ตอนที่แล้วบทที่ 30 ปีศาจลาวา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 32 ความพ่ายแพ้

บทที่ 31 การพบกัน


ทันใดนั้นเองสายตาของฟิลินเหลือบไปเห็นปีศาจที่กำลังไถลตัวแนบพื้นอยู่ไกลออกไป สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันใด "ไม่ดีแล้ว นั่นคือทูรัส เดอะ มอลเทนไฟร์ ปีศาจชั้นสูง นายท่านโปรดระวังตัวด้วย"

"ท่านฟิลินรู้จักปีศาจตนนี้หรือ" อายส์เคเอ่ยถาม

"ในโลกนี้มีใครบ้างที่ข้าจะไม่รู้จัก อ้อ ก็จริง ข้าไม่รู้จักสองพี่น้องตระกูลลอเฟน พวกมนุษย์เติบโตไวเกินไป ทั้งสองอายุยังไม่ถึงยี่สิบ คนหนึ่งเป็นนักดาบขั้นล่าง อีกคนเป็นนักดาบชั้นสูง เป็นอัจฉริยะจริงๆ" ฟิลินอุทานอย่างซาบซึ้ง

แอนนา แห่งตระกูลลอเฟน กลับมาพร้อมกับลิซ่าในครั้งนี้ เขาเคยพบนางแล้ว แต่ยังไม่เคยพบพี่ชายของนางอย่าง ลูเธอร์ ลอเฟน ซึ่งเป็นหนึ่งในนักดาบชั้นต้นไม่กี่คนบนโลกในช่วงหลังๆมา นี้

"ปีศาจตนนี้แข็งแกร่งมากเหรอ แม้แต่นายท่านก็สู้ไม่ได้เหรอ" อายส์เคอุทานด้วยความประหลาดใจ ถ้าเป็นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เขาคงไม่สงสัยเช่นนี้ แต่หลังจากผ่านการต่อสู้อย่างดุเดือดของอังเกอร์มานานถึงสี่ชั่วโมง ตอนนี้เขารู้สึกเทิดทูนอังเกอร์แบบสุดๆ ไปแล้ว

ฟิลินส่ายหน้า "ไม่ใช่อย่างนั้น หากนายท่านอยู่ในร่างที่แท้จริง ย่อมไม่ต้องกังวล แต่ตอนนี้นายท่านคือผู้พิทักษ์ นายรู้ไหมว่าผู้พิ..."

ฟิลินพูดได้ครึ่งทาง ก็รู้ตัวทันทีว่าเผลอหลุดปากออกมา เขารีบยกมือปิดปาก ด้วยสีหน้าตกใจ

ทั้งสองมองหน้ากันครู่หนึ่ง อายส์เคเอ่ยอย่างหยั่งเชิงว่า "เอ่อ แล้วที่ว่าอะไรนั่น หมายความว่าอย่างไรหรือขอรับ"

เมื่อพูดหลุดปากออกไปแล้ว ฟิลินก็ได้แต่แก้ตัวว่า "คำที่ว่าอะไรนั่น ก็หมายถึงการเฝ้ายาม การสังเกตการณ์น่ะ องค์ราชันสามารถย้ายวิญญาณไปอยู่ในร่างใดก็ได้ แต่พลังส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับร่างที่ท่านย้ายเข้าไป อย่างตอนนี้องค์ราชันย้ายมาอยู่ในร่างโครงกระดูก พลังของท่านก็จะมีแค่ระดับของโครงกระดูกเท่านั้น การเผชิญหน้ากับปีศาจระดับสูงคงยากลำบากมาก"

อายส์เคขยับมือด้วยความกระตือรือร้น "งั้นเราไปช่วยท่านกันเถอะ จัดการปีศาจที่บังอาจเผาอาหารของพวกเราซะ"

ฟิลินยิ้มแหยๆ พลางเกาๆ มือ "ข้า...ข้าก็สู้มันไม่ได้หรอก ต้องรอลูกๆ ของข้ามาก่อน"

หลายคนมักเข้าใจว่า ผู้ปกครองฟิลินเป็นคนที่เก่งที่สุดในเมืองใต้ดิน ทว่าฟิลินรู้ตัวดีอยู่แล้ว ตอนที่ยังเป็นมนุษย์ เขาไม่ใช่คนที่มีพรสวรรค์อะไร การเรียนเวทมนตร์ก็ยังติดขัดอยู่เสมอ

พลังของเขาในวันนี้ล้วนมาจากการสั่งสมเป็นพันๆ ปี หากพูดถึงระดับเวทมนตร์แล้ว เขาสู้ลิซ่าไม่ได้เลย

ถึงกระนั้น ก็ไม่เคยมีใครกล้าเข้าโจมตีเมืองใต้ดิน ไม่ว่าจะหุบเขาปีศาจหรือเมืองน้ำแข็งต่างไม่กล้า แม้ว่าประชากรของเมืองน้ำแข็งจะมากกว่าเมืองใต้ดินอยู่มาก เพราะฟิลินสามารถเรียกโครงกระดูกทหารมาได้หลายพันตัวตลอดเวลา หากจำเป็นอาจเรียกได้ถึงหมื่นตัว ไม่มีกองกำลังใดจะมาเอาชนะโครงกระดูกทหารนับหมื่นๆตัวในเมืองใต้ดินได้

แต่ตอนนี้พวกเขาไล่ตามมาเร็วเกินไป โครงกระดูกทหารของฟิลินตามมาไม่ทัน เขาได้แต่คอยช่วยเหลือจากที่ไกลๆ ไม่กล้าเข้าใกล้เด็ดขาด ในฐานะที่เป็นนักเวทย์ หากถูกปีศาจลาวาเข้ามาประชิดตัวก็ถือว่าตายแน่

"หา ท่านก็สู้มันไม่ได้เหรอ งั้น...พวกเราคงได้แต่ให้กำลังใจนายท่านแล้วล่ะ" อายส์เคเปลี่ยนใจในทันที

อังเกอร์ที่ไล่ตามปีศาจมาอย่างโมโหก็เปลี่ยนใจเช่นกัน แต่เดิมเขาตั้งใจจะไล่ตามพวกที่เผาไร่นา แล้วฟันพวกมันราวกับวัชพืช แต่พอไล่ทันแล้วมองดู เอ๊ะ เหมือน เหมือนจะสู้ไม่ได้...

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นลาวาบนตัวปีศาจ อังเกอร์ก็มีไอเดียใหม่ขึ้นมาทันที

ทูรัสสังเกตเห็นการเข้ามาใกล้ของอังเกอร์และพวก มันหันกลับมาและลอยตัวอยู่ มองสำรวจอังเกอร์ด้วยความตกใจเล็กน้อย เพราะไม่เคยเห็นโครงกระดูกที่มีเปลวไฟลุกอยู่บนกะโหลก จากนั้นสายตาก็เลื่อนไปยังโครงกระดูกเทวทูตและมันก็ต้องตกใจอีกครั้ง นี่มันเทวทูตนักรบ!

นานแค่ไหนแล้วที่ไม่เคยมีเทวทูตนักรบปรากฏตัวบนโลกนี้ ศาสนจักรแห่งแสงสว่างจะบุกโลกนี้อีกแล้วหรือ ทำไมถึงมาอยู่รวมกับโครงกระดูกได้

จากนั้น สายตาของมันก็เลื่อนมาหยุดที่ซอมบี้เด็ก ซอมบี้? ช่างมันเถอะ สุดท้ายก็มองไปยังฟิลินที่อยู่ไกลออกไป

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ฟิลิน ผู้ปกครองเมือง เจ้ามาเพื่อมอบอำนาจให้ข้าหรือ" ทูรัสหัวเราะเสียงดัง

ฟิลินยิ้มแหยๆ ไม่ตอบอะไร เพราะที่นี่ไม่ได้อยู่ในอำนาจของเขา

สีหน้าเจื่อนๆ แบบนั้นเมื่อเข้าสายตาทูรัส ทำให้มันขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่แล้วทันใดนั้น บนตัวโครงกระดูกที่มีไฟลุกอยู่บนหัวก็เกิดคลื่นพลังเวทย์อ่อนๆ ขึ้นมา ก่อนที่มันจะทันตอบสนอง หยดน้ำก็สาดใส่ลงมาบนตัวมัน

ลาวาร้อนแรงที่ไหลอยู่บนร่างพลันกรุ่นควันขาวพวยพุ่ง

ทูรัสตัวแข็งทื่อไปหมด นี่มันอะไรกัน หยดน้ำ? ไม่ใช่แม้แต่ลูกน้ำ แต่กลับเอาหยดน้ำมาสาดใส่มัน นี่มันการดูถูกชัดๆ!

โดยที่ทูรัสยังไม่ทันเข้าใจ หยดน้ำอีกระลอกก็สาดใส่ร่างของมันอีก ก่อให้เกิดกลุ่มควันขาวพวยพุ่งขึ้นอีกครั้ง

"อ๊าา! ไปตายซะ!" ทูรัสคว้ากองเพลิงขึ้นมากำหนึ่ง แล้วขว้างใส่ไปอย่างแรง

ถึงจะเป็นเวทย์ลูกไฟขั้นต่ำสุด แต่ด้วยพละกำลังขณะปาของทูรัส ทำให้ลูกไฟนี้มีอานุภาพถึงระดับ 3 เลยทีเดียว สมกับเป็นปีศาจลาวาแห่งไฟจริงๆ

อังเกอร์มองลูกไฟที่พุ่งเข้ามา แล้วหดหัวลงเล็กน้อย แต่ไม่ได้หลบ

ลูกไฟชนเข้ากับตัวเขา ระเบิดเป็นกองเพลิงโชติช่วง กลืนกินร่างของเขาไปทั้งตัว

ซอมบี้น้อยตกใจจนร้อง "อ๊ายยย!" แล้วรีบพุ่งเข้าไปหวังจะช่วยอังเกอร์ แต่ยังไม่ทันได้วิ่งถึงสองก้าว ก็ได้ยินคลื่นจิตวิญญาณของอังเกอร์ดังมาจากในกองไฟ "โอ้ย!"

พร้อมกับเสียงคำรามนั้น อังเกอร์ก็พุ่งออกมาอย่างไม่มีบาดแผลใดๆ พลังเวทย์สั่นไหวอยู่บนร่าง พร้อมหยดน้ำอีกระลอกก็สาดใส่ร่างของทูรัส

โครงกระดูกมีภูมิต้านทานเวทย์ธรรมชาติโดยกำเนิด แต่ศซอมบี้ไม่มี ถึงซอมบี้น้อยจะผิวหนังเหนียวเนื้อแน่น แต่ก็กลัวไฟและน้ำอยู่ดี ถ้าพุ่งเข้าไปในเพลิงก็ไม่เพียงช่วยอังเกอร์ไม่ได้ แถมตัวเองอาจโดนเผาไหม้เสียเอง

เว้นแต่จะเป็นซอมบี้ตัวนั้นจะอยู่ในขั้นทองแดงหรือเหล็ก ความสามารถในการต้านไฟของซอมบี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

"หึๆ ข้าคงลืมไปว่าโครงกระดูกภูมิคุ้มกันไฟ งั้นลองเจอลาวาระเบิดเถอะ!" ทูรัสยกมือขึ้น ชะงักไว้ตรงหน้าครู่หนึ่ง ลูกไฟลาวาขนาดเท่าหัวคนก็ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

การปล่อยลูกไฟลาวาชัดเจนว่ายากกว่าลูกไฟระดับ 3 มาก แต่ในขณะเดียวกัน ก็เกิดระลอกของหยดน้ำสาดใส่ร่างของมันอีกครั้ง กลุ่มควันขาวพวยพุ่งขึ้นมา

ความเสียหายไม่มาก แต่เป็นการดูหมิ่นอย่างร้ายแรง ทูรัสรู้สึกได้ถึงการเหยียดหยามอย่างแรง นี่มันหมายความว่ายังไง? แม้แต่ลูกน้ำก็ไม่ยอมปล่อยออกมา คิดจะใช้หยดน้ำสาดจนมันตายเลยหรือไง?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด