูกมู่หรงเสวี่ยเหินห้ามเอาไว้
“ฉือเหล่ย หยุดมอนเตอร์พวกนี้ก่อน”
ถึงฉือเหล่ยจะโกรธ ทว่าคำพูดของมู่หรงเสวี่ยเหินก็เหมือนกับคำสั่ง เขาได้แต่ต้องไปยืนตรงหน้าทั้งสองคนอย่างไม่เต็มใจ
“ใช่สิ พี่เหมย แล้วพี่ล่อมอนเตอร์มาที่นี่ได้ยังไง ?”
“นี่คือไข่กับน้ำผึ้งของผึ้งทองหยก ไข่และน้ำผึ้งคือของโปรดของแมลงพิษ !” หลี่เหมยพูดขึ้นมาด้วยท่าทีพอใจ
“พี่เหอกับฉันได้ของพวกนี้มาตอนที่ไปล่ามอนเตอร์ เขายกมันให้ฉันทั้งหมด...”
“ฉันเอาน้ำผึ้งพวกนี้ป้ายตัวพวกเธอไปหมดแล้ว ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน ทว่าตะขาบตาม่วงก็จะตามหาจนเจออยู่ดี !” หลี่เหมยพูดขึ้นต่อ “เสวี่ยเหิน ตระกูลของเราน่ะเกื้อกูลกันมาตั้งแต่เรายังเด็ก ฉันไม่อยากทำร้ายเธอ แต่ฉันอยากให้พี่เหอชนะการสอบครั้งนี้ ฉันขอโทษทจริงๆ เธอช่วยออกจากหอฝึกฝนไปได้มั้ย ?”
“นี่..” มู่หรงเสวี่ยเหินส่ายหน้าและพูดขึ้น “พี่เหมย เธอน่ะ...”
“หุบปาก !” หลี่เหมยแสดงสายตาโกรธแค้นออกมา “ตั้งแต่เด็กจนโต ทำไมมีแต่เธอที่ได้ของดีๆไปหมด ?”
“ตอนเรายังเด็ก เธอน่ะทะเลาะกับฉันเพราะแย่งตุ๊กตากับของอร่อย ตอนที่โตมา ฉันคิดว่าฉันคงเหนือกว่าเธอหลังจากที่ปลุกพลังอาชีพลับระดับ A ทว่าใครจะไปคิดว่าเธอจะได้อาชีพลับระดับ S !”
“พวกผู้ชายอีก ! ตอนเด็กมีผู้ชายหลายคนที่ชอบเธอ ตอนโตก็ยังเป็นแบบเดิมอีก ทำไมเธอต้องมาแย่งพี่เหอไปจากฉันด้วย ?”
“ฉันไม่ได้...”
“เธอทำ !” หลี่เหมยกัดฟันแน่นและพูดขึ้น “ตอนที่เขานอนกับฉัน เขายังเรียกชื่อเธออยู่เลย !”
“เขาถึงกับให้ฉันแต่งตัวเหมือนเธอด้วย !”
“มู่หรงเสวี่ยเหิน ! ฉันเกลียดเธอ ! ครั้งนี้ฉันจะชนะเธอให้ได้ !”
หลี่เหมยตะโกนออกมา “ฉันอยากช่วยพี่เหอให้ชนะการสอบครั้งนี้ ฉันอยากพิสูจน์กับพี่เหอว่าฉันรักเขาที่สุด !”
ทันทีที่พูดจบก็มีแสงสีขาวส่องประกายออกมาจากตัวหลี่เหมยพร้อมร่างของเธอที่หายไป
เธอเลือกที่จะออกจากทีมและออกจากหอฝึกฝน
“พี่เหมย !” มู่หรงเสวี่ยเหินถอนหายใจออกมา “พี่เหมย เธอน่ะโดนตงฟางเหอหลอกแล้ว...ฉันไม่ได้ชอบตงฟางเหอเลยสักนิด ทำไมเธอถึงต้องทำแบบนี้ด้วย ?”
“ตงฟางเหอ ไอ้บัดซบ !” ฉือเหล่ยหอบหายใจ มันยากที่จะเห็นมู่ห่รงเสวี่ยเหินโกรธแบบนี้
“คุณหนู ! รีบหาทางออกจากที่นี่ การถอนตัวของหลี่เหมยน่ะส่งผลต่อเราอย่างมาก”
“เราควรเดินหน้าต่อรึยอมแพ้ ?”
มู่หรงเสวี่ยเหินส่ายหน้าและพูดขึ้น “พี่เหมยน่ะรู้จักสกิลของฉันดี ฉันมีสกิล [แสงศักดิ์สิทธิ์ชำระล้าง] ที่ลบดีบัฟออกจากตัวได้ เพราะเหตุผลทำให้เธอใช้น้ำผึ้งหยกทองที่ไม่อาจจะใช้สกิลนี้ลบล้างได้...”
“คงต้องยอมแพ้...”
“หือ ? ในที่สุดเราก็มาถึงชั้น 26 ฉันยังอยากได้โลกวิเศษอยู่...”
“โลกวิเศษ เรามาถึงชั้น 26 แล้วและได้สิทธิ์ในการสู้แบบเดี่ยวในวันพรุ่งนี้แล้ว !” มู่หรงเสวี่ยเหินพูดขึ้นมาด้วยท่าทีเยือกเย็น “พรุ่งนี้ฉันจะแย่งบัลลังก์คืนมาจากตงฟางเหอ !”
“ได้ ! คุณหนู !”