คุณคริสหายไปไหน!? (อ่านฟรี 06/08/2567)
“ดูชายคนนั้นสิ... เขาจัดการมอนสเตอร์ระดับสองได้ด้วย!” ชายคนหนึ่งในชุดเกราะหนังกล่าวออกมาก่อนจะยิงปืนเวทมนตร์ช่วยสมาชิกคนหนึ่งเอาไว้ได้ทัน
ถึงจะอยู่ในการต่อสู้แต่เขาก็ยังสังเกตรอบด้านไปด้วย เมื่อเห็นคริสที่จัดการมอนสเตอร์ระดับสองด้วยตัวคนเดียวได้ก็รู้สึกตะลึงไม่น้อย
“แม่เจ้า! แถมใช้แค่มือเปล่าเนี่ยนะ!” มีคนที่ได้ยินสิ่งที่มือปืนกล่าวจึงหันไปมองก็ได้เห็นภาพที่คริสใช้มือเปล่าฉีกขาข้างหนึ่งของมอนสเตอร์ออกพอดี
“นั่นมันนักผจญภัยแรงค์ F แน่เรอะ! กรอบสีขาวบ้าบออะไร!” มีคนที่จำได้ว่ามีคนบอกว่าคริสเป็นนักผจญภัยกาก ๆ เลยให้แบกของกล่าวออกมาอย่างหัวเสีย
“แล้วทำไมมันถึงไม่บอกแต่แรกวะ! ถ้ามาช่วยกองหน้าแต่แรกก็คงไม่ต้องมีคนตายและบาดเจ็บเยอะขนาดนี้หรอก!” มีบางคนเริ่มกล่าวโทษคริสขึ้นมาบ้าง ถึงแม้จะเป็นส่วนน้อยแต่ก็มีคนเห็นด้วยกับความคิดเช่นนี้เหมือนกัน
ถ้ารู้แต่แรกว่าชายคนนั้นเก่งขนาดนี้จะให้ไปแบกของทำบ้าอะไร! ให้มาอยู่กองหน้าก็คงลดความสูญเสียได้ไม่น้อยแล้ว! นี่มันใช้คนทำงานผิดชนิดจริง ๆ แถมเจ้าตัวก็ไม่ยอมแย่งอะไรอีก มองดูคนตายหน้าตาเฉย! กลับไปจะต้องแจ้งทางสมาคมเสียแล้ว!
‘จิตใจมนุษย์ช่างเข้าใจยากนัก’ ถึงแม้จะต่อสู้อยู่คริสก็สามารถรับรู้ถึงการพูดคุยของคนในทีมได้ไม่ยาก เพราะประสาทสัมผัสของเขาเฉียบแหลมขึ้นกว่าเดิมอย่างมากนับตั้งแต่ปลุกพลังมา
‘น่าเสียดายซากเหล่านี้จริง ๆ’ ชายหนุ่มมองไปยังซากมอนสเตอร์ที่วางทิ้งไว้ตามพื้นทรายด้วยความเสียดาย เขาอยากจะดูดกลืนเซลล์ของพวกมันมาเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายเหลือเกิน
แม้จะมีบางจังหวะที่คิดว่าน่าจะไม่มีใครสังเกต แต่ชายหนุ่มก็เลือกที่จะไม่เสี่ยงทำเช่นนั้น เพราะถ้ามีคนเห็นว่าเขาสามารถทำให้ซากมอนสเตอร์หายไปได้ในพริบตา ยังไงก็ต้องมีคนสงสัยเป็นแน่ เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะแก้ตัวได้ยากยิ่งขึ้นไปอีก
‘ถึงยังไงก็ยังดีที่ได้เลเวลกับทักษะเพิ่มขึ้นมา ไปลองจัดการมอนสเตอร์ระดับสามดูดีกว่า’ หลังจากหยั่งเชิงฝีมือของมอนสเตอร์จากการต่อสู้และสังเกตมาได้อย่างเพียงพอแล้ว คริสก็ได้ข้อสรุปว่าพวกมันไม่เป็นภัยต่อเขา ดังนั้นชายหนุ่มจึงเคลื่อนกายไปตามช่องว่างของสนามรบเข้าสู่ฝูงมอนสเตอร์อย่างรวดเร็ว
ไม่มีใครมองเห็นว่าคริสหายไปตั้งแต่เมื่อไร ส่วนหนึ่งก็เพราะความเร็วของเขา แต่ส่วนสำคัญก็เป็นเพราะการต่อสู้ที่ยุ่งเหยิงจนเกินไปทำให้ไม่มีใครทันสังเกต
‘ไปตรงจุดนั้นแล้วโจมตีจากด้านล่าง เสร็จข้าล่ะ....’ คริสสรุปแผนการในใจอย่างรวดเร็วก่อนจะพุ่งไปยังจุดที่หมายตาเอาไว้ในทันที
ฟุ่บ! ครืดดดดดดดดดด
...
“มีใครเป็นอะไรไหม ? เคลียร์พื้นที่เร็วเข้า!” เสียงใครบางคนดังขึ้นมาท่ามกลางนักผจญภัยที่กำลังเหน็ดเหนื่อยจนแทบขยับไม่ไหว
หลังจากใช้เวลากว่าห้าชั่วโมงพวกเขาก็กำจัดมอนสเตอร์ทั้งหมดลงได้สำเร็จ ในตอนนี้ภารกิจดันเจี้ยนของทุกคนเกือบจะเคลียร์ครบแล้วขาดเพียงกำจัดบอสมอนสเตอร์เท่านั้น ถึงแม้จะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากแต่ก็มีผู้เสียชีวิตเพียงห้าคนเท่านั้น
ที่ผลลัพธ์ออกมาดีเช่นนี้ก็เป็นเพราะการมีอยู่ของนักผจญภัยที่เป็นอาชีพแนวหลังเช่นผู้เฝ้ามอง นักวางแผนและอาชีพสนับสนุนอื่น ๆ ทำให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี
“ทุกคนปลอดภัยดีนะ!” ทางด้านทีมของคริส ทวันซูก็เดินกลับมาสอบถามสมาชิกในทีมด้วยความเป็นห่วง เขามองไปยังสมาชิกในทีมที่อยู่กันเกือบครบก่อนจะกล่าวต่อว่า
“คุณคริสหายไปไหน!?” สิ่งที่หลงเหลืออยู่มีเพียงกระเป๋าสัมภาระขนาดใหญ่ที่คริสต้องแบกมาก็เท่านั้น แต่ตัวของชายหนุ่มผู้ที่เก็บงำฝีมือเป็นอย่างดีกลับหายไป!
ครึ่งหลัง
“จริงด้วย! เหลือแต่กระเป๋า” ชายผมแดงที่มีอาชีพนักรบดาบกล่าวออกมาด้วยความแปลกใจ
ในเวลานี้ทุกคนในทีมของทวันซู.. ไม่สิ ต้องบอกว่าทุกคนที่รวมทีมกันต่อสู้มาด้วยกันกว่าห้าสิบชีวิต ล้วนแต่ได้รับรู้แล้วว่าชายที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนแบกของก่อนหน้านี้ แท้จริงแล้วเขามีความแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่านักผจญภัยแรงค์ E เช่นพวกเขาเลย ดีไม่ดีจะแข็งแกร่งกว่าด้วยซ้ำ
“หรือว่าเขาจะ...” เรียน่า นักเวทย์สาวธาตุลมกล่าวออกมาเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงหวั่นวิตก
ถึงจะไม่ได้สนิทอะไรกันมากแต่ชายคนนั้นก็ได้ช่วยเธอไว้หลายครั้งจากการต่อสู้เมื่อสักครู่นี้ มันเลยทำให้อดรู้สึกเสียใจไม่ได้ถ้าเขาต้องมาตายไปแบบนี้
“ลองไปถามทีมอื่นกันก่อนเถอะ! ชายที่แข็งแกร่งกว่าฉันแบบนั้น ไม่ตายง่าย ๆ หรอก!” ซาฮาที่มักจะคอยหาเรื่องคริสอยู่ตลอดกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ทัศนคติของเขาเปลี่ยนไปมากเมื่อได้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นนักผจญภัยที่แข็งแกร่งของจริง
“นั่นสิ ไปถามพวกเขากันเถอะ” ทวันซูก็เห็นด้วยกับความคิดของอีกฝ่าย เขาเก็บของแล้วตรวจสอบจนเรียบร้อยก่อนจะพาสมาชิกในทีมเดินไปสอบถามเรื่องของคริสจากทุกคน
...
ใต้ผืนทรายอันกว้างใหญ่
‘เกิดอะไรขึ้น?’ คริสที่อยู่ดี ๆ ร่างกายก็จมลงไปใต้พื้นทรายครุ่นคิดด้วยความสับสน
ในตอนที่กำลังจะเข้าไปจัดการมอนสเตอร์ระดับสามเขาก็พบว่าพื้นดินใต้เท้าจุดที่เขาเคลื่อนร่างไปมันเหมือนเป็นหลุมดูด ทำให้ร่างของเขาทั้งร่างจมหายลงไปอย่างรวดเร็ว!
แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มก็ไม่ได้ตื่นตะหนก เขาใช้ทักษะควบคุมอากาศให้มาปกคลุมรอบศีรษะของตนเองเพื่อไม่ให้ขาดอากาศหายใจ ส่วนร่างกายส่วนอื่นเขาปล่อยไปเช่นนั้นเพราะสัมผัสไม่ได้ถึงอันตรายอะไรจากทรายเหล่านี้
ร่างของคริสจมหายลงไปในดินอยู่เกือบสิบนาที ในที่สุดเขาก็หล่นลงมาอยู่ในโถงใต้ดินขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
‘ที่นี่ที่ไหนกัน ?’ ชายหนุ่มมองไปยังรอบด้านด้วยความสงสัย แต่ถึงจะสงสัยเขาก็ไม่เปิดปากกล่าวออกมาอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรได้ยินเสียงของเขาหรือไม่
[เป็นที่โล่งกว้างภายใต้ทะเลทรายของดันเจี้ยน] หน้าต่างสีม่วงอมดำเด้งขึ้นมา ทำเอาคริสประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะจำได้ว่าเจ้าสิ่งนี้คือสิ่งที่เรียกว่าระบบนั่นเอง
เพราะว่าน้อยครั้งมากที่มันจะโผล่ออกมาทำให้เขาลืมการมีตัวตนของมันไปบ้าง
ชายหนุ่มเดินไปยังรอบ ๆ เพื่อตรวจสอบสถานที่ซึ่งตนเองอยู่ในตอนนี้ แต่ก็ต้องผิดหวังที่พบว่ามันไม่มีสิ่งอื่นใดนอกจากทรายอยู่เลย
‘แล้วข้าต้องทำยังไงต่อ ?’ คริสเห็นว่าเมื่อสักครู่ระบบตอบโต้กับตนเอง เลยทดลองถามมันดูอีกที
[ตามหาบอสมอนสเตอร์แล้วกำจัด] ซึ่งก็ไม่ทำให้ชายหนุ่มผิดหวัง หน้าต่างสีม่วงดำเด้งขึ้นมาอีกครั้ง
‘แล้วบอสมอนสเตอร์มันอยู่ที่ใดล่ะ..’ ชายหนุ่มครุ่นคิดด้วยความสงสัย
ครืนนนนนนนนน คึก คึก กี๊ซซ
เสียงเหมือนมีบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหวดังมาจากด้านหน้า ทำให้คริสเลือกที่จะใช้ทักษะควบคุมธาตุบังคับให้ทรายจากรอบ ๆ มาปกคลุมรอบร่างกายของตนเองเอาไว้เพื่อปิดบังกลิ่นอายทั้งหมด ไม่ให้เจ้าสิ่งนั้นรับรู้ได้โดยง่าย
‘น่าจะอยู่ข้างหน้านี้สินะ’ คริสย่องไปตามมุมอับเรื่อย ๆ โดยตามเสียงที่ดังอยู่ตลอดเวลาไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งเข้าไปใกล้เขาก็ยิ่งสัมผัสได้ว่ามีสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งอยู่ด้านหน้าไม่ไกลนัก
‘เจ้านั่นมันคืออะไรกัน ?’ ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ในใจกับสิ่งที่เขาได้เห็นตรงหน้า
สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เกือบยี่สิบเมตรกำลังนอนนิ่งอยู่กับที่ มันเงยหน้าขึ้นมองไปยังทรายด้านบนที่กำลังถาโถมลงมาอย่างรวดเร็ว! สายตาของมันเหมือนกับสัตว์ร้ายที่กำลังจ้องมองเหยื่ออันโอชะก็ไม่ผิด!!