ตอนที่แล้วบทที่ 232 พี่ใหญ่เหล่ยค้นพบธารสายฟ้าแห่งทัณฑ์สวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 234 กล่าววาจาไร้สาระประหนึ่งคนเสียสติ!

บทที่ 233 ใช่สิ เจ้าเป็นคนที่กินดีอยู่ดี


ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เพราะใคร่ให้บิดามารดาใช้มันขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ทำความสะอาดกล้ามเนื้อ ตัดไขกระดูกแลเสริมสร้างอายุขัยพวกเขา ธารสายฟ้าแห่งทัณฑ์สวรรค์จึงถูกหยางเสี่ยวเทียนใช้ไปแล้วมากกว่าครึ่ง

ส่วนหนึ่งของการได้มีสิทธิ์เข้าร่วมสำนักเทียนโต้ว ก็เพื่อค้นหาธารสายฟ้าแห่งทัณฑ์สวรรค์ในภายภาคหน้า เพียงไม่คิด ว่าจะมีธารสายฟ้าแห่งทัณฑ์สวรรค์ในดินแดนสัตว์อสูร

“อะไรนะ ธารสายฟ้าแห่งทัณฑ์สวรรค์รึ! มีธารสายฟ้าแห่งทัณฑ์สวรรค์ในดินแดนสัตว์อสูรแห่งนี้ด้วยหรือ!” เหยาติงที่หลับใหลเกือบตลอดเวลา ตื่นขึ้นทันทีหลังได้ยินสิ่งนี้

“เร็วเข้า เสี่ยวเทียน ติดตามพวกเขาไป!” เหยาติงกล่าวกระตือรือร้น

หยางเสี่ยวเทียนสัมผัสถึงความตื่นเต้นเหยาติง จึงเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์ติง ไม่จำเป็นต้องตื่นเต้นขนาดนั้น”

เหยาติงกลอกตา “ใช่สิ เจ้าเป็นคนที่กินดีอยู่ดี จะไปเข้าใจความรู้สึกคนที่กำลังอดอยากอยู่ได้อย่างไร”

เพราะมันต้องดูดซับธารสายฟ้าแห่งทัณฑ์สวรรค์เพื่อการบ่มเพาะตนทุกวันนี้ ธารสายฟ้าในส่วนของเหยาติงจึงถูกใช้หมดไปนานแล้ว

ภายใต้การรบเร้าของเหยาติง หยางเสี่ยวเทียนจำต้องออกติดตามกลุ่มศิษย์จากสำนักเหล่ยถิง

จากเกือบทั้งหมดที่เข้าร่วมการแข่งขันระดับสำนักครั้งนี้ ศิษย์สำนักเหล่ยถิงห้าถึงหกสิบคนเหล่านี้ ค่อนข้างกลุ่มใหญ่ทีเดียว

ส่วนหนึ่งในศิษย์อัจฉริยะที่เข้าร่วมจากสำนักเหล่ยถิง ความแข็งแกร่งก็นับว่าไม่ธรรมดา เพราะมีพลังยุทธ์อยู่ในขั้นราชันยุทธ์ระดับสี่ขั้นกลาง

ในบรรดาศิษย์สำนักเหล่ยถิง ที่เข้าร่วมการแข่งขันระดับสำนักครานี้ มีศิษย์อัจฉริยะสองคนที่อยู่เหนือขั้นราชันยุทธ์ระดับสี่ คนหนึ่งคือเหล่ยจื่อและอีกคนคือเฉินไห่หลิน

ซึ่งศิษย์ผู้คอยชี้นำกลุ่มอยู่เพลานี้ แข็งแกร่งในขั้นราชันยุทธ์ระดับสี่ขั้นปลาย และดูเหมือนจะคือเฉินไห่หลิน

หยางเสี่ยวเทียนตัดสินใจติดตามเฉินไห่หลินและศิษย์คนอื่นๆ มาถึงยังพงไพรหนาทึบแห่งหนึ่ง ซึ่งมาตรว่าคือสถานที่เป้าหมาย

ทุกคนจากสำนักเหล่ยถิง ต่างไม่มีผู้ใดหยุดเคลื่อนไหวหรือลดความเร็วแม้ไพรเบื้องหน้าอาจคือหลุมพราง แต่บรรดาศิษย์ที่นำโดยเฉินไห่หลินกลับไม่มีทีท่าหวาดหวั่น บ่งบอกว่าศิษย์สำนักนี้ วางใจแลเชื่อถือกันไม่น้อย

หลังเข้าสู่อาณาบริเวณป่าไพรหนาทึบได้สักพัก เสียงการต่อสู้ที่ดุเดือดพร้อมความผันผวนของพลังอันรุนแรง แผ่ขยายส่งมากระทั่งทุกคนสัมผัสได้ชัดเจน

มาตรว่าการปะทะกันอย่างเดือดพล่านเช่นนี้ คงเป็นเหล่ยจื่อซึ่งกำลังประจัญหน้ากับศิษย์สำนักเสินไห่และสำนักยวินฮุย

ครั้นเฉินไห่หลินรับรู้ถึงพลังอันน่าหวาดหวั่นส่งออกมามิหยุดพักเช่นนี้ เขาก็เร่งนำศิษย์สำนักเหล่ยถิงมุ่งหน้าเข้าเสริมกำลังการต่อสู่นี้อย่างรีบร้อน

ทันทีหลังทุกคนมาถึงสถานที่เกิดเหตุ หยางเสี่ยวเทียนก็ได้เห็นการเผชิญหน้ากันของคนทั้งห้า หรือกล่าวให้ถูกคือ มีเพียงเหล่ยจื่อจากสำนักเหล่ยถิงที่ถูกบุรุษสี่คนเข้ารุมล้อมรอบทิศ

บรรดาสี่คนที่ปิดล้อมเขา หนึ่งในนั้นคือคนซึ่งหยางเสี่ยวเทียนคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี เติ้งอี้ชุนจากสำนักยวินฮุย ส่วนอีกสามคนนั้น เป็นศิษย์สำนักยวินฮุยหนึ่ง และอีกสองคนคือศิษย์สำนักเสินไห่

ในการแข่งขันระดับสำนักคราวนี้ เติ้งอี้ชุนได้รับแต่งตั้งเป็นผู้นำบรรดาศิษย์จากสำนักยวินฮุย เพราะความแข็งแกร่งเขาอยู่ในขั้นราชันยุทธ์ระดับสี่ขั้นปลาย นับว่าเก่งกาจมากกว่าผู้ใดในกลุ่ม

แต่อีกสามคนก็หาใช่อ่อนแอไม่ อย่างหนึ่งในสองคนจากสำนักเสินไห่ เฉิงเซิ่ง พลังยุทธ์แข็งแกร่งในขั้นราชันยุทธ์ระดับสี่ขั้นปลาย เช่นเดียวกับเติ้งอี้ชุน และอีกคนคือเฉิงหวู่ อยู่ในขั้นราชันยุทธ์ระดับสี่ขั้นกลาง

อย่างไรก็ตาม แม้เติ้งอี้ชุนและบุรุษทั้งสามจะร่วมมือกันจู่โจมเหล่ยจื่อ บุตรสายฟ้ากลับก็ยังคงโต้ตอบหรือถอยกลับขณะควบคุมสถานการณ์ได้มั่นคง ด้วยท่าทีผ่อนคลายเด็ดเดี่ยวดุจมังกรแกร่ง

ในทางกลับกัน สีหน้าเติ้งอี้ชุนและบุรุษทั้งสามต่างแสดงท่าทีเคร่งขรึม ดูเหนื่อยล้าเพราะมักถูกหมัดของเหล่ยจื่อกระแทกกลับทุกคราที่พวกเขาโจมเข้าหา

เหล่ยจื่อมีส่วนสูงเกือบหกฉื่อและร่างกายทรงพลังมาก โดยเฉพาะแขนเขา

แม้หยางเสี่ยวเทียนจะเฝ้าดูสถานการณ์จากระยะไกล เขาก็สามารถสัมผัสถึงแรงกดดันที่แผ่ซ่านปกคลุมรอบกายเหล่ยจื่อแผ่ขยายออกมาได้อย่างแก่กล้าน่าอัศจรรย์ไม่น้อย

ความรู้สึกกดดันเช่นนี้ ไม่ได้มาจากความแข็งแกร่งด้านพลังยุทธ์ของเหล่ยจื่อ แต่มาจากพลังในกายเขาเองที่แผ่ขยายกลิ่นไออันน่าอึดอัดออกมา

“มีกายสวรรค์ประทานหรือ” หยางเสี่ยวเทียนประหลาดใจ

อัจฉริยะบางคนก็มีวิญญาณยุทธ์แปรผัน บางคนมีสติปัญญาในการเรียนรู้ที่น่าเหลือเชื่อ และก็มีอัจฉริยะบางคนที่เกิดมาพร้อมร่างกายพิเศษดุจดั่งสวรรค์ประทาน

อัจฉริยะผู้เกิดมาพร้อมกายสวรรค์ประทาน ร่างกายจะมีความแข็งแกร่งพิเศษกว่ากายาเหล่าวิญญาจารย์ทั่วไปมาก ทั้งยังมีพรสวรรค์ในการฝึกฝนที่ก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วมิต่างกัน

อย่างไรก็ตาม ในโลกแห่งวิญญาจารย์ก็มีเพียงอัจฉริยะไม่กี่คนเท่านั้น ที่มีกายสวรรค์ประทานเช่นนี้

ซึ่งบุตรสายฟ้าคนนี้ น่าจะเป็นหนึ่งในอัจฉริยะเหล่านั้น แรงกดดันอันแปลกประหลาดที่หยางเสี่ยวเทียนสัมผัสได้เมื่อครู่จากกายเขานั้น เป็นแรงกดดันที่เกิดจากกายสวรรค์ประทานแน่นอน

“มิผิด นี่คือกายแสงอัสนี เป็นหนึ่งในกายสวรรค์ประทานเหล่านั้น” เสียงเหยาติงดังขึ้น

“กายแสงอัสนีงั้นหรือ” หยางเสี่ยวเทียนอุทานด้วยความประหลาดใจ

“กายแสงอัสนี เป็นหนึ่งในกายสายฟ้าสวรรค์ประทาน และถือว่าเป็นกายที่ทรงพลังอย่างมากในบรรดากายสายฟ้าด้วยกันเอง” เหยาติงกล่าวน้ำเสียงเคร่งขรึม

หยางเสี่ยวเทียนพยักหน้า

เมื่อเห็นเฉินไห่หลินและคนอื่นๆ มาถึง เหล่ยจื่อก็ไม่รอช้า พลันกระชับหมัดแล้วชกออกไปทันที เป็นการบีบให้เติ้งอี้ชุนกับคนทั้งสามต้องล่าถอยพร้อมกัน

จากนั้นหันกลับมายืนตัวเหยียดตรงประดุจหอก ก่อนไพล่มือไปด้านหลังด้วยท่าทีองอาจสง่าผ่าเผย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด