ตอนที่ 12 ดึกดื่นขนาดนี้ ลูกพี่ลูกน้อง กับหนิงซวง อยู่ในห้องเดียวกัน?
ไม่รู้ทำไม เย่เฉิน ถึงเข้าใจความหมายในสายตาของพนักงานแผนกต้อนรับได้ในทันที
เย่เฉิน พลันรู้สึกไม่สามารถหัวเราะ หรือร้องไห้ได้ครู่หนึ่ง
พนักงานแผนกต้อนรับคนนี้คิดไปถึงไหนกัน?
เขากับ รุ่นพี่ ซู เพิ่งจะรู้จักกันเอง
เพราะคำพูดของพนักงานแผนกต้อนรับชายผู้นี้ ทำให้บรรยากาศกลายเป็นดูกระอักกระอ่วนในทันที
“สาวสวยน่ารักคนนี้ ตอนนี้โรงแรมส่วนใหญ่ก็คงไม่มีห้องว่างแล้วล่ะครับ”
พนักงานแผนกต้อนรับยังคงช่วยสร้างสถานการณ์
“ที่นี่เรายังมีห้องหนึ่งว่างอยู่นะครับ อีกสักพักอาจจะไม่มีแล้ว”
“พวกคุณเป็นคู่รักกัน พักห้องเดียวกันคงไม่มีปัญหาหรอกครับ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ใบหน้าของ ซู หนิงซวง แดงขึ้นมาทันที
เย่เฉิน ที่ยืนอยู่ข้างๆ เวลานี้ไม่รู้ว่าควรจะดีใจ หรือเสียใจดี
ถ้าเป็นสถานการณ์อื่น การเจอพนักงานที่ ‘เข้าใจ’ แบบนี้คงถือว่าโชคดี
แต่ตอนนี้...
“เอ่อ.. ผมกับ รุ่นพี่ ซู ไม่ได้เป็นคู่รักกัน แล้วคืนนี้พวกเรามีกันสามคนครับ”
เมื่อเห็น ซู หนิงซวง หน้าแดง และเขินอายมากจนเกือบจะเดินหนีไปแล้ว เย่เฉิน จึงรีบพูดขึ้น
“อ๋อ?”
พนักงานแผนกต้อนรับฟังแล้วก็ตกใจ พลันรู้สึกกระอักกระอ่วน
“เป็นอย่างนี้นี่เอง..”
พนักงานแผนกต้อนรับมองหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง
“อ๊ะ ต้องขออภัยด้วยครับ ผมดูผิดไป ตอนนี้ยังมีห้องว่างอยู่ครับ”
พนักงานแผนกต้อนรับเริ่มแสดงบทบาทตัวเองอย่างเต็มที่
“ไม่เป็นไรครับ เราขอเปิดสอง...ไม่ สามห้องครับ”
เย่เฉิน พูดขึ้น
เดิมทีเขาตั้งใจจะเปิดสองห้อง ให้ลูกพี่ลูกน้องของเขา และรุ่นพี่ ซู พักด้วยกัน
แต่สุดท้ายเขาตัดสินใจเปิดสามห้อง เพราะจะได้สะดวกกว่า
“ได้ครับ”
หลังจากพนักงานแผนกต้อนรับรับบัตรประชาชน และทำการจองห้อง เย่เฉิน กับซู หนิงซวง ก็นั่งรอในล็อบบี้ของโรงแรม
ไม่กี่นาทีต่อมา จ้าว ซูซวน ก็กลับมาพร้อมกับถุงผลไม้
เมื่อกี้จริงๆ แล้ว จ้าว ซูซวน ตั้งใจจะจากไป แต่พอจะไปจริงๆ กลับเดินกลับมา
ท้ายที่สุดหลังจากคิดว่า ซู หนิงซวง และเย่เฉิน เพิ่งรู้จักกัน การให้พวกเขาอยู่โรงแรมด้วยกัน แล้วเธอเดินจากไปแบบนี้ ..มันดูออกจะไม่ดี
ถ้าเธอไปจริงๆ แบบนี้ ซู หนิงซวง เองอาจจะจากไปด้วยเช่นกัน?
อย่างไร.. ซู หนิงซวง บ้านเธอก็อยู่ในเมืองเจียงโจว ดังนั้นเธออาจจะกลับไปบ้านก็ได้
คงมีแต่ต้องหาวิธีอื่นในการสร้างโอกาสให้ทั้งสองคนนี้อยู่ด้วยกันตามลำพังในครั้งหน้า
ส่วนทำไมเธอถึงไม่ออกไปตอนกำลังกินข้าว
อืม...นั่นก็เพราะอาหารมันอร่อยเกินไปจนเธอลืมไปขณะกำลังเพลิดเพลินอยู่กับการกิน
เมื่อเห็น จ้าว ซูซวน กลับมาแล้ว ทั้งสามคนก็ขึ้นไปชั้นบน โดยแยกพักคนละห้อง
พอเข้าห้อง เย่เฉิน ก็โทรไปขอลาช่วงเช้าพรุ่งนี้ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะคืนนี้เขาจะไม่กลับไปที่หอพัก
หลังจากนั้น เย่เฉิน ก็เริ่มเล่นโทรศัพท์มือถือของเขา
หลังจากกินข้าวเย็นแล้ว ทั้งสามคนก็เดินเที่ยวเล่นต่อ ทำให้ เย่เฉิน รู้สึกกระหายน้ำ
เมื่อ เย่เฉิน กำลังจะดื่มน้ำแร่ของโรงแรม เขาก็หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง
เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเหตุการณ์ตอนเช้าที่ รุ่นพี่ ซู เอาน้ำมาให้เขา
รุ่นพี่ ซู ทนแดดร้อนจัดขนาดนั้น เพื่อเอาน้ำมาให้เขา
ตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อย และกระหายน้ำ.. รุ่นพี่ ซู เองอาจจะกระหายด้วยก็ได้
หรือเขาควรเอาน้ำไปให้ รุ่นพี่ ซู บ้าง เพื่อแสดงความขอบคุณ
แต่แน่นอนว่า เย่เฉิน ไม่สามารถส่งน้ำธรรมดาให้ได้
คิดได้แบบนี้ เย่เฉิน จึงเปิดแอปฯ บนโทรศัพท์มือถือแล้วสั่งชานมเดลิเวอรี
โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบดื่มชานม
ไม่กี่นาทีต่อมา ชานมก็มาถึง
เย่เฉิน สั่งมาด้วยกันสามแก้ว สำหรับตัวเองแก้วหนึ่ง รุ่นพี่ ซู และลูกพี่ลูกน้องของเขาอีกคนละแก้ว
เย่เฉิน ถือชานมแก้วหนึ่งแล้วไปส่งให้ รุ่นพี่ ซู ก่อน
เมื่อมาถึงหน้าห้องของ รุ่นพี่ ซู เย่เฉิน ก็เคาะประตู
“นั่นใครคะ?”
ในห้อง ซู หนิงซวง กำลังเตรียมตัวจะอาบน้ำ ได้ยินเสียงเคาะประตูก็รู้สึกตื่นเต้น และถามออกไปอย่างกังวลใจ
“รุ่นพี่ ซู ครับ ผมเอง เย่เฉิน”
เสียงของ เย่เฉิน ดังมาจากนอกห้อง
เป็น เย่เฉิน เหรอ?
เมื่อได้ยินเสียง เย่เฉิน ซู หนิงซวง พลันตกใจ
ตอนนี้ประมาณสี่ทุ่มแล้ว กลางดึกขนาดนี้ เย่เฉิน มาที่ห้องเธอทำไม?
เย่เฉิน ต้องการอะไรกันแน่?
เมื่อคิดสิ่งนี้ ใบหน้าของ ซู หนิงซวง ก็แดงขึ้นมาทันที และเธอรู้สึกกังวลมาก
“รุ่นพี่ ซู ครับ ผมซื้อชานมมาสามแก้ว เลยเอามาให้คุณแก้วหนึ่ง”
เย่เฉิน รีบอธิบาย กลัวว่า ซู หนิงซวง จะเข้าใจผิด เพราะตอนนี้มันดึกแล้ว
“อ้อ?”
พอได้ยิน เย่เฉิน พูดแบบนี้ ซู หนิงซวง ก็รู้สึกเขินขึ้นมา
ที่แท้เธอคิดมากไปเอง
เย่เฉิน เพียงแค่เอาชานมมาให้เธอ..
คิดได้แบบนี้ ซู หนิงซวง ก็รีบเปิดประตูเชิญ เย่เฉิน เข้ามา
เย่เฉิน เดินเข้าห้องแล้วส่งชานมแก้วหนึ่งให้กับ ซู หนิงซวง
“ขอบคุณค่ะ”
ซู หนิงซวง กล่าวขอบคุณหลายครั้ง จริงๆ แล้วเธอก็กระหายน้ำนิดหน่อย
ไม่คาดคิดเลยว่า เย่เฉิน จะเอาชานมมาให้พอดี
“รุ่นน้อง เย่ เธอดูใจดีมากเลยนะ”
ซู หนิงซวง กล่าวขอบคุณ
“ไม่เป็นไรๆ ครับ นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย”
หลังจากนั่งลง เย่เฉิน ก็พลันโบกมือปฏิเสธ
ซู หนิงซวง ดื่มชานมไปสองสามคำ และกำลังจะพูด ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีก
“ใครคะ?”
ซู หนิงซวง ถามด้วยความแปลกใจ ใครมาเคาะประตูห้องเธออีกนะ?
“หนิงซวง ฉันเอง”
เสียงของ จ้าว ซูซวน ดังขึ้น
ที่แท้ก็ ซูซวน นี่เอง
วางชานมลง ซู หนิงซวง ก็ไปเปิดประตู
“ลืมไปเลย นี่ฉันเอาผลไม้มาให้…”
พอประตูเปิด ก็เห็น จ้าว ซูซวน ถือถุงผลไม้หลายถุงในมือ
แต่เธอพูดยังไม่ทันจบ ก็พลันเห็น เย่เฉิน นั่งอยู่ในห้อง
ฟุบ!
วินาทีถัดมา ถุงผลไม้หลุดจากมือของ จ้าว ซูซวน ..ไปโดยตรง
จ้าว ซูซวน ถึงกับอ้าปากค้าง ทำหน้าราวกับไม่อยากจะเชื่อ
เธอเห็นอะไร?
เย่เฉิน.. ลูกพี่ลูกน้องของเธออยู่ในห้องของ หนิงซวง?!
กลางดึกแบบนี้ เย่เฉิน กับหนิงซวง อยู่ในห้องเดียวกันสองต่อสอง!
พระเจ้า!!!
จ้าว ซูซวน ตกใจมาก
เย่เฉิน กับหนิงซวง พัฒนากันเร็วเกินไปแล้ว
ทั้งสองเพิ่งรู้จักกันเมื่อเช้า แต่ตอนเย็นก็อยู่ด้วยกันแล้ว?!
จ้าว ซูซวน เวลานี้งงเป็นไก่ตาแตก
เย่เฉิน.. ลูกพี่ลูกน้องของฉันเก่งถึงขนาดนี้เลยเหรอ?
ตอนนี้ก็สามารถทำให้ หนิงซวง ตกหลุมรักได้แล้ว
ซู หนิงซวง สังเกตเห็นความตกใจของ จ้าว ซูซวน จึงรีบโบกมือพร้อมกับอธิบาย
“อ๊ะ ซูซวน มันไม่ใช่ เธอเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว”
ใบหน้าของ ซู หนิงซวง แดงก่ำลามไปถึงใบหู
“รุ่นน้อง เย่ เพิ่งมา เขามาที่นี่เพื่อเอาชานมมาให้ฉัน”
“จริงเหรอ?”
จ้าว ซูซวน ยังไม่ค่อยเชื่อ
กลางดึกแบบนี้ ทั้งสองอยู่ในห้องเดียวกัน บอกว่าเอาชานมมาให้ ..ใครมันจะไปเชื่อ?
“ผมเอาชานมมาให้ รุ่นพี่ ซู จริงๆ นะครับ ดูสิ ชานมยังอยู่ตรงนี้เลย”
เย่เฉิน ก็รีบลุกขึ้นยืนอธิบายเช่นกัน
เมื่อมองตามที่ เย่เฉิน ชี้ไป ก็เห็นว่ามีชานมแก้วหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะจริงๆ
หรือว่าเธอจะคิดผิด?
จ้าว ซูซวน ยังคงไม่แน่ใจ
“ใช่แล้ว พี่สาว ที่ห้องผมยังมีชานมเตรียมไว้ให้คุณด้วย เดิมทีผมกะว่าจะเอาไปให้คุณทีหลัง”
เย่เฉิน พูดขึ้น
“ตอนนี้คุณมาพอดี งั้นไปเอากันเถอะ”
พูดเสร็จ เย่เฉิน ก็ลุกขึ้น แล้วกล่าวลา ซู หนิงซวง
“รุ่นพี่ ซู ผมขอตัวก่อนนะครับ”
หลังจากพูดจบ เย่เฉิน ก็พา จ้าว ซูซวน ออกไป
“เฮ้ออ..”
หลังจากที่ทั้งสองออกไป พอปิดประตูเสร็จ ซู หนิงซวง ยังคงหน้าแดงอยู่เลย
เมื่อครู่นั้นมันช่างน่าอายมาก
เมื่อมาถึงห้องของ เย่เฉิน และเห็นชานมวางอยู่ จ้าว ซูซวน ถึงได้เชื่อ
หลังจากคุยกับ เย่เฉิน ไม่กี่คำ จ้าว ซูซวน ก็ขอตัวจากไป
เย่เฉิน ถอนหายใจอย่างหวุดหวิด เมื่อกี้เกือบจะเข้าใจผิดกันแล้ว
เขาเป็นคนดีนะ โอเคไหม?
เมื่อเหลือบมองนาฬิกา เวลานี้เกือบเที่ยงคืนแล้ว
ร้านค้าเกมน่าจะรีเฟรชแล้ว ไม่รู้ว่าคราวนี้จะมีของอะไรดีๆ บ้าง
เย่เฉิน ตั้งตารอมันมาก
เมื่อถึงเวลา เย่เฉิน ก็เข้าไปดู พบว่าร้านค้าเปลี่ยนแปลงไปจริงๆ และมีสินค้ารายการใหม่ๆ ปรากฏขึ้น
[Bentley Continental หนึ่งคัน ราคา 0.2 หยวน]
[นาฬิกาข้อมือ Patek Philippe Chronograph Model 5074R ตัวเรือนโรสโกลด์ หน้าปัดสีดำ หนึ่งเรือน ราคา 0.3 หยวน]
[ทักษะการขับรถระดับสูง สามารถทำให้คุณกลายเป็นนักขับรถระดับมืออาชีพได้ในไม่กี่นาที ราคา 0.9 หยวน]
เมื่อเห็นสินค้าชิ้นใหม่ที่ปรากฏขึ้น เย่เฉิน พลันตาลุกวาว
คราวนี้ดูเหมือนว่าร้านค้าจะมีของใหม่สามรายการที่ไม่ธรรมดา
รถ Bentley และนาฬิกา Patek Philippe ไม่ต้องพูดถึง เป็นสินค้าหรูหราอย่างแน่นอน
แต่ชิ้นที่สามนี้น่าสนใจมาก มันคือ ทักษะ!
ร้านค้ามีทักษะให้ซื้อด้วย ช่างวิเศษจริงๆ!
คราวก่อนนั้นเป็น คฤหาสน์หรู หลิงหยุนเทียนกง ในร้านค้า ราคาเพียง 0.3 หยวน
แต่ตอนนี้ ทักษะนี้มีราคา 0.9 หยวน แพงกว่าสามเท่า
ถึงแม้จะแพงกว่าสามเท่า แต่ก็แค่ 9 เหมาเท่านั้น ถือว่าถูกมาก แต่นั่นก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ถึงความยอดเยี่ยมของทักษะนี้
หลังจากนั้น เย่เฉิน ก็ตรวจสอบข้อมูลของสินค้าอีกสองรายการที่เหลือ
รถ Bentley Continental ราคาตกอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านหยวน หรืออาจจะแพงกว่านั้นนิดหน่อย
ก่อนหน้านี้เขายังบ่นอยู่เลยว่าทำไมไม่มีรถหรูที่สามารถนั่งได้หลายคน?
ตอนนี้ หลังจากร้านค้าเกมรีเฟรชก็สุ่มขึ้นมาให้แล้ว
ส่วนนาฬิกาข้อมือ Patek Philippe Chronograph Model 5074R ตัวเรือนโรสโกลด์ หน้าปัดสีดำ ราคาใกล้เคียงนั้นเกือบ 6 ล้านหยวน
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสินค้าหลายล้านหยวนทั้งนั้น
หลังจากคิดอยู่สักพัก เย่เฉิน ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะเลือกซื้อทักษะการขับรถระดับสูงที่แพงที่สุดก่อนในวันนี้
ท้ายที่สุดแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ทักษะปรากฏขึ้นในร้านค้า
ส่วนรถ Bentley และนาฬิกา Patek Philippe แน่นอนว่าเขาจะไม่ทิ้งโอกาสนี้ไป
เพียงแค่ต้องรออีกหน่อย แค่ 24 ชั่วโมง เขาก็สามารถซื้อได้อีกครั้ง
ในไม่ช้า รถ Bentley และนาฬิกา Patek Philippe ก็จะเป็นของเขา
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เย่เฉิน ก็ซื้อทักษะการขับรถระดับสูงทันที และกลายเป็นนักขับรถมืออาชีพโดยตรง
[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้ซื้อทักษะการขับรถระดับสูงสำเร็จ คุณกลายเป็นนักขับรถมืออาชีพ]
เมื่อซื้อสำเร็จ ข้อมูลจำนวนมหาศาลพลันหลั่งไหลเข้าสู่สมองของ เย่เฉิน
นอกจากความจำนี้แล้ว ยังมีความจำเกี่ยวกับกล้ามเนื้ออีกด้วย ทำให้ร่างกายของ เย่เฉิน เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย และสุดท้ายเขาก็กลายเป็นนักขับรถมืออาชีพที่มากด้วยประสบการณ์อย่างแท้จริง
ตอนนี้ ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์ของ เย่เฉิน เกินกว่าคนธรรมดามากมาย
และทักษะการขับรถนี้ อาจทำให้แม้แต่นักแข่งรถมืออาชีพบางคนก็ไม่อาจเทียบ เย่เฉิน ได้
เย่เฉิน พอใจมาก และตั้งตารอให้มีทักษะอื่นๆ ปรากฏขึ้นในร้านค้าอีก
เมื่อมองไปที่สินค้าสองรายการที่เหลือ เย่เฉิน ก็ออกจากเกม
สินค้าสามรายการนี้ เขาไม่จำเป็นต้องคัดเลือกให้ยุ่งยาก เขาแค่ซื้อมันมาทั้งหมดเลย
มีเพียงแนวคิดอย่างเด็กๆ เท่านั้นที่จะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้ใหญ่ย่อมต้องเลือกทั้งหมด
ในวันต่อมา เนื่องจากยังต้องฝึกทหารอยู่ เย่เฉิน จึงส่งข้อความให้ ซู หนิงซวง และจ้าว ซูซวน ก่อนแล้วจึงออกไป
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว…
ตอนเย็น เดิมที เย่เฉิน ตั้งใจจะกลับหอพัก แต่จู่ๆ ก็คิดถึงคฤหาสน์ที่เพิ่งซื้อไว้
เขาอยากรู้มากว่าคฤหาสน์ของเขาจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร
คืนนี้ เขาจึงตั้งใจจะไปดูให้เห็นกับตา..
พร้อมกับที่เขาอยากสัมผัสกับประสบการณ์การใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์หรูดูสักครั้งว่ามันเป็นอย่างไร
หลังจากขึ้นรถ เปิดระบบนำทาง เย่เฉิน ก็ตรงไปยังคฤหาสน์ หลิงหยุนเทียนกง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เย่เฉิน ก็มาถึงจุดหมายปลายทางของเขา…