ตอนที่แล้วบทที่ 77 สอนเช่อชิงชิงปรุงยาทางออนไลน์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 79 ต้นท้อวิเศษออกผลอุดมและการประชุมนิกาย

บทที่ 78 เมื่อปรับสมดุลสวนสมุนไพร ผลผลิตก็เพิ่มขึ้นมาก


"ในด้านการปรุงยา พรสวรรค์ของเจ้า เริ่มเหนือกว่าครั้งแรกที่ข้าปรุงยาเสียแล้ว"

ลู่ผิงชมว่า "ที่นิกายฝึกฝนเจ้าให้เป็นนักปรุงยา ท้ายที่สุดก็ไม่ได้เลือกผิด"

ครั้งแรกที่เขาหลอมก็เป็นยาฝึกปราณ แม้จะมีท่านชิงซีเป็นผู้สอนให้ก็ไม่ได้เรียนรู้เร็วเท่าเช่อชิงชิงหรอก

นับประสาอะไรกับวิธีการสอนของเขาตอนนี้ ยังแค่ใช้การติดต่อชี้นำ ไม่ได้สาธิตอะไรเลย

เมื่อได้รับความเห็นชอบจากลู่ผิง เช่อชิงชิงก็ปลาบปลื้มใจยิ่ง ท่าทางมือก็ไม่ได้เก้ๆ กังๆ แล้ว

ไม่นานนัก ถึงขั้นตอนสุดท้ายคือหล่อหลอมเป็นเม็ดยา ยาฝึกปราณหนึ่งเตาก็ค่อยๆ ขึ้นรูปมาแล้ว

ยาฝึกปราณ 3 เม็ดหลอมสำเร็จ ถ่ายลงในขวดกระเบื้องที่เตรียมไว้ก่อนแล้ว

โดยทั่วไปแล้ว นักปรุงยาระดับ 1 ปรุงยาฝึกปราณหนึ่งเตา จะมีเปอร์เซ็นต์สำเร็จที่ 6-7 เม็ด

เช่อชิงชิงหลอมครั้งแรก ก็ถึงครึ่งหนึ่งของผลเปอร์เซ็นต์สำเร็จแล้ว นับว่าเป็นผลลัพธ์ที่ดีมากแล้ว

ต่อไปแค่ฝึกซ้อมมากขึ้น เปอร์เซ็นต์สำเร็จก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

"ชิงชิง หลอมได้ไม่เลว"

เป็นพยานการปรุงยาครั้งแรก เช่อชิงชิงปรุงยาฝึกปราณสำเร็จได้ 3 เม็ด ลู่จือเวยอดยิ้มบางๆ ไม่ได้ ชมออกมาจากใจจริง

"ล้วนเพราะท่านอาจารย์ใหญ่คอยชี้นำอยู่ข้างๆ เจ้าค่ะ"

เช่อชิงชิงถ่อมตัว แต่ก็ดีใจสุดๆ ไปด้วยในเวลาเดียวกัน

ในที่สุดก็ปรุงยาสำเร็จ 3 เม็ดแล้ว ความพยายามหนึ่งปีนี้ไม่สูญเปล่า

ส่วนเรื่องที่ลู่ผิงไม่ปรากฏกาย แต่เสียงก็สามารถดังอยู่ได้ทุกที่นั้น เช่อชิงชิงเลื่อมใสในวิธีการอันวิเศษของลู่ผิง แต่ก็ไม่ไปสอบถามสาเหตุ

ท่านอาจารย์ใหญ่สามารถออกหน้า ชี้แนะให้นางเรียนรู้วิธีปรุงยาได้ นี่ถือเป็นเกียรติอย่างใหญ่หลวงแล้ว ขอบเขตที่ควรมีก็ต้องรักษาไว้ เรื่องที่ไม่ควรถามก็ไม่ควรไปซักไซ้

"สามารถปรุงยาวิญญาณระดับ 1 ชั้นล่างสำเร็จได้หนึ่งชนิด ก็นับได้ว่าก้าวผ่านขอบเขตของนักปรุงยาระดับ 1 ชั้นล่างแล้ว ที่นิกายชิงซานเราขาดนักปรุงยามากว่าสิบปี ในที่สุดก็มีนักปรุงยาใหม่ปรากฏตัวในหมู่ศิษย์ของนิกายอีกครั้ง"

ลู่ผิงเอ่ยขึ้น พลางกวาดสายตาไปที่แผงคุณสมบัติส่วนตัวของเช่อชิงชิง เห็นคำว่า [นักปรุงยาระดับ 1 ชั้นล่าง] โผล่ขึ้นมาในช่องอัตลักษณ์

ชัดเจนว่า เช่อชิงชิงก้าวขึ้นจากศิษย์ฝึกหัดนักปรุงยามาเป็นนักปรุงยาระดับ 1 สำเร็จ ได้รับการยอมรับจากระบบ

แผนการฝึกฝนศิษย์ให้เป็นนักปรุงยาของเขาก็ราบรื่นยิ่งนัก

"ตอนนี้เพิ่งเริ่มเข้าสู่เส้นทางเท่านั้น ยังห่างไกลจากระดับ 1 ชั้นกลางอยู่มาก ศิษย์จะพยายามต่อไป จะไม่ทำให้ความปรารถนาดีของท่านอาจารย์ใหญ่และนิกายต้องผิดหวังเด็ดขาด"

เช่อชิงชิงพูดอย่างจริงจัง

"เจ้ามีจิตใจแบบนี้ก็ดีแล้ว ช่วงนี้ฝึกปรุงยาฝึกปราณให้มากหน่อย เพิ่มพูนประสบการณ์ รออีกสองสามเดือน ข้าจะสอนให้เจ้าปรุงยาที่มีระดับเพิ่มขึ้นอีกหน่อย"

"สูตรยาวิญญาณระดับ 1 ชั้นล่างที่เหลือในนิกาย รวมถึงสูตรระดับ 1 ชั้นกลางอีกสองสามอย่าง จือเวย เจ้าเอาให้นางไปศึกษาล่วงหน้าซะ"

ลู่ผิงกำชับ

สำหรับนิกายที่สามารถเปิดได้เป็นทศวรรษที่ 9 แล้ว นิกายชิงซานเก็บสะสมสูตรยาไว้ไม่น้อยเลย

ถึงแม้ว่านิกายจะผ่านเรื่องวุ่นวายมานับครั้งไม่ถ้วน สูตรยาจำนวนมากจะขาดหายไป แต่สูตรยาระดับ 1 ก็ยังคงมีอยู่บ้าง

ส่วนการปรุงยาลูกจันทร์ เป็นยาวิญญาณระดับ 1 ชั้นสูง หากเช่อชิงชิงอยากจะหลอม ก็ต้องพยายามอีกหน่อย เอาชนะยาวิญญาณระดับ 1 ชั้นกลางให้ได้ก่อน

อย่างไรก็ตาม ต้องให้เวลานางในการเรียนรู้และพัฒนา ไม่อาจให้ทะยานไปข้างหน้าอย่างพรวดพราดได้

ลู่ผิงกำลังครุ่นคิดว่า ต่อไปถ้าได้ [อัปเกรดนักปรุงยา] มา ต้องใช้กับเช่อชิงชิงเป็นคนแรกแน่

ในช่วงสองเดือนต่อมา ไร่วิญญาณและสวนสมุนไพรของนิกายก็ปลูกพืชเสร็จสิ้น

ก่อนที่จะกลับมาจากตลาดชิงเหอ แน่นอนว่าลู่ฉางเฟิงไม่ได้กลับมามือเปล่า เขาจัดหาเมล็ดพันธุ์สมุนไพรและข้าววิญญาณมาด้วย

อีกด้านหนึ่ง เช่อชิงชิงภายใต้การจัดการของลู่ผิง ก็ปรุงยาฝึกปราณเป็นจำนวนมากเพื่อสะสมประสบการณ์ คุ้นเคยกับเทคนิคการปรุงยา

สมุนไพรวิญญาณที่เก็บไว้ในสวนสมุนไพร พอเพียงเฉียดๆ ให้นางปรุงยาฝึกปราณ

อีกทั้ง ยาฝึกปราณมีผลช่วยเพิ่มพูนการฝึกตน เหมาะสำหรับศิษย์ขั้นฝึกปราณใช้ฝึกฝน

ยาที่เช่อชิงชิงผลิตได้ จะถูกแจกจ่ายให้ศิษย์ในนิกายตามสัดส่วนของปริมาณ

ตามคำพูดของลู่ผิง "ก่อนหน้านี้นิกายไม่มีนักปรุงยา ก็ไม่มีเงินซื้อยาจากข้างนอก การระงับการจ่ายยาฝึกตนให้ศิษย์เป็นทางออกสุดท้าย แต่ตอนนี้นิกายมีเช่อชิงชิงแล้ว สามารถปรุงยาฝึกปราณได้ งั้นไม่ควรหยุดจ่ายยาที่ควรมอบให้ศิษย์ ควรจะตอบสนองให้ได้มากที่สุด"

เช่อชิงชิงมุ่งมั่นกับการปรุงยา สวนสมุนไพรจึงให้หลี่เหวยเซียวจัดการชั่วคราว

รอจนกระทั่งปลูกพืชในสวนสมุนไพรเสร็จ มองคะแนนชื่อเสียง 293 คะแนนที่เหลืออยู่ในระบบ ลู่ผิงก็ตัดสินใจแลก [สองดาว-ปรับสมดุลทรัพยากร] ออกมา

พิจารณาจากทรัพยากรใหญ่สองสามอย่างของนิกายชิงซานตอนนี้ ลู่ผิงครุ่นคิดไปมา แล้วตัดสินใจปรับสมดุลสวนสมุนไพรก่อน หนึ่ง เพื่อเพิ่มผลกำไรสวนสมุนไพร ช่วยเหลือการลงทุนของนิกาย สอง เพื่ออำนวยความสะดวกในการฝึกฝนเช่อชิงชิงปรุงยา

หากต้องการก้าวหน้าในวิถีปรุงยา สมุนไพรที่ดีเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ปริมาณความต้องการสมุนไพรก็จะไม่น้อยเลย

ตัดสินใจเด็ดขาดคราวนี้ ลู่ผิงไม่ได้รีบร้อนกระตุ้นการปรับสมดุลสวนสมุนไพรทันที

จากประสบการณ์ที่ใช้ [ปรับสมดุลทรัพยากร] ที่ไร่วิญญาณก่อนหน้านี้ ถึงแม้จะเพิ่มระดับชั้นของไร่วิญญาณและข้าววิญญาณได้สำเร็จ แต่ผลที่ตามมาหลังจากนั้นก็คือการกำเนิดราชันตั๊กแตนตำข้าว ก่อนที่จะเริ่มใช้ผลเสริมพลังกับสวนสมุนไพร ลู่ผิงจึงบอกกล่าวลู่จือเวยก่อน

"จือเวย ไปคุ้มกันสวนสมุนไพรหน่อย"

ลู่จือเวยได้ยินข้อความเสียงแล้ว ไม่ถามถึงสาเหตุ ก็ไปที่สวนสมุนไพรในทันที

ลู่ผิงเคลื่อนกาย ลอยไปยังสวนสมุนไพร พิจารณาสถานการณ์ของสวนสมุนไพรสักครู่ แล้วจึงเริ่มดำเนินการปรับสมดุลทรัพยากร

[กำลังปรับสมดุลสวนสมุนไพร...]

ทันทีที่เริ่มใช้ ระบบก็แสดงหน้าต่างโต้ตอบขึ้นมา

[ปรับสมดุลสวนสมุนไพรสำเร็จ นาสมุนไพรขนาดหกหมู่ เพิ่มผลผลิตขึ้น 60% ไม่รวมต้นท้อวิเศษและไผ่หยกเขียว]

จากนั้น ด้านล่างก็แสดงรายละเอียดของทรัพยากร

[นาสมุนไพรหกหมู่ : นาสมุนไพรระดับ 1 ชั้นสูง (ไม่เปลี่ยนระดับชั้น)]

[รายได้โดยประมาณ : 1389 หินวิญญาณ/ปี (ผลผลิตคงที่)]

...

คราวนี้ที่ปรับสมดุล ไม่ได้ยกระดับชั้นของสวนสมุนไพรขึ้นอีกชั้น นี่ทำให้ลู่ผิงรู้สึกเสียดายไม่น้อย

ดูเหมือนว่าในการปรับสมดุลทรัพยากรแต่ละครั้ง จะไม่ได้ทำให้ทรัพยากรได้รับการเพิ่มระดับเสมอไป

ที่ระบบให้อัตราเพิ่มระดับ 50% ก็ไม่ได้สุ่มขึ้นมาลอยๆ

ส่วนในการกำหนดสวนสมุนไพรของระบบ ไม่ได้นับรวมต้นท้อวิเศษและไผ่หยกเขียวที่ปลูกในสวนสมุนไพรภายหลังเข้าไปด้วย

ทั้งสองอย่างนี้ ถูกนับเป็นทรัพยากรใหม่สองรายการ กลายเป็นผลผลิตของนิกายที่แยกออกจากสวนสมุนไพร

จุดนี้ จริงๆ แล้วก็อยู่ในการคาดการณ์ของลู่ผิง

อย่างไรเสีย หากการกำหนดทรัพยากรนิกายของระบบค่อนข้างคลุมเครือ ไม่มีการวางตำแหน่งที่แม่นยำแล้วล่ะก็ มันจะไม่สามารถรวมไร่วิญญาณ สวนสมุนไพร หรือแม้กระทั่งปลาวิญญาณหางเขียว เป็นทรัพยากรหนึ่งเดียว แล้วทำการปรับสมดุลพร้อมกันได้งั้นหรือ?

ผลลัพธ์ก็ต้องเป็นไปไม่ได้แน่ๆ

ระบบจะไม่มีช่องโหว่แบบนี้ให้ลู่ผิงตัดขนแกะหรอก

"ผลผลิตสวนสมุนไพรเพิ่มขึ้น 60% และอยู่ในสภาวะคงที่ระยะยาว ผลลัพธ์นี้ก็ไม่เลวนะ"

ลู่ผิงคำนวณคร่าวๆ ก่อนปรับสมดุล รายได้จากสวนสมุนไพร โดยคิดจากนาสมุนไพรหกหมู่ รวมกับหญ้าวิญญาณสันโดษและหญ้ารากจันทร์ กำไรต่อปีอยู่ที่ราว 800 หินวิญญาณ

ตอนนี้หลังปรับสมดุลแล้ว กำไรต่อปีของสวนสมุนไพรน่าจะถึงประมาณ 1389 หินวิญญาณต่อปี ก็ถือว่าเพิ่มขึ้นไม่น้อยแล้ว พอมีการเติบโต มีความก้าวหน้าก็ดีแล้ว

ถึงแม้จะไม่สามารถปรับเป็นระดับ 2 ได้ แต่ลู่ผิงก็ไม่ได้มองข้ามเรื่องนี้

"จือเวย ช่วงนี้เจ้าอยู่ฝึกตนในสวนสมุนไพรแหละ"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด