บทที่ 37 หนีไม่คิดชีวิต
มีเพียงสัตว์อสูรระดับสองดาวเท่านั้น ที่มีพลังปีศาจอัดแน่นอยู่ในร่าง จนสามารถแผดเสียงคำรามอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ได้
หลัวเฉิงไม่แสดงความลังเลแม้แต่น้อย เขาหันไปในทิศตรงข้ามกับเสียงนั่น แล้ววิ่งอย่างรวดเร็วทันที
โครม!
ขณะหลัวเฉิงกำลังวิ่งหนีอยู่นั้น ต้นไม้ใหญ่เมื่อครู่ที่เขาหลบอยู่ ก็ถูกหักโค่นลงโดยวัวปีศาจขนาดใหญ่
วัวปีศาจนั้นมีความยาวลำตัวมากกว่าสิบสองวา มีเขาวาวสีเงินคู่หนึ่งอยู่บนหัว ลำตัวของมันถูกปกคลุมไปด้วยหนังที่แตกเป็นลายคล้ายหิน ซึ่งมันดูราวกับก้อนดินขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนไหวอยู่
“กระทิงเขาเงิน!” หลัวเฉิงมองย้อนกลับ ครั้นปรากฏรูปลักษณ์เขาก็อุทานด้วยความตกใจ
ใบหน้าเขาเปลี่ยนสีเป็นพรั่นพรึง แล้วกัดฟันเร่งความเร็วจนสุดขีด ประหนึ่งหนีไม่คิดชีวิต
มันเป็นสัตว์อสูรระดับสองดาวจริงๆ!
กระทิงเขาเงิน เป็นสัตว์อสูรระดับต่ำสองดาวที่มีพลังป้องกันอันแข็งแกร่งจนน่าอัศจรรย์ แม้นจะใช้ดาบรุมฟาดฟันก็ยากนักจะทำลายได้
ต่อให้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหนึ่ง หากได้เผชิญหน้ากับมันก็จำต้องล่าถอยเช่นกัน!
ม่อ!
แม้นหลัวเฉิงจะวิ่งเร็วมากขนาดนี้ แต่ทว่า กระทิงเขาเงินนั้นกลับเร็วยิ่งกว่า มันเร่งฝีเท้าไล่ตามเขาอย่างบ้าคลั่ง กระทั่งต้นไม้ที่ขวางทางมันก็ถูกชนจนโค่นล้มระเนระนาด!
เมื่อเห็นมันพุ่งเข้ามาเช่นนั้น ความหวาดกลัวก็ผุดขึ้นในใจของหลัวเฉิง หากเขาถูกมันใช้เขาคู่นั้นโจมตี เกรงว่าคงมิอาจมีชีวิตรอดออกไปได้แน่!
ตอนนี้เขาต้องหนีให้ได้ หลัวเฉิงมิได้คิดสิ่งใดอีก เขาโยนหีบที่บรรจุชิ้นส่วนสัตว์อสูรออกไปทันที แล้ววิ่งหลบสับฟันปลาซ้ายขวาเพื่อหลบหนี มาตรว่าวิธีนี้อาจทำให้มันช้าลงบ้างก็เป็นได้
โครม โครม…
แต่ดูเหมือนว่า วิธีของเขาจะใช้ไม่ได้ผลเสียแล้ว เสียงต้นไม้ยังหักโค่นอย่างต่อเนื่อง และเขาเงินวาวคู่นั้นก็ยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ร้อยฉื่อ!
หกสิบฉื่อ!
ยี่สิบฉื่อ!
หลัวเฉิงรู้สึกว่าเสียงคำรามของมันนั้นเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ด้วยระยะห่างที่สั้นลงอย่างต่อเนื่อง พานให้เขารู้สึกหนาวสันหลังเป็นที่สุด แม้แต่หนังศีรษะก็ยังชาในตอนนี้
ทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็วาวสว่างขึ้น
ด้วยหนทางข้างหน้าไม่ไกลนัก มีหุบเขาหินที่มีรอยแตกขนาดใหญ่ ซึ่งพอดีกับให้คนหนึ่งเข้าไปได้ เขาจึงตัดสินใจจะเข้าไปหลบอยู่ตรงนั้น
เพียงแต่ขณะนี้ ระยะห่างระหว่างเขากับรอยแตกนั้นราวห้าสิบจั้งเห็นจะได้ ด้วยระยะขนาดนี้เกรงว่าจะมิทันการณ์เป็นแน่
นั่นเพราะ แผ่นหลังเขาขณะนี้ อยู่ห่างจากเขาคู่เงินวาวของกระทิงเพียงเอื้อมมือ!
“หากจะรอด มีแต่ต้องสู้เท่านั้น!”
โดยไร้สิ้นหนทางหนีรอด หลัวเฉิงจึงต้องกัดฟันแล้วหันกลับมาสู้กับมันในทันที
“ย้ายภูผาเคลื่อนมหาสมุทร!” หลัวเฉิงตะคอกต่ำในลำคอ
เขาปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ออกมา แล้วกระโจนปราดเหนือพื้นพสุธา พร้อมโคจรปราณแท้ไปรวมไว้หมัดขวา จากนั้นก็ชกออกไปอย่างรุนแรงด้วยพลังทั้งหมดที่มี
ปัง!
อสูรกระทิงไม่คิดเลยว่า หลัวเฉิงจะกล้าหันหลังกลับมาสู้กับมัน ขณะที่มันไม่ทันระวังตัวก็ถูกหมัดของหลัวเฉิงชกเข้าอย่างแรงจนต้องล่าถอย
หลัวเฉิงอาศัยโอกาสจากแรงปะทะนี้ พุ่งเข้าไปตรงรอยแตกของหุบเขาทันที
บูม!
หน้าผาหินสูงชันและพื้นที่หุบเขาโดยรอบสั่นสะเทือน!
เกือบจะทันทีที่หลัวเฉิงเข้าไปในรอยแตกนั้น กระทิงเขาเงินก็พุ่งเข้ามากระแทกเข้ากับหินผาตรงนั้นอย่างฉับพลัน
ด้วยความแรงของมันทำให้ผาหินแตกกระจาย ส่งเศษหินปลิวกระจายออกไปทั่วอาณาบริเวณโดยรอบ พร้อมพื้นปฐพีในหุบเขาถึงกับสั่นสะเทือน
“เกือบไปแล้ว!”
หลัวเฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ด้วยความโล่งใจเป็นที่สุด
แต่เมื่อเขามองออกไปที่ด้านนอกรอยแตก จู่ๆ ก็ปรากฏเงาทะมึนขนาดใหญ่พุ่งลงมากัดคอของกระทิงเขาเงินอย่างกะทันหัน
ควับ!
สัตว์อสูรขนาดยักษ์แยกเขี้ยว แล้วฉีกหัวของกระทิงออกอย่างรุนแรงจนเลือดสาดกระเซ็นปกคลุมไปทั่วพื้นที่
ครั้นที่มันอ้าปากออกเลือดอันน่าสะอิดสะเอียนของกระทิงก็ไหลหยาดลงบนพื้น ส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วอาณาบริเวณ!
“เสือดาวเกล็ดเพลิง สัตว์อสูรระดับกลางสองดาว!”
หลัวเฉิงสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ จากนั้นหันหลังกลับแล้วรีบวิ่งหนีไปให้ไกลจากตรงนี้
ด้วยพลังของเขาในตอนนี้นั้น แทบไม่สามารถสยบสัตว์อสูรระดับต่ำสองดาวได้ หากต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับกลางสองดาว มีเพียงหนทางเดียวนั่นคือความตายเท่านั้น!
โชคดีที่เสือดาวเกล็ดเพลิงกำลังให้ความสนใจกับการกินกระทิงอยู่ มันจึงไม่ทันสังเกตเห็นหลัวเฉิง
อย่างไรก็ตาม หลัวเฉิงก็ไม่กล้าเสี่ยงอยู่ต่อ เขารีบวิ่งออกจากรอยแตกไปทะลุอีกด้านหนึ่งอย่างรวดเร็ว จากนั้นวิ่งต่อไปไกลกว่าสิบลี้ มาตรว่าไกลพอแล้วจึงหยุดพักหายใจ
“โชคดีที่ข้าวิ่งเร็ว ไม่เช่นนั้นคงได้ตายอยู่ที่นั่นแน่!”
หลัวเฉิงคลายปอดยาวลดความกังวลในใจ แต่เมื่อกวาดสายตามองไปยังพื้นที่โดยรอบ คิ้วของเขาก็พลันขมวดทันที