ตอนที่แล้วบทที่ 18 ทะลวงผ่านระดับก่อจิตวิญญาณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 20 ความวุ่นวายในเมืองมังกร

บทที่ 19 ปีกปีศาจสวรรค์


ขณะที่หลงเฉินหยิบหนังสือขึ้นมา เขาก็สังเกตเห็นว่ามันต่างจากหนังสือเล่มก่อนหน้านี้เล็กน้อย วัสดุของมันไม่เหมือนกันและให้สัมผัสไม่ดีเท่า แต่ยังไงมันก็ยังคงเหนือกว่าสิ่งที่เขาเคยเห็นในตระกูล

อีกเรื่องหนึ่งที่แตกต่างจากหนังสือเล่มก่อนหน้านี้คือ มันมีชื่อเขียนอยู่บนหน้าปก

‘ปีกปีศาจสวรรค์’ คือคำที่เขียนอยู่บนหน้าปกด้วยตัวหนังสือขนาดใหญ่

“ปีกปีศาจสวรรค์...เป็นชื่อทักษะที่ไม่เลว ข้าหวังว่าทักษะนี้จะดีสมกับชื่อของมัน” หลงเฉินกล่าวขณะจ้องมองดูหนังสือเล่มนี้

หลงเฉินชอบอ่านหนังสือที่มีชื่อน่าเกรงขาม และเขาก็ประทับใจชื่อของทักษะนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่รอช้าที่จะอ่านมัน

หลงเฉินเปิดหนังสือและเริ่มอ่าน ขณะที่เขาอ่านหนังสือเล่มนี้ทีละหน้า สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จากความอยากรู้อยากเห็นเป็นประหลาดใจ จากนั้นก็ตกตะลึง แล้วต่อมาก็ครุ่นคิด

ขณะที่หลงเฉินอ่านถึงหน้าสุดท้าย ในที่สุดก็มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา และหลังจากอ่านจบเขาก็ปิดหนังสือ

“น่าทึ่งมาก...ช่างเป็นทักษะที่น่าทึ่งยิ่งนัก ถ้ามีทักษะแบบนี้ในโลกของข้า คงเกิดสงครามที่จะแย่งชิงมันมา แต่ทำไมมันถึงถูกโยนทิ้งลงในถังขยะล่ะ?” หลงเฉินกำลังพูดกับตัวเอง และไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

‘บางทีคนผู้นี้อาจไม่ชอบทักษะนี้ เพราะเขาคิดว่ามันเป็นทักษะที่อ่อนแอและไม่มีค่าพอให้เขาต้องสนใจ หรือเขาอาจมีความทรงจำที่ไม่ดีเกี่ยวกับทักษะนี้ก็เป็นได้’ หลงเฉินพยายามคิดและคาดเดาไปต่างๆนาๆ

หลังผ่านไปได้สักพัก เขาก็ล้มเลิกความพยายามหาสาเกตุที่มันถูกโยนทิ้งลงถังขยะ และตัดสินใจมุ่งเน้นไปที่เนื้อหาของมันเท่านั้น

ตามที่หลงเฉินอ่าน หนังสือเล่มนี้เป็นทักษะต่อสู้ประเภทบิน ซึ่งทำให้หลงเฉินมีความสุขมากที่ได้รับทักษะต่อสู้ประเภทบิน หากอ้างอิงจากความทรงจำของหลงเทียน ทักษะประเภทนี้หาได้ยากมากในโลกใบนี้ และมีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่ครอบครองมัน แม้แต่ในอาณาจักรสุ่ยเองก็ไม่มีใครครอบครอง รวมถึงองค์จักรพรรดิด้วย

มีเพียงแค่จอมยุทธระดับนภาหรือสูงกว่านั้นเท่านั้นที่สามารถโปยบินบนท้องฟ้าได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะต่อสู้ประเภทบิน ซึ่งทักษะประเภทนี้มีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่มีระดับบ่มเพาะพลังต่ำกว่าระดับนภา

ความสำคัญของทักษะดังกล่าวสามารถเข้าใจได้จากที่หลงเทียนอ่านเจอในหนังสือ ทักษะประเภทบินทั้งหมดนั้นเป็นมรดกหลักของตระกูลใหญ่ที่สุดในโลก การเผยแพร่มันเป็นสิ่งต้องห้าม และถ้าหลุดออกไปจะถูกลงโทษประหารชีวิต

แม้ว่าทักษะยุทธประเภทบินจะมีประโยชน์อย่างมากจนถึงระดับปฐพี แต่หลงเฉินรู้ว่า ‘ปีกปีศาจสวรรค์’ เป็นทักษะที่เหนือกว่านั้น หากการบ่มเพาะพลังของเขาเติบโตขึ้นมากเท่าไหร่ ความเชี่ยวชาญของเขาที่มีต่อทักษะนี้ก็จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น

ตามคำแนะนำของทักษะนี้ หลังจากที่ใช้ทักษะนี้แล้วจะสามารถสร้างปีกขึ้นมาได้ด้วยพลังปราณของตัวเอง และสามารถโปยบินบนท้องฟ้าได้ด้วยปีกที่สร้างขึ้นมา ถ้าเรียนรู้มันแล้วได้สำเร็จ หลงเฉินก็จะสามารถบินได้จนกว่าพลังปราณของเขาจะหมด และเมื่อเขามีความเชี่ยวชาญทักษะนี้มากขึ้น ปริมาณการใช้พลังปราณของเขาก็จะลดลงไปพร้อมกัน และจะทำให้เขาสามารถบินได้ไกลขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องหยุดพัก

หลงเฉินอยากจะเริ่มเรียนรู้และฝึกฝนทักษะนี้ทันที แต่ในขณะที่เขากำลังจะเริ่มทำแบบนั้น เขาก็ได้ยินเสียงกระแทกดังลั่นมาจากนอกห้อง ทันใดนั้นเอง เสียงเคาะประตูที่รุนแรงก็ดังเข้ามาในห้อง แต่ก่อนที่เขาจะเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ความฝันของเขาก็พังทลายและเขาก็ตื่นขึ้นมา

เขาพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนพื้นเหมือนก่อนหน้านี้ และมีสายลมที่หนาวเย็นพัดไปมา บางทีอาจเป็นความเย็นจากน้ำในทะเลสาบ

เขาลุกขึ้นและยืนหาว ขณะมีพระอาทิตย์กำลังส่องแสงเจิดจ้าอยู่บนท้องฟ้า และเขาก็สังเกตเห็นว่าร่างกายของเขามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ทำให้มีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา

หลงเฉินสูงกว่าก่อนหน้านี้เล็กน้อย ถึงแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่ก็ยังไม่รอดพบจากสายตาของเขา กระทั่งผิวของเขาเองก็ยังดูเปล่งประกายกว่าก่อนหน้านี้มาก แต่นั่นไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เขามีความสุข

หลงเฉินกำลังมีความสุขเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์ ขณะที่เขาลุกขึ้นยืน เขาได้สังเกตเห็นว่าเขายังคงมีความแข็งแกร่งเช่นเดียวกับความฝันของเขา และเขาพยายามส่งจิตสำนึกของเขาเข้าไปในตันเถียนอีกครั้ง แล้วก็พบว่ายังมีเมล็ดจิตวิญญาณสีทองอยู่ข้างใน

นี่ทำให้หลงเฉินมีความสุขมากที่พบว่าเขาทะลวงผ่านระดับจิตวิญญาณเหมือนในความฝัน แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่ามันเป็นไปได้อย่างไร ทั้งที่เขาทะลวงผ่านระดับจิตวิญญาณในความฝัน แต่หลงเฉินก็ไม่ได้คิดหาเหตุผลมากนัก ตราบใดที่เขาทะลวงผ่านแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

หลังจากดีใจไปได้สักพัก ท้องของเขาก็เริ่มส่งเสียงร้องออกมา แสดงให้เห็นว่าเขาหิวและถึงเวลากินข้าวแล้ว

หลงเฉินนั่งลงบนหินที่อยู่ใกล้ๆ จากนั้นเขาก็หยิบผลไม้สีทองออกมาจากแหวนมิติ และเริ่มกินผลไม้สีทองนี้อย่างช้าๆ

เขารู้สึกเศร้าเล็กน้อยเมื่อมองไปที่ทะเลสาบขณะกินผลไม้สีทอง และอดไม่ได้ที่จะนึกถึงพ่อแม่ของเขาในโลกที่แล้วตอนที่พวกเขาไปตั้งแคมป์ที่ทะเลสาบ

ในวันนั้นเป็นเหมือนกับวันนี้ หลงเฉินนั่งกินข้าวอยู่ข้างทะเลสาบ และมีพ่อแม่ของเขาอยู่ข้างๆ แต่ตอนนี้เขากลับโดดเดี่ยว และนั่งอยู่ที่ก้นหน้าผาเพราะอุบายของใครบางคน

หลงเฉินอดไม่ได้ที่จะนึกถึงพ่อแม่ของเขา และรู้สึกเสียใจที่ตายจากไป และทิ้งพวกเขาไว้ตามลำพัง พวกเขาจะเสียใจแค่ไหนหลังจากที่ได้ยินเรื่องการตายของเขา ความโศกเศร้าของเขาทำให้บรรยากาศรอบตัวกลายเป็นมืดมน

หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมงแห่งความโศกเศร้า ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจหยุดนึกถึงเรื่องที่น่าหดหู่พวกนั้น และตัดสินใจที่จะแข็งแกร่งขึ้นให้มากกว่านี้ แล้วออกไปจากที่นี่ ซึ่งตอนนี้เขามีวิธีที่จะออกไปจากที่นี่แล้ว

เขาตัดสินใจที่จะใช้ทักษะนี้เพื่อบินออกไปจากที่นี่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด