ตอนที่แล้วบทที่ 30 ข้าจะเอาคืนให้เจ้าสองเท่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 32 รายชื่อผู้เข้าร่วมแข่งขันล่าสัตว์

บทที่ 31 ส่วนแบ่งกิจการเมืองหนานเฉิงฟาง


หลังจากหลัวเฉิงและคนอื่นๆ กลับไปนานแล้ว ทว่า ผู้คนในบ่อนพนันหยกเขียวยังคงสนทนากันอย่างดุเดือดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ทำเอาบรรยากาศต่างเต็มไปด้วยความครึกครื้น

สิ่งที่หลัวเฉิงกระทำในวันนี้นั้น เป็นเรื่องน่าทึ่งและคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

ผู้ใดจะคิดกันล่ะว่า หลัวเฉิงที่ถูกลือว่าเป็นคนไร้ค่าอันดับหนึ่งของเมืองฉีซาน จะเข้าสู่ช่วงปลายของขั้นหลอมกายาได้ในเวลาเพียงครึ่งเดือนเท่านั้น และเขายังสามารถรับหมัดของฉีถิงได้อีกต่างหาก!

มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่เรื่องนี้จะกลายเป็นหัวข้อสนทนาระหว่างผู้คนในเมืองฉีซานไปอีกเนิ่นนาน

ณ ถนนแห่งหนึ่งนอกบ่อนพนันหยกเขียว

“คุณชายหลัวเฉิง ท่านเป็นอย่างไรบ้าง บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” พ่อบ้านฉินถามด้วยความเป็นห่วง

แม้แต่เหล่ายามของตระกูลหลัว ที่ติดตามพ่อบ้านฉินออกมา ยังมองหลัวเฉิงแตกต่างไปจากเมื่อก่อนนัก

หลัวเฉิงลูบหลังมือแล้วส่ายศีรษะกล่าวว่า “ข้าไม่เป็นไร พ่อบ้านฉินไม่ต้องกังวล”

มือของเขารู้สึกเจ็บและชาเล็กน้อย หลังจากปะทะหมัดกับฉีถิงก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ฉีถิงไม่ได้เอาจริงกับเขาและนางยังไม่ได้ใช้วรยุทธเลยด้วยซ้ำ ขณะที่เขาใช้ทั้งวรยุทธและพลังยุทธ์ในการปล่อยหมัดครั้งนี้

“ดูท่าแล้ว ข้าต้องฝึกฝนให้หนักขึ้น! และรีบทะลวงเข้าสู่ขั้นหลอมกายาระดับเก้าให้เร็วที่สุด! ไม่เช่นนั้น หากนางเอาจริงขึ้นมาเกรงว่าข้าคงมิอาจชนะนางได้เป็นแน่” หลัวเฉิงพึมพำอยู่ในใจตน

จากนั้นเขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วหันกลับมามอบสัญญาหนี้ให้กับหลัวฉีที่อยู่ข้างๆ “นี่ถือเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับเจ้า จงจำเอาไว้ว่า มิใช่ทุกคนที่จะสามารถเป็นเพื่อนกับเจ้าได้”

หลัวฉีมองสัญญาหนี้ในมือ จากนั้นกัดฟันแน่นอย่างเจ็บช้ำพร้อมกับในดวงตาเป็นสีแดงเล็กน้อย

เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า หลัวเฉิงจะแข็งแกร่งมากถึงขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นหลัวเฉิงยังยืนหยัดเพื่อเขาโดยไม่คำนึงถึงความแค้นในอดีต

ครั้นได้นึกย้อนกลับไปในเวลาก่อนหน้า ที่เขายังคิดว่าตนนั้นแข็งแกร่งกว่าใคร ก็รับรู้ได้ว่าพฤติกรรมของเขามิแตกต่างอันใดจากตัวตลก!

ณ โถงหลักตระกูลหลัว

ผู้อาวุโสระดับสูงของตระกูลหลัว ขณะนี้กำลังสนทนากันอย่างดุเดือด และหารือเกี่ยวกับแนวทางการโต้ตอบ

เสียงความเห็นของพวกเขานั้น ขณะนี้แตกออกเป็นสองฝ่าย หนทางแรกคือไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น! หนทางที่สองคือเตรียมเงินเพื่อไถ่ตัวของหลัวฉี!

ซึ่งทั้งสองแนวทางนั้น เป็นแนวทางที่ค่อนข้างมีความสำเร็จต่ำมาก

ในตอนนี้ หลัวหมิงซานได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้ความแข็งแกร่งของตระกูลหลัว มิอาจเทียบได้กับตระกูลหลินและฉี

ตระกูลหลัวในตอนนี้ มิอาจหาเงินจำนวนสามแสนแปดหมื่นตำลึงมาได้ในช่วงเวลาสั้นๆ

“ท่านพ่อ ท่านต้องช่วยฉีเอ๋อร์ของข้านะ” หลินหยานกล่าวพลางสะอื้นร่ำไห้

นางสูญเสียความสง่างามและความเย่อหยิ่งไปหมดแล้ว ใบหน้าของนางอาบไปด้วยหยาดน้ำตา ขณะนี้นางมองหลัวหมิงซานอย่างอ้อนวอน ทั่วสรรพางค์กายของนางสั่นเทาเล็กน้อย

หลัวหมิงซานซึ่งเงียบไปนานหลังจากฟังการสนทนา ในที่สุดเขาก็ทอดถอนใจกล่าวว่า “ไปไถ่ตัวเขาออกมา! โดยแลกกับส่วนแบ่งกิจการเมืองหนานเฉิงฟางสามส่วน ในเมื่อตระกูลหลินและฉี ปรารถนาเมืองหนานเฉิงฟางของเรามานานแล้ว พวกเขาย่อมมิปฏิเสธอย่างแน่นอน”

“ส่วนแบ่งกิจการเมืองหนานเฉิงฟางสามส่วน! ท่านผู้นำตระกูล นี่จะเป็นการสั่นคลอนรากฐานของตระกูลหลัวเรา!” หนึ่งในผู้อาวุโสกล่าวขึ้น

เมื่อได้ยินสิ่งที่หลัวหมิงซานกล่าวออกมา บรรดาผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลหลัวก็ต่างไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้

เมืองหนานเฉิงฟางเป็นรายได้หลักของตระกูลหลัวถึงห้าส่วน ซึ่งมันถือเป็นรากฐานที่มั่นคงของตระกูลหลัวในเมืองฉีซาน หากมอบให้ผู้อื่น ตระกูลหลัวจะต้องล่มสลายอย่างแน่นอน!

“ข้าตัดสินใจแล้ว!” หลัวหมิงซานตะโกนสุดเสียง

จากนั้น เขากวาดสายตามองทุกคนแล้วกล่าวว่า “ตราบใดที่ยังมีคนของตระกูลหลัวเหลืออยู่ มันก็ยังมีความหวัง! ต่อให้ผู้ที่ตกอยู่ในอันตรายวันนี้จะเป็นพวกเจ้า ข้าก็จะทำเช่นเดียวกันโดยไม่ลังเล!”

หลังได้ฟังวาจาเช่นนั้นแล้ว ภายในโถงหลักก็เงียบสงัดลง ไม่มีผู้ใดกล้าโต้เถียงหรือคัดค้านแต่อย่างใด

“ไปรับตัวหลัวฉีกลับมาก่อน แล้วเราค่อยหารือเรื่องต่างๆ ที่เหลือในภายหลัง” หลัวหมิงซานกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ขณะที่พวกเขากำลังจะเตรียมตัวออกไปนั้น ยามตระกูลหลัวก็รีบวิ่งเข้ามายังโถงหลักของตระกูล

“ท่านผู้นำตระกูลหลัว คุณชายหลัวฉีกลับมาแล้วขอรับ!” ยามตระกูลหลัวกล่าวอย่างเร่งรีบ

“อะไรนะ! หลัวฉีกลับมาแล้วงั้นหรือ”

“มันเกิดอะไรขึ้น ไฉนเขาถึงถูกปล่อยตัวกลับมา”

ทุกคนในโถงหลักต่างมีสีน่าประหลาดใจ และสงสัยว่าเรื่องนี้เป็นไปได้อย่างไรกัน

ระหว่างนั้นเอง หลัวเฉิงและคนอื่นๆ ก็เดินเข้ามายังโถงหลักของตระกูล

“ฉีเอ๋อร์!” หลินหยานอุทานเสียงหลง

เมื่อเห็น หลัวฉีมีใบหน้าที่ซีดเซียว นางก็รีบปรี่เข้าไปหาแล้วกอดบุตรชายของนางทันที

“เจ้าเด็กน้อย เจ้าทำให้แม่ของเจ้ากังวลแทบตาย! ให้แม่ดูหน่อยว่าเจ้าบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่” หลินหยานกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือขณะดวงตามองไปทั่วร่างของบุตรชาย

“ท่านแม่ ข้าสบายดี...” หลัวฉีส่ายศีรษะ

เมื่อหลัวเฉิงเห็นการกระทำของทั้งสองคน ซึ่งนี่เป็นสายสัมพันธ์ระหว่างมารดาและบุตรชาย ดวงตาของเขาก็สั่นไหว พร้อมกับเม้มริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น” หลัวหมิงซานถามด้วยสีหน้าฉงนสงสัย

มิเพียงแต่หลัวหมิงซานเท่านั้น ผู้อื่นสงสัยไม่แพ้กัน

เพราะก่อนหน้า ในตอนที่พวกเขากำลังหาแนวทางแก้ไขปัญหาอยู่นั้น หลัวฉีก็กลับมา ซึ่งทำให้พวกเขาอดสงสัยไม่ได้ ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นระหว่างที่พวกเขากำลังหารือ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด