ตอนที่ 5 ฉันได้ยินว่ามีรถ Ferrari คันหนึ่งจอดอยู่ข้างนอก

เขตคฤหาสน์ หลิงหยุนเทียนกงตั้งอยู่รอบทะเลสาบหลิงหยุนที่มีชื่อเสียง ทิวทัศน์งดงาม และสภาพแวดล้อมสวยงาม

เป็นสถานที่ชื่นชอบของเศรษฐีมากมายในเจียงโจว

เนื่องจากทำเลที่ตั้งของเขตคฤหาสน์ หลิงหยุนเทียนกง ราคาจึงแพงอย่างน่ากลัว

‘หลิงหยุนเทียนกง’ เป็นหนึ่งในเขตคฤหาสน์ที่แพงที่สุดในเจียงโจว โดยราคาคฤหาสน์แต่ละหลังอยู่ที่ราวๆ 30 ถึง 40 ล้านหยวน

เป็นดังที่กล่าวไว้ว่า ‘ของหายากย่อมมีค่า(物以稀为贵)’ และทะเลสาบหลิงหยุนไม่ได้ใหญ่โตมากนัก คฤหาสน์ภายในหลิงหยุนเทียนกงจึงมีไม่มาก

มีเพียง 26 หลังเท่านั้น

และในนั้นมีคฤหาสน์ 5 หลังที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และมีราคาสูงสุด ได้แก่ คฤหาสน์เลขที่ 1, 6, 8, 11 และ 18

คฤหาสน์เหล่านี้ขายในราคาหลังละ 50 ล้านหยวน

คุณต้องรู้ก่อนว่า ‘เจียงโจว’ เป็นเพียงเมืองชั้นสอง หรือสามทั่วไป และคฤหาสน์หลังละ 50 ล้านหยวนนั้นถือว่าเป็นราคาที่น่ากลัวมาก!

ครั้งนี้ คฤหาสน์ที่ เย่เฉิน ซื้อจากเกม คือคฤหาสน์ เลขที่ 8 หนึ่งในคฤหาสน์ที่แพงที่สุดในหลิงหยุนเทียนกง!

หลังจากดูข้อมูลเกี่ยวกับเขตคฤหาสน์ หลิงหยุนเทียนกง แล้ว เย่เฉิน ก็ต้องตกใจ

เพราะมันคือสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะเป็นเช่นนี้!

เย่เฉิน คิดว่า คฤหาสน์ที่ซื้อจากเกมจะมีราคาประมาณ 20 ถึง 30 ล้านหยวน

ซึ่งก็ถือว่าดีมากแล้วในเจียงโจว

แต่ไม่คิดเลยว่าผลลัพธ์จะเกินความคาดหมายไปมาก

ครั้งนี้ เขาจ่ายเพียงสามเหมาในเกม ซึ่งเป็นคฤหาสน์หรูระดับท็อปแห่งหนึ่งในเจียงโจว

แต่เขาได้คฤหาสน์ราคาถึง 50 ล้านหยวน!

นี่คือสิ่งที่ เย่เฉิน ไม่กล้าแม้แต่จินตนาการ..

“คฤหาสน์ เลขที่ 8 หลิงหยุนเทียนกง”

เย่เฉิน พึมพำ ตอนนี้เขาก็แค่รอให้เจ้าหน้าที่ของหลิงหยุนเทียนกง ติดต่อมาเพื่อเซ็นสัญญากับเขาเท่านั้น

เกม ‘ด้วยเงินเดือนแค่สามพัน ฉันก็กลายเป็นมหาเศรษฐีของโลกได้’ นี้แข็งแกร่งจริงๆ!

เขาใช้เงินเพียงห้าเหมา แต่ได้สิ่งของที่มีมูลค่าถึง 55 ล้านหยวน

ซึ่งมันทำให้เขาต้องประหลาดใจมาก

ด้วยสิ่งของสองรายการนี้ มูลค่าทรัพย์สินของ เย่เฉิน จึงเพิ่มขึ้นจากหลักพันเป็นหลักห้าสิบล้าน

ทันใดนั้นมันก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 50,000 เท่า!!!

และเขาเริ่มรู้สึกว่าการเป็นเศรษฐีพันล้านไม่ได้ไกลเกินเอื้อม

ทั้งยังดูเหมือนว่าการบรรลุเป้าหมายเล็กๆ ของเขานั้นก็ไม่ได้อยู่ไกลเกินไปแล้ว

เรื่องคฤหาสน์เพียงรอให้เจ้าหน้าที่ติดต่อมา

แต่รถ Ferrari SF90 ที่จอดอยู่ในลานจอดรถนั้น เย่เฉิน จะไม่ลองไปดูได้อย่างไร?

เพราะตอนนี้เขามีกุญแจรถ Ferrari SF90 อยู่ในกระเป๋าแล้ว

นี่คือรถคันแรกของเขาจริงไหม?

แต่ใครจะไปนึกว่ารถคันแรกของนักศึกษามหาลัยธรรมดาๆ คนหนึ่งจะมีได้ จะเป็น Ferrari ราคา 5 ล้านหยวน..

แน่นอนว่าชายหนุ่มโดยส่วนใหญ่ต่างมีความใฝ่ฝันที่จะขับรถซุปเปอร์คาร์

แต่น่าเสียดายที่มันเป็นแค่ความฝัน ซึ่งเราทำได้เพียงแต่แค่คิดเท่านั้น

เพราะในความเป็นจริง ไม่ค่อยมีใครซื้อซุปเปอร์คาร์ราคาเป็นล้านได้

แต่ตอนนี้ สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพียงความฝันมันได้กลายมาเป็นความจริงแล้ว

เย่เฉิน ได้เป็นเจ้าของรถซุปเปอร์คาร์คันแรกของเขา

ความรู้สึกนี้ยอดเยี่ยมมากๆ!

โชคดีที่เขาได้ไปสอบใบขับขี่ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนที่ผ่านมา

ไม่เช่นนั้น แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีซุปเปอร์คาร์แล้ว เขาก็ขับมันออกไปไม่ได้

คิดได้ดังนั้น เย่เฉิน รีบมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถ

สิบนาทีต่อมา เย่เฉิน ได้มาถึงลานจอดรถ

แค่มองแวบเดียวเขาก็เห็นรถ Ferrari SF90 ของตัวเอง

ท้ายที่สุดแล้วในบรรดารถยนต์ธรรมดาหลายคัน รถซุปเปอร์คาร์ คันหนึ่งย่อมต้องโดดเด่นสะดุดตาเป็นที่สุด!

ความรู้สึกของเส้นสาย บวกกับความดุดันที่สุดนี้ทําให้ยากที่จะไม่ชอบมัน

เมื่อมองดูพอสมควรแล้ว เย่เฉิน หยิบกุญแจรถ เปิดประตู แล้วเข้าไปนั่งข้างใน

การได้เข้าไปนั่งในรถซุปเปอร์คาร์ครั้งแรก มันให้ความรู้สึกที่ต่างจากการนั่งรถธรรมดาโดยสิ้นเชิง

ต่อจากนี้ไป เขาคือผู้ชายที่มีรถซุปเปอร์คาร์แล้ว!

หลังจากได้สัมผัสประสบการณ์ในรถซุปเปอร์คาร์สักพัก ใจที่ตื่นเต้นของ เย่เฉิน ก็ค่อยๆ สงบลง

นี่คือซุปเปอร์คาร์คันแรกของเขา แต่มันไม่ใช่คันเดียวแน่

เพราะด้วยเกม ‘ด้วยเงินเดือนแค่สามพัน ฉันก็กลายเป็นมหาเศรษฐีของโลกได้’ เย่เฉิน ยังมีรถซุปเปอร์คาร์สุดหล่อเท่รอให้เขาเลือกอีกมาก

ตัวอย่างเช่น Koenigsegg, Bugatti Veyron และอื่นๆ ที่มีราคาหลายสิบล้าน

ท้ายที่สุดแล้ว นี่เป็นเพียงร้านค้าระดับ 1 ดาวเท่านั้น

เมื่อถึงระดับ 2 ดาว ซุปเปอร์คาร์ระดับท็อปพวกนั้นก็น่าจะปรากฏขึ้น!

หลังจากสัมผัสประสบการณ์กับมันมาสักระยะหนึ่ง เย่เฉิน ก็ก้าวออกไป และปิดประตูรถ

อย่าลืมว่าเขายังไม่ได้กินข้าวเลย?

เขาจึงมุ่งหน้าตรงไปที่โรงอาหาร หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จแล้ว เย่เฉิน ก็กลับไปที่หอพักของเขา

ทันทีที่ เย่เฉิน เดินเข้าไปในหอพัก เขาเห็นเพื่อนร่วมห้องสามคนกำลังถกเถียงกันอย่างดุเดือด

“เมื่อกี้ฉันได้ยิน เหล่าหลิว พูดว่าเห็นซุปเปอร์คาร์โคตรเท่มากในลานจอดรถ!”

“อะไรนะ ซุปเปอร์คาร์? ในลานจอดรถมีซุปเปอร์คาร์ด้วย?!”

“ปกติฉันเคยเห็นแต่ในหนังหรือละครที่พวกลูกคนรวยเอาซุปเปอร์คาร์มาอวดในมหาลัย ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริง”

ทั้งสามคนรวมตัวกันพูดด้วยความอิจฉา

ซุปเปอร์คาร์นั้นคือความใฝ่ฝันของผู้ชายโดยส่วนใหญ่

ขณะนั้นเอง มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น

มีคนที่ไม่คาดคิดมาเยี่ยม

เป็น โจว ฮ่าวหราน ที่เคยอวดเรื่องที่เขามีแฟนให้ดูที่สนามเมื่อเช้านี้

“พวกนายกำลังพูดถึงอะไรกัน?”

โจว ฮ่าวหราน ได้ยินการถกเถียงอย่างดุเดือดของพวกเขาจากข้างนอกเช่นกัน

เมื่อได้ยินดังนั้น เพื่อนร่วมห้องของ เย่เฉิน จึงหันไปเห็น เย่เฉิน กับโจว ฮ่าวหราน เดินเข้ามา

“ไม่มีอะไร พวกเราแค่ได้ยินว่ามีซุปเปอร์คาร์จอดอยู่ในลานจอดรถของมหาลัย”

เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งของ เย่เฉิน อธิบาย

หืม?!

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของ โจว ฮ่าวหราน ก็สว่างวาบขึ้นทันที

“ฉันยังไม่เคยเห็นซุปเปอร์คาร์ใกล้ๆ มาก่อนเลย ชักอยากไปดูหน่อยแล้ว”

“ก่อนหน้านี้ฉันเคยเห็นมันบนถนน แต่ไม่เคยได้เข้าไปดูใกล้ๆ ถ้าอย่างงั้นพวกเราไปดูกันไหม?”

เพื่อนร่วมห้องของ เย่เฉิน พูดอย่างตื่นเต้น

“ไม่ต้องรีบ ตอนนี้อากาศร้อนมาก รอเย็นๆ ก่อนค่อยไปดูดีกว่า”

มีคนเสนอขึ้น หลังจากการฝึกภาคเช้าก็โดนแดดเผามากพอแล้ว

“ฉันถาม เหล่าหลิว ก่อนว่าเขาถ่ายรูปซุปเปอร์คาร์ไว้ไหม?”

เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งพูดแล้วส่งข้อความหา เหล่าหลิว โดยตรง

เหล่าหลิว เป็นเพื่อนสมัยมัธยมของเขา ทั้งสองคนสอบติดมหาวิทยาลัยนี้แต่เรียนคนละสาขา

“ฉันสงสัยว่าซุปเปอร์คาร์คันนี้ของใคร?”

“อิจฉาจริงๆ ที่มีคนสามารถขับรถซุปเปอร์คาร์ในมหาลัยได้แล้ว โคตรจะเจ๋งสุดยอด..”

“คนเรานั้นเทียบกันไม่ได้เลย พวกเรายังยากจนอยู่เลย แต่คนอื่นเขากลับทำความฝันของเราได้สำเร็จแล้ว”

เพื่อนร่วมห้องของ เย่เฉิน ต่างพูดขึ้นด้วยความอิจฉา

ได้ยินดังนั้น เย่เฉิน ยังไม่ได้พูดอะไรไป แต่ โจว ฮ่าวหราน ที่อยู่ข้างๆ กลับยิ้มอย่างมีเลศนัย

ใบหน้าของเขาค่อยๆ เริ่มแสดงความภาคภูมิใจออกมา

“การที่มีคนขับซุปเปอร์คาร์ในมหาลัยได้นั้นเจ๋งมาก ฉันอยากรู้จริงๆ เลยว่าเป็นใคร?”

“ใช่ ถ้าฉันรู้จักพี่ใหญ่คนนั้นได้ก็ดีน่ะสิ”

เพื่อนร่วมห้องของ เย่เฉิน ต่างก็พูดคุยกันด้วยความตื่นเต้น อยากจะรู้จักกับคนที่ขับซุปเปอร์คาร์ ถึงแม้ว่ารถคันนั้นจะไม่ใช่ของพวกเขา แต่การได้รู้จักคนที่ขับซุปเปอร์คาร์ก็ถือว่าพอที่จะเอาไปคุยโม้ได้แล้ว

“อะแฮ่ม”

โจว ฮ่าวหราน ไอเบาๆ เมื่อได้ยินบทสนทนาเหล่านั้น เขาก้าวออกมาข้างหน้า และมาหยุดที่กลางวง

“จริงๆ แล้ว ซุปเปอร์คาร์คันนั้นเป็นของฉันเอง ฉันตั้งใจว่าจะเก็บเงียบไว้ ไม่อยากอวดเฉยๆ”

โจว ฮ่าวหราน พูดด้วยน้ำเสียงเสียดาย

แต่ใบหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ และความโอ้อวด แม้ปากของเขาจะพูดว่าต้องการเก็บเงียบไว้ก็ตามที

อะไรนะ?!

เพื่อนร่วมห้องของ เย่เฉิน ต่างก็ตกตะลึง

พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่า คนที่ขับซุปเปอร์คาร์ที่พวกเขาชื่นชมมานาน

กลับกลายเป็น โจว ฮ่าวหราน เพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาเอง

เพิ่งเข้าเรียนก็ขับซุปเปอร์คาร์แล้วเหรอ?!

เฮ้ย!

ทั้งสามคนตกตะลึง และมองไปที่ โจว ฮ่าวหราน ด้วยความอิจฉา

โจว ฮ่าวหราน พลันรู้สึกดีมาก เมื่อได้เพลิดเพลินไปกับสายตาอิจฉา และตกตะลึงของใครหลายคน ไหนจะความชื่นชมจากเพื่อนๆ

เวลานี้ โจว ฮ่าวหราน รู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง

การได้โอ้อวดเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกดีจริงๆ!

ตั้งแต่เช้านี้ที่เขาพยายามอวดเรื่องแฟนสาวที่เอาน้ำมาให้ แต่กลับถูก เย่เฉิน ตอกกลับอย่างง่ายดาย

ทำให้ โจว ฮ่าวหราน ต้องคิดหาทางกู้หน้าคืน

เรื่องแฟนสาวเขาคงต้องยอมแพ้ เพราะไม่ว่าเขาจะหาแฟนที่สวยขนาดไหนก็ยังไม่เท่ากับ ดอกไม้งาม ซู

โจว ฮ่าวหราน จึงเริ่มคิดหาวิธีอื่นๆ และในระหว่างการฝึกทหาร ในที่สุดเขาคิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

ใช่แล้ว เขามีรถยนต์

และมันยังเป็นซุปเปอร์คาร์!

แม้ว่าครอบครัวของเขาจะไม่ใช่ตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ แต่ก็มีฐานะพอสมควร

พอเขาได้รับใบขับขี่มาในวันแรก ครอบครัวของเขาก็พาเขาไปซื้อรถยนต์

เดิมที ครอบครัวของเขาตั้งใจจะซื้อ รถ Mercedes-Benz หรือ BMW ให้เขา

แต่เพื่อที่จะอวด และเพื่อให้ได้ทำตัวโดดเด่น โจว ฮ่าวหราน จึงพยายามขอร้องอย่างหนักให้ครอบครัวของเขาซื้อ Porsche ให้

แม้จะเป็น Porsche 718 ซึ่งเป็นรุ่นพื้นฐานที่ถูกที่สุด

ราคาปกติโดยทั่วไปแล้วก็อยู่ที่หลายแสนหยวน

โจว ฮ่าวหราน ได้รถ Porsche 718 คันนี้มาด้วยราคาเกือบแปดแสนหยวน

แม้จะเทียบกับ Ferrari หรือ Lamborghini ไม่ได้ แต่ยังไงก็เป็นรถสปอร์ต

ทันทีที่พูดคุยถึงว่าตัวเองขับรถสปอร์ตก็มีหน้ามีตา ถือเป็นอาวุธที่ดีในการอวด

แล้วที่นี่คุณเห็นไหม ตอนนี้เขาได้อวดเรียบร้อยแล้ว

จากการตัดสินใจครั้งนี้ โจว ฮ่าวหราน จึงโทรหาครอบครัวให้คนขับรถ Porsche 718 มาที่มหาลัยให้เขาในช่วงพักระหว่างการฝึกทหาร

ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ไปกินข้าว แต่ไปเอารถจากครอบครัวที่มาส่งให้แล้วขับเข้ามาในมหาลัยแทน

หลังจากทำทุกอย่างเสร็จ โจว ฮ่าวหราน ก็ไปกินข้าว

ในระหว่างที่กินข้าว เขายังคิดว่าจะอวดอย่างไรให้ดูดี และได้ผลดีที่สุด

เขาตั้งใจจะอวดต่อหน้าผู้คนทั้งชั้นเรียน แต่ก็กลับเจอเหตุการณ์เมื่อสักครู่

และเพื่ออวด โจว ฮ่าวหราน จึงกล่าวยอมรับไปโดยตรง

เนื่องจากยังไม่มีรูปถ่าย เพื่อนร่วมห้องของ เย่เฉิน จึงยังไม่เห็นรถซุปเปอร์คาร์คันนั้น

ดังนั้นพวกเขาจึงเข้ามาล้อมรอบ โจว ฮ่าวหราน ด้วยความสงสัย และถามด้วยความตื่นเต้น

“โจว ฮ่าวหราน รถซุปเปอร์คาร์ของนายเป็นรุ่นอะไร?”

“บอกหน่อยสิ”

โจว ฮ่าวหราน รู้สึกพอใจที่ได้รับความสนใจจากเพื่อนๆ ในขณะเดียวกันเขาก็เพลิดเพลินไปกับสายตาอิจฉาของทุกคน

การอวดนี่มันดีจริงๆ

“รถของฉันคือ Porsche 718 ซื้อมาเกือบล้านหยวน แม้จะเป็นรุ่นพื้นฐาน แต่ก็มีสมรรถนะที่ดีมาก”

โจว ฮ่าวหราน พูดต่อ แม้จะซื้อมาในราคาแปดแสนหยวน แต่เพื่ออวด โจว ฮ่าวหราน ก็เพิ่มราคาไปเป็นล้านหยวน

“ถ้าพวกนายอยากดู ฉันพาไปดูได้นะ ให้พวกนายลองนั่งดู และได้สัมผัสกับมัน..”

“จริงเหรอ?”

“ฮ่าฮ่า นี่มันเยี่ยมมาก”

เพื่อนสองคนของ เย่เฉิน พูดด้วยความตื่นเต้น พวกเขาไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสโชคดีได้สัมผัสรถซุปเปอร์คาร์

“เอ๊ะ มันแปลกๆ นะ?”

ในตอนนี้เพื่อนอีกคนหนึ่งของ เย่เฉิน ซึ่งเป็นเพื่อนของ เหล่าหลิว เพิ่งได้รับข้อความตอบกลับจาก เหล่าหลิว มา

“เหล่าโจว นายบอกว่ารถของนายคือ Porsche 718 ใช่ไหม?”

เขาถาม โจว ฮ่าวหราน ด้วยความสงสัย

“ใช่ Porsche 718”

โจว ฮ่าวหราน พยักหน้าพลางตอบกลับ

“แต่มันไม่ตรงกันเลย เหล่าหลิว บอกว่าเขาเห็นเป็น Ferrari SF90 ที่ราคากว่า 5 ล้านหยวน!”