Chapter 24 สอนบทเรียนให้เธอ
ประมาณสี่โมงเย็น หลี่โหย่ง ต้องกลับไปที่โรงแรมเนื่องจากที่นั่นยุ่งมาก เขาจึงต้องขอตัวกลับไปโดยด่วน
ในตอนเย็น หลี่ซูไปที่ตลาดเพื่อถามข้อมูล เธอต้องการที่จะเช่าแผงขายของ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอเข้ามาขายผลไม้จนกลายเป็นใบหน้าที่คุ้นเคยกันไปแล้ว
ใครจะรู้ว่าตลาดที่นี่ดังมากเสียจนแผงขายของไม่เคยว่าง
ผู้ที่ดูแลที่นี่ก็ปวดหัวเช่นกัน “เมื่อไม่นานมานี้เอง ฉันถามแล้วถามอีก แต่แผงขายมีจำนวนจำกัด ในปีนี้แผงถูกเช่าเต็มไปหมดแล้ว หากคุณต้องการจะเข้ามา คุณสามารถเข้ามาจ่ายค่าจองได้ในช่วงต้นปีหน้าเท่านั้น”
หลังจากได้ยินข่าวนี้ หลี่ซู่ ก็รู้สึกกังวลอย่างหนัก ตั้งแต่เธอกลับเข้าบ้าน
จี้หยวนหยวนก็ตามเธอไปที่นั่นด้วย ดังนั้นเธอจึงรู้ดีว่าหลี่ซูกำลังกังวลเรื่องอะไร
“แม่คะ ไม่เป็นไรนะคะ ลุงคนนั้นไม่ได้บอกว่าเขาต้องการแค่ผักของเราในอนาคตไม่ใช่เหรอ? และก็น้ารองโรงแรมของเขาก็จำเป็นต้องซื้อผักด้วยนี่คะ”
หลี่ซู่บังคับตัวเองให้ร่าเริงขึ้นและฝืนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “เอาล่ะ ถ้าผักของเราพร้อมเมื่อไหร่ แม่ก็จะส่งไปให้ลุงคนนั้น”
สำหรับหลี่โหย่ง หลี่ซู่ไม่ต้องการให้เขาเข้ามาเกี่ยวข้อง
เธอตระหนักดีว่าโรงแรมขนาดใหญ่ก็มีพนักงานจัดซื้อเป็นของตัวเอง
หลี่โหย่งเป็นเพียงเชฟตัวเล็กๆ หากเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อ แล้วถ้าคนอื่นอาจรู้เข้าคงไม่ใช่เรื่องดี
มันไม่ง่ายสำหรับเขาเลยที่จะหางานแบบนี้ได้ และหลี่ซู่ก็ไม่ต้องการที่จะทำให้เขายุ่งยากเพราะเรื่องของเธอ
ในตอนกลางคืน จี้หยวนหยวนนอนไม่ค่อยหลับ อาจเป็นเพราะจดหมายของฉินมู่เชิง ที่เธอรู้ว่า ฉินมู่เชิงจะมาหาเธอในช่วงวันหยุดฤดูหนาว ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอตั้งตารอคอยเขา
เช้าวันรุ่งขึ้น เธอแทบจะลุกไม่ขึ้น
กว่าที่เธอจะตื่นได้ก็เป็นเวลาแปดโมงเช้าแล้ว
จี้หยวนหยวนรีบดึงหลี่ซูเข้ามาในพื้นที่ของเธอ หลังจากเก็บลูกพีชแล้วพวกเขาก็ตรงไปที่ตลาด
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวันนี้พวกเขาตื่นสายจี้ซีซวนและจี้ซีอัง จึงบังเอิญเจอพวกเขาตอนที่พวกเขากำลังจะออกจากบ้าน
จี้ซีซวน เห็นว่า หลี่ซู่ กำลังพยายามถือตะกร้าไม้ไผ่ด้วยตัวเองอย่างยากลำบาก ดังนั้นเขาจึงยืนกรานที่จะช่วยและติดตามไปกับเธอด้วย
ระหว่างทางด้วยความช่วยเหลือจากเด็กสองคน มันง่ายกว่ามากจริงๆ
ยังคงเป็นสถานที่เดิมที่เคยวางขาย หลี่ซู่หยิบเงินหนึ่งดอลลาร์ออกมาจากกระเป๋าของเธอแล้วส่งให้ จี้ซีซวน “ลูกช่วยไปตรงโน้น แล้วซื้อซาลาเปาสักสองสามลูกมาให้น้องสาวของลูกกินทีสิจ๊ะ”
หลี่ซูได้เตรียมอาหารเช้าสำหรับทั้งสามคนในตอนเช้าไว้เรียบร้อยแล้ว จี้หยวนหยวนเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้กินข้าวเนื่องจากเธอตื่นสาย
จี้ซีอัง มองอย่างกระหาย หลี่ซู่ พูดว่า "เอาล่ะ ลูกก็ไปด้วยกันสิ ไปซื้อขนมด้วยเงินส่วนที่เหลือนี้นะจ๊ะ"
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ จี้ซีอังก็ดึงแขนเสื้อของจี้ซีซวนอย่างมีความสุขแล้วพากันวิ่งออกไป
หลี่ซู่ ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และเอื้อมมือไปจัดผมของ จี้หยวนหยวน
“โอ้ .นั่น... หล่อนยังกล้ามาที่นี่อีก!!!” ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้หญิงที่แหลมคมดังขึ้น
หลี่ซูหันหน้าไปมองที่ต้นเสียง เธอคือผู้หญิงคนที่เก็บเงินได้เมื่อวานนี้
“โอ้ ใช่... เธอก็อยู่ในตลาดนี้ด้วยนินา !”
การแสดงออกของ หลี่ซู่ เปลี่ยนไป เธอคิดว่าพวกเขาอาจจะต้องขายผักด้วยกันในอนาคต ดังนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาจึงไม่ควรแข็งกระด้างจนเกินไปนัก เธอยิ้มอย่างสุภาพและหยิบลูกพีชมาสองสามลูก “พี่สาวคะ เมื่อวานเป็นเพราะความไร้เดียงสาของเด็ก อย่าโกรธเลยนะคะ ลองชิมลูกพีชของเราสิ…”
ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะร่วนแล้วหยิบลูกพีชมา เธอกัดมันและถ่มน้ำลาย “ถุ๊ย ... ลูกพีชเน่าๆพวกนี้เป็นชนิดไหนกันนะ? รสชาติมันจึงได้ห่วยมาก แต่หล่อนก็ยังกล้าเอามันมาวางขายอีกเหรอ ช่างไม่มีสามัญสำนึกเอาซะเลยนะ?”
เธอปาลูกพีชในมือลงไปที่พื้นอย่างแรงใกล้เท้าของหลี่ซู่ อย่างจงใจ และมองดูหลี่ซู่ด้วยสีหน้าที่เกรี้ยวกราด
ผู้หญิงคนนี้และนังเด็กสาวสารเลวนั่น ทำให้เธอพลาดเงินไปมากมายเมื่อวานนี้
ลูกพีชกองนั้นอย่างน้อยก็สองถึงสามร้อยลูก
เงินสองถึงสามร้อยหยวนเป็นเงินที่เธอต้องขายของเป็นเวลากว่าครึ่งเดือนกว่าจะได้มา
ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ลูกคู่นี้ ลูกของเธอคงจะมีค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดไปกว่าครึ่งนึงแล้ว
ยิ่งเธอคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไรในคืนที่ผ่านมา เธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น เธอไม่ได้นอนมาครึ่งคืนแล้ว
แล้วหล่อนก็มาที่นี่แต่เช้าเพื่อที่จะนั่งยองๆ อย่างที่คาดไว้ ใช่..เธอมาจริงๆ
หญิงคนนี้ช่างโง่จริงๆ หลังจากทำอย่างนั้นไปแล้ว เธอก็ยังกล้าดีที่จะเข้ามาเหยียบที่นี่อีก
เมื่อเห็นว่าคนผู้นี้ดูจะสร้างปัญหา จี้หยวนหยวนจึงจับมือของหลี่ซูและมองหญิงผู้นี้ด้วยสีหน้าที่ไร้เดียงสา
หลี่ซูลังเลเล็กน้อย “พี่สาวคะ…”
ผู้หญิงคนนั้นมองไปที่จี้หยวนหยวน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยการเย้ยหยัน “สาวน้อยคนนี้ มองเพียงครั้งเดียวก็บอกได้เลยว่าเธอเหมือนต้องคำสาป เธอมีปากที่แหลมและแก้มเหมือนลิง คุณต้องสอนเธอให้ดีดีนะ ไม่เช่นนั้นเมื่อเธอโตขึ้น เธออาจถูกพวกอันธพาลหลอกไปเพื่อเรือนร่างของเธอก็ได้น๊า…”
คำพูดของผู้หญิงคนนี้รุนแรงเกินไปจริงๆ ใบหน้าของ หลี่ซู่ บึ้งตึงขึ้นทันที
“พี่สาวคะ มันไม่สมควรเลยนะคะ สำหรับคุณที่จะพูดถึงเด็กแบบนั้น?”
ผู้หญิงคนนั้นถ่มน้ำลายลงบนพื้นด้วยท่าทางหยาบคายมาก “บ้าไปแล้ว ฉันแค่เตือนคุณด้วยความเมตตา นังเด็กคนนี้กำลังเรียนรู้ที่จะโกหกและโกงเงินตั้งแต่อายุยังน้อย มันจะเป็นคนดีไปได้ยังไงเมื่อโตขึ้นน่ะ ห่ะ”
หลี่ซู่จะทนผู้หญิงคนนี้ดูถูกจี้หยวนหยวนในลักษณะนี้ได้อย่างไร? เธอพูดสวนทันทีว่า “ก็คุณเก็บเงินของคนอื่นด้วยความโลภของคุณ ลูกสาวของฉันเพียงแต่บอกความจริง แล้วคุณจะมาดุด่าเด็กแบบนี้ได้ยังไง”
โดยไม่รอให้ผู้หญิงคนนั้นพูด… หลี่ซู่ กล่าวต่อ “การแสดงของคุณมันแย่มาก ตอนนี้คุณคงกำลังพูดถึงตัวเองอยู่ใช่ไหม? การที่หยิบเงินไปแล้วไม่คืน คุณคงจะทำมันมาตั้งแต่เด็กยันโตเลยใช่ไหม? เป็นไปได้ไหมที่คุณจะขี้โกงมาตั้งแต่อายุยังน้อย และครอบครัวของคุณก็คงยากจนมากเสียจนความอยู่รอดพวกคุณคงขึ้นอยู่กับเงินที่คนอื่นทำหล่นไว้ก็เท่านั้น”
นี่เป็นครั้งแรกที่จี้หยวนหยวนรู้ว่าปากของหลี่ซูนั้นคมมากจริงๆ
ใครก็รู้ว่าเมื่อพวกเขาอยู่ที่ตระกูลจี้, ซู ซิวฮวา แม่สามีของเธอ มักจะต่อว่าเธอทางอ้อมเสมอๆ แต่หลี่ซู่ ก็ไม่เคยปริปาก
ผู้หญิงคนนั้นโกรธมากจนใบหน้าของเธอแดงก่ำ เธอชี้ไปที่ หลี่ซู่ และไม่สามารถพูดอะไรได้อีก “เธอ…เธอมัน...”
มันยังไม่ถึงเวลาเก้าโมงเช้า ผู้คนมากมายยังคงพากันมาซื้อผักต่างๆ ที่ตลาด
เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังทะเลาะกัน หลายคนก็เริ่มเข้ามารุมล้อมรอบพวกเขาทีละคน
ผู้หญิงคนนั้นอ้วนและไขมันที่ท้องก็พองจนแทบจะดันออกมาจากเสื้อผ้าของเธอ ด้วยข้อได้เปรียบจากน้ำหนักของเธอ ผู้หญิงคนนั้นจึงเดินไปข้างหน้าและต้องการที่จะทำร้ายหลี่ซู่
จี้หยวนหยวนเห็นแล้วคิดในใจว่า นี่ต้องเกิดเรื่องไม่ดีแน่ ๆ
ด้วยรูปร่างของผู้หญิงคนนี้ แม้ว่าจะมี หลี่ซู่ ซักสองคน ก็คงไม่สามารถเอาชนะเธอได้
เมื่อเห็นว่า หลี่ซู่ กำลังจะเสียเปรียบ จี้หยวนหยวน จึงรีบวิ่งออกไปขวางหน้า “อย่าทำร้ายแม่ของหนูนะ”
เธอเห็นมันอย่างชัดเจน เมื่อเธอรีบเข้าไป ใบหน้าของเธอก็บังเอิญผ่านมือของผู้หญิงคนนั้น
ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นตบไปที่ใบหน้าของเธอเข้าแล้ว แต่จริงๆ มันก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากนักหรอก
จี้หยวนหยวนดูเหมือนจะเสียการทรงตัว เธอใช้โอกาสนี้คว้าไปที่เข็มขัดของผู้หญิงคนนั้นทันที
ดังนั้นเมื่อเธอล้มลง กางเกงของผู้หญิงคนนั้นก็เลื่อนหลุดลงมากองกับพื้นด้วย
ฝูงชนระเบิดเสียงหัวเราะอย่างรวดเร็ว ผู้หญิงคนนั้นตกตะลึงและพยายามจะดึงกางเกงของเธอ
“หยวนหยวน…” หลี่ซูเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและผลักผู้หญิงคนนั้นออกไป เธอดึงจี้หยวนหยวนขึ้นมาจากพื้น “ลูกเป็นยังไงบ้าง? เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
จี้หยวนหยวนรีบบีบน้ำตาออกมา เขามองไปที่ผู้หญิงคนนั้น “คุณป้า เงินที่คุณหยิบมาเมื่อวานนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นของคุณลุงคนนั้น ทำไมคุณถึงบอกว่ามันเป็นเงินของคุณล่ะ? ฉันบอกคุณลุงแล้ว ถ้าอยากจะตีก็ตีที่หนูได้เลย แต่อย่าตีแม่หนูนะ ฮือ ฮิ ฮือ …” เธอสะอื้น
หลังจากพูดออกไปอย่างนั้น เธอก็เริ่มร้องไห้เสียงดังด้วยความคับข้องใจ
ในขณะนี้ ผู้หญิงคนนั้นนอนอยู่บนพื้นโดยเปลือยก้น เธอตกตะลึงกับเหตุการณ์นี้อย่างมาก
ครู่ต่อมาใบหน้าของเธอก็แดงก่ำอย่างรวดเร็ว เธอรีบดึงกางเกงแล้วยืนขึ้นจากพื้น
“ผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรกับแม่ของเธองั้นหรอ? ทำไมถึงปกป้องเขาขนาดนี้? หรือว่าเขาเป็นคนรักเก่าของแม่เธอใช่ไหม” ผู้หญิงคนนั้นยังคงต่อว่าเธอต่อไป ขณะที่จัดกางเกงตัวเองไปด้วย “เธอมันคนชั้นต่ำ มีแม่ แต่แม่ไม่รู้จักสั่งสอน เธอมันเด็กสอนไม่รู้จักจำ”
หลังจากที่เธอพูดจบเธอก็คาดเข็มขัดไว้แล้วและกำลังจะพุ่งไปข้างหน้าเพื่อโจมตีใครซักคน
จี้หยวนหยวนกำหมัดของเธอแน่น
หลังจากใช้ชีวิตมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับคนที่มีปากสกปรกเช่นนี้
ถ้าเธอไม่สอนบทเรียนเขาซะบ้าง เขาก็คงคิดจะรังแกพวกเราได้ง่ายๆต่อไปสินะ?