ตอนที่แล้วตอนที่ 42 ฝึกควบรวมแทนการนอนหลับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 44 เป้าหมายคือเซียนกวีแห่งต้าซาง

ตอนที่ 43 ตัวเอกชายคนใหม่


ตอนที่ 43 ตัวเอกชายคนใหม่

  

ทั้งสองเดินทางกันแบบสบายๆ ไม่ยุ่งยากนักโดยพาองครักษ์คือถูเซิ่งหนานไปด้วยเท่านั้น

เมืองหลวงมีความเจริญรุ่งเรืองตามธรรมชาติ โดยมีขุนนาง ชนชั้นสูงและพ่อค้าอยู่ตามท้องถนน

  

ในตอนต้นของการประดับโคม ถนนเส้นยาวเต็มไปด้วยสีสัน อาบไล้ด้วยความงดงามมีชีวิตชีวา ทำให้ผู้คนในเมืองหลวงแห่งนี้มีชีวิตเหมือนภาพวาด

  

ในตลาดของเมืองหลวงจะสามารถพบเห็นสินค้าพิเศษจากทั่วทุกแห่งในต้าซาง แม้แต่สินค้าพิเศษของเผ่ามังกร เผ่าหงส์และสินค้าจากต่างชาติ เช่น อีกาทองก็มีจำหน่ายเช่นกัน

  

ในโลกนี้ เมืองหลวงของต้าซางเป็นศูนย์กลางของโลกจริงๆ

  

ทั้งสองเดินผ่านตลาดที่มีเสียงดัง ถังซืออวิ๋นหันไปมองซูอันโดยอัตโนมัติ นางมองซูอันที่อยู่ข้างๆ พร้อมกับระลอกคลื่นในใจ

  

นางและคุณชายเหมือนเป็นคู่รักที่ออกมาเดินเที่ยวด้วยกันเลย

เมื่อเดินผ่านหัวมุมถนนก็มีเสียงดังเกิดขึ้นตรงหน้า

  

“ดี เป็นกวีที่ดี!”

  

“อีกบท!”

  

“คุณชายตู้ไม่ไหวแล้วกระมัง”

  

หลังจากสอบถามแล้วจึงรู้ว่าตรงหน้ากำลังมีการประชันกวีอยู่

  

เป็นบุตรชายโง่เขลาของตระกูลเฉินและคุณชายจวนรองเสนาบดีตู้ที่กำลังประชันกวี

  

ซูอันเริ่มสนใจบ้างเช่นกัน เมื่อถูเซิ่งหนานเปิดทาง ชาวบ้านคนอื่นๆ หลีกทางให้โดยไม่รู้ตัวและทั้งสองเดินตรงไปด้านหน้า

“เฉินเฟิง! ถ้าเจ้าประพันธ์กวีรักในฐานะพระภิกษุได้ ข้าจะถือว่าเจ้าเป็นผู้ชนะ!”

  

ใจกลางฝูงชน คุณชายตู้หนึ่งในสองตัวเอกของการประชันกวีกำลังกัดฟันกรอด

  

“เป็นพระภิกษุแล้วจะประพันธ์กวีรักได้อย่างไร?”

  

“คุณชายตู้กำลังทำให้คนอื่นลำบากใจหรือเปล่า?”

  

รอบด้านมีเสียงพูดคุยกันมากมาย พวกเขารู้สึกเขินอายกับหัวข้อนี้และทุกคนตำหนิคุณชายตู้

  

พุทธศาสนาเป็นที่นิยมในทะเลทรายซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของต้าซาง แม้ว่าพุทธศาสนาจะไม่เป็นที่นิยมในต้าซาง แต่พวกเขายังมีความเข้าใจเรื่องพระภิกษุอยู่บ้าง

  

พุทธศาสนาเน้นหลักคำสอนที่ว่าสัมผัสทั้งหกบริสุทธิ์และธาตุทั้งสี่นั้นว่างเปล่า

  

จำเป็นต้องตัดความปรารถนาในสุรา นารี พาชี กีฬาบัตรและไม่มัวเมาในการฝึกตนแบบสุดโต่ง การรับภรรยาถือเป็นการฝ่าฝืนกฎเกณฑ์อย่างยิ่ง

  

การให้พระภิกษุประพันธ์กวีรักเท่ากับให้ขันทีเข้าห้องเจ้าสาวไม่ใช่หรือ?

  

แต่คุณชายตู้กลับยึดมั่นที่จะละทิ้งประเด็นนี้และจ้องมองเฉินเฟิงด้วยความกดดัน

  

“จะยากแค่ไหนเชียว!” เฉินเฟิงได้ยินหัวข้อนี้แล้วยิ้มเย่อหยิ่ง

  

“เจ้าอย่าเพิ่งปากเก่ง!” คุณชายตู้ไม่เชื่อว่าจะมีคนประพันธ์กวีรักในฐานะพระภิกษุได้

  

เฉินเฟิงมองคุณชายตู้ด้วยความดูถูก ก็แค่คนไม่มีความรู้คนหนึ่ง

  

เขาก้าวไปข้างหน้าสองก้าวและเริ่มเอื้อนเอ่ย

  

“ครั้งหนึ่งข้ากังวลหากสักวัน ข้าฉับพลันตกไปในหลุมรัก วิถีแห่งศรัทธาคงแตกหัก ต้องหนีรักเร้นกายในป่าแทน” จากนั้นเขาก้าวไปข้างหน้าอีกสองก้าว คิดครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ

   “ต้องละทิ้งนางในดวงใจข้า หญิงใบหน้างดงามสุดหวงแหน จักมีทางใดไม่ถูกดูแคลน ในอ้อมแขนอยากศรัทธาพร้อมรักนาง”

เกิดความเงียบขึ้นโดยรอบบริเวณนั้น

  

เหมือนถูกกดปุ่มแช่แข็งและไม่มีใครพูดอะไรอยู่พักหนึ่ง

  

ไม่กี่อึดใจต่อจากนั้น

“ยอดมาก! ยอดเยี่ยมมาก!”

ท่ามกลางฝูงชน ผู้อาวุโสตัวสูงผอมแผ่นหลังตั้งตรงในอาภรณ์สีเขียวเป็นคนแรกที่เอ่ยชื่นชม “ศรัทธาต่อความเชื่อ ยึดมั่นในความรัก ดี ดีมาก!”

“ไม่สนใจแม้ธารน้ำฉินที่ไหลมาจากฟ้า แต่ยึดมั่นในการดำเนินตามศรัทธาและความรัก เจ้าหนุ่มคนนี้เป็นอัจฉริยะด้านบทกวีที่แท้จริง”

  

แม่น้ำฉินเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในต้าซาง มันไหลผ่านหลายมณฑลและไหลผ่านเมืองหลวงด้วย

  

กลุ่มคนจำได้ว่าอาวุโสคนนี้เป็นนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่จากสำนักบัณฑิตไป่ชวนและต้องประหลาดใจอีกครั้งเมื่อได้ยินคำชมของเขา

  

“ประพันธ์กวีได้เพียงสี่ก้าว! แค่สี่ก้าวเท่านั้น!” บางคนถึงขั้นประหลาดใจกับเวลาที่เฉินเฟิงใช้ในการประพันธ์กวี

  

ราชวงศ์ต้าซางอันยิ่งใหญ่ดำรงอยู่มานานกว่า 100,000 ปีและมีกวีมากมายนับไม่ถ้วน แต่ถึงกระนั้นบทกวีที่เฉินเฟิงประพันธ์น่าทึ่งยิ่งนัก

  

ไม่ต้องพูดถึงว่าเขามีอายุแค่ยี่สิบเท่านั้น!

  

อัจฉริยะ อัจฉริยะตัวจริง!

  

ไอ้หมอนี่ดี เป็นตัวเลือกที่ดี!

  

ดวงตาของซูอันวาววับเมื่อได้เห็นภาพนี้ เกรงว่าจะได้เก็บเกี่ยวกุยช่ายชุดใหม่แล้ว!

  

โลกนี้เต็มไปด้วยตัวเอกจริงๆ

  

เฉินเฟิงไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตกเป็นเป้าหมาย เพราะมัวแต่ภูมิใจและเพลิดเพลินกับคำสรรเสริญจากคนรอบข้าง เขามองคุณชายตู้ด้วยความดูแคลน

  

ในสมองของเขาสะสมบทกวีห้าพันปีไว้ทั้งหมด แล้วคนท้องถิ่นจากอีกโลกนี้จะรู้บทกวีที่เทียบกับกวีของเขาได้อย่างไร

  

จากหางตาของเขาจึงมองเห็นถังซืออวิ๋นยืนอยู่ข้างหน้าฝูงชน ทันใดนั้นดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้น

  

อาภรณ์สีเหลืองทำให้นางดูสดใสมาก นางเป็นผู้หญิงที่สวยมากจริงๆ สวยกว่านักแสดงหญิงในชาติก่อนมาก และการถูกจ้องมองโดยหญิงงามเช่นนี้ยิ่งทำให้เขาภูมิใจในตัวเองมากขึ้น

  

“ตู้เปิ่นตู้ เจ้าแพ้แล้ว รีบคุกเข่าลงขอโทษแล้วเห่าเหมือนสุนัขสามครั้งสิ”

  

“เฉินเฟิง อย่ารังแกกันมากเกินไป!” คุณชายตู้หน้าแดงแล้วหันหลังเดินหนี

  

ซูอันหยุดประเมินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อ เนื่องจากถูกตัวเอกชายตบหน้ากลางที่สาธารณะเช่นนี้ คุณชายตู้จึงไม่น่าจะมีความสำคัญต่อเขา

  

สิ่งสำคัญในวันนี้คือการพาถังซืออวิ๋นมาเดินเล่น ส่วนข้อมูลของตัวเอกชายจะถูกส่งไปยังคนของหน่วยบุปผามรณะเพื่อตรวจสอบก่อน

  

เพราะเขาไม่ต่อสู้หากยังไม่ได้เตรียมตัว

ถ้าเจ้าโง่ตระกูลเฉินเป็นอีกหนึ่งตัวเอกค่อยลงมือ

  

“คุณชาย ชายที่ชื่อเฉินเฟิงมีอะไรผิดปกติหรือเจ้าคะ?” ถังซืออวิ๋นยังรู้สึกว่าบทกวีมีความไพเราะ แต่นางกังวลกับทัศนคติของคุณชายมากกว่า

  

“ไม่ต้องห่วง ตอนนี้เป็นเวลาของพวกเรา ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น” ซูอันจับมือของถังซืออวิ๋นแล้วประสานนิ้วไว้ด้วยกัน

  

หัวใจดวงน้อยของถังซืออวิ๋นเต้นรัว นางไม่สนใจเรื่องอื่นแล้ว

  

นางเดินตามซูอันไปข้างหน้าทีละก้าว

  

หลังจากบังคับให้ตู้เปิ่นตู้ขอโทษและแสร้งทำเป็นว่าตนเย็นชา เฉินเฟิงก็ส่ายหัวด้วยท่าทางหล่อเหลาและมองไปทางฝูงชนอีกครั้ง แต่หญิงสาวที่ดูเหมือนนางฟ้าไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกแล้ว

  

เขาจึงชะเง้อมองออกไปนอกฝูงชน เพียงเพื่อจะได้เห็นว่าหญิงคนนั้นจากไปแล้ว นางยังมีท่าทางเขินอายเพราะถูกชายคนหนึ่งกุมมือไว้ ประเด็นสำคัญที่สุดคือผู้ชายคนนั้นดูหล่อกว่าเขา

  

ใบหน้าของเฉินเฟิงมืดลงทันที อารมณ์ดีๆ ที่เสแสร้งนั้นหายไปด้วย

  

นางดูเป็นผู้หญิงไร้วิสัยทัศน์แม้ว่าจะสวยมาก เพราะแทนที่นางจะเข้ามาเอาใจเขาซึ่งเป็นนักกวีสี่ก้าว นางกลับเดินตามคนท้องถิ่นที่มีหน้าตาหล่อเหลา

  

ไม่มีวิสัยทัศน์!

  ……

“ไม่รู้ว่าเจ้าโง่ตระกูลเฉินคิดอะไรอยู่ เขาพ่นแต่คำพูดหยิ่งผยองออกมาจนสุดท้ายลงเอยด้วยกันแข่งขันกับตู้เปิ่นตู้คุณชายตระกูลตู้เพื่อแย่งถุงหอมของหญิงนางโลม”

  

เมื่อกลับจวนโหวและอ่านข้อมูลที่หน่วยบุปผามรณะรวบรวมไว้ในมือ ซูอันจึงถอนหายใจว่าได้เจอคนที่สมควรเป็นตัวเอกแล้ว

  

เฉินเฟิงเป็นบุตรชายคนเดียวของตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากเขาได้รับความกระทบกระเทือนตอนอยู่ในครรภ์ ทำให้จิตวิญญาณของเขาไม่สมบูรณ์ หลังคลอด เขากลายเป็นคนโง่และไม่มีหมอชื่อดังคนใดรักษาได้ เขาจึงกลายเป็นคนโง่ที่โด่งดังในเมืองหลวง จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันก่อนเขากลับมาเป็นปกติและพูดได้ชัดถ้อยชัดคำ

  

ตัวเอกที่มีภูมิหลังตามแบบพล็อตนิยายทั่วไปคนนี้จัดการได้ง่ายมาก

  

ทว่าตัวเอกคนนี้ไม่เหมือนนางกำนัลและขันทีในวังคนก่อนๆ ที่ไม่มีภูมิหลัง เพราะบิดาของเขาคือเฉินลี่แม่ทัพแห่งไหวฮว่า ซึ่งมีเกียรติในหมู่ทหารและยากที่จะสังหารเขาโดยตรง

  

เมื่อพูดถึงเฉินลี่แล้วซูอันยังจดจำได้ว่าคนผู้นี้เหมือนจะเคยเป็นผู้สนับสนุนองค์ชายใหญ่มาก่อน บางทีเขาอาจจะเริ่มจากประเด็นนี้ได้

  

ซูอันนั่งอยู่ในจวนโหวพลางเพลิดเพลินกับการปรนนิบัติของเยี่ยหลีเอ๋อร์ ขณะเดียวกันเขาก็คิดหาวิธีปั้นตัวเอกคนใหม่นี้ขึ้นมา

  ……

  

ความจริงที่ว่าเฉินเฟิงประพันธ์กวีได้ในสี่ก้าว ทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วเมืองหลวง นอกจากนี้ ยังได้รับคำชมจากนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่จากสำนักบัณฑิตไป่ชวนว่าเฉินเฟิงมีพรสวรรค์ด้านกวีที่ปรากฏเพียงครั้งเดียวในรอบห้าร้อยปี ซึ่งทำให้เรื่องนี้ยิ่งน่าตกตะลึง

  

มีบางคนบอกว่าเฉินเฟิงเคยโง่เขลามาก่อน แต่บัดนี้สวรรค์ประทานวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ให้เขาแทน

  

แต่มีบางคนบอกว่าเมื่อก่อนเฉินเฟิงแค่แกล้งโง่ ความจริงแล้วเขาเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้

บัดนี้จึงมีแต่คำพูดเกี่ยวกับเฉินเฟิงทั่วเมืองหลวง