บทที่ 76 จือเวย พ่อจะให้เจ้าเลื่อนขั้นหน่อย
ห้าครั้งปรับรายการครั้งนี้ ผลลัพธ์ก็ยังคงดีมาก
เริ่มจากสินค้าหนึ่งดาวสองสามอย่างก่อน
[ฟื้นฟูพลังปราณ] และ [ปัดป้องจุดตาย] เหมาะสำหรับการต่อสู้
อย่างแรก สามารถฟื้นฟูพลังปราณ พลังปราณที่สูญเสียไปของสมาชิกในนิกายหนึ่งคน ให้กลับสู่สภาวะสูงสุดในทันที ราคาแลกเป็น 25 คะแนนชื่อเสียง
อย่างหลัง สามารถปัดป้องการโจมตีถึงตายให้ผู้ถูกเสริมพลังได้หนึ่งครั้ง เทียบเท่ากับมีชีวิตเพิ่มอีกหนึ่งครั้ง ราคาแลกเป็น 50 คะแนนชื่อเสียง
สองอย่างนี้ ตอนนี้ยังไม่ต้องใช้ในทันที รอให้ศิษย์ในนิกายออกไปทำภารกิจ เข้าร่วมการต่อสู้ ถ้าจำเป็นจริงๆ ลู่ผิงจะไม่เสียดายแน่ แลกมาใช้เลย
นอกจากนี้ [รักใคร่ช่วยเหลือ] และ [ภักดีนิกาย] ส่งผลต่อสมาชิกทั้งนิกาย
ตามชื่อ อย่างแรกสามารถผลักดันให้ศิษย์ในนิกายรักใคร่ช่วยเหลือกัน ทำให้สัมพันธภาพแน่นแฟ้นขึ้น
อีกอย่างสามารถเพิ่มความภักดีของศิษย์ในนิกายที่มีต่อนิกาย
สองอย่างนี้ในสายตาลู่ผิงถือว่าสำคัญมาก ราคาก็ไม่แพง 50 คะแนนชื่อเสียงต่ออัน ไม่รอแล้ว ตอนนี้แลกเลย
[หนึ่งดาว-รักใคร่ช่วยเหลือแลกสำเร็จ]
[หนึ่งดาว-ภักดีนิกายแลกสำเร็จ]
คะแนนชื่อเสียงหักออกไป 100 คะแนน พลังของสองสิ่งนี้ก็เริ่มต้นทำงานทันที เช่นเดียวกับที่รักษาผลอยู่หนึ่งปี
ในอีกหนึ่งปีข้างหน้า บรรยากาศในนิกายชิงซานจะเป็นไปในทิศทางของมิตรไมตรี ความสามัคคี และความภักดีต่อหน้าที่ ซึ่งจะมีผลดีมากต่อการพัฒนาของนิกาย
ส่วนสินค้าสองดาวที่ปรับรายการออกมาสี่อย่าง
มีหนึ่งอย่างคือ [ปรับสมดุลทรัพยากร] นี่เกินความคาดหมายของลู่ผิง ในที่สุดก็ได้ของนี่มาอีกครั้ง
จะเอาไปใช้ที่ไหนดี ต้องคิดให้ดี ตอนนี้เอาไว้ก่อน
อีกอย่างคือ [สองดาว-ผลึกดาบเพลิงลี่ฮั่ว] ลู่ผิงดูผ่านๆ ผลของมันก็พอๆ กับความทรงพลังของผลึกสายฟ้าขจัดมาร ราคาแลกเช่นเดียวกัน คือ 100 คะแนนชื่อเสียง
ผลึกวิเศษสองดาวพวกนี้ ลู่ผิงหวังว่ายิ่งมากยิ่งดี
ไม่ต้องรอ
ใช้คะแนนชื่อเสียง 100 คะแนน ลู่ผิงก็แลก [สองดาว-ผลึกดาบเพลิงลี่ฮั่ว] ออกมา
ผลึกวิเศษสีแดงเพลิงปรากฏบนมือ มีอักขระสีดำลึกลับซับซ้อนอยู่บนนั้น
ที่ดึงดูดสายตาที่สุด คือรูปอักขระรูปดาบเปลวไฟ เสมือนจริง ราวกับลุกไหม้อยู่ในเปลวไฟที่โหมกระหน่ำอย่างไม่หยุดยั้ง
ผลึกดาบเพลิงลี่ฮั่ว นี่คือผลึกวิญญาณธาตุไฟ
เมื่อกระตุ้น สามารถปลดปล่อยดาบเพลิงลี่ฮั่วออกมา พลังเทียบเท่ากับการโจมตีเต็มกำลังของผู้ฝึกตนขั้นฝึกปราณสูงสุด
มองผลึกดาบเพลิงลี่ฮั่วนี้สองสามครั้ง ลู่ผิงก็เก็บมันเข้าไปในคลังระบบ
สองอย่างสุดท้าย ลู่ผิงกดเปิดรายละเอียด
[ช่างหลอมสร้างอาวุธเลื่อนดาว]
[ผล: เลือกช่างหลอมสร้างอาวุธหนึ่งคนในนิกาย ทำให้ความชำนาญในการหลอมสร้างอาวุธของสมาชิกคนนั้นเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับขั้น]
[ชื่อเสียง: 100]
...
[ยืดอายุ]
[ผล: เพิ่มอายุขัยให้สมาชิกคนหนึ่งในนิกาย 5 ปี โดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ]
[ชื่อเสียง: 100]
...
ผลของสินค้าสองดาวสองอย่างนี้ชัดเจนมาก
อย่างแรกสามารถเลื่อนระดับขั้นของช่างหลอมสร้างอาวุธได้โดยตรง
อย่างหลังสามารถเพิ่มอายุขัยของสมาชิกคนหนึ่งในนิกายได้ 5 ปี
หลังเข้าใจผลของ [ช่างหลอมสร้างอาวุธเลื่อนขั้น] แล้ว สิ่งแรกที่ลู่ผิงนึกถึงคือลู่จือเวย
เขาเปิดแผงคุณสมบัติส่วนตัวของลู่จือเวยขึ้นมา เห็นในช่องอัตลักษณ์ มีข้อความ [ช่างหลอมสร้างอาวุธระดับ 1 ชั้นเลิศ] แสดงว่าความชำนาญในการหลอมสร้างอาวุธของเด็กหญิงยังไม่ทะลุด่าน ยังคงอยู่ในระดับนี้
หากยกระดับให้เด็กหญิงหน่อย งั้นนางก็จะก้าวเข้าสู่ช่างหลอมสร้างอาวุธระดับ 2 ชั้นล่างได้ในทีเดียว สามารถหลอมสร้างอาวุธวิญญาณระดับ 2 ได้!
นี่จะช่วยนิกายได้มาก
ไม่ต้องพูดให้มาก แลกเป็นอันดับแรก
หัก 100 คะแนนชื่อเสียง
[ติ๊ง คุณแลกช่างหลอมสร้างอาวุธเลื่อนขั้นแล้ว กรุณาเลือกเป้าหมาย]
ก่อนจะกระตุ้น ลู่ผิงส่งข้อความไปเตือนลู่จือเวยก่อน
"จือเวย เดี๋ยวพ่อจะให้เจ้าเลื่อนขั้นหน่อย"
ได้ยินเสียงลู่ผิง ลู่จือเวยก็ดีใจ
พ่อออกจากการปลีกวิเวกหนึ่งปีแล้วหรือนี่?
ตอนนี้ตนเพิ่งกลับมาที่ภูเขาชิงเหลียน กำลังพักผ่อน ควรไปเยี่ยมพ่อหน่อยไหมนะ?
กำลังคิดอยู่ในใจ นางไม่ได้ใส่ใจเรื่อง 'เลื่อนขั้น' ที่ลู่ผิงพูดถึงมากนัก ชั่วขณะต่อมา นางรู้สึกว่าในความคิดมีข้อมูลจำนวนมากทะลักเข้ามาจนแทบใจแตก
ข้อมูลนี้ เป็นความรู้การหลอมสร้างอาวุธเป็นจำนวนมากทั้งหมด ความอุดมสมบูรณ์ของมัน ครอบคลุมตั้งแต่ระดับ 1 ชั้นเลิศไปถึงระดับ 2 ชั้นล่าง
ความรู้ที่ทะลักเข้ามาในความคิดนี้ เหมือนกับว่านางใช้เวลาหลายปีสะสมประสบการณ์หลอมสร้างอาวุธ ค่อยๆ สำรวจ ค่อยๆ เรียนรู้ จนนางเองก็เข้าใจแจ่มแจ้ง
วิสัยทัศน์และเทคนิคการหลอมสร้างอาวุธ ในเวลาสั้นๆ ก็รวดเร็วก้าวขึ้นมาถึงมาตรฐานของระดับ 2 ชั้นล่าง!
"ท่านพ่อ ดูเหมือนหนูจะ..."
ในตอนนี้ หวนนึกถึงคำพูดของลู่ผิงก่อนหน้านี้ ลู่จือเวยก็อึ้งไปครู่ใหญ่
"ดูเหมือนหนูจะเลื่อนขั้นจริงๆ ด้วย..."
ด้วยชีวิตที่ใช้อยู่กับลู่ผิงมาตั้งแต่เด็ก นางก็รู้นัยของคำว่า 'เลื่อนขั้น' ที่ลู่ผิงเอ่ยถึง
ความชำนาญในการหลอมสร้างอาวุธของตน นางเข้าใจแจ่มแจ้งที่สุด
หากอยากก้าวสู่ช่างหลอมสร้างอาวุธระดับ 2 ชั้นล่าง ยังไงก็ต้องใช้เวลาอีกสองสามปีในการค้นหาวิธี
แต่ตอนนี้ ท่านพ่อเพียงปลายนิ้วก็ราวกับเร่งเวลาให้ผ่านไปสองสามปี ให้นางก้าวเข้าสู่ช่างหลอมสร้างอาวุธระดับ 2 ชั้นล่างได้ในทันที
ก่อนหน้านี้ ด้วยวิธีเร้าใจที่ท่านพ่อใช้ก็ทำให้นางรู้สึกเหลือเชื่ออยู่แล้ว
ตอนนี้ท่านพ่อปิดตัวฝึกตนแค่ปีเดียว วิธีการที่ท่านมี...ยิ่งลึกลับอย่างที่สุดจริงๆ
รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน
ลู่จือเวยมีแต่ความข้องใจและประหลาดใจเต็มอก นางใช้เทคนิคตัวเบาเคลื่อนไปที่ด้านนอกถ้ำหลักหลังเขา รายงานเรื่องที่ความชำนาญในการหลอมสร้างอาวุธของนางเลื่อนขั้นให้ลู่ผิงฟัง
"ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องนี้ไม่มีผลเสียกับเจ้าหรอก"
"ต่อไปเรื่องแบบนี้จะมีบ่อยๆ เจ้าต้องคุ้นชิน"
ลู่ผิงแค่ตอบไปแบบนี้ ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม
อย่างไรเสีย เรื่องวิธีการเปิดกฎของระบบ เขาก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง ก็ขี้เกียจอธิบายแล้วกัน
ถึงลู่จือเวยจะไม่ค่อยเข้าใจว่าท้ายที่สุดแล้วลู่ผิงทำได้อย่างไร แต่พอคิดดูว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ไม่มีผลเสียต่อตัวเอง ถ้าอย่างนั้นนางก็ไม่คิดมากต่อ
คิดไม่ออกก็ไม่ต้องคิด ฟังท่านพ่อก็พอ
หลังจากยกระดับความชำนาญในการหลอมสร้างอาวุธของเด็กหญิงเสร็จ คะแนนชื่อเสียงก็เหลือ 293 คะแนน ลู่ผิงก็พักการแลกไปก่อน
คะแนนชื่อเสียงเท่านี้ต้องเก็บไว้ มีประโยชน์มาก
เขาพลางพูดถึงอีกเรื่องหนึ่ง
"เจ้ามาพอดีเลย เดี๋ยวไปเรียกเช่อชิงชิงมาด้วย"
"พ่อได้ยินจากหยวนซานว่า นางเรียนรู้ความรู้การปรุงยาวิเศษมากว่าปีแล้ว เข้าใจหลักการพื้นฐานแล้ว สามารถลองปรุงยาวิเศษ ท้าทายขอบเขตของนักปรุงยาระดับ 1 ได้แล้ว"
แต่แรก ข้อเสนอที่จะฝึกฝนเช่อชิงชิงนั้น ก็ยังเป็นลู่จือเวยที่เสนอขึ้นมา
ตอนนี้ เมื่อได้ยินว่าเช่อชิงชิงเรียนรู้ได้ผลไม่เลว ลู่จือเวยก็รู้สึกว่าเวลาผ่านไปรวดเร็ว จู่ๆ ก็ผ่านไปนานเหลือเกิน
แต่แรกเด็กสาวที่มีแต่ความสามารถในการดูแลสวนสมุนไพร ตอนนี้ก็สามารถยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ได้ กลายเป็นนักปรุงยาได้แล้ว
"ท่านพ่อรอสักครู่นะเจ้าคะ"
ที่นิกายจะได้นักปรุงยาของตัวเอง ลู่จือเวยก็ดีใจอยู่แล้ว นางตอบรับแล้วก็เดินไปที่สวนสมุนไพรเพื่อเรียกเช่อชิงชิง
เมื่อมาถึงสวนสมุนไพร บอกเช่อชิงชิงว่าลู่ผิงเรียกหานางแล้ว เช่อชิงชิงก็เพิ่งจะเข้าใจในครู่นั้น
เนื่องจากเข้าร่วมนิกายค่อนข้างช้า ยังไม่ถึงสิบปีด้วยซ้ำ นางก็ยังไม่เคยเห็นโฉมจริงของลู่ผิงเลยจริงๆ
ตอนที่เข้าร่วมนิกายชิงซาน ลู่ผิงก็ยังปิดตัวฝึกตนยาวนานถึงสามสิบปีอยู่
ส่วนการที่นิกายชิงซานมีผู้อาวุโสขั้นแก่นทอง นางก็รู้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองทั่วทั้งแคว้นฉู่ ผู้อาวุโสขั้นแก่นทองมีไม่กี่ท่าน แต่ละท่านมีชื่อเสียงโด่งดัง นางจะไม่รู้ว่านิกายชิงซานมีผู้อาวุโสขั้นแก่นทองอยู่หนึ่งท่านได้อย่างไร?
แต่ที่ตอนนี้ทำให้นางสงสัยคือ ในนิกายชิงซานมีข่าวลือว่าผู้อาวุโสของนิกายปิดตัวฝึกตนอยู่ตลอดไม่ใช่หรือ?
หรือจะพูดว่า...ผู้อาวุโสขั้นแก่นทองในนิกายชิงซานมรณภาพไปแล้ว
ข่าวลือแบบนี้แพร่หลายมาหลายปีแล้วในช่วงเวลานี้
ไม่อย่างนั้น หากท่านอาจารย์ผู้ก่อตั้งนิกายสามารถออกจากการปลีกวิเวกได้ เมื่อนิกายชิงซานเผชิญภัยจากอธรรม ท่านก็ควรออกมาช่วยเหลือนิกายตั้งแต่แรก ก็คงไม่ถึงกับรอจนถึงตอนนี้
เรื่องของผู้อาวุโสของนิกาย เช่อชิงชิงก็ไม่ควรคาดเดาอะไร ยิ่งไม่กล้าถามไถ่มาก ภายใต้การนำของลู่จือเวย นางก็มาถึงด้านนอกถ้ำหลักหลังเขา พร้อมสีหน้าเต็มไปด้วยความตึงเครียด