ตอนที่แล้วตอนที่ 13 การวิเคราะห์การพบกันครั้งแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15 ไดอารี่ที่สาม

ตอนที่ 14 นิค ฟิวรี่: นาตาชา โรมานอฟ อย่ายุ่งกับซูเฉอ!


"นิค สิ่งเดียวที่ฉันกังวลตอนนี้คือความกดดันมากเกินไป จนทำให้หัวใจของเขาเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย"

นาตาชา โรมานอฟฟ์จ้องหน้านิค ฟิวรี่ พลางเก็บสีหน้าล้อเล่นด้วย

"แรงกดดันที่มากเกินไปมักจะทำลายสภาพจิตใจคนได้ แม้ว่าวิชาจิตวิทยาสำหรับสายลับจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยก็ตาม"

"แต่ว่าฉันเองในฐานะคนนอก ก็ยังรู้สึกแบบเดียวกันเลยค่ะ ฉันแอบสังเกตเขามาตลอดทั้งเช้า"

"ปรากฏว่านอกจากช่วงเวลาที่เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นแล้ว เขามักจะดูครุ่นคิดมากกว่า"

"ส่วนคิดเรื่องอะไรกันน่ะ คิดว่าเราก็คงรู้อยู่แล้ว เป็นปัญหาเดิมๆ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการโทษตัวเองที่ไม่สามารถกอบกู้โลกได้ และเมื่อโลกคู่ขนานนี้ตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายแบบเดียวกัน เขาควรจะหาทางช่วยโลกนี้ได้ยังไง"

"บอกได้เลยว่าตอนนี้เขารู้สึกว่ากำลังแบกความกดดันของทั้งโลกเอาไว้ที่บ่า!"

"ถ้าเป็นแบบนี้นานๆ ฉันก็กังวลว่า..."

นาตาชา โรมานอฟฟ์ไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่ทว่านิค ฟิวรี่กลับเข้าใจได้ในสิ่งที่เธอต้องการจะสื่อ

ผ่านมาหลายปี นิค ฟิวรี่พบเห็นพฤติกรรมของเหล่าสายลับใต้แรงกดดันมาก็มาก

ที่จริงแล้วคนที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นสายลับของชีลด์ได้

สภาพจิตใจเหล่านี้แข็งแกร่งไม่เหมือนคนปกติทั่วไปโดยสิ้นเชิง

แต่ทว่าเมื่อใดก็ตามที่คนแบบนี้เกิดปัญหาทางจิตใจขึ้นมา ความเสียหายที่จะเกิดตามมานั้น มักจะใหญ่มาก

กระทั่งอาจบ่อเกิดกลายเป็นกระแสน้ำโหมซัดกระหน่ำก็เป็นได้

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า พวกนักจิตวิทยาประจำหน่วยชีลด์นั้นงานยุ่งสุดๆ

สมาชิกของหน่วยชีลด์ทุกคนต้องเข้ารับการบำบัดโดยจิตแพทย์หลังทำภาระกิจเสร็จแล้ว

และได้ถูกยกเป็นกฎระเบียบไปเลย ในเรื่องการให้สมาชิกชีลด์ทุกคนเข้ารับการปรึกษาทางจิตอย่างสม่ำเสมอ

ทว่าซูเฉอแตกต่างออกไป

ถึงเขาเองเคยเป็นซูเปอร์ฮีโร่มานานกว่าสิบปี ได้พบเห็น และสัมผัสความน่าสะพรึงของหายนะด้วยตาตัวเองมาแล้ว

ดังนั้นคงจินตนาการออกว่า ความกดดัน ความกระวนกระวายในใจเขาท่วมท้นเพียงใดในยามนี้

ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่มีจิตแพทย์ประจำตัว

ถึงแม้จะยังไม่รู้เลยว่าพลังพิเศษของซูเฉอคืออะไร

ทว่า เมื่อใดก็ตามที่ซเปอร์ฮีโร่คนนี้เกิดปัญหาในจิตใจขึ้นมา จนเริ่มหวาดระแวง ดื้อรั้น หรือแม้กระทั่ง...

ถึงตอนนั้น ภัยอันตรายที่จะย้อนกลับมาทำลายโลกใบนี้ย่อมรุนแรงยิ่งกว่าสายลับของชีลด์

แน่นอน แม้สถานการณ์จะเป็นแบบนี้ นิค ฟิวรียังเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรทึกทักเอาเองว่าซูเฉอคือภยันตรายของโลกใบนี้โดยเดดขาด

ท้ายที่สุด ซูเฉอเคยป็นซูเปอร์ฮีโร่ในโลกขู่ขนานมานานกว่าสิบปี อีกทั้งเป็นคนที่ช่วยโลกหลายต่อหลายครั้ง

แล้วเขาก็เป็นซเปอร์ฮีโร่โดยเนื้อแท้มาแต่แรกแล้วจริงๆ

สำหรับซูเปอร์ฮีโร่แบบนี้ นิค ฟิวรี่ไม่มีทางที่... เดี๋ยวก่อน !

ความคิดเช่นนี้ถูกบังคับให้หยุดกะทันหัน นิค ฟิวรี่เงยหน้ามองนาตาชา โรมานอฟฟ์ในวิดีโอ"นาตาชา โรมานอฟฟ์ เธอไม่รู้สึกเหรอว่าสมมติฐานที่เรากำลังทำอยู่ตอนนี้เบี่ยงเบนไปนอกลู่นอกทางมากขึ้นน่ะ?"

"แม้แต่หลักฐานของการสนทนาระหว่างเราสองคนในตอนนี้ก็คือเราเชื่อเนื้อหาที่เขียนในไดอารี่แล้ว"

"ฉันเองเชื่อตามเนื้อหาที่บอกว่าซูเฉอเป็นซเปอร์ฮีโร่จากโลกคู่ขนาน ดังนั้นฉันจึงเริ่มบทสนทนาต่อ!"

"นี่ไม่เหมือนกับความตั้งใจเดิมของเราในการหาหลักฐานโดยสิ้นเชิง ความคิดเริ่มแรกของเราคือการพิสูจน์ว่าซูเฉอคือเจ้าของไดอารี่"

"ฉันเองอยากเห็นว่า เขาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ตามที่เขียนไว้ในไดอารี่หรือเปล่ามากกว่า แทนที่จะคิดถึงเรื่องพวกนี้หลังจากนั้น"

หลังจากฟังคำพูดของนิค ฟิวรี่ นาตาชา โรมานอฟฟ์เองก็ผงะไปเช่นกัน

ใช่แล้ว เป้าหมายการมาครั้งนี้ของฉันเพียงเพื่อพิสูจน์ตัวตนที่แท้จริงของเจ้าของไดอารี่ ซูเฉอ

ว่าใช่ผู้เดินทางข้ามมิติจากโลกคู่ขนานหรือเปล่า หรือเป็นสิ่งที่เรียกว่าเวนเจอร์สจริงๆไหม?

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันน่ะที่ตัวฉันเองเริ่มสังเกตการณ์ซูเฉอด้วยมายาคติความคิดแบบอุปาทาน?

สิ่งนันขัดแย้งต่อแนวทางในการประพฤติตนแบบมืออาชีพของพวกเองอย่างสมบูรณ์

ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นแค่ข้อสันนิษฐานจากการเฝ้าดูตอนเช้าเท่านั้น นี่ยังไม่ได้คุยกันแม้กระทั่งสิบประโยคเลยนะ

ทำไมจู่ๆ ฉันก็เชื่อเขามาก จนถึงขั้นมาคิดแทนเขาแล้วด้วยซ้ำ?

เธอนึกถึงฉากเมื่อเราพบกันครั้งแรกอย่างระมัดระวัง

นาตาชา โรมานอฟฟ์รู้สึกว่าหลังจากเขาเจอหน้าซูเฉอ เขาสังเกตเจอประกายแห่งความประหลาดใจ และความคิดถึงราวกับทักทายคนรู้จักเก่าแก่ในแววตาของเขา

บวกกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความผันแปรในหว่างคิ้ว ดวงตาที่เต็มไปด้วยเรื่องราว

เป็นเพราะอิทธิพลของดวงตาและเนื้อหาที่เขียนในไดอารี่ที่มีต่อเธอ

จึงเป็นต้นเหตุที่ตัวเธอคล้องตามความคิดนั้นมาโดยไม่รู้ตัว

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของนาตาชา โรมานอฟฟ์แบบนั้น นิค ฟิวรี่ก็หัวเราะขึ้นมาทันที "นาตาชา โรมานอฟฟ์ ตอนนี้คุณคิดยังไงบ้างล่ะ?"

เธอค่อยๆ เงียบไปครู่หนึ่ง

พาตัวเองเข้าออกจากมุมมองบุคคลที่สาม เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ในฐานะผู้เฝ้าสังเกต

นาตาชา โรมานอฟฟ์ใช้เวลาคิดสองสามวินาที จากนั้นหันมองหน้านิค ฟิวรี่แล้วพูด "ไม่ทราบแน่ชัดค่ะ แต่ฉันยึดมั่นในความเห็นของตนเอง"

"ตลอดขั้นตอนการติดต่อสัมพันธ์กันนั้น ฉันไม่ได้สังเกตเลยว่าวัยรุ่นที่ชื่อซูเฉอคนนี้เขากำลังแกล้งแสดง"

"ตรงกันข้ามเลยค่ะ ท่าทีแสดงความประหลาดใจและคิดถึงหลังจำตัวฉันได้ ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานใหม่ขึ้นมาค่ะ"

"ข้อสันนิษฐานอะไรหรือ?"

นิค ฟิวรี่ถามต่อเมื่อฟังสิ่งที่นาตาชา โรมานอฟฟ์พูด

"ฉันนึกไปว่าบางทีตัวฉันในสมุดบันทึกที่เป็นสมาชิกในทีมทีมอเวนเจอร์ส น่าจะเป็นคนที่ตายคนแรก ไม่ใช่คนที่เลือกเกษียณไป"

"ถ้าเป็นแบบนั้น สายตาตอนนั้นก็จะสมเหตุสมผลขึ้นเยอะนะ!"

พูดถึงตรงนี้ นาตาชา โรมานอฟฟ์มองนิค ฟิวรี่ พลางเผยรอยยิ้มขึ้นมา "นิค มีหลายสิ่งหลายอย่างเริ่มน่าสนใจแล้วล่ะ"

"อย่าทำเรื่องให้วุ่นวาย!"

นิค ฟิวรี่ที่เห็นแววตาของนาตาชา โรมานอฟฟ์ก็เกิดอาการปวดหัวอย่างแรง

เขารู้ดีว่าเมื่อดวงตาที่ชื่อความ "น่าสนใจ" ของนาตาชา โรมานอฟฟ์เผยอออกมา นั่นเท่ากับยืนยันแล้วว่า เธอพร้อมเต็มที่ในการใช้วิธีถนัดของตัวเอง!

"นิค มีวิธีคลายความวิตกกังวลและความเครียดเพียงไม่กี่วิธีเท่านั้น"

นาตาชา โรมานอฟฟ์พิงเอนราบไปด้านหลัง น้ำเสียงคล้ายเจือแฝงความเกียจคร้านเล็กน้อยเมื่อฟังนิค ฟิวรี่ "ฉันชอบยิงเป้า และชอบใช้วิธีนี้เพื่อคลายความวิตกกังวลและความเครียด บาร์เทนเดอร์ในร้านเหล้า"

"หรือไม่ก็เปลี่ยนเป็นพนักงานกินเงินเดือนทำงานออฟฟิศ ใช้ความเครียดในงานมาผ่อนปรนตัวเอง"

"แต่คนอื่นแตกต่างออกไป การคลายความกังวลของคนอื่นๆในหน่วยชีลด์นอกจากยากดประสาทแล้ว มากที่สุดคือนักจิตวิทยา กระสุนปืน ผู้หญิง และเหล้า"

"คนธรรมดาคงมองออกไปไกลถึงขอบฟ้าทุกวี่วันไม่ได้ ใช่ว่าใครจะทำตัวเก่งแบบเด็กเหยี่ยวได้"

เธอทำท่ายืดเส้นยืดสาย มองเวลานาฬิกา แล้วค่อยเอ่ยถามนิค ฟิวรี่ "วางใจเถอะ ฉันรู้อยู่แล้ว อย่างน้อยต้องแน่ใจในเรื่องพลังของเขาก่อน"

"จนถึงตอนนั้น ฉันยังคงยืนหยัดตามการตัดสินของฉัน"

"ซูเฉอ คงเหมือนขุมทรัพย์ที่มีคนรอค้นพบ อย่างน้อยที่สุด นี่ก็มีคุณค่าต่อโลกใบนี้ของพวกเรา!"

//

กลุ่มที่เพจแปลจบแล้ว เข้ารวดเดียวลดเยอะมากก555

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด