ตอนที่ 28 เสนาบดีกรมพิธี
หลังมองเหล่าเสนาบดีใต้บัลลังก์ เกาหลิงเฟิงก็เต็มไปด้วยความเกลียด โดยเฉพาะหลินเจี้ยนเฉิง เกาหลิงเฟิงแค้นใจมาก!เขาทำมันได้ยังไง?เจ้าไม่ใช่ขุนนางทุจริตหรือไง?ไหนพวกเขาบอกว่าพ่อตาข้าแค่ประจบเก่ง เขากลายเป็นราชเลขามากความสามารถได้ยังไง/
ยิ่งเกาหลิงเฟิงคิด เขายิ่งไม่พอใจ มันเริ่มผิดพลาดตรงไหน?โชคดี เกาหลิงเฟิงคือคตนที่เก่งการมอง เขาตระหนักอย่างรวดเร็วว่าความล้มเหลวครั้งก่อนเป็นเพราะคำสั่งที่คลุมเครือของเขา เพราะคำสั่งคลุมเครือไป พวกหลินเจี้ยนเฉิงจึงฉวยโอกาสได้!
ดังนั้น ครั้งนี้ ต้องให้ชัดเจนและเจาะจง!พวกเขาต้องไม่เข้าใจผิด!ดังนั้น เกาหลิงเฟิงเลยจัดการประชุมทันที เกาหลิงเฟิงกระแอมลำคอ“การประชุมครั้งนี้จะคุยเรื่องวิธีรับมือกับพ่อค้าของเถื่อน!”
อย่างไม่คาดคิด คนแรกที่พูดคือเสนาบดีกรมพิธีที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง
“ฝ่าบาท!ท่านราชเลขาใหญ่ ในเวลาสงครามระหว่างอาณาจักร แม้กระทั่งฑูตก็มิอาจฆ่า พ่อค้าเหล่านี้ไม่ใช่ทหาร พวกเขาจะถูกปฏิบัติเป็นเชลยได้อย่างไร?”
เกาหลิงเฟิงมองเสนาบดีใหม่คนนี้ ชื่อเจียเต๋าตี๋ เป็นชื่อที่ดี!เขามีศีลธรรมจอมปลอม คำพูดของเขาสะท้อนกับความคิดข้า!
ตามคาด คำพูดของเสนาบดีเจียกระตุ้นเสียงวิจารณ์จากเสนาบดีคนอื่น!บางคนบอกว่าเขาแสวงหาชื่อเสียงและเกียรติยศ บ้างว่ามันเป็นความเห็นอกเห็นใจที่เกินไป และเสนาบดีกรมสงครามยังกล่าวหาว่าเขาสมรู้ร่วมคิดกับอำนาจต่างชาติ
เกาหลิงเฟิงกระแอมลำคอขัดเสียงค้าน
“การประชุมครั้งนี้จัดเพื่อให้ออกความเห็นอย่างอิสระ คำชี้แจงของเสนาบดีเจียไม่ผิด มีใครมีความคิดเห็นที่แตกต่างไหม?”
หลังได้ยินการสนับสนุนของจักรพรรดิ คนอื่นก็ปิดปากสนิท และคนแรกที่พูดคือเสนาบดีกรมยุติธรรม
“ฝ่าบาท!พ่อค้าคนเถื่อนทางเหนือเหล่านี้ละเมิดกฎหมายการค้า หลังการปรึกษาหารือภายในฝ่ายเรา เราเชื่อว่าพวกเขาควรถูกประหารชีวิต!”
แผนนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย เวลานี้ เสนาบดีกรมสงครามก้าวออกมา
“ฝ่าบาท เราอยู่ในสภาวะสงครามกับคนเถื่อน พ่อค้าเหล่านี้ถือเป็นสายให้พวกนั้น!พวกเขาถือเป็นทหารของกองทัพคนเถื่อนและควรส่งตัวเป็นเชลยให้วิหารบรรพบุรุษ!จากนั้นก็ประหารในที่สาธารณะ!”
ข้อเสนอของเสนาบดีกรมสงครามได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่ายรวมถึงหลินเจี้ยนเฉิง
[ระบบกลยุทธ์บ้านเมืองทำงาน!]
[คำตัดสิน!วิธีรับมือกับพ่อค้าคนเถื่อน!]
[1 : เห็นอกเห็นใจเกิน ปล่อยพ่อค้าคนเถื่อนทางเหนือ -500 โชคลาภ -10ชื่อเสียงราชสำนัก]
[2 : ประหารชีวิตสาธารณะ ส่งมอบให้กรมยุติธรรมพิจารณาคดี ชี้แจ้งอาชญากรรมของพ่อค้าเหล่านี้ +500 โชคลาภ +5ระบบกฎหมาย]
[3 : ส่งตัวเป็นเชลยให้วิหารบรรพบุรุษ และส่งตัวเป็นนักโทษเข้าเมือง ประหารชีวิตต่อหน้าวิหารบรรพบุรษ +1000โชคลาภ +5ระบบทหาร]
ทำไมถึงมีคำศัพท์ใหม่อีกแล้ว? ‘ระบบกฎหมาย’?ระบบทหาร?ช่างมัน มันไม่สำคัญ ยังไงซะ ข้าก็จะไม่เลือกอะไรที่เพิ่มโชคลาภ ดูเหมือนจะมีแค่ตัวเลือกแรก แต่จะโน้มน้าวเหล่าเสนาบดียังไง?และการหักลบแค่ห้าร้อย ไม่น้อยไปเหรอ?
เกาหลิงเฟิงคิดสักพักและได้ความคิดที่ดี!พ่อค้าคนเถื่อนเหล่านี้มาที่นี่เพื่ออะไร?เพื่อซื้อของดี!ทำไมชนชั้นสูงของมณฑลจินถึงทำการค้ากับคนเถื่อน?เพราะคนเถื่อนมีไข่มุกฤดูหนาว โสมและหนังชั้นดี
นี่คือของหรูหรา!ทำไมข้าไม่ควรทำธุรกิจกับคนเถื่อน?ฉลาด!ถ้าข้าทำการค้ากับคนเถื่อนทางเหนือ มันจะไม่ทำลายโชคลาภไปกว่านี้เหรอ?เกาหลิงเฟิงถามระบบทันที“ระบบ ถ้าข้าปล่อยตัวพ่อค้าคนเถื่อนเหล่านี้และทำการค้ากับพวกนี้ มันจะตัดสินยังไง?”
[ดัดแปลงตัวเลือก 1 : สมคบคิดกับอำนาจต่างชาติ ปลดปล่อยพ่อค้าคนเถื่อน ก่อตั้งเขตการค้า และทำการค้ากับพวกนั้นต่อ -2000 โชคลาภ -10ชื่อเสียงราชสำนัก!]
เยี่ยม!ข้ามันอัจฉริยะจริงๆ!งั้นก็เลือกตัวเลือกนี้! เกาหลิงเฟิงคิดถึงหกพันโชคลาภที่เขาเพิ่งได้รับกลับ ดวงตาก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เขารีบพูด“ทุกท่าน คำพูดของเสนาบดีเจียไม่ผิด แม้กระทั่งในช่วงเวลาสงคราม เราก็ต้องละเว้นฑูต ยิ่งไปกว่านั้น คนเหล่านี้ก็แค่พ่อค้า!เขาพูดต่อ”ราชวงศ์ต้าเฉียนเราเป็นอาณาจักรสวรรค์ เราจะมายึดติดกับเรื่องเล็กๆได้ไง?พ่อค้าคนเถื่อนเหล่านี้ควรได้รับการปล่อยตัว”
ทันใดนั้น เหล่าเสนาบดีก็ค้าน“ฝ่าบาท ไม่ได้เด็ดขาดนะขอรับ!”
แต่เกาหลิงเฟิงยังเงียบ เขาเหลือบมองพ่อตาเขา“ไม่เพียงจะได้รับการปล่อยตัว แต่ข้ายังคิดจะตั้งตลาดหลายแห่งที่ชายแดนโดยเฉพาะเพื่อทำการค้ากับพ่อค้าเหล่านี้”
หลังได้ยิน เหล่าเสนาบดีก็ส่งเสียงโวยวาย โชคดี เวลานี้ หลินเจี้ยนเฉิงแทรกแซง“เงียบ!”
อำนาจของราชเลขาเติบโตทุกวัน และเหล่าเสนาบดีก็โดนบารมีของหลินเจี้ยนเฉิงกดไว้ ความรู้สึกเคืองของเกาหลิงเฟิงที่มีต่อพ่อตาสลายไป อำนาจบารมีของพ่อตาเขาดีจริงๆ บางทีข้าอาจมองเขาผิด
เกาหลิงเฟิงพูดต่อ“เหตุผลเบื้องหลังการตัดสินของข้าคือการห้ามทำการค้ากับคนเถื่อนทางเหนือมักไม่มีประสิทธิผล วันนี้ ถ้าเรากดดันคนรวยของมณฑลจินต่อ พรุ่งนี้ คนอื่นก็จะใช้มาตรการที่จนตรอก ขอแค่ยังมีความต้องการของการค้านี้อยู่ มันก็ไม่สามารถหยุดได้โดยประกาศิต”
“ดังนั้น มันดีกว่าที่จะควบคุมการค้าภายใต้การเฝ้าระวังของราชสำนัก โดยการก่อตั้งตลาดและแลกเปลี่ยนกับคนเถื่อนทางเหนือ ราชสำนักจะได้รับของที่จำเป็น นี่คือทางออกที่ดีสุด!’
ทุกคนเงียบ การห้ามทำการค้ากับคนเถื่อนเกิดขึ้นตั้งแต่รัชสมัยของจักรพรรดำท่จง แต่ไมเคยบังคับใชได้จริง เหมือนที่เกาหลิงเฟิงพูด ความต้องการตลาดยากจะระงับ แต่การค้าระหว่างราชสำนักกับคนเถื่อน?ทหารที่แนวหน้าจะคิดยังไง?ขวัญกำลังใจพวกเขาละ?
เกาหลิงเฟิงพูด“เอาตามนี้!เรื่องนี้จะให้เสนาบดีเจียจัดการ!เลิกประชุม!”