บทที่ 171: เตรียมกองทัพ (ตอนฟรี)
บทที่ 171: เตรียมกองทัพ (ตอนฟรี)
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของลู่หยวนพร้อมด้วยทหารชั้นยอดนับพันที่เขามีอยู่ และแม้กระทั่งการพิจารณาผู้กล้าประจำหมู่บ้านนับหมื่นเหล่านั้น
ด้วยความแข็งแกร่งดังกล่าว ตราบใดที่เขาต้องการ มันก็จะไม่มีนิกายหน้าไหนสามารถต้านทานเขาได้ เว้นก็แต่นิกายห้าพิษ
“ครั้งหนึ่งข้าเคยคิดที่จะเลียนแบบหลี่เซียงและยึดการควบคุมดินแดนมาโดยตรง แต่ตอนนี้ข้าก็มีตัวอย่างแล้ว”
“และการโจมตีนิกายโลกยุทธ์โดยไม่มีเหตุผลนั้นก็ไม่ใช่เรื่องดี มันอาจนำปัญหากลับมาหาข้าแทนได้”
“บางทีข้าควรจะรอดูว่านิกายโลกยุทธ์ใดบ้างที่ไม่สามารถนั่งนิ่งๆ ได้และมีท่าทีคิดจะเข้าร่วมการกบฏกับนิกายห้าพิษ”
“และเมื่อนั้น ข้าก็จะสามารถใช้การสนับสนุนจากราชสำนักโดยอ้างความชอบธรรมและนำทัพไปปราบกบฏได้ แล้วจากนั้นข้าก็จะได้รับมาทั้งบุญและเงินทองจากพวกกบฎมาเลยพร้อมๆ กัน”
“เป็นแผนที่ดีอะไรอย่างนี้กันนะ?”
ลู่หยวนไม่เชื่อว่านิกายในโลกยุทธ์จะล้วนเป็นคนซื่อสัตย์และมีอัธยาศัยดีรักความเป็นธรรม
ในโลกที่วุ่นวายเช่นนี้ คนที่มีความทะเยอทะยานก็หาได้ไม่ยาก
แม้แต่คนที่รอบคอบเช่นเขาเองก็ยังเคยอยากเลียนแบบความสำเร็จของหลี่เซียง
สำหรับพวกอายุขัยสั้นแบบหลี่เซียงแล้ว ชีวิตที่จำกัดของพวกเขาก็จะกดดันให้พวกเขาลงมือทำเช่นนั้น
และหลังจากผ่านไปไม่นาน เมื่อพวกเขาเห็นความเสื่อมถอยของราชสำนัก มันก็จะมีการกบฏและการต่อสู้กันอย่างกว้างขวาง
ในเวลานั้น กลุ่มกบฏเหล่านี้จะกลายมาเป็นอาหารบำรุงเลี้ยงและก้าวย่างบนเส้นทางสู่การเป็นปรมาจารน์ขอบเขตก่อกำเนิดของเขา
หลังจากประเมินสถานการณ์คร่าวๆ แล้ว ลู่หยวนก็ดำเนินการตามแผนของเขาเองอย่างเป็นธรรมชาติ
เพื่อปราบปรามกลุ่มกบฏที่กำลังจะเกิดขึ้น เขาต้องมีกำลังเพียงพอ
ความแข็งแกร่งมีสองประเภท
หนึ่งคือความแข็งแกร่งส่วนบุคคล และอีกหนึ่งคือความแข็งแกร่งส่วนหมาหมู่
สำหรับความแข็งแกร่งส่วนตัว ลู่หยวนก็เกือบจะถึงขีดจำกัดแล้ว หากไม่มีวิธีการต่อไป เขาก็จะไม่สามารถก้าวหน้าไปได้มากนัก
แต่สำหรับความแข็งแกร่งส่วนหมาหมู่นั้น มันสามารถตบหัวความแข็งแกร่งส่วนตัวได้เลย
ลู่หยวนยังคงวางแผนที่จะใช้ธงของต้าเยว่คุ้มหัว และใช้ความแข็งแกร่งของราชสำนักในปัจจุบันหากิน
ท้ายที่สุดแล้ว ขีดจำกัดของทหารหนึ่งพันนายก็เป็นโควต้าของทหารเมืองฟู่เท่านั้น มันยังไม่รวมทหารประจำมณฑลระดับล่าง
จังหวัดเส้าหยางมีสิบมณฑล และแต่ละมณฑลก็มีโควต้าทหารประจำมณฑลหนึ่งร้อยคน
ไม่ว่าทหารประจำมณฑลหรือเมืองฟู่ โดยพื้นฐานแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็เป็นทหารประจำที่ได้รับเงินจากราชสำนัก โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาจึงแตกต่างไปจากผู้กล้าในหมู่บ้านที่ถูกเกณฑ์มาชั่วคราว
ดังนั้นหลังจากปรึกษากับซุยคังฉิงแล้ว และด้วยความเห็นชอบของเขา ลู่หยวนจึงสั่งให้ทหารประจำมณฑลทั้งหมดจากแต่ละมณฑลมารวมตัวกันที่เมืองฟู่ และเตรียมมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือมณฑลซินหัว
เพียงรอให้ทหารเหล่านี้มาถึง พร้อมกับทหารเมืองฟู่หนึ่งพันคนที่เขามี กำลังทั้งหมดก็จะกลายเป็นหนึ่งพันเก้าร้อยนาย
เมื่อถึงเวลานั้น การเพิ่มผู้ฝึกยุทธ์ที่มีทักษะจากหมู่บ้านเพื่อสร้างกองทัพที่แข็งแกร่งห้าพันนายก็จะไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้
ด้วยกองทัพขนาดใหญ่เช่นนี้และลู่หยวนซึ่งเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่งเป็นกระดูกสันหลัง แม้ว่าผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตก่อกำเนิดจะมา แต่พวกเขาก็อาจไม่สามารถเอาชนะกองทัพของเขาได้อยู่ดี
เป็นเพราะความแข็งแกร่งอันแข็งแกร่งนี้เอง มันจึงทำให้เขากล้าที่จะก้าวข้ามบรรทัดฐานในช่วงเวลาที่วุ่นวายเหล่านี้
คำสั่งถูกส่งลงไป
เนื่องจากเจ้าหน้าที่เมืองฟู่ดูแลการส่งคำสั่ง จังหวัดและมณฑลจึงจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างน่าอัศจรรย์
คำสั่งให้จัดกำลังทหารประจำมณฑลและการคัดเลือกทหารได้รับการดำเนินการอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเพียงห้าวัน นอกเหนือจากมณฑลซินหัวที่ถูกปิดล้อมแล้ว ทหารประจำมณฑลและผู้กล้าจากหมู่บ้านจากอีกเก้ามณฑลก็ได้มารวมตัวกันในเมืองฟู่
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คนเหล่านี้มาถึง ลู่หยวนก็พบว่าทหารจากเก้ามณฑลไม่ได้มีเจ้าหน้าที่เต็มจำนวน
ในมณฑลที่ดีกว่าเล็กน้อยอย่าง มณฑลอู๋กังที่เขาเคยอยู่ มันยังคงมีทหารประจำมณฑลที่มีความสามารถประมาณเจ็ดสิบถึงแปดสิบนาย แต่ในมณฑลอื่นๆ ที่มีอุปกรณ์ไม่ดี มันจะมีทหารประจำเทศมณฑลที่มีความสามารถเพียงยี่สิบถึงสามสิบนายเท่านั้น
ในสถานการณ์เช่นนี้ ทหารประจำมณฑลเก้าร้อยนายจึงมีเพียงห้าร้อยนายเท่านั้นในความเป็นจริง
ยิ่งไปกว่านั้น ในบรรดาห้าร้อยคนเหล่านี้ มากกว่าสองร้อยคนก็ไม่ได้มีวรยุทธ์อะไรเลย
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ลู่หยวนก็โกรธจัด
เขาถือว่าทหารเหล่านี้เป็นโล่ของเขา โดยอาศัยจำนวนทหารเพื่อต่อต้านและทำลายศัตรู
เมื่อโล่แสดงข้อบกพร่องและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ ความโกรธของเขาจึงมีมากมายมหาศาล
ผู้บัญชาการที่โกรธเกรี้ยวย่อมทำให้ทั้งกองทัพสั่นคลอน
ลู่หยวนสั่งปลดทหารประจำมณฑลที่ไม่มีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งหมดทิ้งไปโดยตรง
ทหารส้นตีนที่รู้แต่จะกดขี่ประชาชนทั่วไปและหนีหางจุกตูดเมื่อเผชิญหน้ากับอันตรายนั้นไม่มีประโยชน์พอจะให้กองทัพกูชุบเลี้ยง!
หลังจากกำจัดตัวปัญหาเหล่านี้แล้ว เขาก็สั่งให้เลือกทหารชั้นยอดจากผู้กล้าประจำหมู่บ้านที่ถูกเกณฑ์มาเพื่อเติมเต็มช่องว่างในมณฑล
น่าแปลกที่งานนี้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
ผู้กล้าในหมู่บ้านที่ได้รับเลือกเหล่านั้นได้ฝึกฝนวรยุทธ์มาบ้างแล้วและเป็นคนที่นับว่าแข็งแกร่งแล้ว รวมถึงนายพรานภูเขาหลายคนที่เคยมีประสบการณ์การต่อสู้มาก่อน
ดังนั้นการเลือกทหารใหม่จากคนเหล่านี้จึงไม่ใช่เรื่องยากนัก
หลังจากเลือกคนได้ประมาณหกร้อยคนแล้ว ในที่สุดทหารประจำเมืองเก้าร้อยนายก็เสร็จสมบูรณ์...