ตอนที่ 11 แผนกต้อนรับของโรงแรม : ขออภัยด้วยครับ เหลือเพียงห้องเดียวเท่านั้น
“บอกผู้จัดการของคุณว่า เย่เฉิน มา ให้เขาจัดหาสถานที่ให้หน่อย”
เย่เฉิน พูดกับบริกร
หลังจากเพิ่งกลายเป็นเจ้าของร้านคนใหม่ของ ช่างหรานจู เย่เฉิน ย่อมอารมณ์ดี
นอกจากนี้เขาก็หิวแล้ว ไม่อยากเปลี่ยนไปร้านอาหารอื่น เขาจึงก้าวออกมา
“อืม...โอเค ได้ครับ กรุณารอสักครู่”
บริกรดูลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยังคงพยักหน้าตอบรับแล้วหันหลังกลับเข้าไปในร้านอาหาร เพื่อไปหาผู้จัดการอีกครั้ง
“ฮึ”
ฟาง ป๋อเชา ถึงกับหัวเราะเยาะเมื่อเห็นฉากนี้ ดูเหมือนว่า เย่เฉิน คนนี้จะไม่รู้จักประมาณตน..
มันเห็นชัดอยู่ว่า เย่เฉิน มาที่ ช่างหรานจู เป็นครั้งแรก
ตัวเขาเองที่เป็นสมาชิกระดับโกลด์ และรู้จักกับผู้จัดการเฉียนยังเข้าไปไม่ได้
แล้วมีหรือที่ เย่เฉิน แค่พูดประโยคเดียวจะทำให้พวกเขาได้เข้าไปกินข้าวได้?
เหอะ.. ดูยังไงมันก็เป็นเรื่องตลกแน่ๆ
ไม่ใช่แค่ ฟาง ป๋อเชา แม้แต่ จางหว่าน และคนอื่นๆ ก็ไม่เชื่อในตัว เย่เฉิน
ฟาง ป๋อเชา ยืนกอดอกอยู่ด้านข้าง ด้วยต้องการดูการแสดงต่อจากนี้
เขาอยากเห็นว่าเมื่อ เย่เฉิน ถูกปฏิเสธ ใบหน้าของ เย่เฉิน มันจะกลายเป็นอย่างไร..
มันจะต้องเป็นฉากที่น่าตื่นเต้นอย่างแน่นอน
ท้ายที่สุดแล้ว.. หลังจากที่เขาล้มเหลว เย่เฉิน ก็ลุกขึ้นยืนออกมาเอง
เมื่อเขาถูกปฏิเสธอีกครั้ง ย่อมจะต้องอับอายยิ่งกว่าตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้า ดอกไม้งาม ซู..
คิดถึงตรงนี้ อารมณ์ของ ฟาง ป๋อเชา ที่เคยหงุดหงิดก็ดีขึ้นทันที
อีกด้านหนึ่ง ในห้องทำงานของผู้จัดการ ช่างหรานจู, เฉียน หยงเหวิน ก็ได้รับโทรศัพท์จากเจ้านายของเขา
“อะไรนะครับ?”
เมื่อรับสาย ฟังคำพูดของเจ้านาย เฉียน หยงเหวิน ก็พลันตกตะลึง
เจ้านายบอกกับ เฉียน หยงเหวิน ว่า ช่างหรานจู ถูกขายไปแล้ว จากนี้ไปเขาไม่ใช่เจ้าของ ช่างหรานจู อีกต่อไป
“โอเค ผมเข้าใจแล้วครับ”
หลังจากวางสาย เฉียน หยงเหวิน ยังคงไม่เชื่อ
ธุรกิจของ ช่างหรานจู เฟื่องฟูมาก ทำไมเจ้านายถึงขาย ช่างหรานจู ไปได้?
ดูเหมือนว่าผู้ซื้อจะเสนอราคาที่เจ้านายไม่สามารถปฏิเสธได้
ติ้ง..
โทรศัพท์มือถือของ เฉียน หยงเหวิน สั่น มีข้อความจากเจ้านายเก่าส่งมา
มีข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของคนใหม่ของ ช่างหรานจู อยู่ในนั้น
“หือ?”
เมื่อมองดูรูปถ่ายของเจ้านายคนใหม่ เฉียน หยงเหวิน ถึงกับตะลึง
ทำไมเจ้านายคนใหม่ของเขาถึงยังดูอายุน้อยขนาดนี้?
เขาดูเหมือนจะอายุไม่เกินยี่สิบปี
ด้วยอายุน้อยขนาดนี้ แต่สามารถซื้อ ช่างหรานจู ได้อย่างง่ายดาย..
ทรัพยากรทางการเงินของเจ้านายคนใหม่ของเขาค่อนข้างจะน่ากลัวจริงๆ
“เย่เฉิน, คุณเย่…”
เมื่อดูข้อมูลของเจ้านายคนใหม่ที่ชื่อ เย่เฉิน, เฉียน หยงเหวิน พลันพึมพำออกมา
ก๊อกก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามา”
แกร๊ก
ประตูห้องทำงานเปิดออก บริกรคนก่อนเดินเข้ามา
“ผู้จัดการครับ คนที่มากับ ฟาง ป๋อเชา มีคนหนึ่งชื่อ เย่เฉิน เขา.....”
บริกรพูดอย่างสุภาพมาก
ได้ยินชื่อ ฟาง ป๋อเชา ผู้จัดการเฉียน ก็หงุดหงิดทันที
เขารู้จักกับพ่อของ ฟาง ป๋อเชา
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เพื่อเห็นแก่หน้าพ่อของ ฟาง ป๋อเชา เขาอาจจะยอมรับ
แต่ตอนนี้ ตระกูลฟาง กำลังเริ่มตกต่ำ เขาไม่จำเป็นต้องให้หน้า ฟาง ป๋อเชา อีกต่อไป
โดยที่เลือกให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎ
“ฉันบอกคุณไปแล้วใช่ไหมว่าไม่มีสิทธิพิเศษใดๆ ทั้งนั้น ให้ ฟาง ป๋อเชา รอคิวไป”
ผู้จัดการเฉียน พูดขึ้นอย่างหงุดหงิด
“ครับผู้จัดการ”
บริกรคนดังกล่าวพยักหน้า หันหลังเตรียมจะออกไป
“ไม่.. เดี๋ยวก่อน คุณพูดว่าอะไรนะ มีคนหนึ่งชื่อ เย่เฉิน?”
ผู้จัดการเฉียน เรียกบริกรกลับมา เมื่อเขาบังเอิญมองชื่อของเจ้านายคนใหม่ในข้อมูลแล้วนึกขึ้นได้
“ครับ”
บริกรพยักหน้า
“อะไรนะ?”
เห็นบริกรพยักหน้า ผู้จัดการเฉียน ถึงกับลุกขึ้นยืน เขาแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
“คุณมาดูนี่ คนที่ชื่อ เย่เฉิน คนนั้น ใช่คนนี้หรือเปล่า?”
ผู้จัดการเฉียนโบกมือเรียกบริกรมาดูโทรศัพท์มือถือของเขา
ตอนนี้ บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเขามีรูปถ่ายของ เย่เฉิน
“ใช่ครับ ใช่คนนี้เลย”
บริกรมองแวบเดียวก็กล่าวขึ้นอย่างมั่นใจ
หลังจากยืนยันอีกครั้ง ผู้จัดการเฉียน พลันมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“เร็วๆ เข้ารีบไปเชิญ คุณเย่ เข้ามาโดยเร็ว” ผู้จัดการเฉียน พูดขึ้นอย่างเร่งรีบ
“ผู้จัดการครับ แขกเต็มหมดแล้ว จะให้พวกเขานั่งที่ไหน?”
บริกรถาม
“ก็ยังมีห้องส่วนตัวว่างอยู่ไม่ใช่เหรอไง แน่นอนว่าให้เชิญ คุณเย่ และคนอื่นๆ ไปนั่งในห้องส่วนตัวนั้น”
ผู้จัดการเฉียน ตอบ
ที่ ช่างหรานจู มีห้องส่วนตัวสามห้อง ปกติจะเปิดให้เฉพาะสมาชิกระดับไดมอนด์ หรือบุคคลสำคัญเท่านั้น
“อ๋อ? ได้ครับ”
แม้จะไม่รู้จักตัวตนที่แน่ชัดของ เย่เฉิน แต่ผู้จัดการกลับให้เชิญเขาไปในห้องส่วนตัว
แค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่า เย่เฉิน คนนี้ไม่ธรรมดา
ไม่รอช้า ผู้จัดการเฉียน ก็รีบออกไปต้อนรับ เย่เฉิน เป็นการส่วนตัวทันที
ข้างนอก หลังจากรออยู่สักพัก ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ฟาง ป๋อเชา ยิ้มเยาะด้วยความยินดี โดยหวังให้อีกฝ่ายหนึ่งนั้นโชคร้าย ท่าทีนั้นหยิ่งผยองอย่างยิ่ง
“เย่เฉิน นายจะไหวหรือเปล่า?”
“หากไม่ไหวพวกเราจะได้เปลี่ยนไปกินที่อื่นกัน อย่ามาเสียเวลาพวกเราเลยดีกว่า”
“นายมันไม่ได้เป็นสมาชิกระดับซิลเวอร์ด้วยซ้ำ ยังคิดจะเข้ามาแซงคิวกินข้าว อย่าฝันไปหน่อยเลย”
แต่ยังไม่ทันที่ ฟาง ป๋อเชา จะพูดจบ เสียงฝีเท้าหลายคู่ที่ดูเร่งรีบพลันดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ไม่นาน ชายวัยกลางคนที่มีพุงกลมโตก็เดินออกมา นั่นคือ ผู้จัดการเฉียน
“เถ้าแก่ ท่านมาแล้ว เชิญครับ”
ผู้จัดการเฉียน ทำท่าทางเชิญอย่างนอบน้อม
เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนก็ตกตะลึง
นี่มันสถานการณ์อะไรกัน?
ผู้จัดการของ ช่างหรานจู ออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง?
เย่เฉิน มีอำนาจขนาดนี้เชียว?
สุดยอดเกินไปแล้ว
พวก จางหว่าน และคนอื่นๆ ต่างตกใจมาก
ฟาง ป๋อเชา ตกตะลึงจนพูดไม่ออก
เรื่องเป็นแบบนี้ได้ยังไง เขาไม่อยากจะเชื่อเลย
เขาเป็นสมาชิกระดับโกลด์ของ ช่างหรานจู และยังรู้จักกับผู้จัดการเฉียน..
แต่เขากลับถูก ผู้จัดการเฉียน ขับไล่อย่างเฉยเมย
แต่พอทันทีที่ เย่เฉิน ออกมา ผู้จัดการเฉียน กลับออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง
ทำไมล่ะ?
ทุกคนถูกการกระทำของ ผู้จัดการเฉียน ทำให้ตกตะลึงตอนนี้เพิ่งเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง..
พวกเขาตระหนักได้ว่าสิ่งที่สำคัญอาจจะไม่ใช่การที่ผู้จัดการของ ช่างหรานจู ออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง
แต่มันเป็นคำเรียก เย่เฉิน ว่าอะไรเมื่อกี้!!
เถ้าแก่?!
ผู้จัดการเฉียน เรียก เย่เฉิน ว่า เถ้าแก่?
นี่...
หรือว่า เย่เฉิน เป็นเจ้าของ ช่างหรานจู?
เป็นไปได้ไง?
เย่เฉิน ก็แค่เด็กนักศึกษาธรรมดา ทำไมถึงกลายเป็นเจ้าของร้านอาหารหรูขนาดนี้ไปได้?
มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
“เย่เฉิน คุณ...คือคุณ...เจ้าของ ช่างหรานจู เหรอ?”
จางหว่าน ถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
“อืม ผมเพิ่งซื้อ ช่างหรานจู มา”
เย่เฉิน ตอบอย่างไม่ใส่ใจ
เพียงแต่คำพูดของ เย่เฉิน มันเปรียบดั่งสายฟ้าฟาดลงมาในหูของทุกคน
เพิ่งซื้อ ช่างหรานจู มา?
ซื้อร้านอาหารหรูที่มีมูลค่าหลายสิบล้าน เหตุใดเมื่อออกจากปาก เย่เฉิน ถึงฟังดูง่ายดายนัก?
ราวกับซื้อผักกาดขาวหัวหนึ่ง?
นี่คือคนรวยที่แท้จริงนะเหรอ?
น่ากลัวเกินไปแล้ว
เมื่อได้ยินคำยืนยันจาก เย่เฉิน ใบหน้าของ ฟาง ป๋อเชา ก็ซีดขาวทันที
ตอนนี้ เขาเข้าใจแล้ว
ทำไม เย่เฉิน ออกหน้ามา ผู้จัดการเฉียน ถึงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง?
ที่แท้ เย่เฉิน คือเจ้าของ ช่างหรานจู
ก็จริง.. คนเป็นสมาชิกระดับโกลด์คนหนึ่ง จะไปเทียบกับเจ้าของร้านได้ยังไง?
เขาที่เมื่อกี้ยังอวดว่าตัวเองเป็นสมาชิกระดับโกลด์ของ ช่างหรานจู ต่อหน้า เย่เฉิน
นี่เหมือนเป็นการกวัดแกว่งดาบต่อหน้าท่านกวน(1)หรือเปล่า?
ฟาง ป๋อเชา สติแตกไปแล้ว
เดิมทีเขาคิดว่ามื้อนี้เขาจะเป็นตัวเอก และสร้างความประทับใจดีๆ ให้กับ ดอกไม้งาม ซู
แต่สุดท้าย เขากลับกลายเป็นตัวตลก
เฮ้อ..
ในที่สุด ภายใต้การนำของ ผู้จัดการเฉียน ทุกคนก็เข้ามายังห้องส่วนตัวที่ตกแต่งอย่างประณีตหรูหรา
ไม่กี่นาทีต่อมา ลูกพี่ลูกน้องของ เย่เฉิน จ้าว ซูซวน ก็มาถึง
ที่โต๊ะอาหาร ฟาง ป๋อเชา ก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตากิน ไม่กล้าพูดอะไร อีกทั้งร่างกายของเขายังสั่นสะท้านเล็กน้อย
พวก จางหว่าน เปลี่ยนท่าทีจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง พยายามเอาใจ เย่เฉิน อย่างสุดกำลัง
มีเพียง ซู หนิงซวง ที่ยังคงสงบนิ่ง
แต่พูดตามตรง ตอนที่เธอรู้ว่า เย่เฉิน เป็นเจ้าของ ช่างหรานจู เธอก็ตกใจมากเช่นกัน
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ รวมถึงครั้งก่อน
ในใจของ ซู หนิงซวง พลันเกิดความสงสัยเกี่ยวกับตัว เย่เฉิน อย่างมาก
ยิ่งรู้จัก เย่เฉิน นานขึ้น ความสงสัยก็ยิ่งมีแต่เพิ่มมากขึ้นแทนที่จะลดลง
เย่เฉิน เขาเป็นคนแบบไหนกันแน่
ซู หนิงซวง อยากรู้มาก
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ถือว่ามื้อนี้นั้นจบลงแล้ว
จางหว่าน, ฟาง ป๋อเชา และคนอื่นๆ กลับไปแล้ว
ส่วน เย่เฉิน, ซู หนิงซวง และจ้าว ซูซวน ก็ออกไปเดินเล่นกันใกล้ๆ นี้
ทั้งสามคนไม่ได้สังเกตเวลา พอรู้ตัวอีกทีก็เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว
จากที่นี้กลับไปมหาลัย คงจะถึงประมาณสี่ทุ่มครึ่ง
เวลานั้นประตูหอพักคงปิดแล้ว พวกเขาคงเข้าไปไม่ได้
“ทำไงดีล่ะ?”
จ้าว ซูซวน คิดหนัก
“คืนนี้กลับไปคงไม่ทันแล้ว งั้นพวกเราคงต้องไปค้างที่โรงแรมในคืนนี้กันแล้ว”
ตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ถึงกลับไปก็เข้าไปหอพักไม่ได้ คงต้องพักโรงแรมแทน
เย่เฉิน ไม่มีปัญหาอะไร หากถึงที่สุดก็แค่โทรขอลา และพรุ่งนี้เช้าก็แค่ต้องรีบกลับไปมหาลัย
ส่วน ซู หนิงซวง พอได้ยิน จ้าว ซูซวน พูดก็อึ้งไปเล็กน้อย
เดิมทีเธอต่อต้านเล็กน้อย แต่พอคิดอีกที มี ซูซวน อยู่ด้วยก็คงไม่มีปัญหาอะไร จึงยอมตกลงไป
สุดท้าย เย่เฉิน ก็หาที่พักโรงแรมดีๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้
ไม่กี่นาทีทั้งสามคนก็เดินเข้าไป
แต่ก่อนจะเข้าโรงแรม จ้าว ซูซวน ก็พูดขึ้นมาว่า :
“พวกเธอไปจองห้องกันก่อนนะ ฉันอยากกินผลไม้ ไปซื้อผลไม้แป๊บ เดี๋ยวเจอกันนะ”
พูดจบ เธอก็ยื่นบัตรประชาชนให้ ซู หนิงซวง แล้วเดินไปอีกด้านหนึ่ง
เย่เฉิน กับซู หนิงซวง เดินเข้าไปในโรงแรมด้วยกัน
พอมาถึงเคาน์เตอร์แผนกต้อนรับ
“สวัสดีครับ ยังมีห้องว่างอยู่ไหมครับ?”
เย่เฉิน ถาม
“มีอยู่ครับ.....”
พนักงานผู้ชายที่เคาน์เตอร์แผนกต้อนรับกำลังก้มดูโทรศัพท์ พอได้ยินมีคนถามก็พูดตอบกลับไป
“งั้นดีเลย ขอจองสองห้องครับ”
“ได้ แน่นอนครับ...”
พูดพลาง พนักงานแผนกต้อนรับก็หันมองหาห้องในคอมพิวเตอร์
แต่พอเงยหน้าขึ้นเห็น เย่เฉิน กับซู หนิงซวง เป็นชายหญิงคู่หนึ่ง ก็ตกใจเล็กน้อย แล้วเปลี่ยนคำพูดทันที :
“ขออภัยด้วยครับ ตอนนี้เราเหลือเพียงแค่ห้องเดียวเท่านั้น”
พูดแล้ว พนักงานแผนกต้อนรับก็แอบขยิบตาให้กับ เย่เฉิน เหมือนต้องการบอกว่า : ไม่ต้องห่วงพี่ชาย ผมเข้าใจคุณ ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
(1)[กวัดแกว่งดาบต่อหน้าท่านกวน (关公面前耍大刀)] - หมายถึงประเมินความสามารถของตนสูงเกินไป หลอกตัวเองโดยโอ้อวดตัวต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญ หรือแสดงความรู้หรืออวดรู้กับผู้ที่รู้เรื่องดีกว่า…