ตอนที่ 28 : ในนามของฉัน แสงแห่งการตัดสิน !
ตอนที่ 28 : ในนามของฉัน แสงแห่งการตัดสิน !
[ น้ำแข็งคำราม ] !
ที่ชั้น 10 ของหอฝึกฝน
เหลียนอี้หนิงยื่นมือเรียว ๆ ของเธอออกมาและสร้างน้ำแข็งขึ้นรอบตัว ในเวลาเพียงสั้น ๆ น้ำแข็งก็รวมตัวกันเป็นมังกรน้ำแข็งพุ่งเข้าใส่ออร์คทั้งสามตัวก่อนจะระเบิดออก !
ตูม !
จากเสียงระเบิดนี้ น้ำแข็งก็กระจายออกไปโดยรอบฉีกออร์คทั้งสามตัวเป็นชิ้น ๆ !
“พวกออร์คคลั่ง ! มันโผล่มาบนชั้น 10 ตั้งหลายตัว !” เหลียนอี้หนิงพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดูหนักใจ
ออร์คคลั่งนั้นเป็นสมาชิกของเผ่าออร์ค แต่เพราะพลังปิศาจ มันจึงคลั่งและเสียสติ โจมตีมนุษย์ทุกคนที่เห็น
เลเวลต่ำสุดของพวกออร์คคือ 20
มันถึงกับมีออร์คระดับเงินและทองที่รับมือได้ลำบากโผล่ออกมาด้วย
ถังเฉิงจับดาบใหญ่เอาไว้ เขาเข้าไปขวางออร์คสองตัวก่อนจะใช้ดาบสับมัน
“ออร์คพวกนี้จัดการยากจริง ๆ พี่ลั่ว ฮีลให้ฉันหน่อย !”
“ฉันฮีลไม่ได้” หลินลั่วส่ายหน้า “แต่ฉันใช้สกิลอื่นให้นายได้นะ”
“ฮีลไม่ได้ ? พี่เป็นนักบวชทมิฬรึอะไรแบบนั้นรึไง...”
หลินลั่วไม่ได้พูดอะไร เขาแค่เหวี่ยงคทาในมือพร้อมแสงสีแดงที่พุ่งเข้าหาถังเฉิง
ในพริบตาร่างของถังเฉิงก็สูงขึ้นมาเล็กน้อย ความเร็วในการโจมตีกับแรงก็เพิ่มขึ้นกว่าครึ่ง
“เฮ้ย ! กระหายเลือด !”
“พี่ลั่ว นี่เป็นสกิลที่มีแค่พวกพ่อมดมีนิ สุดยอดจริง ๆ !”
“ฮ่าฮ่า แม้แต่พวกออร์คก็เทียบฉันไม่ได้แล้ว ดูสิว่าฉันแข็งแกร่งแค่ไหน !”
ถังเฉิงตะโกนออกมาพร้อมผลักออร์คตรงหน้าให้ล้มลงกับพื้น
“ชั้น 10 ? มันยังไม่ถึงเวลาที่ฉันจะลงมือ” หลินลั่วพึมพำออกมาด้วยท่าทีเยือกเย็น จากนั้นเขาก็เดินไปที่
ทางเข้าชั้น 11 !
ผ่านไปอีก 1 ชม.
ในชั้น 15
ตงฟางเหอถือหอกมังกรในมือ ตัวเขาแทบจะเปลี่ยนเป็นเงา เขาแทงเข้าที่หน้าอกของออร์ค จากนั้นก็โยนร่างออร์คทิ้งกระแทกกับพื้นอย่างแรง
กรร !
ข้าง ๆ เขา มังกรที่ชื่อยมทูตพุ่งเข้าใส่ออร์คจนออร์คล้มลงไปกับพื้น จากนั้นก็กัดคอขาดในคำเดียว
“ในพื้นที่ 3 นิ้ว ฉันไร้เทียมทาน !”
“โล่ไร้เทียมทาน !”
ฟางหยวนสะบัดมือพึมพำบางอย่างออกมา ไม่นานก็มีโล่โปร่งใสปรากฏขึ้นบนร่างของทั้งสามคนและมังกร
อาวุธของพวกออร์คที่ฟาดเข้าใส่โล่นี่ทำได้แค่ทำให้เกิดคลื่นขึ้นมาบนโล่ก็เท่านั้น
“ฮ่าฮ่า ฟางหยวน สกิลนายนี่มีประโยชน์จริง ๆ !” หยางห้าวหรานหัวเราะออกมาเสียงดัง ดาบยาวในมือนั้นมีเปลวไฟลุกไหม้ เขาตัดเนื้อของพวกออร์คได้อย่างง่ายดาย
ภายใต้การฟันของเขา เปลวไฟก็ได้เปลี่ยนเป็นใบมีดพุ่งออกไปทำให้พวกออร์คหลายตัวกระเด็นออกไปตาม
“ฮ่าฮ่า ฉันได้อาชีพลับของผู้ใช้ค่ายกล ฉันใช้พลังเวทย์ได้มากกว่านักดาบเวทย์ !” ฟางหยวนพูดขึ้นมาด้วยความภูมิใจ “ถ้าเราสามคนร่วมมือกัน เราต้องไปถึงชั้น 30 ได้แน่ !”
“หอฝึกฝนนี่เป็นสถานที่ที่ยิ่งใหญ่ มันมีมอนสเตอร์และให้ค่าประสบการณ์เยอะ นี่ผ่านไม่ถึง 3 ชม. ฉันเกือบเลเวลขึ้นแล้ว !”
“ฉันก็ด้วย !”
“เราไม่ได้มาเก็บเลเวลกันที่นี่ !” ตงฟางเหอตะโกนออกมา “รีบจัดการศัตรูที่เหลือแล้วไปชั้นต่อไป !”
“ได้ ! คุณชายตงฟาง !”
“เดี๋ยวนะ ! มันเหมือนมีคนอื่นอยู่ทางนั้น !”
“พวกเขาเร็วกันจริง ๆ ....นั่นหยางเฉินหลี่กับพวก ! สกิลเสริมของเจิ้งหยางฟานคือ [ ความเร็วศักดิ์สิทธิ์ ] มันเพิ่มความเร็วของเป้าหมายเป็นสองเท่า !”
“บัดซบ ! เร่งมือหน่อย !”
“ได้ !”
ที่ลานหอฝึกฝน
บนจอภาพ ทีมของตงฟางเหอและหยางเฉินหลี่นั้นได้อันดับเท่ากัน ตอนนี้พวกเขาไปถึงชั้น 12 !
ที่ตามหลังมานั้นคือทีมของมู่หรงเสวี่ยเหินและเฉินผิงอัน
สำหรับทีมของหลินลั่วที่เคยได้อันดับ 3 ตอนนี้พวกเขาถูกทิ้งห่าง
“ตงฟางเหอ หยางเฉินหลี่ ! แชมป์ของปีนี้ต้องเป็นทีมของพวกเขาสักทีม !”
“ใช่ ใช่ สองทีมนี้สิแกร่งของจริง ทั้ง 6 คนในสองทีมนี้อย่างน้อยก็เป็นผู้ปลุกพลังอาชีพระดับ A พวกเขาแข็งแกร่งอย่างมาก พวกเขาต่างจากทีมอื่น ๆ ขาดลอย !”
“ใช่ ดูทีมหลินลั่วตอนนี้สิ พวกเขาพึ่งแต่เหลียนอี้หนิงใน 10 ชั้นแรก เมื่อผ่านไปถึงชั้น 15 ความเร็วของพวกเขาก็เริ่มช้าลงจนน่าตกใจ !”
“ถ้าต้องพึ่งแค่เหลียนอี้หนิง พวกเขาตามคนอื่นไม่ทันหรอก !”
“เฮ้อ เหลียนอี้หนิงนี่น่าสงสารจริง ๆ โดนสองคนนี้ถ่วง ! ตอนนี้พวกเขา....อยู่ชั้น 17 แล้วเหรอ ? ”
“หือ ? ยังไม่ตกรอบอีกเหรอ ?”
“เหลียนอี้หนิงนี่แกร่งจริง ๆ สมกับที่ได้อาชีพลับระดับ A เทพธิดาหิมะ ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าเธอจะได้ 100 อันดับแรกรึเปล่า ?”
ในลานนั้น ผู้ปลุกพลังหน้าใหม่ถูกส่งออกมาจากหอคอย พวกเขาต่างก็สลด
แต่ละคนโดนมอนสเตอร์ล้อมและต้องเลือกที่จะถอนตัว
บางคนบาดเจ็บและต้องถอนตัวออกมา คนอื่น ๆ ที่มีเพื่อนถ่วงก็เลือกที่จะถอนตัวเช่นกัน
1 ชม.ต่อมา ก็เหลือคนในหอฝึกฝนไม่ถึงพันทีม ผ่านไป 3 ชม. ก็เหลือแค่ 100 ทีมที่อยู่ในหอฝึกฝน
ทีมที่นำอยู่ตอนนี้คือทีมของตงฟางเหอ ชั้นที่ 24 !
ตามหลังมาติด ๆ คือทีมของหยางเฉินหลี่, มู่หรงเสวี่ยเหินและเฉินผิงอัน ชั้นที่ 23 !
สำหรับทีมของหลินลั่ว พวกเขาเพิ่งจะเข้าชั้นที่ 20 !
ในชั้นที่ 23
หลี่เหมยหอบหายใจออกมา ลูกไฟพุ่งออกมาระเบิดจระเข้บึงทิ้ง แต่มอนเตอร์พึ่งเกล็ดหนา ๆ ของมันทนเปลวไฟเอาไว้ได้ ก่อนจะพุ่งเข้าหาทั้งสามคน มันอ้าปากออกเพื่อจะงับพวกเขา !
“หลบไปให้พ้น !” ฉือเหล่ยตะโกนออกมา โล่สูงใหญ่สีขาวที่สูงกว่าตัวคนปรากฏขึ้นมาในมือ เขาพุ่งไปหาหลี่เหม่ยอย่างรวดเร็วและยกโล่ขวางไว้ตรงหน้าพวกเขาทั้งสองคน
ตูม !
จระเข้บึงกระแทกเข้ากับโล่อย่างแรงจนมันเวียนหัว หลี่เหมยกัดฟันแน่นและเรียกงูไฟออกมารัดตัวจระเข้บึงเอาไว้ สุดท้ายเธอก็จัดการมันได้ !
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก...” หลี่เหมยหอบหายใจออกมาและยิ้มแห้ง ๆ “ถึงเลเวลจะเพิ่ม แต่ฉันคงมาไกลได้แค่นี้”
“เสวี่ยเหิน ฉือเหล่ย จากนี้คงต้องฝากพวกเธอด้วย !”
“พี่เหมย พี่ไปพักก่อนเถอะ ฉันจะพาเธอไปให้สุดเอง !” มู่หรงเสวี่ยเหินจับมือหลี่เหมยและพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง จากนั้นก็มีแสงสีขาวส่องประกายครอบคลุมร่างของมู่หรงเสวี่ยเหินเอาไว้
วินาทีต่อมาเมื่อแสงสีขาวจางหายไป มู่หรงเสวี่ยเหินกลับพุ่งออกไป
ชุดสีขาวที่เธอสวมตอนแรกหายไป มันถูกแทนที่ด้วยเกราะสีทองแทน
สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือปีกสีขาวส่องแสงสีทองจาง ๆ ออกมาที่หลังของเธอ !
เทวทูต !
“ในนามของฉัน แสงแห่งการตัดสิน !” มู่หรงเสวี่ยเหินพึมพำออกมาด้วยปากที่อวบอิ่ม แสงสีทองพุ่งลงมาจากท้องฟ้าอัดเข้ากับฝูงจระเข้บึงที่อยู่ไม่ไกล
ตูม !