ตอนที่แล้วบทที่ 16 ภายในแหวนมิติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 18 ทะลวงผ่านระดับก่อจิตวิญญาณ

บทที่ 17 ความฝัน?


ในขณะที่หลงเฉินนอนหลับสนิทอยู่ใกล้ทะเลสาบที่งดงามที่อยู่ด้านล่างของหน้าผาสวรรค์ ก็มีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้น ภายในสร้อยหยกที่เขาได้รับจากแหวนมิติ สีของมันเปลี่ยนเป็นสีม่วงอย่างสมบูรณ์

ทันทีที่ก้อนหยกนี้กลายเป็นสีม่วงก็มีของเหลวไหลออกมาจากมัน รูปร่างของมันคล้ายกับหยดเลือด ซึ่งแตกต่างจากหยดเลือดของมนุษย์ แต่เป็นหยดสีม่วงเข้มที่ปลดปล่อยพลังงานที่ไม่น่าเชื่อออกมา

หยดเลือดนี้เหมือนจะมีพลังมหาศาลที่สามารถเปลี่ยนแปลงสวรรค์และปฐพีได้ และเหมือนมันจะมีพลังแปลกๆที่ตอบสนองกับแหวนมิติ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เนื่องจากตอนนี้มีแค่หลงเฉินคนเดียว และตอนนี้เขายังคงนอนหลับสนิทอยู่บนพื้น อย่างไรก็ตาม แม้จะมีคนอื่นอยู่ที่นี่ และเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ก็ตาม พวกเขาก็ไม่อาจทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้

หลังจากที่มันเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นของเหลวอย่างเสร็จสมบูรณ์ หยดสีม่วงก็เริ่มขยับและเข้าไปในร่างกายของหลงเฉิน มันเข้าไปในหัวใจของเขาและค่อยๆหลอมรวมเข้ากับหัวใจของเขา กระบวนการนี้ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง

หลังจากที่กระบวนนี้สิ้นสุดลง ร่างกายของหลงเฉินก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โลหิตภายในร่างกายของเขาเริ่มกลายเป็นสีม่วง แม้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากการเปลี่ยนแปลงยังคงดำเนินต่อ โลหิตทั่วร่างกายของเขาก็จะเปลี่ยนไป แล้วโลหิตของเขาก็จะกลายเป็นสีม่วงในท้ายที่สุด

ถ้าหลงเฉินรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเขา เขาคงไม่รู้ว่าจะตกตะลึงดีหรือหวาดกลัวดี อย่างไรก็ตาม หลงเฉินไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับเขาในตอนนี้ เพราะเขายังคงนอนหลับสนิทอยู่

คืนนั้นหยดสีม่วงเข้าไปในร่างกายของหลงเฉิน และหลงเฉินก็กำลังฝันถึงเรื่องบางอย่างที่น่าสนใจ

ในความฝันของหลงเฉิน มีชายหนุ่มรูปงามผมยาวสีแดงเพลิง มีดวงตาสีทองและสวมชุดคลุมสีแดงโลหิตกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ จากรูปลักษณ์ชายคนนี้น่าจะมีอายุประมาณ 25-30 ปี

แม้ว่าหลงเฉินจะสัมผัสถึงพลังของชายคนนี้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าชายคนนี้เป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง เขาเป็นตัวตนที่หลงเฉินไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะจ้องมองด้วยซ้ำ

ในขณะที่หลงเฉินกำลังมองดูชายคนนั้นด้วยความสงสัย ชายชุดคลุมแดงกำลังจดจ่อสมาธิเขียนอะไรบางอย่างอยู่บนหนังสือ แต่เรื่องที่แปลกคือเขาไม่ได้ใช้หมึกเขียนหนังสือ

เขากำลังใช้พลังปราณของเขาเขียนหนังสือเล่มนี้ และดูเหมือนว่าพลังปราณของเขาเป็นอะไรที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน มันหนาแน่น บริสุทธิ์ และทรงพลังมาก ซึ่งเป็นอะไรที่หลงเฉินไม่เคยเห็นมาก่อน

เขารู้สึกได้ว่าพลังปราณอันน้อยนิดที่เขาใช้เขียนหนังสือนั้น ทรงพลังกว่าพลังปราณที่ใช้ในการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของปู่ของเขาหลายเท่า แม้แต่จักรพรรดิแห่งอาณาจักรสุ่ยเองก็ไม่สามารถเทียบได้ ส่วนสาเหตุที่หลงเฉินรู้เรื่องนี้เป็นเพราะว่าเขาเคยเห็นปู่ของเขาทะเลาะวิวาทกับจักรพรรดิสุ่ย

แม้ว่าพวกเขาทั้งสองคนจะเป็นมิตรกัน แต่พวกเขาก็ใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อเอาชนะอีกฝ่าย และท้ายที่สุดก็เป็นปู่ของหลงเฉินที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ในตอนนั้นหลงเฉินรู้สึกตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของพวกเขามาก แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกต่างออกไป

เขารู้สึกว่าหากเปรียบเทียบชายคนนี้กับจักรพรรดิสุ่ย มันคงเป็นการดูหมิ่นชายที่แข็งแกร่งตรงหน้าเขา และหลงเฉินคิดว่าเมื่อเผชิญหน้ากับชายที่แข็งแกร่งคนนี้ แม้จะเป็นจักรพรรดิผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของอาณาจักรสุ่ย ก็เป็นดั่งมดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา หลงเฉินจินตนาการไม่ออกเลยว่าชายผู้นี้แข็งแกร่งแค่ไหน

ขณะที่หลงเฉินกำลังคิดเรื่องพวกนั้น เขาก็ตระหนักว่านี่เป็นเพียงแค่ความฝัน เพราะเขาจำได้ว่าเขานอนอยู่ใกล้ทะเลสาบที่อยู่ด้านล่างของหน้าผาสวรรค์

หลงเฉินเดินไปหาชายคนนั้น จนกระทั่งเขายืนอยู่ด้านหน้าอีกฝ่าย แต่ทว่าชายผู้นั้นกลับไม่ชายตามองมาที่เขาเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าหลงเฉินไม่มีตัวตนอยู่ในสายตาของเขา

หลงเฉินพยายามที่จะพูดคุยกับเขาและโบกมือไปมา แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด นี่ทำให้การคาดเดาของเขามีน้ำหนักมากขึ้นว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝัน และชายผู้นี้จดจ่อสมาธิไปกับการเขียนเท่านั้น

หลังจากนั้นไม่นาน ชายชุดคลุมแดงก็หยุดเขียนและปิดหนังสือของเขา เขาจ้องมองหนังสือของเขาอยู่พักหนึ่งด้วยสีหน้าครุ่นคิด และในขณะที่เขากำลังจะลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างกะทันหัน

หลงเฉินเห็นชายชุดคลุมแดงคนนั้นลุกขึ้นยืน และวางหนังสือในมือลงบนโต๊ะใกล้ตัว จากนั้นเขาก็เดินไปที่ประตู

ขณะที่ชายคนนั้นเปิดประตู หลงเฉินก็มองเห็นคนที่ยืนอยู่ด้านนอก เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ตรงนั้น หญิงสาวคนนั้นดูเหมือนจะมีอายุประมาณยี่สิบต้นๆ และหลงเฉินก็สัมผัสได้ว่าหญิงสาวคนนั้นเองก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน ถึงจะไม่เท่าชายชุดคลุมแดงก็ตาม จากสายตาที่และการแสดงออกของหญิงสาวคนนั้นที่มีต่อชายชุดคลุมแดง ทำให้หลงเฉินสามารถคาดเดาได้ว่านางเป็นคนรับใช้ของชายคนนี้

หญิงสาวคนนั้นส่งจดหมายให้กับชายชุดคลุมแดง หลังจากที่ได้รับจดหมายฉบับนั้น ชายชุดคลุมแดงก็กล่าวอะไรบางอย่างและขอให้หญิงสาวออกไป แต่เขากลับไม่ปิดประตูทันที และยืนอ่านจดหมายฉบับนั้นตรงประตู จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยหลังอ่านจบ ทำให้หลงเฉินรู้สึกได้ทันทีว่าเขากำลังมีความสุขกับเรื่องบางอย่าง

“เป็นรอยยิ้มที่ไม่เลว” หลงเฉินพึมพัมกับตัวเองขณะจ้องมองไปที่ชายชุดคลุมแดง

เมื่อชายคนนั้นยิ้ม หลงเฉินก็เห็นความหล่อเหลาของเขาเปล่งประกายมากยิ่งขึ้น และคิดว่าถ้าชายคนนี้อยู่ในโลกของเขา คงไม่มีสาวคนใดสามารถควบคุมตัวเองได้เมื่ออยู่ต่อหน้ารอยยิ้มของเขา และจะต้องตกหลุมรักเขาทันที

หลังจากอ่านจดหมายฉบับนี้จบ ชายชุดคลุมแดงก็เก็บจดหมายเข้าไปในแหวนมิติของเขา และออกไปข้างนอก ซึ่งทำให้หลงเฉินตกใจมากเมื่อเห็นเขาทำเช่นนั้น

หลงเฉินสังเกตเห็นว่าแหวนมิติที่ชายชุดคลุมแดงใช้นั้นเหมือนกับแหวนมิติที่เขาพบขณะที่เขาเดินสำรวจภายในป่าด้านล่างของหน้าผาสวรรค์ ทำให้เขาตกตะลึงเมื่อเห็นเช่นนั้น

เขาอยากจะเดินตามชายชุดคลุมแดงออกไป แต่เมื่อเขาเดินไปถึงประตู เขาก็ไม่สามารถผ่านออกไปได้

“อ๊าก...ม่านพลังแปลกประหลาดนี่! ดูเหมือนว่าข้าจะไม่สามารถออกไปจากห้องนี้ได้” หลงเฉินพึมพำเมื่อเขาถูกม่านพลังแปลกประหลาดขัดขวางเขาไม่ให้ออกจากห้อง

“ถ้างั้นมาดูกันว่าในนี้มีอะไรบ้าง” หลงเฉินพูดพึมพำด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่เขาตัดสินใจยอมแพ้ เพราะเขารู้ว่าเขาไม่สามารถออกไปจากม่านพลังนี้ได้ และถึงจะออกไปได้เขาก็ไม่มีทางตามชายชุดคลุมแดงทัน

“ข้าสงสัยว่าทำไมชายคนนั้นถึงไม่เก็บหนังสือเล่มนี้เข้าไปในแหวนมิติก่อนที่จะออกไป ซึ่งถ้าให้ข้าเดามันน่าจะมีความเป็นไปได้อยู่สองอย่าง อย่างแรก คนที่เขียนจดหมายฉบับนั้นหรือเนื้อหาภายในนั้นจะต้องมีความสำคัญต่อชายชุดคลุมแดงมากอย่างแน่นอน ทำให้เขาต้องรีบออกไปทันที และลืมเก็บหนังสือเล่มนี้เข้าไปในแหวนมิติ” หลงเฉินพึมพำขณะที่เขาจ้องมองไปที่หนังสือที่อยู่บนโต๊ะ

“อย่างที่สองมีความเป็นไปได้ว่าหนังสือเล่มนี้อาจไม่ได้สำคัญอะไร และเขาก็แค่เขียนอะไรบางอย่างเล่นๆเท่านั้น ดังนั้นเขาเลยออกไปโดยที่ทิ้งมันไว้ที่นี่ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ข้าก็ควรตรวจดูหนังสือเล่มนั้น” หลงเฉินพูดต่อด้วยสีหน้าครุ่นคิด

หลงเฉินเดินไปที่โต๊ะและมองไปที่หนังสือ จากนั้นเขาก็หยิบมันขึ้นมาและสังเกตอย่างระมัดระวัง และเห็นว่าหนังสือเล่มนี้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างประณีต แต่ไม่มีตัวอักษรอะไรเขียนอยู่บนหน้าปกแม้แต่คำเดียว

เขาเปิดหนังสือเล่มนี้และเริ่มอ่านมัน และใช้เวลาอ่านจบเล่มไม่นานมาก แต่สีหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่ออ่านจบ จากนั้นเขาก็ปิดหนังสือและวางมันลงบนโต๊ะไว้เหมือนเดิม

เขารู้สึกตกใจมาก เมื่อได้อ่านเนื้อหาที่อยู่ข้างใน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด