ตอนที่ 26 : น่าเสียดายแทนองค์หญิงน้อยตระกูลเหลียน !
ตอนที่ 26 : น่าเสียดายแทนองค์หญิงน้อยตระกูลเหลียน !
“กรร !” ในดินแดนรกร้างสีแดง สิ่งมีชีวิตตัวสีดำพุ่งออกมากัดเข้าที่หัวของไฮยีน่าขาดเป็นชิ้น ๆ ในคราวเดียว ก่อนจะเริ่มเคี้ยวหัวมัน
หัวของไฮยี่น่าไม่อาจจะทนคมเขี้ยวอันแหลมคมนี้ได้และถูกบดเป็นชิ้น ๆ อย่างง่ายดาย !
ไฮยีน่าตัวอื่น ๆ เห็นแบบนั้นก็ต้องอึ้งกับพลังที่สิ่งมีชีวิตนี้แผ่ออกมา พวกมันต่างก็พากันชะงักและไม่กล้าที่จะเดินหน้าต่อ
มีสามคนเดินออกมา คนที่อยู่ด้านหน้าสุดคือตงฟางเหอ
“ฮึ่ม ! แค่มอนเตอร์เลเวล 15 แต่คิดจะมาเทียบกับยมทูตฉันเหรอ ?”
กรร !
มังกรตัวน้อยที่ชื่อยมทูตคำรามออกมาและตบไฮยีน่าอีกตัวจนตาย
หยางห้าวหรานรีบเข้าไปประจบ “ความแข็งแกร่งของคุณชายตงฟางนี่ถือว่าสูงที่สุดในหมู่ผู้เข้าสอบในปีนี้ ปลุกพลังมาได้แค่ 10 วันก็เลเวล 18 แล้ว”
“คุณต้องได้คะแนนสูงสุดในการสอบปีนี้แน่ !”
ตงฟางเหอไม่ได้เคลิ้มตาม “ในปีนี้ มีผู้ปลุกพลังอาชีพระดับ S 4 คนในเมืองปิ้นไห่ ฉันน่ะแข่งกับเฉินผิงอัน พลังโจมตีของเขาน่าทึ่ง โชคร้ายที่ฉันมียมทูตคอยช่วย เขาจึงไม่ใช่คู่ปรับของฉัน !”
“คู่ปรับของฉันตอนนี้คือมู่หรงเสวี่ยเหินจากโรงเรียนที่ 2 และหยวนเฉินหลี่จากโรงเรียนที่ 5 !”
“ฉันหวังว่าสองคนนั้นจะทำให้ฉันแปลกใจได้บ้างนะ !”
“คุณชายตงฟาง คุณต้องได้อันดับ 1 ในการสอบปีนี้แน่ !”
“ใช่ ใช่ ฉันก็คิดแบบนั้น”
“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว การสอบมีเวลาแค่ 12 ชม. เป้าหมายของฉันคือชั้นที่ 30 ของหอฝึกฝน !”
“ว่าไงนะ ? ชั้น 30 ? มันมีแค่ผู้ปลุกพลังขั้น 2 เท่านั้นที่จะมีโอกาสขึ้นไปถึง !”
“นายกลัวงั้นเหรอ ?” ฟางหยวนมองไปที่หยางห้าวหรานด้วยสีหน้าดูถูก “ถ้ากลัวก็ออกไปซะตอนนี้เลย !”
สีหน้าของหยางห้าวหรานเปลี่ยนไป เขากัดฟันพูดขึ้น “ใครกลัว ! ? ได้ ! ชั้น 30 ก็ชั้น 30 ! วันนี้ถึงผม หยางห้าวหรานจะหมดแรงแค่ไหน ทว่าผมก็จะตามคุณชายตงฟางไปถึงชั้น 30 ให้ได้ !”
“หยุดพูดไร้สาระและรีบลงมือได้แล้ว !”
“ได้ครับ ! คุณชายตงฟาง !”
....
ในอีกที่ของดินแดนรกร้างสีแดงนี้ หลี่เหมยสะบัดมือเบา ๆ พร้อมกับเปลวไฟที่ปะทุออกมา เข้ากลืนกินฝูงไฮยีน่า
“เสวี่ยเหิน อย่าเพิ่งลงมือใน 20 ชั้นแรก เก็บแรงเอาไว้ !” ตอนที่ฆ่ามอนสเตอร์ หลี่เหมยก็ได้สั่งออกมา
“หลังจากไปถึงชั้น 20 แล้ว มันคือสนามรบของเธอ !”
“เข้าใจแล้ว” มู่หรงเสวี่ยเหินพยักหน้า ข้าง ๆ เธอ ฉือเหล่ยคอยคุ้มกันให้กับเธอเหมือนกับกำแพงเหล็กกล้า
ในอีกมุม
มันมีไฮยีน่าสามตัวที่เดินวนรอบเฉินผิงอัน, ห้าวจ้าว และจางเหมิง พวกเขาถูกพวกไฮยีน่าขวางทางเอาไว้และต้องรีบมุ่งหน้าไปยังทางเข้าอีกทาง
“การสอบปีนี้คือการแข่งขันระหว่างตงฟางเหอกับฉัน !”
“ถ้าไม่ใช่เพราะมังกรของเขา งั้นฉันจะแพ้เขาได้ยังไง ?”
“ฉันต้องก้าวข้ามเขาในการสอบครั้งนี้ให้ได้ !”
ที่เนินเขา
หยวนเฉินหลี่, หยางจือชิว และเจิ้งหยางฟานเองก็ลงมือเช่นกัน รอบตัวพวกเขามีแสงสีเขียวส่องประกายออกมาทำให้พวกเขาเร็วขึ้นจากเดิมถึงสองเท่า !
ไฮยีน่าพวกนี้โดดเด่นเรื่องความเร็ว ทว่ากลับตามสามคนนี้ไม่ทัน
“ผู้ปลุกพลังอาชีพระดับ S 4 คน คนแข็งแกร่งถึง 4 คน ฉันไม่มีทางยอมน้อยหน้าใคร”
“ตอนที่พระเจ้ามอบความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ให้กับฉัน ฉันก็รู้ดีว่าต้องลำบากและต้องพยายามให้ถึงที่สุด...”
“ในโลกที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ ฉันจะยอมน้อยหน้าคนอื่นได้ยังไง ?”
....
ที่ด้านนอกลานหอฝึกฝน
มันมีจอภาพขนาดใหญ่ฉายข้อมูลของผู้เข้าสอบแต่ละคนในหอฝึกฝน
“ฉายแล้ว ! ฉายแล้ว !”
“ทีมแรกที่ขึ้นไปชั้น 2 ได้คือ....ทีมของหยวนเฉินหลี่ !”
“เฮ้ย ! ทำไมพวกเขาถึงได้เร็วแบบนี้ ? ยังไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ !”
“เวลาในการเคลียร์ชั้นนี้คือ 7 นาที 56 วินาที จำนวนมอนเตอร์ที่ฆ่า – 0”
“พวกเขาขึ้นไปชั้น 2 โดยไม่ฆ่ามอนสเตอร์เลยสักตัวเลยเหรอ ?”
“ว่าแล้ว เป็นเพราะเจิ้งหยางฟาน ! ผู้ปลุกพลังอาชีพนักเวทย์พายุระดับ A เขาต้องมีสกิลเร่งความเร็วแน่ ๆ !”
“มีทีมที่สองแล้ว ! ตงฟางเหอ ! ทีมของตงฟางเหอจริง ๆ !”
“เขามีมังกร เขาต้องตามทันแน่ !”
“ดูที่อันดับ 3 สิ หลินลั่ว, เหลียนอี้หนิง กับถังเฉิง ? ทำไมฉันไม่เคยได้ยินชื่อพวกเขามาก่อน ?”
“เหลียนอี้หนิง ! เธอคือเทพธิดาของโรงเรียนที่ 12 ! เธอปลุกพลังอาชีพลับระดับ A อย่างเทพธิดาหิมะขึ้นมาได้ !”
“จำได้แล้ว ! เธออยู่อันดับ 6 ของรายชื่อความโด่งดังในหมู่ผู้ปลุกพลังหน้าใหม่ของเมืองปิ้นไห่ หน้าตาเธอสวยพอ ๆ กับมู่หรงเสวี่ยเหิน !”
“แข็งแกร่งจริง ๆ ....หลินลั่วกับถังเฉิงคงเป็นผู้ปลุกพลังระดับสูงเหมือนกันสินะ ? พวกเขาถึงได้อยู่ทีมเดียวกับเทพธิดาเหลียนอี้หนิง !”
“ไม่ ฉันมาจากโรงเรียนที่ 12 ฉันจำได้ว่าถังเฉิงเป็นแค่อัศวินหินระดับ C ส่วนหลินลั่วเป็นแค่นักบวชระดับ D !”
“เฮ้ย ! เป็นไปได้ยังไง...”
ผู้คนพากันถกเถียงกัน เพราะหลินลั่ว, เหลียนอี้หนิง และถังเฉิงนั้นได้อันดับ 3 ตอนที่ขึ้นไปถึงชั้น 2 !
“เหลียนอี้หนิง ? คงเป็นคนจากตระกูลเหลียน อาชีพที่เธอปลุกพลังขึ้นมาได้นั้นค่อนข้างดี แต่ฉันไม่รู้จักสองคนนี่เลย” มีคนถามขึ้นมา
“โรงเรียนที่ 12 .... ใครมีข้อมูลบอกที !”
“หลินลั่ว นักบวชระดับ D ?”
“ถังเฉิง อัศวินหินระดับ C ?”
“เป็นไปได้ยังไง ! ทำไมคนของตระกูลเหลียนถึงได้ไปร่วมทีมกับผู้ปลุกพลังระดับต่ำแบบนี้ได้ ?”
“รึว่าพวกนี้มาจากตระกูลที่ร่ำรวย ?”
ระหว่างการสอบเข้ามหา’ลัยทุก ๆ ปี มันจะมีคนที่ร่ำรวยและมีอำนาจใช้เงินก้อนโตเพื่อจ้างผู้ปลุกพลังอาชีพระดับ A รึ B เข้าทีมเพื่อที่พวกเขาจะได้สอบผ่าน
ผลลัพธ์นี้ทำให้ไม่อาจจะตัดสินคุณภาพของผู้ที่สอบผ่านได้จริง ๆ
จากเหตุผลนี้ การสอบเข้ามหา’ลัยจึงเริ่มทำการปรับเปลี่ยนกฎ มันจึงมีการสอบแบบรายบุคคลขึ้นมา
ผู้ปลุกพลังทั้งหมดที่จะสอบเข้ามหา’ลัยจะถูกจับคู่ให้ไปสู้กันแบบสุ่ม ผู้ชนะจะมีสิทธิ์เข้ามหา’ลัย ผู้แพ้ได้แต่ต้องเลือกมหา’ลัยอื่น
วิธีนี้จะตัดสินทีมที่ได้อันดับ 1 และคนที่ได้อันดับ 1 ในการสอบรายบุคคลด้วย
ตั้งแต่ปีนั้นมา ผู้ชนะแบบทีมกับผู้ชนะแบบเดี่ยวในการสอบเข้าก็มักจะเป็นคนคนเดิม
คุณภาพในการคัดเลือกจึงสูงขึ้นไปตาม
“เป็นไปไม่ได้ ! ตระกูลเหลียนเป็นตระกูลใหญ่ในเมืองปิ้นไห่ ความแข็งแกร่งโดยรวมนั้นอยู่ 10 อันดับแรกก็ว่าได้ ใครจะไปบังคับให้คุณหนูของพวกเขามาช่วยไอ้ขี้โกงสองคนนี่ได้ ?”
“ฉันตรวจสอบข้อมูลสองคนนี้มาแล้ว พวกเขามาจากตระกูลธรรมดา ในด้านภูมิหลังตระกูลแล้ว ตระกูลพวกเขาไม่ได้ดีเท่ากับตระกูลเหลียนเลย !”
“แล้วมันเพราะอะไร ?”
“คงเป็นความรักล่ะมั้ง เธอคงไม่รู้ว่าเรื่องนี้น่ะจะส่งผลยังไง เธอไม่รู้เลยรึไงว่าเธอสู้เพื่อหน้าตาตระกูลด้วย ?”
“เฮ้อ น่าเสียดาย ! ถ้าคุณหนูตระกูลเหลียนได้ทีมดี ๆ บางทีเธออาจจะได้ 10 อันดับแรกรึอาจจะ 5 อันดับแรกก็ได้... ”
“ใช่ น่าเสียดาย....”