ตอนที่ 9 ดอกไม้งาม ซู ขึ้นรถของฉันเถอะ เย่เฉิน จะขับรถดีๆ อะไรได้?
จ้าว ซูซวน นั่งลงข้าง ซู หนิงซวง แล้วพูดขึ้นว่า :
“หนิงซวง เย่เฉิน เขาฝึกทหารเหนื่อยมาก เดิมทีฉันอยากจะพาเขาไปทานอาหารดีๆ คืนนี้”
“แต่จู่ๆ ก็มีเรื่องด่วนขึ้นมา เธอช่วยไปทานข้าวกับ เย่เฉิน แทนฉันหน่อยได้ไหม”
“พอฉันจัดการเรื่องเสร็จแล้ว จะรีบตามไปหาพวกเธอทันที”
“ห่ะ?”
ได้ยินคำพูดของ จ้าว ซูซวน, ซู หนิงซวง ก็อึ้งไปทันที พลันรู้สึกลังเล
คือจะให้เธอไปทานข้าวกับ เย่เฉิน กันข้างนอกสองคนเหรอ?
ตอนนั้นเอง เพื่อนร่วมห้องอีกคน จางหว่าน ก็โผล่เข้ามาใกล้ๆ
“หนิงซวง ซูซวน คืนนี้พวกเธอก็จะออกไปทานข้าวกันเหรอ?”
จางหว่าน ถามอย่างสงสัย
“ฉันก็นัดกับเพื่อนไว้แล้วว่าจะไปทานข้าวข้างนอกกัน เอางี้ดีไหม เราไปด้วยกันเถอะ?”
ซู หนิงซวง ยังอยากจะปฏิเสธ
แต่ก็ทนต่อการเชิญชวนอย่างกระตือรือร้นของ จางหว่าน ไม่ไหว ในที่สุดก็ยอมตกลง
จ้าว ซูซวน เองก็ไม่คัดค้าน เพราะจริงๆ แล้วการให้ หนิงซวง ไปทานข้าว กับเย่เฉิน เพียงลำพังสองคนมันก็ดูเร็วไปหน่อย
หลังจากนั้น จ้าว ซูซวน ก็ติดต่อ เย่เฉิน ถามความเห็นของเขา
เย่เฉิน ไม่มีปัญหาอะไร ขอแค่ได้ทานข้าว กับซู หนิงซวง การจะมีคนเพิ่มเข้ามาอีกสองสามคนก็ไม่เป็นไร
เพราะตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการได้ครอบครองร้านอาหารสุดหรู - ช่างหรานจู
ส่วนการทานข้าว กับซู หนิงซวง แบบส่วนตัว เอาไว้ทีหลังเถอะ ..มันยังมีโอกาสอีกมากมายในอนาคต
หลังจากยืนยันสถานที่นัดหมายเสร็จ เย่เฉิน ก็วางสายไป
เย่เฉิน ขอให้เพื่อนร่วมห้องช่วยเช็กชื่อแทนในตอนเย็น แล้วก็กลับไปที่ห้องอาบน้ำ เปลี่ยนชุดฝึกทหารของเขาออก
พอดูเวลาแล้วก็หยิบกุญแจรถ Ferrari มุ่งตรงไปยังจุดนัดหมายที่ จ้าว ซูซวน บอก
เมื่อ เย่เฉิน มาถึง ซู หนิงซวง ก็มาถึงพอดีเช่นกัน
ไม่นานหลังจาก เย่เฉิน กับซู หนิงซวง เจอกัน จางหว่าน ก็มาถึงพร้อมกับเพื่อนอีกสองสามคน
รวมตัว จางหว่าน แล้ว ยังมีชายสองคน และหญิงอีกสองคนเดินเข้ามา
หนึ่งในนั้นเป็นผู้ชายผิวขาว พอเห็น เย่เฉิน ยืนอยู่กับ ซู หนิงซวง แววตาของเขาก็แสดงท่าทีเป็นศัตรูออกมา
ผู้ชายคนนี้ชื่อ ฟาง ป๋อเชา เป็นเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขา และยังเป็นรุ่นสองจากตระกูลที่ร่ำรวยที่มีชื่อเสียง
เดิมที ฟาง ป๋อเชา ไม่ได้วางแผนจะมาทานข้าวเย็นกับ จางหว่าน
แต่บ่ายวันนี้ เขาได้ยินเรื่องนี้โดยบังเอิญ โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่า ซู หนิงซวง จะมาด้วย
ดังนั้น ฟาง ป๋อเชา จึงรีบเข้าร่วมทันที และยังรับปากว่าจะเลี้ยงอาหารคืนนี้
เมื่อมีคนอาสาเลี้ยง จางหว่าน ก็ไม่ปฏิเสธ
ฟาง ป๋อเชา เป็นคนที่ชอบ ซู หนิงซวง เขาเคยเห็นโพสต์เมื่อวาน และรู้ว่า ซู หนิงซวง เอาน้ำไปให้กับ เย่เฉิน
แต่เดิมเขาก็อิจฉา เย่เฉิน มากอยู่แล้ว ตอนนี้พอเห็นว่า เย่เฉิน จะออกไปทานข้าวด้วย
ชั่วครู่หนึ่งเขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้น
ไม่ได้ เขาต้องจัดการกับไอ้เจ้าเด็กนี่สักหน่อย ให้มันขายหน้าต่อหน้า ดอกไม้งาม ซู!
เมื่อคิดได้ดังนั้น ฟาง ป๋อเชา กับพวกก็เดินเข้ามา
ใบหน้าของ ซู หนิงซวง แต่เดิมดูสงบ กลับเปลี่ยนไปเมื่อเห็น ฟาง ป๋อเชา และพวกเดินเข้ามา
เห็นได้ชัดว่าเธอมีความประทับใจที่ไม่ดีต่อ ฟาง ป๋อเชา
ถ้าไม่ใช่เพราะรับปากคนอื่นไว้ ซู หนิงซวง คงจะหันหลังจากไปแล้ว
หลังจากเจอกันก็ต่างพูดคุยกันครู่หนึ่ง
“ฉันรู้จักร้านอาหารหรูๆ ร้านหนึ่ง และฉันเป็นสมาชิกระดับโกลด์ของที่นั่น ฉันว่าเราไปทานที่นั่นกันเถอะ”
ฟาง ป๋อเชา แนะนำ
“คนมากันครบแล้ว ไปกันเถอะ”
ฟาง ป๋อเชา กลายเป็นเหมือนหัวหน้ากลุ่ม
“โอเค”
“ไปกันเถอะ”
คนอื่นๆ ไม่มีใครคัดค้าน
“รอแป๊บนะ ฉันจะไปเอารถมารับพวกเธอ”
“อ่า.. ให้ตายสิ ไม่ใช่ ไม่ใช่แล้ว”
ขณะกำลังจะก้าวออกไป ฟาง ป๋อเชา ก็ตบหัวตัวเอง แล้วพูดอย่างน่าเสียดายขึ้นว่า :
“ฉันลืมไปว่าคราวนี้มี เย่เฉิน มาด้วย พวกเรามีทั้งหมดหกคน แต่รถฉันนั่งได้แค่ห้าคนเท่านั้น”
ฟาง ป๋อเชา เริ่มหาเรื่อง
“งั้นเอางี้ เย่เฉิน นายไปแท็กซี่เองล่ะกัน เดี๋ยวฉันจะจ่ายค่าแท็กซี่ให้”
ฟาง ป๋อเชา ตั้งใจจะแยก เย่เฉิน ออกไป
ได้ยินดังนั้น คนอื่นๆ ก็ไม่มีใครมีปัญหาอะไร
มีแต่ ซู หนิงซวง ที่ขมวดคิ้ว และคิดว่านี่มันไม่ดี
วันนี้เธอมาที่นี่หลักๆ ก็เพื่อมาดูแล เย่เฉิน แทน ซูซวน จะให้ เย่เฉิน ไปแท็กซี่คนเดียวได้ยังไง?
ขณะที่ ซู หนิงซวง กำลังจะพูดว่าจะไปแท็กซี่กับ เย่เฉิน
แต่ยังไม่ทันที่ ซู หนิงซวง จะพูด เย่เฉิน ก็พูดขึ้นก่อนแล้ว
“ไม่เป็นไร ผมมีรถ ไม่ต้องลำบากขนาดนั้น”
หืม?
พอได้ยิน เย่เฉิน พูดแบบนี้ จางหว่าน กับคนอื่นๆ ก็ตกใจ
ฟาง ป๋อเชา เป็นลูกคนรวย มีรถก็ดูเป็นเรื่องปกติ แต่พวกเขาไม่คิดว่า เย่เฉิน จะมีรถด้วย
และเขาดูเหมือนเพิ่งเข้ามหาลัยปีนี้นี่นา
นักศึกษาปีหนึ่ง ก็มีรถแล้ว?
สุดยอด..
ไม่ว่ารถของ เย่เฉิน จะเป็นรถแบบไหน ต่อให้เป็นรถที่ถูกที่สุด ก็ยังถือว่าเหนือกว่าคนส่วนใหญ่
ท้ายที่สุดแล้วอย่าว่าแต่นักศึกษาปีหนึ่งเลย แม้แต่นักศึกษาปีสามปีสี่ก็มีน้อยคนที่จะมีรถยนต์เป็นของตัวเอง
เย่เฉิน ในปีหนึ่ง ก็ได้ก้าวข้ามพวกเขาไปแล้ว
คำตอบของ เย่เฉิน ทำให้ ฟาง ป๋อเชา ตกใจแล้ว
เขาไม่คาดคิดว่า เย่เฉิน จะมีรถด้วยจริงๆ
เดิมทีเขาหวังว่าจะใช้โอกาสนี้แยก เย่เฉิน ออกไป?
แต่แผนดันล้มเหลวโดยไม่คาดคิด
“งั้นยิ่งดี นายก็ไปเอารถมาเถอะ”
ฟาง ป๋อเชา แสดงรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง
เย่เฉิน มีรถ.. ฮ่าฮ่า งั้นมันก็ยิ่งดี
เดี๋ยวเขาจะเอา BMW Series 7 ที่ราคาเกินล้านมา ส่วน เย่เฉิน ก็เอารถของตัวเองมา
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว
เย่เฉิน จะต้องรู้สึกอับอายแน่นอน แบบนี้มันก็ยิ่งเน้นย้ำถึงความเหนือกว่าของเขาไม่ใช่หรือ?
เมื่อถึงตอนนั้น ดอกไม้งาม ซู จะต้องรู้ได้อย่างแน่ชัดว่าจะนั่งรถของใคร
ดีมาก ดีมากมาก..
หลังจากพูดจบ ฟาง ป๋อเชา ก็แทบรอไม่ไหวที่จะไปเอารถของเขา
เย่เฉิน ก็จากไปเช่นกัน
ในมหาลัยมีที่จอดรถมากกว่าหนึ่งแห่ง รถของ เย่เฉิน กับฟาง ป๋อเชา จอดคนละที่กัน ดังนั้นจึงไปกันคนละทาง
ที่จอดรถของ ฟาง ป๋อเชา อยู่ใกล้ๆ หลังจากนั้นไม่นาน ฟาง ป๋อเชา ก็ขับ BMW Series 7 ของเขามา
ฟาง ป๋อเชา จอดรถข้างๆ พวกเขา แล้วลดกระจกลงช้าๆ
“โอ้โห BMW Series 7 คุณชายฟาง สุดยอดเลย”
พอเห็นรถของ ฟาง ป๋อเชา เพื่อนผู้ชายที่ยืนอยู่ก็พูดขึ้นอย่างประหลาดใจ
ฟาง ป๋อเชา เคยขับ Audi A4 ที่ราคาราวๆ กว่า 300,000 หยวน แต่นี่กลับเปลี่ยนมาเป็นรถคันใหม่แล้ว
“คุณชายฟาง รถ BMW Series 7 คันนี้ราคาเท่าไหร่น่ะ?”
เพื่อนผู้ชายถามด้วยความอยากรู้
“ก็ไม่เท่าไหร่ ราวๆ 1.2 ล้านหยวน ไม่แพงเลย”
ฟาง ป๋อเชา พูดอย่างไม่ใส่ใจ
กว่า 1.2 ล้านหยวน?!
เมื่อได้ยิน ฟาง ป๋อเชา พูด จางหว่าน กับเพื่อนต่างก็อึ้ง
เพิ่งจะปีสอง ฟาง ป๋อเชา ก็ขับรถหรูเกินล้านแล้ว?
นี่ก็สุดยอดเกินไป!
พวกเขาทั้งหมดต่างหวาดกลัวในความร่ำรวยของ ฟาง ป๋อเชา
ในที่นี่คงมีแต่ ซู หนิงซวง เท่านั้นที่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ
“ขึ้นรถเถอะ”
ฟาง ป๋อเชา พูดขึ้น
“โอเค ขอบคุณคุณชายฟาง”
“ขอบคุณคุณชายฟาง”
หลายคนพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น แล้วเปิดประตูรถแทบรอไม่ไหวที่จะเข้าไปนั่งทันที
แน่นอนว่าพวกเขารู้ดีว่าต้องเว้นที่นั่งข้างคนขับเอาไว้
ไม่นาน ภายนอกก็เหลือเพียง ซู หนิงซวง คนเดียว
“ดอกไม้งาม ซู ขึ้นรถสิ”
ฟาง ป๋อเชา เชิญ ซู หนิงซวง ที่ยืนอยู่กับที่ไม่ไหวติง
“ไม่ล่ะ ขอบคุณ ฉันจะนั่งรถ เย่เฉิน”
ซู หนิงซวง ส่ายศีรษะ ปฏิเสธอย่างไม่ลังเล
เมื่อถูกปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา ใบหน้าของ ฟาง ป๋อเชา ก็พลันเปลี่ยนสีทันที แต่เขายังคงไม่ยอมแพ้
“ดอกไม้งาม ซู ขึ้นรถของฉันเถอะ เย่เฉิน จะขับรถดีๆ อะไรได้?”
“เขาไม่น่าจะขับรถดีๆ อะไรหรอกน่า การมานั่ง BMW Series 7 ของฉันดูจะสบายกว่าแน่นอน”
ฟาง ป๋อเชา แนะนำ
“หนิงซวง คุณชายฟาง พูดถูกนะ รถของ เย่เฉิน คงไม่ดีเท่าของ คุณชายฟาง แน่ๆ”
เพื่อนสาวในรถคนหนึ่งพูดเชียร์เพื่อโน้มน้าว ซู หนิงซวง
เมื่อเห็นว่า ฟาง ป๋อเชา ขับรถหรูราคาเกินล้าน เพื่อนสาวก็เลือกเข้าข้าง ฟาง ป๋อเชา ทันที
“ใช่แล้ว ดอกไม้งาม ซู ขึ้นรถเถอะ คุณชายฟาง เว้นที่ข้างคนขับให้คุณแล้ว”
เพื่อนชายอีกคนก็กล่าวเสริม
เพียงแต่ ซู หนิงซวง ก็ยังคงส่ายหน้า
“ดอกไม้งาม ซู เย่เฉิน คงขับรถคันหนึ่งไม่น่าเกินสองแสนหยวน รถแบบนั้นจะไปคู่ควรกับคุณได้ยังไง?”
ฟาง ป๋อเชา ยังพยายามเกลี้ยกล่อม ซู หนิงซวง
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ พลันเห็นรถ Ferrari คันหนึ่งขับมาอย่างช้าๆ จากระยะไกล
“ให้ตาย Ferrari!”
“ซุปเปอร์คาร์ ฉันเห็นซุปเปอร์คาร์ในมหาลัยจริงๆ เหรอเนี่ย?”
ในรถของ ฟาง ป๋อเชา เมื่อเห็น Ferrari คันนี้ ทุกคนก็ตื่นเต้นกันใหญ่
แม้แต่ ฟาง ป๋อเชา ก็ถูกดึงดูดด้วย Ferrari คันนี้
มันหล่อสุดๆ และเท่สุดๆ!
นี่แหละคือซุปเปอร์คาร์ นี่แหละคือเสน่ห์ของ Ferrari
ฟาง ป๋อเชา รู้สึกอิจฉาอย่างมากอยู่ครู่หนึ่ง
ขนาด ฟาง ป๋อเชา ยังเป็นถึงขนาดนี้ คนอื่นๆ ในรถยิ่งไม่ต้องพูดถึง พวกเขาต่างตะลึง พลันดวงตาเบิกกว้างไปนานแล้ว
“คงจะดีไม่น้อยถ้าหากฉันได้นั่ง Ferrari สักครั้ง..”
“ฉันไม่รู้ว่าคนที่ขับ Ferrari เป็นใคร?”
หลายคนพึมพำอย่างหลงใหล
ภายใต้สายตาจับจ้องมองของใครหลายคน Ferrari ก็หยุดจอดอยู่หน้า BMW Series 7 ของ ฟาง ป๋อเชา
ในวินาทีถัดมา ประตูรถก็เปิดออก เห็นเพียงหนุ่มหล่อคนหนึ่งก้าวออกมาอย่างช้าๆ
เห็นดังนั้น ทุกคนพลันตกตะลึงราวกับถูกสาป!!!