ตอนที่แล้วบทที่ 302: ตกใจกับสิ่งที่เห็น (ตอนฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 304: การเตรียมการก่อนออกเดินทาง (ตอนฟรี)

บทที่ 303: ขอบฟ้าพริบตา  แนวคิดมิติ (ตอนฟรี)


บทที่ 303: ขอบฟ้าพริบตา  แนวคิดมิติ

จิตใจของเขากลับมาที่ร่างหลักของเขา ลู่หยุนจ้องมองไปที่ภาพวาดตรัสรู้ศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยอยู่กลางอากาศอีกครั้ง

เมื่อมาถึงจุดนี้ แสงลึกลับที่มันปล่อยออกมาก็ค่อยๆ จางหายไป

ทันทีหลังจากนั้น ภาพวาดตรัสรู้ศักดิ์สิทธิ์ก็แตกสลายและกลายเป็นเส้นแสงดาวหายไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

เหตุการณ์กะทันหันนี้ทำให้ลู่หยุนตกใจในทันที

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบสนอง พื้นที่แม่น้ำดวงดาวก็เริ่มพังทลายลง และร่างกายของเขาก็หยุดนิ่งชั่วคราว เมื่อเขากลับมาได้สติ มันก็มีเพียงเสาหินทองสัมฤทธิ์อยู่ตรงหน้าเขาเท่านั้น

“ในที่สุดก็ออกมา”

เมื่อผู้อาวุโสลั่วเห็นร่างกายของลู่หยุนสั่นไหว ร่องรอยของความประหลาดใจก็แวบขึ้นมาในดวงตาของเขา

สิบสองชั่วโมง!

ลู่หยุนทำความเข้าใจเสาหลักอยู่เป็นเวลาสิบสองชั่วโมงเต็ม ซึ่งเป็นเวลาที่ยาวนานที่สุดที่ใครก็ตามจะสามารถทำความเข้าใจเสาตรัสรู้ศักดิ์สิทธิ์ได้จนถึงตอนนี้

ก่อนหน้านี้ เวลาที่ยาวที่สุดที่ใช้ในการทำความเข้าใจเสาตรัสรู้ศักดิ์สิทธิ์คือหกชั่วโมง มันสร้างขึ้นโดยความภาคภูมิใจจากสวรรค์เมื่อร้อยปีก่อนจากสถาบันศึกษาวรยุทธ์วิญญาณเหิน

แต่ตอนนี้ ลู่หยุนก็ได้เพิ่มขีดจำกัดเวลาเป็นสองเท่า

ยิ่งเวลาทำความเข้าใจนานเท่าไร มันก็ยิ่งเก็บเกี่ยวได้มากขึ้นเท่านั้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีพรสวรรค์โดยกำเนิดอย่างลู่หยุน

ร่างกายของผู้อาวุโสลั่วสั่นด้วยความตื่นเต้น และดวงตาขุ่นมัวของเขาก็เปล่งประกายขณะที่เขาจ้องมองไปที่ลู่หยุนอย่างตั้งใจ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานะในปัจจุบันของลู่หยุนค่อนข้างแปลก ราวกับว่าเขากำลังตระหนักหรือนึกถึงบางสิ่งบางอย่าง ผู้อาวุโสลั่วจึงไม่กล้าเข้าไปขัดจังหวะ

ไม่นานนัก ความสับสนในดวงตาของลู่หยุนก็หายไป ราวกับว่าเขาได้สติแล้ว

“ลู่หยุน เจ้าเป็นยังไงบ้าง” ผู้อาวุโสลั่วเห็นลู่หยุนเดินมาพร้อมกับรอยยิ้มเต็มใบหน้า

“ก็ไม่เลว” ลู่หยุนพยักหน้า เขาไม่รู้ว่าจะตอบผู้อาวุโสลั่วยังไงอยู่ครู่หนึ่ง เขาจะบอกอีกฝ่ายว่าเขาไม่ทันทำความเข้าใจอะไรเลย และมรดกก็วิ่งเข้ามาในทะเลจิตของเขาเอง และเขายังได้ชมการต่อสู้อันทรงพลังฟรีได้หรอ?

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเขาออกมา เขาก็ได้เห็นภาพวาดตรัสรู้ศักดิ์สิทธิ์แตกสลายลงกับตาของเขาเอง เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อคนรุ่นหลังที่มาทำความเข้าใจมันหรือไม่

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขาก็มองย้อนกลับไปที่เสาหินทองสัมฤทธิ์อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ไม่เหมือนเมื่อก่อน ลวดลายลึกลับบนเสาหินทองแดงยังคงเป็นปริศนา แต่แสงลึกลับที่มันปล่อยออกมานั้นก็ค่อนข้างอ่อนแอ โดยไม่ทำให้ผู้คนรู้สึกประหลาดใจและสูญเสียความรู้สึกที่เคยมีอีกต่อไปในทันที

เพื่อยืนยันความคิดของเขา ลู่หยุนมองไปที่ผู้อาวุโสลั่วและถามว่า “ผู้อาวุโสลั่ว ท่านเห็นความแตกต่างระหว่างเสาหินทองแดงนี้กับก่อนหน้านี้หรือไม่”

“หืม?” ผู้อาวุโสลั่วเมื่อได้ยินคำพูดนั้นก็มองเสาตรัสรู้ศักดิ์สิทธิ์อย่างระมัดระวังครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหัวเล็กน้อย “เสาตรัสรู้ศักดิ์สิทธิ์นี้อยู่ที่นี่มาหลายร้อยปีแล้วและไม่เคยเปลี่ยนแปลง เจ้าสังเกตเห็นความแตกต่างอะไรงั้นรึ?”

“ก็ไม่นะ” ลู่หยุนจะไม่ยอมรับความผิดอย่างแน่นอน

หลังจากออกจากชั้นสี่แล้ว ลู่หยุนก็ถามว่า “ผู้อาวุโสลั่ว ท่านช่วยบอกความลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับเสาตรัสรู้ศักดิ์สิทธิ์หน่อยได้ไหม”

“จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ความลับอะไรหรอก”

ผู้อาวุโสลั่วยิ้มและพยักหน้า “มีเสาตรัสรู้ศักดิ์สิทธิ์จำนวน 365 เสา สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิบรรพกาลรุ่นแรก ซึ่งจากนั้นก็ได้ทิ้งมรดกวรยุทธ์ไว้เป็นการส่วนตัว”

“เสาตรัสรู้ศักดิ์สิทธิ์แต่ละแห่งมีวิชายุทธ์มากมาย ครอบคลุมทุกสิ่ง ตราบใดที่เราสามารถเข้าใจวิชายุทธ์ในนั้นได้ เราก็จะมีโอกาสที่จะก้าวไปสู่ขอบเขตเมล็ดรูนได้”

ในที่สุด เขาก็หยุดครู่หนึ่งและพูดอย่างลึกลับว่า “มีข่าวลือว่าความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเสาตรัสรู้ศักดิ์สิทธิ์คือวิชาลับในการสร้างร่างกายศักดิ์สิทธิ์”

“วิชาลับสร้างร่างกายศักดิ์สิทธิ์?!” ดวงตาของลู่หยุนเปล่งประกายเจิดจ้าเมื่อได้ยินสิ่งนี้

“ข่าวลือนี้มาจากรัฐกลางและรัฐหวู พวกเขามีอัจฉริยะที่เข้าใจวิชาลับสร้างร่างกายศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นในโมริจิน”

ผู้อาวุโสลั่วมองย้อนกลับไปที่ลู่หยุนและยิ้ม “หากบุตรนักบุญของเราสามารถเข้าใจวิชาลับสร้างร่างกายศักดิ์สิทธิ์ที่ซ่อนอยู่ได้ สถาบันของเราก็คงจะได้กำไรครั้งใหญ่”ล

“วิชาลับสร้างร่างกายศักดิ์สิทธิ์นั้นทรงพลังขนาดนั้นเลยหรอ?”

ผู้อาวุโสลั่วยิ้มเล็กน้อย “ในเวลานั้น จักรพรรดิบรรพกาลรุ่นที่หนึ่งมีศิษย์เก้าคน และทั้งเก้าคนล้วนเป็นความภาคภูมิใจจากสวรรค์ที่ฝึกวิชานี้”

“ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน และตำราก็ไม่มีบันทึกใดๆ เช่นกัน” ลู่หยุนพยายามขุดหาข้อมูลเพิ่มเติมทางอ้อม

“บางสิ่งแน่นอนว่าไม่สามารถบันทึกได้และถ่ายทอดได้เพียงปากต่อปากเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่จักรพรรดิบรรพกาลหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อหลายร้อยปีก่อน ศิษย์ทั้งเก้าของเขาเองก็หายตัวไปจากโมริจิน และรวมกันแล้ว ร่องรอยทั้งหมดก็ถูกลบทิ้งไปภายในชั่วข้ามคืน”

“บุคคลที่ทรงพลังบางคนคาดเดาว่าจักรพรรดิบรรพกาลได้นำเหล่าศิษย์ของเขาข้ามดินแดนรกร้างอันยิ่งใหญ่ไร้ที่สิ้นสุดไปสู่อาณาจักรที่เจริญรุ่งเรืองมากขึ้น”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ จู่ๆ ลู่หยุนก็นึกถึงฉากที่เขาเคยเห็นโดยบังเอิญก่อนหน้า

กล่าวกันว่าในยุคที่เก้ารัฐอยู่ภายใต้การปกครองของร้อยนิกาย จู่ๆ จักรพรรดิบรรพกาลก็ปรากฏตัวขึ้นและล้มล้างการปกครองของร้อยนิกายในขณะที่ขับไล่สัตว์อสูรออกจากเก้ารัฐ

แล้วจักรพรรดิบรรพกาลปรากฏตัวขึ้นมาได้อย่างไร? เขาไม่ได้มาจากร้อยนิกาย หรือจากตระกูลขุนนางใดๆ ในเก้ารัฐอย่างแน่นอน

ด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่จะโค่นล้มการปกครองของร้อยนิกายและขับไล่สัตว์อสูรได้ บุคคลดังกล่าวจะปรากฏตัวขึ้นโดยไม่ส่งเสียงไม่ได้

“บางทีสิ่งที่ข้าเห็นในม้วนภาพอาจจะเป็นเรื่องจริง และจงใจทิ้งไว้ในมรดกโดยจักรพรรดิบรรพกาล”

ลู่หยุนไม่รู้ว่าเขาพูดถูกหรือไม่ และเขาก็ไม่อยากบอกผู้อาวุโสลั่วหรือใครก็ตามเกี่ยวกับเรื่องนี้

มีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าความลับนี้จะทำให้เกิดพายุแบบไหนหากมันพัดออกไป ลู่หยุนนึกไม่ออกถึงผลที่จะตามมา

สำหรับตอนนี้ เป็นการดีที่สุดที่จะมุ่งเน้นไปที่ปัจจุบันและรอโอกาสที่เหมาะสมในการตรวจสอบ

ท้ายที่สุดแล้ว มันก็ยังคงเป็นเรื่องของความแข็งแกร่ง

แม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นหนึ่งในมหาอำนาจชั้นนำในเขตวิญญาณยุทธ์ แต่มันก็ยังมีคนจำนวนมากที่แข็งแกร่งกว่าเขาทั่วทั้งรัฐหลิงและโมริจินทั้งหมด

หลังจากออกจากศาลาตำรายุทธ์แล้ว ลู่หยุนก็กลับไปที่อาคารยา

เขาเป็นหัวหน้าของที่นี่ และมันก็เป็นเหมือนบ้านของเขา

“นายท่าน นี่คือสมุนไพรวิญญาณที่เรารวบรวมได้เมื่อเร็วๆ นี้”

ทันทีที่เขาเห็นลู่หยุน หวงฉีก็ทักทายเขาอย่างมีความสุข โดยจงใจเพิ่มความเคารพให้กับน้ำเสียงของเขา

ก่อนหน้านี้ เขาเคารพลู่หยุนเนื่องจากสถานะ แต่ตอนนี้เขาก็เคารพในความแข็งแกร่งของลู่หยุนด้วย

ความเคารพนี้มาจากใจของเขา

“เอาล่ะ แล้วข้าจะหาเวลาเปลี่ยนพวกมันให้เป็นยา” ลู่หยุนยิ้ม เขาพยักหน้า รวบรวมสมุนไพรวิญญาณทั้งหมดแล้วเดินตรงไปที่ชั้นบน

อาคารยาชั้น 5 ห้องฝึกฝน

ลู่หยุนนั่งขัดสมาธิบนเบาะ

[ชื่อ]: ลู่หยุน

[ที่อยู่]: สถาบันศึกษาวรยุทธ์วิญญาณเหิน

[เทคนิคการฝึกฝน]: ศาสตร์วรยุทธ์หยางพิสุทธิ์ (บทรากฐานเหลว ขั้นเชี่ยวชาญ 1%), ตำรากระบี่วายุพิศวง (ระดับห้า: ทำลายล้างสุดขีด 100%) วิชากระบี่ทำลายชีวิต (ระดับหนึ่ง: บาปแห่งการทำลายล้าง 100%) ตำราวายุอัสนี (ระดับสอง: เคลื่อนวายุอัสนี 100%), คัมภีร์หมัด (ระดับหนึ่ง: ตะวันแดงทลายนภา 100%), คัมภีร์ดัชนี (ระดับหนึ่ง: ดัชนีภัยพิบัติไร้รูป 100%), ก้าวร่ายรำสายลมลวงตา (ขั้นต้น), เงาเมฆา (ขั้นต้น),

[ร่างกาย]: กายาเซียนทองมหาตะวัน (ก่อนเข้า)

[พรสวรรค์โดยกำเนิด]: ระดับ 8

[ขอบเขตวรยุทธ์]: ขอบเขตรากฐานเหลวขั้นปลาย

[ค่าพลังงาน]: 123,000 (เพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ 8 ทุกวัน)

[แนวคิด]: แนวคิดการสังหาร (ระดับสาม 35%), แนวคิดอัสนี (ระดับสอง 27%)

[ทักษะ]: เทคนิคการปรุงยาระดับ 6 (1%)

[พรสวรรค์]: เปลวเพลิงดอกบัวขาว (ระดับสี่ 1%)

[ค่าโชค]: 46 (บุตรนักบุญแห่งสถาบันศึกษาวรยุทธ์: เพิ่มขึ้น 1 ทุกวัน)

ต้องใช้ค่าพลังงานเกือบ 30,000 แต้มในการยกระดับบทรากฐานเหลวไปสู่ขั้นต่อไป

มันไม่มากเท่าที่เขาจินตนาการไว้ แต่ลู่หยุนก็ยังต้องระมัดระวังเกี่ยวกับวิธีการใช้มัน

ความสนใจของลู่หยุนมุ่งเน้นไปที่แถบร่างกายที่เพิ่งปรากฏบนหน้าจอ

มันคือกายาเซียนทองมหาตะวันซึ่งถูกเพิ่มเข้ามาในหน้าจอโดยอัตโนมัติหลังจากหลอมรวมเข้ากับจิตสำนึกของเขา

[กายาเซียนทองมหาตะวัน หนึ่งใน 365 ร่างกายศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ สร้างขึ้นโดยราชาตะวันศักดิ์สิทธิ์]

เมื่อเห็นข้อมูลบนหน้าจอ ดวงตาของลู่หยุนก็หดตัวลงราวกับว่าเขาได้ค้นพบดินแดนใหม่ด้วยความตื่นเต้นจนตัวสั่น

‘ 365 ร่างกายศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ามนุษย์’ และ ‘ราชาตะวันศักดิ์สิทธิ์’ มันมีข้อมูลมากเกินไป

ตัวอย่างเช่น นอกจากกายาเซียนทองมหาตะวันแล้ว มันยังมีร่างกายศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ อีกกว่า 364 ร่าง

แต่กระนั้นเขาก็ไม่เคยได้ยนิข่าวลือเช่นนี้มาก่อนในโมริจิน

นอกจากนี้ ตัวตนของ 'ราชาตะวันศักดิ์สิทธิ์' ที่สร้างร่างกายศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ก็ควรจะต้องมีชื่อเสียงมาก แต่กระนั้นมันก็กลับไม่มีบันทึกของ 'ราชาตะวันศักดิ์สิทธิ์' ในเอกสารสำคัญของโมริจินเลย

ไม่แม้แต่จะมีใครเคยได้ยินชื่อเล่น 'ราชาตะวันศักดิ์สิทธิ์' และความรู้เกี่ยวกับร่างกายศักดิ์สิทธิ์ก็จำกัดอยู่เพียงข่าวลือ

จากสิ่งนี้ ลู่หยุนสามารถอนุมานได้ว่าทั้งสิบสองรัฐของโมริจินนั้นอาจเป็นเพียงสาขาเล็กๆ แห่งหนึ่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์

หากการคาดเดานี้เกิดกระจายออกไป มันก็จะทำให้เกิดความโกลาหลอย่างไม่น่าเชื่อ

นี่เป็นเพราะในหัวใจของทุกคน เผ่าพันธุ์มนุษย์คือโมริจิน

และโมริจินก็คือเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด

แต่กระนั้นข้อมูลเกี่ยวกับ '365 ร่างกายศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ามนุษย์' และ 'ราชาตะวันศักดิ์สิทธิ์' ก็ถือเป็นการเปิดเผยเรื่องราวที่สมบูรณ์สำหรับความเข้าใจของทุกคน

“เมื่อมองเช่นนี้ การหายตัวไปของจักรพรรดิบรรพกาลและศิษย์ทั้งเก้าของเขาก็อาจไม่ง่ายนัก โลกนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด”

“ความลับทั้งหมดอาจถูกซ่อนอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของภิ่นทุรกันดารอันรกร้างไร้ที่สิ้นสุด”

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ลู่หยุนก็เริ่มสนใจที่จะเข้าไปในถิ่นทุรกันดารมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หลักฐานทั้งหมดก็บ่งชี้ว่าเขาต้องแข็งแกร่งขึ้นให้มากกว่านี้ก่อน

มิฉะนั้น แม้แต่สัตว์อสูรระดับเจ็ดก็อาจสามารถปลิดชีพเขาลงได้อย่างง่ายดาย

ยิ่งไปกว่านั้น หากสิ่งที่เขาเห็นในภาพวาดตรัสรู้ศักดืสิทธิ์เป็นความจริง โลกภายนอกก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้นไปอีก

เขารวบรวมความคิดของเขา

“อัพเกรด”

[ใช้ค่าพลังงาน 500 แต้ม ก้าวร่ายรำสายลมลวงตาอัพเกรดเป็นระดับหนึ่ง (1%)]

[ใช้ค่าพลังงาน 450 คะแนน เงาเมฆาอัพเกรดเป็นระดับหนึ่ง (1%)]

[พบว่าตำราวายุอัสนีสามารถหลอมรวมกับก้าวร่ายรำสายลมลวงตาและเงาเมฆาได้ โดยใช้ค่าสพลังงาน 10,000 แต้ม ]

หลังจากลังเลเพียงครึ่งลมหายใจ ลู่หยุนก็เลือกที่จะหลอมรวมโดยทันที

ช่วงเวลาต่อมา ค่าพลังงานบนหน้าจอก็ลดลงอย่างรวดเร็ว 10,000 แต้มและจากนั้นการหลอมรวมก็เริ่มขึ้น

สิบสองชั่วโมงต่อมา การหลอมรวมก็เสร็จสมบูรณ์

[ ขอบฟ้าพริบตา: ตำราวายุอัสนีระดับสาม เมื่อถึงขั้นสมบูรณ์ มันสามารถทะลุผ่านมิติและเคลื่อนที่ห่างออกไปนับหมื่นลี้ได้ในทันที]

“เคลื่อนที่ห่างออกไปนับหมื่นลี้ได้ในทันที?” ดวงตาของลู่หยุนสว่างขึ้นเมื่อเขาเห็นข้อมูลนี้

มันมหัศจรรย์มาก!

“อัพเกรดต่อเลย”

ค่าพลังงานลดลง 25,000 แต้มในครั้งเดียว

ร่างสีเทาในใจของเขาเริ่มฝึกฝน...

หลังจากนั้นไม่นาน ความทรงจำก็หลอมรวม และความสนใจของลู่หยุนก็กลับมาที่หน้าจอ

[วรยุทธ์]: ตำราวายุอัสนี (ระดับสาม: ขอบฟ้าพริบตา 100%)

“ฮ่าฮ่าฮ่า”

ทันทีที่ความก้าวหน้าในการฝึกฝนถึง 100% ลู่หยุนก็รู้สึกราวกับว่าเขาเริ่มสนิทสนมกับโลกมากขึ้น

เขารู้สึกอยากที่จะรวมเข้ากับพื้นที่มิติตามต้องการเล็กน้อย

“เดี๋ยวนะ! มีบางอย่างแปลกๆ!”

สายตาของลู่หยุนกลับมาที่หน้าจอ

[แนวคิด]: แนวคิดการสังหาร (ระดับสาม 35%), แนวคิดอัสนี (ระดับสอง 27%), แนวคิดพื้นที่มิติ (ระดับหนึ่ง 17%)...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด