บทที่ 81 ข่าวลือปลาวิญญาณ นิกายเหิงเยว่สร้างความวุ่นวาย
การขายปลาวิญญาณในตลาดชิงเหอเป็นเรื่องที่พบเห็นได้น้อยมาก ถึงแม้จะมีผู้ฝึกตนสัญจรบางคนโชคดีจับปลาวิญญาณมาขายเพื่อหารายได้เสริม แต่ก็ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก
ตอนนี้ที่นิกายชิงซานมีปลาวิญญาณมาขาย แถมยังเป็นปลาวิญญาณหางเขียวที่หายาก จึงดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อย
เมื่อเริ่มขายปลากลุ่มนี้ในเช้าวันที่สอง ก็มีผู้ฝึกตนสัญจรจำนวนมากแห่กันมาสอบถามราคา
ผู้ฝึกตนสัญจรในตลาดถึงจะอยู่ในสภาพดีกว่าเหล่าผู้ฝึกตนสัญจรที่ยากจนข้นแค้นภายนอก พอมีหินวิญญาณติดตัวบ้างให้ซื้อหาผลึกและอาวุธวิญญาณ ทำให้ชีวิตไม่ต้องลำบากมาก
แต่ก็คงไม่สะดวกสบายเท่าศิษย์ตระกูลหรือลูกศิษย์นิกาย ยังต้องใช้ชีวิตและการฝึกฝนอย่างประหยัดอยู่ดี
พอได้ยินว่าปลาวิญญาณหางเขียวราคา 4 หินวิญญาณต่อตัว ก็ถอนหายใจส่ายหน้า คิดว่าความอยากกินปลานี้ไม่จำเป็นต้องตอบสนองก็ได้ จึงจำใจเดินจากไปอย่างอาลัยอาวรณ์
เป็นเช่นนี้วนเวียนไปมา ในช่วงเช้ามีผู้ฝึกตนสัญจรมาถามราคาราวหลายสิบคน แต่สนใจซื้อจริงๆมีแค่ 2-3 คนเท่านั้น
ขายปลาวิญญาณหางเขียวไปได้ 3 ตัว พอตกบ่ายก็มีผู้ฝึกตนสัญจรมาสอบถามว่าจะซื้อปลาที่เหลืออีก 47 ตัวในราคา 141 หินวิญญาณไหม
สูเยี่ยเฉิงแน่นอนว่าปฏิเสธข้อเสนอนี้
ตอนแรกขายปลาวิญญาณหางเขียว 4 หินวิญญาณต่อตัวถือว่าเป็นราคาพิเศษแล้ว
ตอนนี้จะซื้อยกกล่องไป 47 ตัวในราคา 141 หินวิญญาณ หากคิดบัญชีแล้ว ตกแค่ 3 หินวิญญาณต่อตัว เหมือนถูกลดราคาไปเลย 47 หินวิญญาณ
แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด
ชิงชานจูมีรายได้ปีละไม่ถึง 50 หินวิญญาณ สูเยี่ยเฉิงจะยอมเสียหินวิญญาณก้อนนี้ไปได้อย่างไร
ในเมื่อไม่เต็มใจ ธุรกิจนี้ก็ไม่สำเร็จ
เดิมทีคิดว่าเมื่อผู้ฝึกตนสัญจรผู้นี้จากไป ก็คงไม่กลับมาเดินทางเดิมอีก ร้านก็ยังพอรอลูกค้าคนอื่นมาซื้อขายปลาตัวละ 4 หินวิญญาณได้ ขายได้เท่าไหร่ก็ยังดี
แต่ไม่คาดคิดเลยว่าตั้งแต่ปฏิเสธข้อเสนอของผู้ฝึกตนสัญจรผู้นั้นไปตลอดทั้งบ่าย ผู้ฝึกตนสัญจรที่มาสอบถามราคานั้นมีไม่ถึง 3 คน
จากที่สูเยี่ยเฉิงสังเกต ยังพบด้วยว่ามีผู้ฝึกตนสัญจรบางคนเดิมทีจะเข้ามาสอบถามราคาเมื่อเห็นปลาวิญญาณหางเขียว แต่พอเห็นชื่อร้าน ชิงชานจู ก็หมุนตัวเดินจากไปทันที
ถ้าเป็นแค่คนสองคนก็ไม่แปลก แต่ช่วงบ่ายๆนี้สูเยี่ยเฉิงพบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยครั้ง ซ้ำร้ายมีผู้ฝึกตนสัญจรกระทำแบบนี้ถึงสิบกว่าคนแล้ว
ไม่น่าเป็นไปได้เลยที่ชื่อเสียงชิงชานจูจะเหม็นหนักถึงขนาดนี้
ถึงสินค้าจะไม่มากและไม่สูงระดับอย่างที่อื่น แต่ก็ขายของจริงไม่หลอกลวง ไม่เคยเอาเปรียบลูกค้า
ดำเนินกิจการด้วยความซื่อสัตย์มาตลอด ชื่อเสียงชิงชานจูยังพอมีอยู่บ้าง
แล้วนี่เป็นอะไรกัน
เหตุการณ์ผิดปกติต้องมีสิ่งผิดปกติแฝงอยู่แน่
ด้วยความสงสัยนี้ จนกระทั่งสังเกตเห็นผู้ฝึกตนสัญจรหนุ่มกำลังจะเข้ามาสอบถามราคา แต่พอรู้ว่าร้านนี้คือชิงชานจูก็จะจากไป สูเยี่ยเฉิงอดไม่ไหวต้องเข้าไปถาม "เพื่อนผู้ฝึกตน ทำไมพอเห็นว่าเป็นชิงชานจูก็จากไป" พร้อมคำถามทำนองนี้
ผู้ฝึกตนสัญจรหนุ่มตอนแรกลังเลไม่อยากตอบ แต่พอสูเยี่ยเฉิงแอบยื่นหินวิญญาณให้เขาหนึ่งก้อน เขาก็ให้คำตอบมาทันที
ที่แท้ก็เป็นฝีมือของนิกายเหิงเยว่นั่นเอง
ตั้งแต่เช้าที่เห็นว่าชิงซานเริ่มขายปลาวิญญาณหางเขียว แถมยังดูเหมือนขายดีอยู่ ลูกศิษย์ทั้งสองจากร้านนิกายเหิงเยว่ก็เกิดแผนเล็กๆขึ้น พวกเขาจงใจไปบอกกับผู้คนว่าปลาวิญญาณหางเขียวของชิงชานจูมีปัญหา กินแล้วจะป่วย ทำให้ชี่ตันและกระทบการฝึกตน อะไรทำนองนั้น
สรุปคือซื้อปลาวิญญาณหางเขียวจากชิงชานจูไปกินเมื่อไหร่ต้องมีปัญหาแน่ๆ ไม่ซื้อดีกว่า
เอาไว้หยุดความหิวตาของเจ้าซะก่อน แล้วก็กระทบการทำมาหากินด้วยเลย
เดิมทีเหล่าผู้ฝึกตนพวกนี้ก็ชอบประหยัดอยู่แล้ว ไม่อยากเสียหินวิญญาณสี่ก้อนไปกับการซื้อปลาวิญญาณหางเขียวมาลิ้มลองเท่าใดนัก
ตอนนี้ยิ่งได้ยินข่าวลือเช่นนี้ เขาก็ไม่แน่ใจว่าจริงหรือเท็จ จึงคิดว่าไม่เสี่ยงดีกว่า เก็บสี่หินวิญญาณเอาไว้ดีแล้วก็เลยเดินมาดูอย่างสนใจ แต่ไม่ได้ซื้อ
เมื่อรู้ถึงที่มาของเรื่อง ส่งผู้ฝึกตนสัญจรหนุ่มไปแล้ว สีหน้าสูเยี่ยเฉิงก็ดำคล้ำลงทันที
เขาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เฉียนอิงไฉ่ฟัง พอเฉียนอิงไฉ่ได้ยินแล้ว เขาก็ถลกแขนเสื้อขึ้นทันทีอยากไปเคลียร์กับเจ้าเด็กบ้านั่นสักสองคน
ถ้าไม่ติดว่ามีกฎของตลาดเขาก็อยากชักกระบี่ออกมาตัดเด็กสองตัวนั่นเป็นสองซีกให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
ปล่อยข่าวลือเหลวไหลป่วยการ น่าหมั่นไส้ชะมัด
แต่พอสงบสติอารมณ์ลงได้ พวกเขาสองคนก็ปรึกษากันว่าควรจัดการเรื่องนี้อย่างเยือกเย็น ยุติข่าวลือเสียก่อน
มาถึงวันที่สอง สองคนพึ่งจะเริ่มลงมือ ก็เห็นลูกศิษย์เหิงเยว่สองคนนั้นทำท่าลับๆล่อๆมองกล่องปลาวิญญาณหางเขียวด้วยสีหน้าภูมิใจยิ่ง แน่นอนว่าต้องดีใจที่เห็นปลาวิญญาณถูกขายไปได้เพียงไม่กี่ตัว
แต่หลังจากนั้น เหตุการณ์กลับพลิกผันเกินคาด
วันนี้ที่ยังขายปลาวิญญาณต่อไป ยังไม่ทันจะถึงหนึ่งชั่วยาม ก็มีชายหนุ่มผู้ฝึกตนมาแนะนำตัวว่ามาจากบริษัทใหญ่ต่าทง พอเขาเห็นปลาวิญญาณหางเขียวแล้วก็มองป้ายชื่อร้านชิงชานจู เมื่อทราบว่านี่เป็นร้านของนิกายชิงซาน เขาก็เกิดความสนใจในปลาวิญญาณหางเขียวขึ้นมาอย่างมาก
เมื่อถามถึงราคาปลาวิญญาณ ชายหนุ่มผู้นี้ก็แสดงความจำนงว่าจะขอซื้อปลาทั้งหมด
"รวมเป็นปลาวิญญาณหางเขียว 47 ตัว ตัวละ 4 หินวิญญาณ นี่คือ 188 หินวิญญาณ"
"ปลาเหล่านี้ หอการค้าต้าทงของข้าจะขอรับไปเลย"
จางซื่อหงยิ้มน้อยๆ ไม่ต่อราคา พูดตกลงอย่างฉับไว
สูเยี่ยเฉิงกับเฉียนอิงไฉ่ต่างพากันอึ้ง
ไม่คิดว่าจะได้เจอคนที่ฉับไวถึงเพียงนี้
ทั้งสองยังไม่ทันจะได้แนะนำคุณสมบัติของปลาวิญญาณหางเขียวเลย แถมยังไม่ได้อธิบายเรื่องข่าวลือช่วงนี้อีก
"เพื่อนผู้ฝึกตน เรื่องข่าวลือที่ว่าปลาวิญญาณของชิงชานจูมีปัญหานั้นไม่เป็นความจริงเลย..."
สูเยี่ยเฉิงพึ่งจะเอ่ยปาก จางซื่อหงก็โบกมือห้าม
"ข่าวลือพวกนั้นข้ารู้ แต่คนฉลาดย่อมรู้ว่าข่าวลือก็คือข่าวลือ"
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อข่าวลือพวกนั้น
"ข้าเชื่อว่าด้วยชื่อเสียงของนิกายชิงซาน คงไม่ถึงกับทำเรื่องโง่ๆด้วยการเสียชื่อเสียงร้านค้าเพื่อหินวิญญาณไม่กี่ก้อนหรอก"
"อีกอย่าง ปลาวิญญาณหางเขียวกลุ่มนี้ดูแข็งแรงดี ไม่มีอะไรแปลกๆ พอเอากลับไปถึงบริษัทแล้ว พวกเราก็มีผู้ชำนาญการที่จะตรวจสอบวัตถุดิบอาหารอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเจ้าขายให้ข้าไปเถอะ"
พูดมาถึงขั้นนี้แล้ว สูเยี่ยเฉิงจะพูดอะไรได้อีก แน่นอนว่าต้องตกลงการซื้อขายนี้
จางซื่อหงเสนอราคามาอย่างจริงใจมาก ชิงชานจูชอบผู้ซื้อแบบนี้
"เพื่อนผู้ฝึกตนตรงไปตรงมาจริงๆ"
"เอาล่ะ การซื้อขายครั้งนี้ ชิงชานจูจะขายให้ท่าน"
"ดีมาก นี่ 188 หินวิญญาณ นับให้ครบนะ"
ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ทั้งสองฝ่ายก็ตกลงซื้อขายกันเสร็จสิ้น
สูเยี่ยเฉิงยังไม่ลืมเตือนเรื่องการเก็บรักษาปลาวิญญาณหางเขียว เพื่อให้หอการค้าต้าทงรับประทานได้อย่างสะดวก
ก่อนจะจากไป จางซื่อหงยังหันมาพูดอีกประโยคหนึ่ง "ทั้งสองท่าน หากวันหลังได้เจอกับซ่งหมิงฮุ่ย จางเนี่ยนชวน ฉู่ฉิน และหลินหาน กรุณาฝากสวัสดีให้ด้วย ข้าน้อยจางซื่อหง จากหอการค้าต้าทง"
"บุญคุณในตอนที่พวกเราอยู่ทะเลทรายเอี้ยนหวง จางคนนี้ขอจารึกไว้ในใจ ไม่เคยลืม"
ฝั่งชิงชานจู พอเห็นปลาวิญญาณหางเขียวถูกขนไปขายจนหมด ได้หินวิญญาณครบไม่ขาดสักก้อน สูเยี่ยเฉิงสองคนก็ดีใจจนออกนอกหน้า ส่วนคำพูดของจางซื่อหงก่อนจากไปนั้น พวกเขาจดจำเอาไว้ในใจ
ดูเหมือนว่าซ่งซือเจ๋อทั้งสี่คนจะมีสัมพันธ์อันดีกับผู้ฝึกตนที่ชื่อจางซื่อหง แถมยังสนิทกันมากด้วย
อีกด้านหนึ่ง พอเห็นปลาวิญญาณหางเขียวขายหมดเกลี้ยงในพริบตา ลูกศิษย์นิกายเหิงเยว่ทั้งสองก็ตาค้าง หน้าตาเหมือนกินขี้ยังจะน่าดูกว่า