ตอนที่แล้วตอนที่ 5 ฉันได้ยินว่ามีรถ Ferrari คันหนึ่งจอดอยู่ข้างนอก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7 ขอถามว่าใครคือ คุณเย่เฉิน?

ตอนที่ 6 ลูกพี่ลูกน้องกลายมาเป็นเพื่อนสนิทของ ซู หนิงซวง และเธอยังอยากจับคู่ เย่เฉิน กับซู หนิงซวง ด้วย


“เนื่องจากไม่รู้ว่ารถซุปเปอร์คาร์คันนั้นคือรุ่นอะไร เหล่าหลิว จึงยืนอยู่ตรงนั้น และค้นหาข้อมูลในโทรศัพท์เป็นเวลานานกว่าจะทราบรุ่นของรถคันนั้น”

เพื่อนร่วมห้องของ เย่เฉิน อธิบาย

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา บรรยากาศในหอพักก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว กลายเป็นบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจอย่างยิ่ง

สีหน้าของ โจว ฮ่าวหราน แดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่า

ครั้งนี้เขาอับอายมาก!

รถซุปเปอร์คาร์ที่พวกเขาพูดถึงเมื่อสักครู่นั้นไม่ใช่ Porsche 718 ของเขา แต่เป็น Ferrari SF90

แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นรถสปอร์ตเหมือนกัน แต่ความแตกต่างระหว่างทั้งสองนั้นใหญ่เกินไป

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นๆ แค่ราคาก็เห็นได้ชัดแล้วว่า Porsche 718 ราคา 800,000 หยวน

ส่วน Ferrari SF90 ราคา 5,000,000 หยวน

แค่ Ferrari SF90 คันหนึ่งก็สามารถซื้อ Porsche 718 ได้มากถึง 6 ถึง 7 คันเลยทีเดียว

“เอ่อ... เพื่อนของนายไม่ได้มองผิดใช่ไหม แน่ใจนะว่านั่นเป็น Ferrari SF90?”

โจว ฮ่าวหราน ถามขึ้นอีกครั้งอย่างไม่เต็มใจ

“แน่นอน เขาส่งรูปมาให้ดูแล้ว ดูสิ”

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักรุ่นของรถซุปเปอร์คาร์ แต่พวกเขาก็ยังสามารถแยกแยะโลโก้ของ Ferrari และ Porsche ได้

เมื่อพวกเขามองดูรูปนั้นแล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าเป็น Ferrari ไม่ใช่ Porsche

พอเห็นรูปถ่ายนั้น โจว ฮ่าวหราน ก็ยิ่งรู้สึกอับอายมากยิ่งขึ้น

“Ferrari นี่สิ ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นรถซุปเปอร์คาร์ของจริง”

“Ferrari SF90 ราคา 5,000,000 หยวน ฉันล่ะโคตรจะอิจฉาเลย!”

เมื่อมองดู Ferrari ในรูป เพื่อนของ เย่เฉิน ต่างพากันอุทานออกมา

ทันใดนั้น Porsche 718 ของ โจว ฮ่าวหราน ก็ไม่โดดเด่นอีกต่อไป

Porsche 718 ไม่สามารถเทียบกับ Ferrari SF90 ได้เลย ทั้งสองไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลยด้วยซ้ำ

“คนที่สามารถขับ Ferrari SF90 ได้นี่ ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ บางทีอาจเป็นอาจารย์ หรือนักวิจัยในมหาลัยก็ได้นะ?”

โจว ฮ่าวหราน พยายามหาข้อแก้ตัวเพื่อกู้หน้ากลับมา

“นักศึกษาธรรมดาๆ คงไม่มีทางขับรถซุปเปอร์คาร์แบบนี้ได้หรอก”

ตอนนั้นเอง เมื่อได้ยินการสนทนาของพวกเขา โดยเฉพาะเรื่อง Ferrari SF90 เย่เฉิน เริ่มสงสัยว่ามันเป็นรถของตัวเองหรือเปล่า จึงเดินเข้าไปหาพวกเขาด้วย

“น่าเสียดายนะ ที่เราไม่สามารถลองเข้าไปนั่งสัมผัสใน Ferrari เลยว่ามันรู้สึกอย่างไร”

“ใช่ นี่มันน่าเสียดายมาก”

เพื่อนร่วมห้องของ เย่เฉิน พลางถอนหายใจ

แต่ในตอนนั้นเอง มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

“Ferrari คันนั้นน่ะ เป็นของฉันเอง”

ทันใดนั้น บรรยากาศภายในหอพักพลันเงียบสงัด

ห๊ะ?!

ทันที ทุกสายตาจับจ้องมองไปที่ เย่เฉิน

พวกเขาเพิ่งได้ยินอะไรไป?

เย่เฉิน บอกว่ารถ Ferrari SF90 คันนั้นเป็นของเขา?

หูพวกเขาไม่ได้ฝาดไปใช่ไหม?

“เย่เฉิน นายบอกว่ารถ Ferrari SF90 คันนั้นเป็นของนายเหรอ?”

โจว ฮ่าวหราน ถามด้วยความไม่เชื่อ

“ใช่ แล้วมีอะไรหรือ?”

ขณะที่พูด เย่เฉิน ก็หยิบกุญแจรถจากกระเป๋าออกมา และโยนไปบนเตียงอย่างไม่ได้ตั้งใจ(ใครเชื่อ?)

พูดตามความจริงแล้ว การที่เขาพกกุญแจรถครั้งแรก ..มันรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

ทันใดนั้น สายตาทุกคนจับจ้องไปที่กุญแจรถของ เย่เฉิน

เมื่อเห็นตราโลโก้ของ Ferrari บนกุญแจ ทุกคนก็เชื่ออย่างสนิทว่า..

รถ Ferrari SF90 คันนั้นเป็นของ เย่เฉิน จริงๆ

เพื่อนของพวกเขา คนที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน กลับขับ Ferrari SF90 ราคา 5,000,000 หยวนได้?!

มันทำให้พวกเขายากจะเชื่อได้จริงๆ

“เหล่าเย่ นายแมร่งโคตรเจ๋ง!”

“นายแมร่งมันโคตรโคตรเทพเลยว่ะ เหล่าเย่!”

พวกเขาไปหยิบถือกุญแจรถ Ferrari ของ เย่เฉิน ด้วยมือที่สั่นเทา และล้อมรอบดูมันไปพลางพูดขึ้นด้วยความอิจฉา

เมื่อมองไปที่กุญแจรถ Ferrari ของ เย่เฉิน โจว ฮ่าวหราน ก็ยืนแข็งทื่อ ด้วยดวงตาเบิกกว้าง

มัน..มันน่าอายเกินไปแล้ว!

เขาถูก เย่เฉิน บดขยี้อย่างไร้ความปรานีอีกครั้ง

เมื่อกี้เขาปากแข็งโดยบอกไปว่าซุปเปอร์คาร์ที่ยอดเยี่ยมอย่าง Ferrari SF90 ไม่สามารถเป็นของนักศึกษาได้

วินาทีต่อมา เย่เฉิน ก็ลุกขึ้นยืน

นาทีนั้น โจว ฮ่าวหราน พลันรู้สึกเจ็บปวดแสบร้อนบนใบหน้าของเขา

เมื่อเช้านี้ เขาอวดว่ามีแฟนสาวเอาน้ำมาให้ และถูก เย่เฉิน ทำให้เสียหน้าอย่างมาก

ในตอนเที่ยง เขาวางแผนเพื่อกู้หน้ากลับมาโดยนำรถของตัวเองมาอวด

แต่เพิ่งเริ่มอวดได้ไม่นาน ก็ถูก เย่เฉิน บดขยี้อีกครั้งอย่างง่ายดาย

ถามจริง.. มันยังมีความยุติธรรมในโลกนี้อีกไหม?

เย่เฉิน มันคือปิศาจชัดๆ

ในขณะนั้น โจว ฮ่าวหราน รู้สึกเหมือนจะร้องไห้ เขารู้สึกอับอายมากๆ

โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงการเย่อหยิ่ง และโอ้อวดของเขาเมื่อสักครู่ เขายิ่งรู้สึกอับอาย และไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

ดังนั้นเขาจึงรีบหลบหนีไปอย่างเงียบๆ เมื่อเพื่อนๆ ของ เย่เฉิน ไม่ทันสังเกตเห็น

เนื่องจากเพื่อนๆ ของ เย่เฉิน ไม่มีใครคนใดเคยนั่งรถซุปเปอร์คาร์มาก่อน

พวกเขาจึงขอร้องอย่างหนักให้ เย่เฉิน พาไปที่ลานจอดรถ

“ว้าว โคตรหล่อเท่!”

“เหล่าเย่ นายมันสุดยอดจริงๆ”

เมื่อเห็น Ferrari SF90 ของ เย่เฉิน ด้วยตาตัวเอง ทั้งสามคนก็รู้สึกตื่นเต้น และประทับใจกับมันมาก

การได้เห็นมันจากรูปถ่ายในโทรศัพท์กับการเห็นของจริงนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ในขณะที่ เย่เฉิน และเพื่อนๆ ของเขากำลังรู้สึกตื่นเต้นกับ Ferrari SF90

เช้านี้ ข่าวเกี่ยวกับ ดอกไม้งาม ซู ผู้เย็นชา ได้นำน้ำมาส่งให้ เย่เฉิน ก็แพร่กระจายออกไป

เรื่องนี้กลายเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในฟอรั่มของมหาลัย และเป็นประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดในกลุ่มนักศึกษา ไม่เว้นแม้แต่ในโซเชียลมีเดียอื่นๆ

“อ๊าากกก เทพธิดาของฉัน ทำไมเธอถึงไปส่งน้ำให้ผู้ชายคนหนึ่งได้อย่างไร?”

“ดอกไม้งาม ซู สุดเย็นชาของฉัน ทำไมเธอถึงเปลี่ยนไปได้ยังไง?”

“ฉันโกรธมากจนแทบจะระเบิดแล้ว มีใครอยากจะรวมกลุ่มไปดูไหม ฉันอยากจะรู้จริงๆ ว่าไอ้เด็กใหม่ที่ชื่อ เย่เฉิน คนนี้มันเป็นใคร คาดไม่ถึงว่าจะทำให้ ดอกไม้งาม ซู ของเราทำแบบนี้ได้?”

ใต้โพสต์นั้นมีคอมเมนต์มากมายที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา และความเกลียดชังต่อ เย่เฉิน

เย่เฉิน เวลานี้ในพริบตาเขาก็ได้กลายเป็นศัตรูของคนเหล่านี้แล้ว

มีผู้ไล่ตาม ซู หนิงซวง อย่างจริงจังอยู่หลายคนที่ทนไม่ไหว อยากจะไปเจอ เย่เฉิน ด้วยตัวเอง

ในขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง เย่เฉิน ที่กำลังเดินกลับหอพักกับเพื่อนร่วมห้องของเขาหลังจากดูรถซุปเปอร์คาร์เสร็จ เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกพี่ลูกน้องของเขา จ้าว ซูซวน โดยบังเอิญ

จ้าว ซูซวน เป็นลูกสาวของป้าของ เย่เฉิน เธอเรียนอยู่ปี 2 ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับ เย่เฉิน ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นพี่ของเขา และเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีเหมือนพี่น้องกันกับ เย่เฉิน

เดิมทีที่ เย่เฉิน เลือกมหาวิทยาลัยนี้ก็เพราะป้าของเขาแนะนำ โดยบอกว่ามหาวิทยาลัยนี้ถือว่าค่อนข้างดี

“เย่เฉิน เธอเป็นไงบ้าง รู้สึกยังไงที่ได้รับน้ำจากดอกไม้งามมหาลัยผู้แสนจะเย็นชาของเรา?”

ทันทีที่ เย่เฉิน รับโทรศัพท์ เขาก็ได้ยินเสียงของลูกพี่ลูกน้องของเขา จ้าว ซูซวน ที่เต็มไปด้วยความอยากรู้

“หืม?”

ไม่รู้ว่าทำไม เย่เฉิน รู้สึกถึงความหมายอื่นจากคำพูดของ จ้าว ซูซวน

“ก็ไม่เลวนะ”

เย่เฉิน ตอบแบบส่งๆ ไป

“อะไรคือ ไม่เลว เธอรู้ไหมว่าพี่สาวคนนี้ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน เพื่อให้ หนิงซวง ไปส่งน้ำให้เธอนะ รู้บ้างเปล่าหะ!”

จ้าว ซูซวน พอฟังคำตอบของ เย่เฉิน แล้วก็รู้สึกไม่พอใจทันที

เย่เฉิน ได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกงงๆ เล็กน้อย

“อะไรนะ?” เย่เฉิน ถามอย่างตกใจ

จ้าว ซูซวน อธิบายให้ เย่เฉิน ฟัง หลังจากฟังเสร็จ เย่เฉิน ก็เข้าใจประมาณหนึ่ง

ปรากฎว่า จ้าว ซูซวน กับซู หนิงซวง เป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน และยังเป็นเพื่อนที่สนิทกันด้วย

เพราะ ซู หนิงซวง ยังโสด จ้าว ซูซวน เลยอยากจะจับคู่ให้เธอ

เธอรู้สึกว่า เย่เฉิน กับซู หนิงซวง เหมาะสมกัน แม้ว่า หนิงซวง จะสวยมาก แต่ เย่เฉิน เองก็หล่อมากเช่นเดียวกัน

ท้ายที่สุดแล้วเธอไม่อยากให้คนอื่นได้เธอไป แม้ว่า ซู หนิงซวง จะเป็นเพื่อนสนิทของเธอ แต่ จ้าว ซูซวน ก็อยากให้สักวันหนึ่ง หนิงซวงเรียกเธอว่า พี่สาว..

อิอิ.. มันจะต้องรู้สึกดีมากแน่ๆ

ดังนั้นเพื่อจับคู่ เย่เฉิน กับซู หนิงซวง, จ้าว ซูซวน กับซู หนิงซวง จึงเล่นเกมกันเล็กน้อย

คนที่แพ้จะต้องทำตามคำท้าทายของอีกฝ่าย

ผลคือ จ้าว ซูซวน เอาชนะไปได้อย่างง่ายดาย และคำท้าทายที่เธอให้ ซู หนิงซวง ทำคือไปส่งน้ำให้ เย่เฉิน

หลังจากฟังคำอธิบายของ จ้าว ซูซวน เย่เฉิน ก็เข้าใจมากขึ้น

บริการส่งน้ำจากดอกไม้งามที่เขาซื้อจากเกม ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นแบบไม่มีที่ไปที่มา

มันสามารถมีมีอิทธิพลในชีวิตจริง และเกิดขึ้นได้ในลักษณะที่สมเหตุสมผล และถูกต้องด้วยกฎหมาย

การให้ ซู หนิงซวง ไปส่งน้ำให้เขาแบบไม่มีที่ไปที่มาเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ แต่ถ้าเป็นเกมคำท้ามันก็ ..สมเหตุสมผล

จ้าว ซูซวน ที่ชนะเกม และให้ ซู หนิงซวง ไปส่งน้ำให้เขา คงจะเกี่ยวข้องกับเกม ‘ด้วยเงินเดือนแค่สามพัน ฉันก็กลายเป็นมหาเศรษฐีของโลกได้’ ของเขา

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เย่เฉิน พลันปรากฏรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าของเขา

แบบนี้ก็ดีแล้ว

สินค้าจากเกมสามารถปรากฏในชีวิตจริงได้อย่างสมเหตุสมผล และถูกต้องด้วยกฎหมาย แน่นอนว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดปัญหาตามมา และไม่ดูเป็นเรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใด

แม้ว่าบริการส่งน้ำจากดอกไม้งามจะเป็นสิ่งที่เขาซื้อด้วยเงิน แต่ เย่เฉิน ก็รู้สึกได้ว่า จ้าว ซูซวน หวังดีกับเขา จึงตอบรับไปอย่างไม่ขัดข้อง

“งั้นผมต้องขอบคุณพี่สาวแล้ว”

เย่เฉิน กล่าวขอบคุณเธอ

ต้องยอมรับว่าพี่สาวของเขาคนนี้ดีกับเขามาก เธอรู้ว่าเขาโสด เลยอยากจะจับคู่เขากับ ซู หนิงซวง

“แบบนี้สิถึงจะถูก”

จ้าว ซูซวน หลังจากฟังคำขอบคุณของ เย่เฉิน แล้วเธอก็ดูอารมณ์ดีขึ้นมาทันที

เธอเตรียมที่จะทำแผนการจับคู่ เย่เฉิน กับซู หนิงซวง ต่อไป

เธอคิดว่าทั้งสองคนนี้เหมาะสมกันจริงๆ

“แล้วเดี๋ยวเจอกัน”

จ้าว ซูซวน พูดเสริมเป็นประโยคสุดท้าย

หลังจากนัดเจอกับ เย่เฉิน แล้ว จ้าว ซูซวน ก็วางสายไป

ไม่นานก็มีสายแปลกๆ โทรเข้ามาอีก

“สวัสดีครับ คุณคือ คุณเย่ เย่เฉิน ใช่ไหมครับ ผมเป็นเจ้าหน้าที่ของโครงการคฤหาสน์ หลิงหยุนเทียนกง”

“ทางเราเห็นว่าคุณซื้อคฤหาสน์ เลขที่ 8 และชำระเงินเรียบร้อยแล้ว”

เมื่อรับสาย มีเสียงของชายวัยกลางคนดังขึ้น

“ไม่ทราบว่าคุณสะดวกเวลาไหนครับ ทางเราจะได้นำสัญญาไปให้คุณ”

พอได้ยินแบบนี้ เย่เฉิน คิดอยู่ครู่หนึ่ง

คฤหาสน์ของเขากำลังจะได้มาในเร็วๆ นี้ ซึ่งมันเยี่ยมมาก..

“ตอนนี้สะดวกครับ ดังนั้นคุณเอามาให้ผมได้เลย”

เย่เฉิน ตอบ

“ได้ครับ เราจะนำไปให้คุณทันที”

ชายวัยกลางคนพูดอย่างสุภาพ

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่คนนี้ก็ขอที่อยู่ที่แน่นอนจาก เย่เฉิน ก่อนจะวางสายไป

หลังจากวางสาย เย่เฉิน ก็ไปยังสถานที่ที่นัดเจอกับ จ้าว ซูซวน

เมื่อ เย่เฉิน ไปถึง จ้าว ซูซวน ก็อยู่ที่นี่ก่อนแล้ว

เพียงแต่เธอไม่ได้มาคนเดียว เธอยังพา ซู หนิงซวง มาด้วย…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด