ตอนที่แล้วบทที่ 63 ไม่นะ คนของฉันก็พังไปแล้วเหมือนกัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 65  แก่นแท้พลังชี่

บทที่ 64 เนื้อเรื่องก็คือเนื้อเรื่องอย่างแน่นอน


[แฟนเพจBamแปลNiyay:ลงแบบราคาถูกโคตรในmy-novel(ลงช้ากว่าThai-novel100ตอน)กับthai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นนอกจากสองเว็บนี้คือไม่ใช่ผมนะ ถ้าเจอคนอ่านก็อปดันเยอะกว่าก็ท้อเป็นนะครับ]

[ถ้าอ่านฟรีแบบเถื่อนไม่ว่าจะได้มายังไงนั้น ผมไม่ว่าเลยครับ และต่อให้ไม่มีคนอ่าน ผมก็ยังจะแปลต่อจนจบด้วย แต่ถ้าจะจ่ายเงินให้เว็บหรือคนที่copyไปขายอีกที คุณโคตรแย่เลยครับ]

[หลังแปลจบจะมีการแก้คำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าคุณอ่านแบบเถื่อน ก็เชิญเลยครับ เพราะมันไม่มีอัพเดทให้หรอก]

บทที่ 64 เนื้อเรื่องก็คือเนื้อเรื่องอย่างแน่นอน

ในห้องอันกว้างขวาง กู่เฉินหนานถอดสูทออก คลายเนคไทรอบคอเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขา และนั่งลงที่ขอบเตียงพลางครุ่นคิดบางอย่าง

“ให้ตายเถอะ ถังหยุนจินเป็นบ้าอะไรไปกันแน่?”

"เธอบอกว่าเธออยากจะขอบคุณฉัน ขอบคุณฉันเรื่องบ้าอะไร?”

“เธอบอกว่าต้องการขอบคุณฉันที่หยุดหลินหยู่ไม่ให้ได้แชมป์ในวันนี้ ดังนั้นเธอจึงอยากสอนวรยุทธ์การต่อสู้ที่เป็นมรดกสืบทอดของตระกูลเธอให้งั้นเหรอ?”

“เธอล้อเล่นหรือไง? เธอคงไม่ได้พยายามที่จะเข้าใกล้ฉันเพื่อแก้แค้นให้หลินหยู่หรอกนะ?”

“จุ๊~ แต่จะมองไปทางเลวร้ายหมดก็ไม่ได้ เพราะถังหยุนจินยามนี้ไม่สามารถใช้วรยุทธ์อะไรได้เลย เธอคงไม่มีพิษมีภัยหรอก”

"แล้วนี่มัน...เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย?"

"ในเรื่องเดิม ถังหยุนจินต้องการให้หลินหยู่คว้าแชมป์สิ!"

กู่เฉินหนานคิดไม่ออก ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว

ให้ตายเถอะ หัวของฉันกำลังจะระเบิดแล้ว!

ช่างเถอะ ฉันไม่ขอคิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป!

ไม่ว่าเธอจะมีแผนการหรือกลอุบายอะไร ฉันก็จะไม่สนใจเธอ!

กู่เฉินหนานวางโทรศัพท์ของเขาลงแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง จ้องมองไปที่เพดาน

หลังจากเจอกับเรื่องราวบ้า ๆ  มากมาย สภาพจิตใจของกู่เฉินหนานก็แข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย

อาจเป็นการกล่าวที่เกินจริงที่จะบอกว่า ต่อให้ภูเขาไฟถล่มตรงหน้า ใบหน้าของเขาจะไม่เปลี่ยนสีเลย ทว่ายามนี้ หัวใจของเขามันแข็งแกร่ง ไม่ตกใจต่อสิ่งใดอีกต่อไป ต่อให้เสือร้ายจะพุ่งเข้ามาหาเขาจากด้านหลังก็ไม่หวั่น

ต่อให้ชายร่างกายกำยำหลายสิบคนจะบุกเข้ามาในห้องของกู่เฉินหนาน แต่เขาก็ยังคงคิดว่าพวกเขามาหาเขาเพื่อประจบประแจง

กระทั่งซูเฉียนโม่ หญิงสาวผู้เย็นชาก็ได้กลายเป็นกวางเพศเมียผู้แสนขี้อาย และแม่ทัพหญิงหลิงหมิงรุ่ยก็กลายเป็นหญิงสายแสนหวานที่ละเอียดอ่อน บอบบาง ถ้าขนาดเรื่องเช่นนี้ยังเป็นไปได้ จะมีอะไรอีกที่เป็นไปไม่ได้?

ตู๊ดดด ~

ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง

กู่เฉินหนานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและมองดู มันเป็นอีกหนึ่งข้อความจากถังหยุนจิน

“คุณชายกู่ ก่อนหน้านี้ฉันเคยถูกหลินหยู่หลอก ดังนั้นฉันจึงได้ถ่ายทอดวรยุทธ์การต่อสู้ของตระกูลฉันให้กับเขาไป”

“แม้ว่าตอนนี้เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ด้วยวิชาวรยุทธ์เหล่านั้น มันได้เพิ่มความแข็งแกร่งของเขาไปมาก ซึ่งมันจะทำให้เขาอาการดีขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต ดังนั้นคุณชายกู่ ได้โปรดยอมรับวรยุทธ์การต่อสู้ของฉันด้วยเถอะนะคะ!”

ให้ตายสิ!

มันต้องเป็นแผนการที่จะสร้างความขัดแย้งอย่างแน่นอน!

อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่าเธอมีความผูกพันอย่างลึกซึ้งระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ ฉันไม่เชื่อเธอด้วยกลยุทธ์ตื้น ๆ แบบนี้หรอก

ฉันอ่านเนื้อเรื่องมาหมดแล้ว!

กู่เฉินหนานปิดหน้าจอโทรศัพท์ลง แล้วนอนลงโดยใช้แขนค้ำเป็นหมอน

ตลกจริง ๆ !

เธอคิดว่าฉันเป็นแค่ลูกชายคนรวยผลาญเงินไปวัน ๆ งั้นเหรอ?

ขอบอกเลยว่าภายนอกฉันแกล้งทำเป็นไร้การศึกษา โง่เขลา และอวดี แต่แท้จริงแล้วฉันฉลาดมาก!

เธอมันก็แค่หญิงสาวตัวเล็ก ๆ ที่เรียนไม่เก่งและหาวิธีรักษาร่างกายตัวเองไม่ใช่หรือไง? ช่างน่าขันจริง ๆ !

โทรศัพท์ของเขายังคงดังอยู่ แต่กู่เฉินหนานไม่ได้มีความตั้งใจที่จะดูมันเลย

เขาอาบน้ำ เปลี่ยนเป็นชุดนอนสีเข้ม จากนั้นก็คลานเข้าไปใต้ผ้าห่ม

ในไม่ช้าเสียงกรนอันแผ่วเบาก็หลุดออกมา

...

เวลา 02.00 น.

ทุกอย่างเงียบสงบ ไม่มีเสียงใด ๆ จากคฤหาสน์ตระกูลกู่ ยกเว้นเสียงร้องของแมลงอยู่ภายนอก

ทันใดนั้น แสงไฟในห้องปลายทางเดินชั้นหนึ่งก็เปิดขึ้นทันที

ไป๋ยู่เทียนที่สวมหน้ากาก ติดกิ๊ปกระต่ายที่ผม ค่อย ๆ โผล่หัวของเธอออกมาจากห้องของเธออย่างระมัดระวัง

เธอมองไปทางซ้ายและขวาอย่างลับ ๆ  และเมื่อไม่เห็นใคร เธอจึงเขย่งเท้าย่อตัวออกจากห้องของเธอ

ในมือของเธอถือถุงน่องลายสีขาวที่เธอเพิ่งถอดออก ซึ่งมันยังคงมีความอุ่นอยู่บ้าง เธอเดินขึ้นไปข้างบนโดยไม่ส่งเสียงใด ๆ และในที่สุด เธอก็หยุดอยู่หน้าห้องของกู่เฉินหนาน

เธอยืนอ้อยอิ่งอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน ก่อนที่จะสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้ววางมือบนลูกบิดประตู จากนั้นก็แนบหูของเธอกับประตูเพื่อฟังเสียงอยู่สักพัก

แล้ว...

คลิก  เธอค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไป

กู่เฉินหนานที่อยู่ข้างในหลับอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ตัวเลยว่าไป๋ยู่เทียนเข้ามาแล้ว

ไป๋หยูเทียนก้าวไปข้างหน้าเบา ๆ แล้วมาหยุดที่ข้างเตียงของกู่เฉินหนาน

ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สว่างไสว เธอเห็นกู่เฉินนอนเหยียดขายาวอย่างไม่มีความสง่างามใด ๆ เลย

แม้ว่ามันจะค่อนข้างไม่เหมาะสม แต่เดิมทีผิวพรรณที่สวยงามของกู่เฉินหนานทำให้รูปลักษณ์ที่หล่อเหลาอยู่แล้วก็ยิ่งหล่อมากขึ้นภายใต้แสงจันทร์

มันแทบไม่ต่างจากแวมไพร์ชั้นสูงที่หลับลึกอยู่ในปราสาทโบราณเลย

เอ่อ...เว้นแต่เพียงท่านอนที่ดูไม่เป็นท่าของเขา

หัวใจของไป๋หยูเทียนเต้นแรงอย่างรวดเร็ว เธอหยิบถุงน่องออกมาอย่างระมัดระวังจากนั้นค่อย ๆ วางไว้ข้างหมอนของกู่เฉินหนาน

แล้วเธอก็โน้มตัวลงไป ดูเหมือนจะต้องการแอบจูบกู่เฉินหนาน

แต่ทันใดนั้น กู่เฉินหนานก็พลิกตัวคว่ำไปทันที

ไป๋หยูเทียนตกใจมาก ยืนนิ่งและไม่กล้าส่งเสียง

ในการพลิกครั้งนี้ กู่เฉินหนานก็บังเอิญไปนอนทับถุงน่องลายขาว แล้วก็กลับมานอนกรนอีกครั้ง

เมื่อเห็นเช่นนี้ ไป๋หยูเทียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอหายใจออกเบา ๆ  และหันกลับออกจากห้องของกู่เฉินหนาน

...

เช้าวันรุ่งขึ้น...

แสงแดดสาดส่องผ่านขอบหน้าต่างเข้าไปในห้องของกู่เฉินหนาน

กู่เฉินหนานลืมตาขึ้นเล็กน้อย

“ฮ่า ~” เขาลุกขึ้นนั่งและยืดเส้นยืดสายอย่างเกียจคร้าน

ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่นุ่มและเนียนเรียบอยู่ในมือเขา

เขาเหลือบมองมันในทันที --

“บ้าเอ๊ย! นี่มันอะไรกันเนี่ย?!”

กู่เฉินหนานตกใจมากและโยนสิ่งนั้นไปด้านข้างทันที

มันคือถุงน่องลายสีขาวที่เปียกน้ำลาย

เมื่อจ้องมองไปที่ถุงน่องลายสีขาวคู่นี้ กู่เฉินหนานก็ชะงักตัวแข็งทื่อ จิตใจของเขาว่างเปล่า

[ถุงน่อง?]

[สีขาว?]

[มีลายด้วยเหรอ?]

[นี่มันดูเหมือนอันที่ไป๋หยูเทียนใส่เมื่อคืนเลย!]

[ให้ตายสิ ไอ้สิ่งนี้มันเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง?]

[เป็นไปได้ไหมว่าฉันเดินละเมอ แล้วเผลอไปขโมยมันเมื่อคืนนี้?]

[โอ้ ไม่นะ ถ้าไป๋หยูเทียนรู้เข้า เธอคงจะไม่หาว่าฉันเป็นโรคจิตวิปริตหรือไง?]

ใบหน้าของกู่เฉินหนานเปลี่ยนเป็นสีแดงและมีเหงื่อไหลไปทั่วหลังของเขา

เขากลืนน้ำลายและจ้องไปที่ถุงน่องลายขาวในมือ

จากนั้นเขาก็ไม่สามารถต้านทานความอยากรู้อยากเห็นของเขาได้ เขาจึงยกมันขึ้นจมูกแล้วสูดดม

เขาต้องยอมรับว่ามันมีกลิ่นหอมจริง ๆ !

[ฉันกำลังทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย?!]

กู่เฉินหนานตั้งสติได้อย่างรวดเร็วแล้วรีบโยนถุงน่องทิ้งไป

เขากอดอกด้วยความกังวลอย่างมาก

[เมื่อคืนฉันขโมยไอ้นี้มาขณะที่เดินละเมอจริง ๆ เหรอ? แต่ฉันไม่เคยละเมอมาก่อนเลยนะ!]

[แล้วของนี้เข้ามาอยู่ในห้องฉันได้อย่างไงกัน?]

[ไป๋หยูเทียนจะเอามันมาให้ที่นี่ด้วยตัวเองเหรอ? เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! เธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น!]

[แม้ว่าบุคลิกของเธอจะเปลี่ยนไปเหมือนซูเฉียนโม่และคนอื่น ๆ แต่เธอก็คงไม่ทำถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง!]

[ช่างเถอะ ฉันจะไม่ขอคิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าสิ่งนี้จะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ฉันจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วกัน!]

กู่เฉินหนานยืนพยักหน้าให้กับตัวเอง

ก๊อก ก๊อก ก๊อก~

ทันใดนั้น ก็มีเสียงเคาะประตูของเขา

กู่เฉินหนานรีบยัดถุงน่องลึกลับไว้ใต้หมอนของเขาและพูดว่า "เข้ามาสิ"

ประตูเปิดออกแล้วคนที่เข้ามาคือหม่าปิง

เขาพูดว่า “คุณชายกู่ครับ มีหญิงสาวคนหนึ่งที่ประตูคฤหาสน์ต้องการพบท่าน”

กู่เฉินหนานขมวดคิ้วอย่างสับสน “เธอบอกหรือเปล่าว่าชื่ออะไร?”

“ครับ” หม่าปิงตอบ “เธอบอกว่าชื่อถังหยุนจินครับ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของกู่เฉินหนานก็เบิกกว้างขึ้นทันที

ถังหยุนจิน?

เธอกำลังพยายามจะทำอะไรกันแน่? ฉันไม่ได้ตอบกลับข้อความของเธอเมื่อคืนนี้ ดังนั้นเธอจึงเข้ามาหาฉันที่บ้านเลยเหรอ?

แล้ววันนี้ เธอจะลองอีกหนึ่งในสามสิบหกกลยุทธ์ทำให้คล้อยตามหรือไงกัน?

ไม่ว่าเธอจะใช้แผนอะไร ฉันจะตอบโต้ได้ตลอดแหละ

“ฉันไม่อยากเจอเธอ!” กู่เฉินหนานกล่าวอย่างไม่แยแส

“ครับคุณชายกู่ ผมจะบอกเธอกลับไปเช่นนั้น”

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด