Chapter 25 มาสเตอร์ อย่างงั้นหรอ?
จี้หยวนหยวนรีบหยิบหมุดสองสามอันที่เก็บมาจากพื้นที่ของเธอแล้วแอบโปรยมันตรงหน้า
ในขณะที่หญิงอ้วนกำลังรีบวิ่งเข้ามา เท้าของเธอก็เหยียบที่หมุดนั้นเข้า ทำให้เธอจับที่เท้าและร้องโอดโอยออกมา ใบหน้าของเธอซีดเผือดลงทันทีด้วยความตกใจและเจ็บปวด
ผู้หญิงคนนั้นโกรธเคืองเป็นอย่างมาก วันนี้ช่างเป็นวันที่แปลกจริงๆ ทำไมเธอถึงได้พบกับเด็กน้อยคนนี้และเจอเรื่องโชคร้ายแบบนี้เข้า? หมุดมันมาจากไหนกันนะ? เมื่อกี้พวกเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นเหรอ?
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ดวงตากลมโตของผู้หญิงคนนั้นก็จับจ้องไปที่จี้หยวนหยวนอย่างรวดเร็ว
หมุดพวกนี้... เป็นไปได้ไหมที่เด็กสาวผู้น่าสงสารคนนี้ตั้งใจวางมันไว้ที่นั่น? เห็นได้ชัดว่าเด็กหญิงคนนี้ร้ายกาจไม่ใช่เล่นๆ เลย
“เธอกล้าดียังไง มาวางหมุดแกล้งฉันน่ะ? ฉันจะตีแกให้ตายซะ นังเด็กบ้า นี่…”
จี้ซีซวนและจี้ซีอังกำลังกลับเข้ามาพอดี เมื่อเห็นว่าหลี่ซู่และจี้หยวนหยวนกำลังถูกรังแก การแสดงออกของจี้ซีอังก็เปลี่ยนไป เขาโยนลูกกวาดในมือลงบนพื้นแล้วรีบวิ่งตามจี้ซีซวนมาติดๆ
“หยุดนะ คุณกล้าดียังไงมาแตะต้องพวกเขาน่ะ?”
พวกเขาทั้งสองยืนอยู่หน้า หลี่ซู่ และ จี้หยวนหยวน ทำให้ผู้หญิงคนนั้นเริ่มลังเลใจ
“คุณไม่แม้แต่จะฟังเหตุผลของพวกเราเลย แล้วยังกล้าที่จะทำร้ายเราอีก คุณนี่ช่างโอหังจริงๆ”
“ใช่ การบูลลี่แม่ของเธอมันช่างน่าเบื่อซะจริงๆ”
“คิดดูสิ ฉันซื้อผักจากแผงของเธอมาสองสามครั้งแล้วด้วยซ้ำ แต่ต่อไปฉันคงจะไม่ไปที่นั่นอีก”
ฝูงชนชี้ไปที่ผู้หญิงคนนั้นแล้วพากันกระซุบซิบ
พวกเขาได้รู้เรื่องราวทั้งหมดจากคำพูดของจี้หยวนหยวนแล้ว
ให้เธอสาบานอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อ ประกอบกับความจริงที่ว่าเธอตัวใหญ่และหยาบคาย เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ใช่คนดี
หลี่ซูดูอ่อนโยนและอ่อนแอ ส่วนจี้หยวนหยวนก็ดูน่ารัก
ฝูงชนที่อยู่รายล้อมรอบๆ ต่างก็เห็นใจหลี่ซู่และลูกสาวของเธอ
จี้หยวนหยวนจับมือของหลี่ซูไว้แน่นและเม้มริมฝีปากของเธอขณะที่เธอมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น
เธอแค่เคียดแค้นที่ตอนนี้เธอขาสั้น ไม่เช่นนั้นเธอคงจะรีบรุดไปข้างหน้าและตบผู้หญิงคนนี้สักทีสองที
ผู้หญิงคนนั้นยิ่งโกรธแค้นมากขึ้น เธอชี้กราดไปที่ฝูงชนโดยรอบแล้วต่อว่า “เธอเป็นอะไรกับพวกคุณงั้นหรอ”? พวกคุณจะปกป้องผู้หญิงคนนี้มากขนาดนี้ได้ยังไง? อย่าบอกนะว่ามีคนรักเก่าของเธอน่ะ?”
ทันทีที่เธอพูดจบ ก็ได้ยินเสียง 'แปะ' หลี่ซู่ ก้าวไปข้างหน้าและตบผู้หญิงคนนี้จริงๆ
หญิงอ้วนตกตะลึง เธอปิดหน้าและมอง หลี่ซู่ ด้วยความไม่เชื่อ
เธอโดนตบจริงเหรอ?
เธอโมโหอย่างบ้าคลั่ง ยกมือขึ้นจะตบหน้าหลี่ซู่ เป็นการโต้ตอบ แต่แล้วก็มีอีกมือคว้ามือเธอไว้
ชายผู้ที่ทำเงินหายเมื่อวานนี้ จางคุน , จี้หยวนหยวนคลายมือและเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ
เธอแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าเธอไม่ต้องทำอะไรแล้ว
และด้านหลังจางคุน มีคนไม่กี่คนในชุดเครื่องแบบ
มีผู้จัดการตลาดและตำรวจ
“สหายตำรวจ เธอคนนี้ล่ะ ที่เมื่อวานเธอเก็บเงินของฉันไปมากกว่า 350 หยวน ถ้าเพื่อนตัวน้อยคนนี้ไม่เห็นมันเข้า เธอก็คงจะไม่ส่งคืนให้ฉันหรอก แล้ววันนี้เธอก็เข้ามาหาเรื่องจริงๆ” จางคุนหรี่ตาลงขณะที่เขามองดูผู้หญิงอ้วน
เมื่อหญิงอ้วนเห็นคนเหล่านี้เธอก็พูดทันทีว่า “เธอเป็นคนตบฉันก่อน เธอเป็นฝ่ายที่ทำร้ายคนอื่นก่อนนะ ดูที่หน้าฉันสิ...”
เธอชี้ไปที่ หลี่ซู่ แล้วพูดอย่างร้อนรน มีรอยฝ่ามือบนใบหน้าของเธอจริงๆ
หลี่ซู่ เม้มริมฝีปากของเธอและไม่พูดอะไร
“คุณลุงตำรวจคะ คุณป้าคนนี้ตีหนูก่อน แม่ของหนูโกรธจึงตบเธอ” จี้หยวนหยวนก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและชี้ไปที่ใบหน้าของเธอเอง “และป้าคนนี้ยังมาด่าว่าหนู และแม่ของหนู และคุณลุงคุณป้าพวกนี้ด้วย”
เธอชี้ไปที่ฝูงชนโดยรอบ
ฝูงชนที่อยู่รอบๆ เพิ่งถูกผู้หญิงอ้วนคนนี้ดุด่า ดังนั้นพวกเขาจึงพูดแทนจี้หยวนหยวนอย่างเป็นธรรมชาติในเวลานี้
“ใช่ ใช่ พวกเราทุกคนเป็นพยานได้ ผู้หญิงคนนี้คือคนที่ตีเด็กคนนี้ก่อน นั่นเป็นสาเหตุที่แม่ของเธอทนไม่ไหวอีกต่อไป”
“ใช่ บุคคลผู้นี้ดุด่าหยาบคายและรุนแรงเกินไป มันจึงเป็นการทำไปเพื่อปกป้องตัวเองจริงๆ”
-
เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินมาข้างหน้า “ถ้าอย่างนั้นทั้งสองฝ่าย กรุณามากับเราที่สถานีตำรวจด้วยครับ”
หญิงอ้วนตกตะลึง เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะพบกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งในวันนี้
จึงได้เชิญกลุ่มคนเข้าไปในโรงพักซึ่งอยู่ไม่ไกล
ผู้เห็นเหตุการณ์บางส่วนถึงกับอาสาช่วย หลี่ซู่ ให้การเป็นพยาน
เรื่องนี้ได้รับการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว เป็นผู้หญิงคนนั้นที่ลงมือก่อน และยังเป็นผู้หญิงคนนั้นที่ก่อการละเมิดเป็นการส่วนตัวด้วย
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับ หลี่ซู่ มากนัก สิ่งเดียวที่เธอต้องทำคือหาคนมาเซ็นเอกสารและพาพวกเธอออกไป
ผู้หญิงคนนั้นมีปัญหาเล็กน้อย เธอต้องการให้ครอบครัวของเธอมาจ่ายค่าปรับ อย่างไรก็ตาม เธอเป็นคนปากเสีย ดังนั้นจึงสมควรแล้วที่เธอจะได้รับการลงโทษบ้าง
หลี่ซู่ โทรหาหลี่โหย่ง และขอให้เขามาพาพวกเธอออกไป เมื่อหลี่โหย่งได้ยินว่าพี่สาวของเขาอยู่ที่สถานีตำรวจ เขาก็พูดทันทีว่า "รออยู่ที่นั่นนะ ฉันจะไปหาทันที"
หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว หลี่ซู่ ก็กอด จี้หยวนหยวน และนั่งเงียบ ๆ บนเก้าอี้ในสถานีตำรวจเพื่อรอให้ หลี่โหย่งเข้ามา
จางคุนก็อยู่เคียงข้างเช่นกัน เขาพูดอย่างช่วยไม่ได้ “พี่สาว ฉันขอโทษคุณจริงๆ นะ เพราะเรื่องของฉันแท้ๆ ฉันทำให้พวกคุณลำบากมากจริงๆ”
หลี่ซูส่ายหัว “เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณนะ และไม่ใช่ความผิดของเรา แต่เป็นของเธอ”
เธอเงยหน้าขึ้นแล้วมองดูหญิงอ้วนด้วยความเคียดแค้น
หญิงอ้วนอ้อนวอนตำรวจว่า “สหายตำรวจ ฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว คุณอยากบอกสามีของฉันได้มั้ย? เขาอารมณ์ไม่ค่อยดี หากเขารู้เข้า จะต้องมาทุบตีฉันให้ตายอย่างแน่นอน…”
ตำรวจก็ค่อนข้างลำบากใจเช่นกัน “ตอนนี้คุณรู้จักกลัวแล้วหรอ ตอนก่อเรื่องคุณคิดอะไรอยู่ล่ะ”
หญิงอ้วนมีความกังวลอย่างมาก เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สนใจคำร้องขอของเธอ เธอจึงมองไปที่หลี่ซู
และวิ่งไปหาโดยปราศจากความหยิ่งผยองเหมือนก่อนอีกต่อไป เธอประจบประแจง หลี่ซู่ อย่างระมัดระวัง “พี่สาว ช่วยบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ยกโทษให้ฉันในครั้งนี้หน่อยได้มั้ย ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ฉันถูกปีศาจร้ายเข้าสิง…”
หากหญิงคนนี้เพียงแค่มีปัญหาแต่กับเธอ บางทีหลี่ซู่ อาจจะให้อภัยเธอด้วยใจที่อ่อนโยนและอาจร้องขอแทนเธอด้วยซ้ำ
แต่เมื่อเธอคิดถึงคำพูดที่ผู้หญิงคนนี้พูดกับหยวนหยวน เธอก็อดไม่ได้ที่จะเกลียดชังเขา
เธอมองไปที่จี้หยวนหยวนและไม่ได้พูดอะไร
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นสิ่งนี้ เขาก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “มันไม่มีประโยชน์หรอก แม้ว่าคุณจะขอร้องเธอก็ตาม เธอก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้หรอก” เมื่อได้ยินแบบนี้ ใบหน้าของเธอก็ซีดเผือดและทรุดตัวลงกับพื้นทันที
หลี่โหย่งใช้เวลาประมาณสิบนาทีก็มาถึง จักรยานพังจากการปั่นแทบไฟลุกของเขา
ที่ทางเข้าสถานีตำรวจ เขาโยนจักรยานทิ้งแล้วรีบเข้าไป
“ใครกล้ารังแกพี่สาวของฉัน” หลี่โหย่งรีบเร่งและตะโกนออกไป “แกตายแน่ ถ้ายังกล้ามารังแกพี่สาวของฉันอีก?”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หลี่ซู่ ก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว “เบาๆ หน่อยสิ เรื่องมันจบแล้วนะ อย่ามาตะโกนที่นี่”
หลี่โหย่ง เห็นว่า หลี่ซู่ และลูก ๆ ไม่ได้รับอันตราย สีหน้าของเขาก็สบายใจขึ้น
“ใครรังแกพี่น่ะ” หลี่โหย่งถาม “แล้วทำไมพี่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้”
“พวกเราไม่เป็นไร รีบไปเซ็นเอกสารกันเถอะ กลับไปแล้วฉันจะเล่าให้ฟังนะ” หลี่ซูพูดด้วยเสียงเบาๆ
หลี่โหย่งพยายามระงับสติอารมณ์ของเขาและพยักหน้าก่อนจะลงมือเซ็นต์เอกสาร
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น เขาก็ตกตะลึง “มาสเตอร์ ?”
จางคุนก็ตกตะลึงเช่นกัน “โหย่งซี?”
"มาสเตอร์ อย่างนั้นหรอ ?" หลี่ซูถามอย่างสงสัย