ตอนที่ 10 ทรัพย์สินทะลุหนึ่งร้อยล้าน
พวกเขากำลังเห็นอะไรน่ะ?
คนที่ลงมาจาก Ferrari คันนั้น คือ เย่เฉิน เองงั้นเหรอ?!
โอ้.. พระเจ้า!
ทุกคนต่างตกตะลึงสุดขีด พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า รถของ เย่เฉิน จะเป็น Ferrari ที่มีมูลค่าหลายล้านหยวน
แบบนี้มันน่าทึ่งเกินไปแล้ว
“อึกๆ.. อึกๆ”
ภายในรถ BMW Series 7 อันเงียบสงบ มีเสียงกลืนน้ำลายดังขึ้น
ทุกคนล้วนตกตะลึงอย่างสุดซึ้ง
จางหว่าน กับคนอื่นๆ จ้องมอง Ferrari ของ เย่เฉิน ด้วยความรู้สึกสับสน
โดยเฉพาะคนที่เคยช่วย ฟาง ป๋อเชา พูด ตอนนี้พวกเขารู้สึกอับอายอย่างมาก
ซึ่งเมื่อกี้ ..มันน่าอายเกินไปแล้ว!
ส่วน ฟาง ป๋อเชา นั้นอ้าปากค้าง เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
นักศึกษาใหม่ปีหนึ่งจะขับรถ Ferrari ได้ยังไง?
นี่มันเรื่องตลกรึเปล่านะ?
เมื่อ ฟาง ป๋อเชา คิดถึงคำพูดที่เขาพูด กับดอกไม้งาม ซู ในก่อนหน้านี้ ใบหน้าของเขาพลันแดงฉานขึ้นมา
“ดอกไม้งาม ซู ขึ้นรถของฉันเถอะ เย่เฉิน จะขับรถดีๆ อะไรได้?”
“เขาไม่น่าจะขับรถดีๆ อะไรหรอกน่า การมานั่ง BMW Series 7 ของฉันดูจะสบายกว่าแน่นอน”
“ดอกไม้งาม ซู เย่เฉิน คงขับรถคันหนึ่งไม่น่าเกินสองแสนหยวน รถแบบนั้นจะไปคู่ควรกับคุณได้ยังไง?”
คำพูดของเขามันยังคงดังก้องอยู่ในหัว
ตอนนี้มันช่างน่าอับอายสุดๆ
เมื่อกี้เขายังล้อเลียน เย่เฉิน ว่าเขาขับรถดีๆ ไม่ได้ อย่างมากก็แค่รถราคาไม่น่าเกินสองแสนหยวน สู้ BMW Series 7 ของเขาไม่ได้แน่ๆ
ตอนนี้.. กลับกลายเป็นว่า เย่เฉิน ขับ Ferrari คันหนึ่งมาจริงๆ
ซึ่งรถคันหนึ่งนั้นมันสามารถซื้อ BMW Series 7 ของเขาได้หลายคัน
ในขณะนี้เขากลับกลายเป็นตัวตลก
ซู หนิงซวง ขึ้นรถของ เย่เฉิน
เมื่อเห็น ซู หนิงซวง ขึ้นรถ Ferrari ของ เย่เฉิน จางหว่าน และคนอื่นๆ ต่างอิจฉาสุดๆ
พวกเขาก็อยากนั่ง Ferrari เหมือนกัน
อยากรู้ว่ามันจะรู้สึกอย่างไร..
ฟาง ป๋อเชา นั้นโกรธจนตัวสั่น ความอิจฉาริษยาของเขาต่อ เย่เฉิน เพิ่มทวีขึ้น
ไม่ได้การแล้ว เรื่องนี้จะต้องไม่จบแบบนี้
เขาต้องกู้สถานการณ์กลับมา
ฟาง ป๋อเชา ไม่พูดอะไรมาก สตาร์ทรถ และขับออกไปก่อน
กว่ายี่สิบนาทีต่อมา พวกเขามาถึงที่ร้านอาหารหรูที่ตกแต่งอย่างงดงามน่านั่ง
เมื่อถึงจุดหมาย ฟาง ป๋อเชา, จางหว่าน และคนอื่นๆ ก็ลงจากรถ
เย่เฉิน พร้อมกับซู หนิงซวง ก็ก้าวออกจากรถเช่นกัน
“ฉันขอแนะนำให้ทุกคนรู้จัก นี่คือร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในเจียงโจว ชื่อว่า ช่างหรานจู”
ฟาง ป๋อเชา ชี้ไปที่ร้านอาหารหรูตรงหน้าเขาพลางแนะนำมันอย่างภาคภูมิใจ
เขาเป็นสมาชิกระดับโกลด์ของที่นี่ ซึ่งจำเป็นต้องใช้จ่ายมากกว่าหกหลักในทุกปี
ฮื่อ?
ที่นี่คือ ช่างหรานจู..
เย่เฉิน เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เขาไม่คาดคิดเลยว่าร้านอาหารหรูที่ ฟาง ป๋อเชา พาพวกเขามาจะเป็น ..ช่างหรานจู
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาอยู่ กับซู หนิงซวง เพื่อมาทานอาหาร ซึ่งนี่ถือว่าทำภารกิจในเกมสำเร็จหรือเปล่านะ..
คิดได้อย่างนี้แล้ว เย่เฉิน ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดเกม ‘ด้วยเงินเดือนแค่สามพัน ฉันก็กลายเป็นมหาเศรษฐีของโลกได้’
[ภารกิจเกมสำเร็จ]
[ยินดีด้วย คุณได้รับสิทธิ์ครอบครองช่างหรานจู 100% และกลายเป็นเจ้าของ ช่างหรานจู คนใหม่]
[ยินดีด้วย คุณได้รับค่าประสบการณ์ : 5 คะแนน]
[ยินดีด้วย คุณได้รับคะแนนร้านค้า : 2 คะแนน]
ทันทีที่เข้าเกม ก็มีการแจ้งเตือนผุดขึ้นมาชุดใหญ่
ภารกิจเกมแรกสำเร็จไปด้วยดี
ตอนนี้เขากลายเป็นเจ้าของร้านช่างหรานจูแล้ว
ช่างหรานจู เป็นหนึ่งในร้านอาหารหรูในเจียงโจว แน่นอนว่ามูลค่าของมันย่อมไม่ต่ำกว่าหลายสิบล้านหยวน
เมื่อตอนนี้เขาเป็นเจ้าของร้านนี้แล้ว รวมถึงคฤหาสน์ที่เคยได้รับมา ทำให้ทรัพย์สินโดยรวมของเขา เย่เฉิน ทะลุ 100 ล้านหยวนทันที
จากนี้ไป เย่เฉิน ก็กลายเป็นคนรวยที่มีทรัพย์สินหลายร้อยล้านหยวนแล้ว
เป้าหมายเล็กๆ ในชีวิตของเขาบรรลุผลภายในสองวัน
เกมนี้มันเจ๋งสุดยอดจริงๆ!
ในสองวันจากนักศึกษาปีหนึ่งที่ไม่มีอะไรเลย กลายเป็นคนรวยที่มีทรัพย์สินหลายร้อยล้านหยวนอย่างแท้จริง
การเปลี่ยนแปลงนี้รวดเร็วเกินไป
เย่เฉิน ยิ้มออกมาอย่างเบิกบาน ซึ่งนี่..มันเป็นความรู้สึกที่สุดยอดมาก
[ด้วยเงินเดือนแค่สามพัน ฉันก็กลายเป็นมหาเศรษฐีของโลกได้] เทพตลอดกาลจริงๆ!
คราวนี้ไม่เพียงแต่ได้ ช่างหรานจู มา ค่าประสบการณ์ และคะแนนร้านค้าของเขาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ทำให้ เย่เฉิน ตื่นเต้นมากขึ้นกับการอัปเกรดระดับของผู้เล่น และร้านค้าเกมในอนาคต
ซึ่งแน่นอนว่ามันอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว..
“ช่างหรานจู มักมีลูกค้าหนาแน่นตลอดวัน แม้กระทั่งคนรวย และบุคคลสำคัญในเจียงโจว ยังชอบมาทานที่นี่”
“ช่างหรานจู มีเชฟระดับชั้นนำของประเทศ รสชาติอาหารก็เยี่ยมยอด…”
“ฉันเองเป็นสมาชิกระดับโกลด์ของที่นี่.. มีสิทธิพิเศษมากมาย”
ฟาง ป๋อเชา โอ้อวดเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกระดับโกลด์ของ ช่างหรานจู
ขณะที่พูดไปด้วย ฟาง ป๋อเชา ก็นำพวกเขาไปทาง ช่างหรานจู
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ ฟาง ป๋อเชา จะเข้าไป บริกรกลับหยุดเขาไว้
“สวัสดีครับท่าน วันนี้ร้านอาหารของเราเต็มแล้ว ต้องขอโทษจริงๆ ครับ”
“ถ้าท่านต้องการ ท่านสามารถรอ(ต่อ)คิวได้ครับ”
บริกรพูดอย่างสุภาพมาก
หืม?
ฟาง ป๋อเชา ถึงกับรู้สึกอายทันที
เมื่อครู่เขาเพิ่งคุยโม้เสียใหญ่โตว่าเขาเป็นสมาชิกระดับโกลด์ของที่นี่ มีสิทธิพิเศษอะไรต่างๆ มากมาย
แต่ผลลัพธ์กลับเป็นว่า ..ไม่ต้องพูดถึงสิทธิพิเศษอะไร ตอนนี้แม้แต่จะเข้าไปในช่างหรานจู เขายังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ
และแบบนี้.. นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?
จางหว่าน และคนอื่นๆ ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเช่นกัน อุตส่าห์มาไกลขนาดนี้
เดิมทีคิดว่าพวกเขาจะได้ลิ้มรสชาติอาหารของคนรวย แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่า ..แม้แต่ประตูยังเข้าไม่ได้?
“ขอถามว่าเราต้องรออีกนานแค่ไหนคะ?”
จางหว่าน ทนไม่ไหวได้ถามขึ้น
“ประมาณหนึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่งครับ” บริกรตอบ
“นานขนาดนั้นเลย?”
ต้องรอมากกว่าหนึ่งชั่วโมง?
พวกเขาหลายคนดูหมดหนทาง
“ปล่อยให้ฉันจัดการเอง”
ฟาง ป๋อเชา ได้สงบสติลงแล้ว
ฟาง ป๋อเชา พูดด้วยความมั่นใจต่อหน้า จางหว่าน และคนอื่นๆ
“ฉันเป็นสมาชิกระดับโกลด์ของ ช่างหรานจู ดังนั้นฉันไม่จำเป็นต้องรอคิว”
ฟาง ป๋อเชา พลันหยิบบัตรสมาชิกระดับโกลด์ของเขาออกมา ยื่นให้บริกรด้วยท่าทางโอ้อวดอย่างมั่นใจ
“ขอโทษครับท่าน ท่านยังคงต้องรอคิวครับ”
บริกรพูดตรงๆ โดยไม่แม้แต่จะรับบัตรสมาชิกระดับโกลด์ของ ฟาง ป๋อเชา ด้วยซ้ำ
“ทำไม?!”
ฟาง ป๋อเชา โกรธขึ้นมาแล้ว
ตัวเขาเองเป็นสมาชิกระดับโกลด์ จึงมีสิทธิพิเศษไม่จำเป็นต้องรอต่อคิว!
“ต้องขอโทษจริงๆ ครับท่าน คนที่รออยู่ก่อนท่านก็เป็นสมาชิกระดับโกลด์”
บริกรอธิบาย พลางชี้ให้เห็นผู้คนในอีกด้านหนึ่ง
ฟาง ป๋อเชา ถึงกับอึ้งไป
ดี..ดีมาก ดีจริงๆ
ฟาง ป๋อเชา รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวทันที
“ฉันรู้จักกับผู้จัดการเฉียนของพวกคุณ บอกผู้จัดการเฉียนของพวกคุณว่า ฟาง ป๋อเชา มา ให้เขาออกมาพบฉัน”
ฟาง ป๋อเชา พูดออกไปโดยตรง
เนื่องจากเขามีเส้นสาย ดังนั้นเขาจึงต้องไม่รอคิวเพื่อเข้าไป
วันนี้เขาเป็นคนพาคนพวกนี้มาที่ ช่างหรานจู ถ้าเข้าไปไม่ได้ เขาคงจะอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“ได้ครับ กรุณารอสักครู่”
บริกรคนดังกล่าวเดินเข้าไปในช่างหรานจู เพื่อไปเชิญผู้จัดการเฉียน
เห็นดังนี้ ฟาง ป๋อเชา ถึงได้พอใจ
“พวกคุณไม่ต้องห่วง ฉันรู้จักกับผู้จัดการที่นี่ แค่ฉันเอ่ยปาก ผู้จัดการเฉียน ต้องตอบรับแน่นอน”
ฟาง ป๋อเชา หันไปพูดกับ จางหว่าน และคนอื่นๆ ด้วยความมั่นใจ
พูดจบ ฟาง ป๋อเชา ยังไม่ลืมมองไปที่ เย่เฉิน อย่างภาคภูมิใจ
ตอนนี้ เขาโชว์เส้นสายของตัวเองแล้ว
ถึงแม้จะขับซุปเปอร์คาร์แล้วมันยังไง?!
ในยุคนี้ เส้นสายสำคัญที่สุด ถ้าไม่มีเส้นสาย อะไรก็ทำไม่ได้
คิดถึงเรื่องนี้แล้ว ฟาง ป๋อเชา ยิ่งรู้สึกถึงความเหนือกว่าในใจ
ไม่นานนัก บริกรคนเดิมก็รีบกลับมา
เห็นดังนี้ ฟาง ป๋อเชา เตรียมนำพวกเขาเข้าไป
อย่างไรก็ตาม ฟาง ป๋อเชา ที่เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว กลับถูกหยุดอีกครั้ง
“ขอโทษครับ คุณชายฟาง ผู้จัดการของเราบอกว่าวันนี้เต็มแล้ว ไม่สามารถให้ท่านเข้าไปได้”
“กรุณาอดทนรออย่างใจเย็นครับ”
บริกรพูดขึ้น
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟาง ป๋อเชา ถึงกับช็อกทันที
ถูกปฏิเสธอีกครั้ง เขาถูกปฏิเสธอีกครั้งแล้ว?!
ผู้จัดการเฉียน ไม่แม้แต่จะออกมาพบเขาด้วยซ้ำ แค่บอกปัดไล่เขาอย่างง่ายๆ เช่นนี้?
นี่มัน...
เมื่อคิดถึงท่าทีที่เขามั่นอกมั่นใจเมื่อสักครู่ ฟาง ป๋อเชา พลันรู้สึกอยากแทรกแผ่นดินหนี
ครั้งนี้มันน่าอายจริงๆ อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว!!!
หลังจากได้ยินบริกรพูด คนอื่นๆ ก็หมดหนทางเช่นกัน
คงทำอะไรไม่ได้แล้ว
แม้แต่ ฟาง ป๋อเชา ใช้เส้นสายแล้วก็ยังเข้าไปไม่ได้ ได้แค่รอ หรือไม่เราไปหาที่อื่นแทน..
ในขณะที่พวกเขาเตรียมจะไปที่อื่น เย่เฉิน ก็ก้าวออกมาอย่างช้าๆ