ตอนที่ 33 : พวกนอกรีต ! ชั้น 26 !
ตอนที่ 33 : พวกนอกรีต ! ชั้น 26 !
“ไป !”
“ชั้น 26 !”
“ทีมของตงฟางเหอถึงชั้น 26 แล้ว !”
“พระเจ้า ! เท่ากับสถิติแล้ว ! ทีมของตงฟางเหอก้าวทัดเทียมกับสถิติของเมืองปิ้นไห่ได้ !”
“เดี๋ยวนะ...มีทีมของเฉิงผิงอันด้วย ! ทีมของเฉินผิงอันทำได้เหมือนกัน !”
“แข็งแกร่งกันจริง ! ปีนี้ทั้งสองทีมก้าวมาทัดเทียมกับสถิติการสอบผู้ปลุกพลังหน้าใหม่ของเมืองปิ้นไห่ได้ นี่เป็นสถิติที่ไม่เคยมีใครทำลายได้มาหลายร้อยปีแล้ว !”
“หยางเฉินหลี่ ! ทีมของหยางเฉินหลี่ก็มาด้วย !”
“มู่หรงเสวี่ยเหินอีก ! พระเจ้า ทีมของเทพธิดามู่หรงก็มาถึงชั้น 26 แล้ว !”
“มี 4 ทีม ! ทั้งหมด 4 ทีม !”
ในลานหอฝึกฝน ตอนที่ทีมของตงฟางเหอขึ้นไปถึงชั้น 26 ผู้ชมหลายหมื่นคนที่ลานก็เริ่มเฮ
แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงบนเวทีต่างก็พากันดีดตัวลุกขึ้นยืน
“ชั้น 26 !”
“เมืองปิ้นไห่โด่งดังแน่ ! มี 4 ทีมที่เข้าไปถึงชั้น 26 ได้ !”
“ตระกูลตงฟางกับตระกูลมู่หรง สองตระกูลนี้มีมังกรอยู่กับตัว !”
“ตระกูลเฉินก็ไม่ได้แย่ ฉันจับตาดูตั้งแต่เฉินผิงอันเติบโตขึ้นมา เขาก็ไม่ได้น้อยหน้าคนอื่น !”
“แล้วหยางเฉินหลี่มาจากตระกูลไหน ?”
“ไม่ ไม่ ไม่ หยางเฉินหลี่น่ะมาจากตระกูลธรรมดา พ่อแม่เขาเป็นแค่ครูโรงเรียนประถม”
“ไปหาตัวพ่อแม่เขามา ! ลูกสาวฉันเพิ่งอายุ 13 ปี เธอน่ะอายุมากพอที่จะแต่งงานแล้ว...”
“ฮ่าฮ่า หยางเฉินหลี่น่ะถูกเลือกแล้ว พี่หลิน นายอาจจะช้าไปหน่อย...”
“ตงฟางเหอถูกรับเข้าโรงเรียนทหารตะวันออกเฉียงใต้ มหา’ลัยหลักที่เมืองหลวงคงไม่มีทางปล่อยมู่หรงเสวี่ยเหิน, เฉินผิงอัน และหยางเฉินหลี่ไปแน่ ! คนในทีมพวกนี้...”
“พี่จาง มันไม่ยุติธรรมเลย นี่พี่จะเอาผู้ปลุกพลังอาชีพระดับ S ไปถึง 4 คนเลยรึไง ใครจะไปยอม ?”
“ใช่ มหา’ลัยปิ้นไห่ของเราก็ไม่ได้น้อยหน้าใคร ! พวกเขาต้องอยู่ที่มหา’ลัยปิ้นไห่ !”
“มหา’ลัยปิ้นไห่จะมาเทียบกับมหา’ลัยหัวฉิงได้ยังไง ?”
“ชิ ! มหา’ลัยหัวฉิง ? ไม่ใช่ว่าเป็นที่ฝึกสำหรับผู้ปลุกพลังต่างชาติรึไง ?”
“เฮงซวยเอ้ย ! เราพยายามสนับสนุนผู้ปลุกพลังทั้งโลก เชื่อมั้ย ฉันจะฟ้องนาย....นายกำลังทำให้ฉันเสียชื่อเสียง...”
ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ระดับสูงบนเวทีพากันทะเลาะกันเพื่อแย่ง 4 คนนี้
แต่เสียงอุทานของพวกเขาก็ถูกขัดโดยเสียงฮือฮาของผู้ชมคนอื่น ๆ
“นี่มันบ้าอะไร ! เกิดอะไรขึ้นที่ชั้น 23 ?”
“มีคนตกรอบอีกแล้วเหรอ ?”
“พิษอีกแล้ว !”
“แปลก ไม่ใช่ว่ามอนเตอร์ที่ชั้น 23 เป็นจระเข้บึงกับอนาคอนด้าบึงและปิรันย่าไม่ใช่เหรอ ? แล้วมอนสเตอร์พิษนี่มาจากไหน ?”
“เฮ้ย! คงไม่ใช่ว่าเป็นบอสเหมือนชั้น 21 กับ 22 หรอกนะ ?”
“บอสพิเศษที่เข้าออกแต่ละชั้นได้อย่างอิสระกำลังไล่ล่าผู้ปลุกพลังหน้าใหม่งั้นเหรอ ?”
“ท่าไม่ดีแล้ว ! ต้องเป็นแบบนั้นแน่ ! ผู้ปลุกพลังในชั้น 21 และ 22 น่ะต้องหนีออกมาหมด ตอนนี้ถึงเวลาของชั้น 23 แล้ว !”
“ยังเหลือชั้น 24 กับ 25 อีก...”
“นี่มันจะไล่ล่าไปถึงชั้น 26 เลยรึเปล่า ?”
“บัดซบ ! ใน 3 ชั้นนี้เหลือไม่ถึง 100 ทีมแล้ว...”
เสียงโวยวายดังอื้ออึ้งไปทั่วทั้งลาน สีหน้าของคนบนเวทีเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
“เกิดอะไรขึ้น ? บอสพิเศษโผล่มาเหรอ ?”
“เริ่มตั้งแต่ชั้น 21 มันจะไล่คนออกมาจนถึงชั้น 26 เลยรึเปล่า ?”
“ไม่ ไม่ ไม่ ฉันคิดว่ามันเป็นฝีมือคน...”
“ฝีมือคน ? นี่จะบอกว่ามีพวกนอกรีตแฝงตัวเข้ามาในการสอบเข้ามหา’ลัยเนี้ยนะ ?”
“ใช่ ! พวกนอกรีตบัดซบ !”
“พวกมันขายวิญญาณและมอบทุกอย่างให้กับปิศาจแลกกับพลัง ! พวกมันต้องการทำลายโลกนี้ !”
เมื่อ 300 ปีก่อน ด้วยการรุกรานจากต่างโลก ผู้ปลุกพลังของเผ่ามนุษย์ได้นำพาให้เหล่ามนุษย์รอดกันมาได้อย่างยากลำบาก
ในเหตุการณ์นี้ คนธรรมดากับผู้ปลุกพลังบางคนนั้นยอมแลกพลังกับปิศาจเพราะอนาคตที่ไม่แน่นอนและเพื่อความแข็งแกร่ง พวกเขาเปลี่ยนเป็นปิศาจที่มาจากต่างโลกเพื่อแลกกับพลัง !
ในมุมมองของพวกเขา จุดจบของโลกนั้นมาถึงแล้ว มันบ่งบอกว่าการกลายเป็นปิศาจนั้นเป็นทางเดียวที่พวกเขาจะรักษาเผ่ามนุษย์เอาไว้ได้
ดังนั้นพวกเขาจึงหลบซ่อนอยู่ในเงามืดค่อยสร้างปัญหาให้กับมนุษย์ พวกเขาตั้งใจที่จะแย่งอำนาจและปกครองโลกนี้ให้เหล่าปิศาจพอใจ
คนกลุ่มนี้ถูกเรียกว่าพวกนอกรีต !
ปิศาจและคนชั่วนั้นมีอยู่แทบทุกมุมในโลก !
“มีแค่พวกนอกรีตที่ทำแบบนี้ได้ ด้วยความช่วยเหลือจากอาวุธปิศาจ พวกมันถึงทำแบบนี้ได้ !”
“พวกมันตั้งใจที่จะฆ่าผู้ปลุกพลังหน้าใหม่ทั้งหมดที่เข้ารับการสอบและสร้างคามเสียหายให้กับผู้ปลุกพลังในเมืองปิ้นไห่ !”
“ไม่หรอก !” มีคนตั้งคำถาม “ถ้านั่นเป็นฝีมือของพวกนอกรีตจริง งั้นพวกมันจะปล่อยให้เด็กพวกนี้ออกจากหอฝึกฝนได้ยังไง ?”
“ด้วยความเร็วในการฆ่ามอนสเตอร์ภายในหอฝึกฝนแล้ว งั้นการฆ่าผู้ปลุกพลังก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย !”
“หึหึหึ...ผู้ปลุกพลังทั่วไปไม่ใช่เป้าหมายของพวกมันยังไงล่ะ !” ชายแก่คนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยท่าทีมั่นใจ “มีแค่ผู้ปลุกพลังอาชีพระดับ S ทั้งสี่คนต่างหากคือเป้าหมายที่แท้จริงของมัน !”
“ไม่ว่าพวกมันจะฆ่าเด็ก ๆ พวกนี้เพื่อนำไปบูชายัญให้กับเทพปิศาจรึไม่หรือ แม้แต่จะล่อลวงให้เด็ก ๆ หันไปเป็นพวกตัวเองด้วย ทว่ามันจะส่งผลเสียต่อเราอย่างมาก !”
“เราจำเป็นต้องตรวจสอบเรื่องนี้ !”
“บัดซบเอ้ย ! พวกนี้กลับหมายหัวผู้ปลุกพลังอาชีพระดับ S หน้าใหม่ พวกนอกรีตนี่สมควรตาย !”
“เราควรทำยังไงกันดี ? รึว่าเราควรไปหยุดการสอบเอาไว้ ?”
“ไม่ ! ถ้าเราหยุดการสอบ งั้นมันก็เป็นไปตามแผนของพวกนอกรีต !” ชายแก่กัดฟันแน่นและพูดขึ้นมา “ตอนนี้เราทำได้แค่เชื่อในตัวผู้ปลุกพลังอาชีพระดับ S ทั้งสี่คน สี่คนนี้เป็นอัจฉริยะ !”
“ระหว่างการสอบในทุก ๆ ปี หอฝึกฝนจะปิดตัว มีแค่ผู้ปลุกพลังหน้าใหม่เท่านั้นที่จะเข้าไปได้”
“อาวุธปิศาจมันแปลกและน่ากลัวก็จริง ทว่าพวกนอกรีตที่แฝงตัวเข้าไปได้คงเป็นแค่ผู้ปลุกพลังหน้าใหม่เหมือนกัน เรามีผู้ปลุกพลังอาชีพระดับ S หน้าใหม่ถึง 4 คน ตอนนี้เราได้แต่ภาวนาให้พวกเขาฆ่าพวกนอกรีตได้ !”
ที่นอกหอฝึกฝน มันมีแสงสีขาวจาง ๆ ส่องประกายอกมา
มีสามคนปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าทุกคน
“นั่น...หยางเฉินหลี่นิ ?”
“ทีมของหยางเฉินหลี่ออกมาแล้ว !”
“ชั้น 26 !”