ตอนที่แล้วตอนที่ 51 โจรล้วงกระเป๋า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 53 บุปผาโฉด

ตอนที่ 52 เก็บปากไว้พูดชาติหน้าดีกว่า


ตอนที่ 52 เก็บปากไว้พูดชาติหน้าดีกว่า

  

“ศิษย์...ศิษย์พี่หญิงเล็ก ท่านมาได้ทันเวลาพอดี คนผู้นี้ฆ่าผู้บริสุทธิ์ไม่เลือกหน้าใต้จมูกนิกายเทียนสุ่ยของเรา ข้าเห็นเองกับตาและผู้คนโดยรอบนี้เป็นพยานได้เช่นกัน แต่ศิษย์พี่รองไม่เชื่อ ท่านรีบเกลี้ยกล่อมนางเร็วเข้า”

  

ฉินอวิ๋นเล่าเรื่องสั้นๆ ให้อีกฝ่ายฟัง แม้ว่าศิษย์พี่หญิงคนนี้จะไม่เหมือนศิษย์พี่หญิงคนอื่นๆ เพราะนางไม่เป็นมิตรกับเขามากนัก แต่ในฐานะผู้ดูแลเขตย่อย เขาคิดว่านางจะไม่ลำเอียงกับเรื่องแบบนี้

  

เขายังคงรู้จักนิสัยของศิษย์พี่หญิงเล็กเป็นอย่างดี

  

“ศิษย์พี่รอง เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?” เซียวอวี่ลั่วหันไปมองฉู่อิน นางละทิ้งบรรดาศิษย์พี่และอาจารย์ไว้ข้างหลังแล้วมาเป็นผู้ดูแลเขตย่อย นางมีอุดมการณ์ที่จะผดุงความยุติธรรม คนมีจิตใจดีย่อมเกลียดชังผู้กดขี่คนดี

  

ฉู่อินแค่ส่ายหน้าและพูดปกป้องซูอันเหมือนเดิม “คงจะมีความเข้าใจผิดกันมากกว่า”

  

“ซูอัน หากเจ้าเป็นลูกผู้ชายจงยืดอกยอมรับซะ!” เมื่อเห็นซูอันหลบอยู่ข้างหลังฉู่อินโดยไม่พูดไม่จา ฉินอวิ๋นจึงพูดออกมาด้วยความโกรธและมีท่าทางหยิ่งผยองเหมือนไก่ชนที่ได้รับชัยชนะ

  

ซูอันมองฉินอวิ๋นด้วยความเย็นชาและด้วยการโบกมือเพียงครั้งเดียว ผู้ฝึกตนในขอบเขตก่อกำเนิดที่กำลังเฝ้าดูอยู่ห่างๆ ก็มาอยู่ในมือของเขาแล้ว

“เจ้าเล่ามาว่าเมื่อครู่เห็นอะไรบ้าง เล่าให้วีรบุรุษฉินคนนี้ได้ฟังความจริงโดยละเอียด”

  

เมื่อถูกผู้ฝึกตนในระดับสูงกว่าหลายคนจ้องมอง จึงทำให้ผู้ฝึกตนในขอบเขตก่อกำเนิดยืนด้วยความสั่นเทา

  

“เมื่อครู่นี้โจรล้วงกระเป๋า...”

  

เขาคุ้นเคยกับโจรล้วงกระเป๋าคนนั้นดีและเขาเห็นกระบวนการทั้งหมดที่ซูอันจับโจรล้วงกระเป๋าได้ ตอนนี้เขาไม่ปิดบัง แน่นอนว่าเขาไม่กล้า

  

หลังจากฟังคำบอกเล่าของเขาแล้ว คนทั้งหลายก็เข้าใจสถานการณ์จริง

  

ฉู่อินมองฉินอวิ๋นด้วยสายตาไม่พอใจ

  

ดวงตาของเซียวอวี่ลั่วก็เต็มไปด้วยคำตำหนิเช่นกัน ศิษย์น้องเล็กคนนี้แยกแยะถูกผิดไม่เป็นและเกือบทำให้นางทุบตีผิดคน

  

“ข้า” ฉินอวิ๋นอ้าปากพูดแก้ตัว “ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ไม่ควรฆ่าเขา เพราะแม้ว่าเขาเป็นโจรล้วงกระเป๋า แต่เขายังเป็นแค่เด็ก!”

ซูอัน “...”

  

พูดได้ดี แต่เก็บปากไว้พูดชาติหน้าดีกว่า

  

ด้วยความคิดทางจิตวิญญาณ เรือเซียนอันงดงามลำหนึ่งปรากฏเหนือท้องฟ้าซึ่งอยู่ไม่ไกล ทาบทับก้อนเมฆเหมือนเกาะของเทพเซียนลอยลงมา

  

ในพริบตาต่อมา ลำแสงที่น่าสะพรึงกลัวฟาดลงจากท้องฟ้าด้วยความเร็วแสงและโจมตีฉินอวิ๋นโดยตรง

  

เสมือนเสาหยกเรืองแสงตกจากท้องฟ้าและเทพแห่งดาราลงมายังโลกมนุษย์

  

กลิ่นอายของการสังหารและการทำลายล้างมาบรรจบกันในลำแสงนี้

  

ทันใดนั้นฉินอวิ๋นขนลุกไปทั้งกาย หัวใจเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกจากอก

  

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเขาระเบิดออกด้วยความเร็วที่เกินขีดจำกัดไปมาก พลังเวททั่วร่างกายพุ่งสูงขึ้นและสามารถหลบหนีจากระยะลำแสงได้ภายในเสี้ยวอึดใจเดียว

  

ทันใดนั้นลำแสงกระหน่ำโจมตี ราวกับดาบยาวที่เจาะทะลุท้องฟ้าถึงแกนโลก บังเกิดเสียงดังก้องไปทั่วเขตย่อย ผลพวงนี้ทำให้ฉินอวิ๋นที่เพิ่งหนีออกจากระยะลำแสงครั้งแรกต้องถอยหนีเรื่อยๆ จนล้มกลิ้งไปบนพื้นด้วยความตื่นตระหนก

  

สีหน้าของเซียวอวี่ลั่วเปลี่ยนไปและเริ่มใช้พลังเวทเพื่อต้านทานผลกระทบของลำแสง

  

แต่ผู้ฝึกตนในขอบเขตก่อกำเนิดอยู่ใกล้เกินไป เขาจึงไม่สามารถต้านทานผลกระทบได้และกลายเป็นขี้เถ้า

  

หากทุกคนในตลาดไม่เคยเห็นคนกลุ่มนี้เผชิญหน้ากันมาก่อนและกลัวที่จะได้รับบาดเจ็บ จึงทำให้พวกเขาอยู่ห่างๆ ตั้งแต่แรก เกรงว่าตอนนี้จะมีผู้เสียชีวิตมากกว่าหนึ่งคน แต่ซูอันไม่สนใจว่าคนเหล่านี้คิดอย่างไร

  

ซูอันมองไปที่ร่างของฉินอวิ๋นที่ยังรอดแล้วถอนหายใจ เจ้าหมอนี่โชคดีจริงๆ

  

เพราะเขาอยากใช้โอกาสนี้ทำให้ฉินอวิ๋นกลายเป็นขี้เถ้า

  

แต่เขาลงมือต่อไม่ได้อีก เพราะเฟิ่งหลวนปรากฏตัวขึ้นที่ขอบฟ้าจากระยะไกลแล้ว

  

เมื่อมองคนที่ยังตกตะลึง มุมปากของเขาจึงยกขึ้น “ฉินอวิ๋น ข้าเห็นแก่หน้าเทพธิดาเฟิ่งและอินเอ๋อร์จึงสอนบทเรียนให้เจ้าเท่านั้น แต่ถ้าเจ้ายังกล้ายั่วโทสะข้าอีก ข้าจะไม่มีวันเมตตาเจ้า!”

  

ฉินอวิ๋นมองซูอันด้วยความหวาดกลัว ช่วงเวลานั้นมีจุดประสงค์ที่จะปลิดชีวิตของเขาให้ได้แน่นอน หากระดับที่แท้จริงของเขาไปไม่ถึงจื่อฝู่ขั้นปลาย เขาไม่มีทางหลีกเลี่ยงการโจมตีนั้นได้เลย

  

ซูอันคนนี้กล้าฆ่าคนไม่กะพริบตาจริงๆ

  

        “อินเอ๋อร์ เราไปกันเถอะ” ซูอันพูด

  

“อ่า อืมอืม” ฉู่อินฟื้นสติจากภาพการโจมตีกะทันหันของซูอันและเดินตามหลังซูอันไปด้วยความว่องไว นางยังถือชามเหลียงเฝิ่นอยู่ในมือและเมื่อครู่นางใช้พลังเวทเพื่อปกป้องชามเหลียงเฝิ่นด้วย

  

เซียวอวี่ลั่วเฝ้ามองคนทั้งสองจากไปด้วยสายตาว่างเปล่า จากนั้นความกลัวค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าของนาง

  

ดูเหมือนนางจะเห็นเงาดำเมื่อยี่สิบปีที่แล้วอีกครั้ง เงาดำที่ตามหลอกหลอนนางราวกับฝันร้าย และในขณะนี้การปรากฏตัวของเงาดำในใจนางได้ซ้อนทับกับซูอัน

  

การปฏิบัติต่อสิ่งมีชีวิตเหมือนมดนั้นคล้ายคลึงกับการดูถูกเหยียดหยามของพวกเงาดำ

  

นางเห็นชัดเจนว่าผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตอย่างน่าอนาถต่อหน้าต่อตา ทว่าตอนนี้นางไม่สามารถรวบรวมความกล้าเพื่อไล่ตามไปและตั้งคำถามกับซูอัน

  

การยึดมั่นในอุดมการณ์เหมือนจะไม่ทำงาน

  

ทั้งที่เขตย่อยนี้แทบจะสลายหายไป

  ……

“ท่านโหวซู เหตุการณ์ในวันนี้เป็นเพราะความเลอะเลือนของเสี่ยวอวิ๋น ข้าต้องขอโทษแทนเขาด้วย หวังว่าท่านจะไม่ถือสาเขา”

  

เมื่อกลับมาที่ลานบ้านได้ไม่นาน เฟิ่งหลวนพาบรรดาศิษย์น้องมาออกหน้าขอโทษแทนฉินอวิ๋น

ยกเว้นเซียวอวี่ลั่ว บรรดาศิษย์พี่หญิงของฉินอวิ๋นอยู่ที่นี่ทั้งหมด

  

ปากบอกว่าขอโทษ แต่ซูอันสามารถได้ยินความหมายแห่งการปกป้องจากเฟิ่งหลวน หากเขายังเอาโทษฉินอวิ๋น เฟิ่งหลวนกับศิษย์น้องหรือแม้แต่สานุศิษย์นิกายเทียนสุ่ยทั้งหมดจะลงมือกับเขาทันที

  

ในเวลาเดียวกัน ทัศนคติของเฟิ่งหลวนที่มีต่อเขายิ่งห่างเหินขึ้นจากเมื่อก่อน

  

สำหรับศิษย์พี่สามและศิษย์พี่สี่ที่ได้พบกันครั้งแรกนั้นไม่พอใจในตัวเขาแบบเห็นได้ชัด

  

“เทพธิดาเฟิ่งไม่ต้องกังวล ตราบใดที่ฉินอวิ๋นไม่จงใจยั่วยุข้าอีก ข้าก็ไม่ยุ่งกับเขา” ซูอันตอบรับและยิ้มเอ่ย “นอกจากนี้ข้าแค่ทำให้ฉินอวิ๋นกลัว เพราะเห็นแก่ความที่เขาเป็นศิษย์น้องของอินเอ๋อร์ ข้าจะไม่ทำร้ายเขาจนถึงแก่ชีวิต”

เฟิ่งหลวนเชื่อคำพูดของซูอัน

  

เพราะการโจมตีก่อนหน้านี้เกือบใช้พลังถึงระดับหยางบริสุทธิ์ หากซูอันไม่ตั้งใจออมมือ คงเป็นไปไม่ได้ที่ศิษย์น้องเล็กซึ่งอยู่ในขอบเขตก่อกำเนิดจะหนีพ้น

  

“รบกวนท่านแล้ว” เฟิ่งหลวนมองฉู่อินซึ่งยืนอยู่ด้านหลังซูอันด้วยแววตาลึกซึ้ง จากนั้นพาศิษย์น้องถอยกลับไป

  

ทั้งห้องเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง

  

“ซูอัน ขอโทษนะ ข้า...”

  

ฉู่อินมองซูอันด้วยความรู้สึกผิด นางไม่เสียใจแทนฉินอวิ๋น นางแค่รู้สึกผิดที่ทำให้ซูอันรู้สึกหงุดหงิด เพราะถ้านางไม่พาซูอันไปที่ตลาด เหตุการณ์นี้คงไม่เกิดขึ้น

  

ในสายตาของนางคือเมื่อครู่ซูอันถูกศิษย์พี่ใหญ่กดดันให้จำยอม

“ไม่เป็นไร เรื่องวันนี้ไม่โทษเจ้า” ซูอันขัดจังหวะฉู่อินและดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน

  

หมอนมีไว้ให้กอด

  

“เหลียงเฝิ่นวันนี้อร่อยมาก”

  

เขาโน้มตัวเข้าใกล้ใบหูของฉู่อินและใช้ริมฝีปากแตะใบหูของฉู่อินเบาๆ

  

ฉู่อินรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นในใจ เขาช่างใส่ใจนางจริงๆ

  

อารมณ์แปลกๆ แล่นเข้ามาในหัวใจของนาง ความรู้สึกเช่นนี้แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับการเผชิญหน้ากับศิษย์น้องเล็ก มันเป็นความรู้สึกต่อเพศตรงข้ามที่แท้จริง

  

บางทีนี่อาจเรียกว่าความรัก มันดีจริงๆ และไม่น่าเบื่อเหมือนที่อาจารย์เคยบอกเลย

  

มือของซูอันลูบไล้ร่างกายของฉู่อินโดยไร้ความปรานี แต่ความคิดของเขายังจดจ่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้

  

อันที่จริงเขาพอคาดเดาได้ว่าเหตุการณ์เมื่อครู่จะต้องเกิดขึ้น