บทที่ 64 เนื้อเรื่องก็คือเนื้อเรื่องอย่างแน่นอน
[แฟนเพจBamแปลNiyay:ลงแบบราคาถูกโคตรในmy-novel(ลงช้ากว่าThai-novel100ตอน)กับthai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นนอกจากสองเว็บนี้คือไม่ใช่ผมนะ ถ้าเจอคนอ่านก็อปดันเยอะกว่าก็ท้อเป็นนะครับ]
[ถ้าอ่านฟรีแบบเถื่อนไม่ว่าจะได้มายังไงนั้น ผมไม่ว่าเลยครับ และต่อให้ไม่มีคนอ่าน ผมก็ยังจะแปลต่อจนจบด้วย แต่ถ้าจะจ่ายเงินให้เว็บหรือคนที่copyไปขายอีกที คุณโคตรแย่เลยครับ]
[หลังแปลจบจะมีการแก้คำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าคุณอ่านแบบเถื่อน ก็เชิญเลยครับ เพราะมันไม่มีอัพเดทให้หรอก]
บทที่ 64 เนื้อเรื่องก็คือเนื้อเรื่องอย่างแน่นอน
ในห้องอันกว้างขวาง กู่เฉินหนานถอดสูทออก คลายเนคไทรอบคอเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขา และนั่งลงที่ขอบเตียงพลางครุ่นคิดบางอย่าง
“ให้ตายเถอะ ถังหยุนจินเป็นบ้าอะไรไปกันแน่?”
"เธอบอกว่าเธออยากจะขอบคุณฉัน ขอบคุณฉันเรื่องบ้าอะไร?”
“เธอบอกว่าต้องการขอบคุณฉันที่หยุดหลินหยู่ไม่ให้ได้แชมป์ในวันนี้ ดังนั้นเธอจึงอยากสอนวรยุทธ์การต่อสู้ที่เป็นมรดกสืบทอดของตระกูลเธอให้งั้นเหรอ?”
“เธอล้อเล่นหรือไง? เธอคงไม่ได้พยายามที่จะเข้าใกล้ฉันเพื่อแก้แค้นให้หลินหยู่หรอกนะ?”
“จุ๊~ แต่จะมองไปทางเลวร้ายหมดก็ไม่ได้ เพราะถังหยุนจินยามนี้ไม่สามารถใช้วรยุทธ์อะไรได้เลย เธอคงไม่มีพิษมีภัยหรอก”
"แล้วนี่มัน...เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย?"
"ในเรื่องเดิม ถังหยุนจินต้องการให้หลินหยู่คว้าแชมป์สิ!"
กู่เฉินหนานคิดไม่ออก ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว
ให้ตายเถอะ หัวของฉันกำลังจะระเบิดแล้ว!
ช่างเถอะ ฉันไม่ขอคิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป!
ไม่ว่าเธอจะมีแผนการหรือกลอุบายอะไร ฉันก็จะไม่สนใจเธอ!
กู่เฉินหนานวางโทรศัพท์ของเขาลงแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง จ้องมองไปที่เพดาน
หลังจากเจอกับเรื่องราวบ้า ๆ มากมาย สภาพจิตใจของกู่เฉินหนานก็แข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย
อาจเป็นการกล่าวที่เกินจริงที่จะบอกว่า ต่อให้ภูเขาไฟถล่มตรงหน้า ใบหน้าของเขาจะไม่เปลี่ยนสีเลย ทว่ายามนี้ หัวใจของเขามันแข็งแกร่ง ไม่ตกใจต่อสิ่งใดอีกต่อไป ต่อให้เสือร้ายจะพุ่งเข้ามาหาเขาจากด้านหลังก็ไม่หวั่น
ต่อให้ชายร่างกายกำยำหลายสิบคนจะบุกเข้ามาในห้องของกู่เฉินหนาน แต่เขาก็ยังคงคิดว่าพวกเขามาหาเขาเพื่อประจบประแจง
กระทั่งซูเฉียนโม่ หญิงสาวผู้เย็นชาก็ได้กลายเป็นกวางเพศเมียผู้แสนขี้อาย และแม่ทัพหญิงหลิงหมิงรุ่ยก็กลายเป็นหญิงสายแสนหวานที่ละเอียดอ่อน บอบบาง ถ้าขนาดเรื่องเช่นนี้ยังเป็นไปได้ จะมีอะไรอีกที่เป็นไปไม่ได้?
ตู๊ดดด ~
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง
กู่เฉินหนานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและมองดู มันเป็นอีกหนึ่งข้อความจากถังหยุนจิน
“คุณชายกู่ ก่อนหน้านี้ฉันเคยถูกหลินหยู่หลอก ดังนั้นฉันจึงได้ถ่ายทอดวรยุทธ์การต่อสู้ของตระกูลฉันให้กับเขาไป”
“แม้ว่าตอนนี้เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ด้วยวิชาวรยุทธ์เหล่านั้น มันได้เพิ่มความแข็งแกร่งของเขาไปมาก ซึ่งมันจะทำให้เขาอาการดีขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต ดังนั้นคุณชายกู่ ได้โปรดยอมรับวรยุทธ์การต่อสู้ของฉันด้วยเถอะนะคะ!”
ให้ตายสิ!
มันต้องเป็นแผนการที่จะสร้างความขัดแย้งอย่างแน่นอน!
อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่าเธอมีความผูกพันอย่างลึกซึ้งระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ ฉันไม่เชื่อเธอด้วยกลยุทธ์ตื้น ๆ แบบนี้หรอก
ฉันอ่านเนื้อเรื่องมาหมดแล้ว!
กู่เฉินหนานปิดหน้าจอโทรศัพท์ลง แล้วนอนลงโดยใช้แขนค้ำเป็นหมอน
ตลกจริง ๆ !
เธอคิดว่าฉันเป็นแค่ลูกชายคนรวยผลาญเงินไปวัน ๆ งั้นเหรอ?
ขอบอกเลยว่าภายนอกฉันแกล้งทำเป็นไร้การศึกษา โง่เขลา และอวดี แต่แท้จริงแล้วฉันฉลาดมาก!
เธอมันก็แค่หญิงสาวตัวเล็ก ๆ ที่เรียนไม่เก่งและหาวิธีรักษาร่างกายตัวเองไม่ใช่หรือไง? ช่างน่าขันจริง ๆ !
โทรศัพท์ของเขายังคงดังอยู่ แต่กู่เฉินหนานไม่ได้มีความตั้งใจที่จะดูมันเลย
เขาอาบน้ำ เปลี่ยนเป็นชุดนอนสีเข้ม จากนั้นก็คลานเข้าไปใต้ผ้าห่ม
ในไม่ช้าเสียงกรนอันแผ่วเบาก็หลุดออกมา
...
เวลา 02.00 น.
ทุกอย่างเงียบสงบ ไม่มีเสียงใด ๆ จากคฤหาสน์ตระกูลกู่ ยกเว้นเสียงร้องของแมลงอยู่ภายนอก
ทันใดนั้น แสงไฟในห้องปลายทางเดินชั้นหนึ่งก็เปิดขึ้นทันที
ไป๋ยู่เทียนที่สวมหน้ากาก ติดกิ๊ปกระต่ายที่ผม ค่อย ๆ โผล่หัวของเธอออกมาจากห้องของเธออย่างระมัดระวัง
เธอมองไปทางซ้ายและขวาอย่างลับ ๆ และเมื่อไม่เห็นใคร เธอจึงเขย่งเท้าย่อตัวออกจากห้องของเธอ
ในมือของเธอถือถุงน่องลายสีขาวที่เธอเพิ่งถอดออก ซึ่งมันยังคงมีความอุ่นอยู่บ้าง เธอเดินขึ้นไปข้างบนโดยไม่ส่งเสียงใด ๆ และในที่สุด เธอก็หยุดอยู่หน้าห้องของกู่เฉินหนาน
เธอยืนอ้อยอิ่งอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน ก่อนที่จะสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้ววางมือบนลูกบิดประตู จากนั้นก็แนบหูของเธอกับประตูเพื่อฟังเสียงอยู่สักพัก
แล้ว...
คลิก เธอค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไป
กู่เฉินหนานที่อยู่ข้างในหลับอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ตัวเลยว่าไป๋ยู่เทียนเข้ามาแล้ว
ไป๋หยูเทียนก้าวไปข้างหน้าเบา ๆ แล้วมาหยุดที่ข้างเตียงของกู่เฉินหนาน
ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สว่างไสว เธอเห็นกู่เฉินนอนเหยียดขายาวอย่างไม่มีความสง่างามใด ๆ เลย
แม้ว่ามันจะค่อนข้างไม่เหมาะสม แต่เดิมทีผิวพรรณที่สวยงามของกู่เฉินหนานทำให้รูปลักษณ์ที่หล่อเหลาอยู่แล้วก็ยิ่งหล่อมากขึ้นภายใต้แสงจันทร์
มันแทบไม่ต่างจากแวมไพร์ชั้นสูงที่หลับลึกอยู่ในปราสาทโบราณเลย
เอ่อ...เว้นแต่เพียงท่านอนที่ดูไม่เป็นท่าของเขา
หัวใจของไป๋หยูเทียนเต้นแรงอย่างรวดเร็ว เธอหยิบถุงน่องออกมาอย่างระมัดระวังจากนั้นค่อย ๆ วางไว้ข้างหมอนของกู่เฉินหนาน
แล้วเธอก็โน้มตัวลงไป ดูเหมือนจะต้องการแอบจูบกู่เฉินหนาน
แต่ทันใดนั้น กู่เฉินหนานก็พลิกตัวคว่ำไปทันที
ไป๋หยูเทียนตกใจมาก ยืนนิ่งและไม่กล้าส่งเสียง
ในการพลิกครั้งนี้ กู่เฉินหนานก็บังเอิญไปนอนทับถุงน่องลายขาว แล้วก็กลับมานอนกรนอีกครั้ง
เมื่อเห็นเช่นนี้ ไป๋หยูเทียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอหายใจออกเบา ๆ และหันกลับออกจากห้องของกู่เฉินหนาน
...
เช้าวันรุ่งขึ้น...
แสงแดดสาดส่องผ่านขอบหน้าต่างเข้าไปในห้องของกู่เฉินหนาน
กู่เฉินหนานลืมตาขึ้นเล็กน้อย
“ฮ่า ~” เขาลุกขึ้นนั่งและยืดเส้นยืดสายอย่างเกียจคร้าน
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่นุ่มและเนียนเรียบอยู่ในมือเขา
เขาเหลือบมองมันในทันที --
“บ้าเอ๊ย! นี่มันอะไรกันเนี่ย?!”
กู่เฉินหนานตกใจมากและโยนสิ่งนั้นไปด้านข้างทันที
มันคือถุงน่องลายสีขาวที่เปียกน้ำลาย
เมื่อจ้องมองไปที่ถุงน่องลายสีขาวคู่นี้ กู่เฉินหนานก็ชะงักตัวแข็งทื่อ จิตใจของเขาว่างเปล่า
[ถุงน่อง?]
[สีขาว?]
[มีลายด้วยเหรอ?]
[นี่มันดูเหมือนอันที่ไป๋หยูเทียนใส่เมื่อคืนเลย!]
[ให้ตายสิ ไอ้สิ่งนี้มันเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง?]
[เป็นไปได้ไหมว่าฉันเดินละเมอ แล้วเผลอไปขโมยมันเมื่อคืนนี้?]
[โอ้ ไม่นะ ถ้าไป๋หยูเทียนรู้เข้า เธอคงจะไม่หาว่าฉันเป็นโรคจิตวิปริตหรือไง?]
ใบหน้าของกู่เฉินหนานเปลี่ยนเป็นสีแดงและมีเหงื่อไหลไปทั่วหลังของเขา
เขากลืนน้ำลายและจ้องไปที่ถุงน่องลายขาวในมือ
จากนั้นเขาก็ไม่สามารถต้านทานความอยากรู้อยากเห็นของเขาได้ เขาจึงยกมันขึ้นจมูกแล้วสูดดม
เขาต้องยอมรับว่ามันมีกลิ่นหอมจริง ๆ !
[ฉันกำลังทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย?!]
กู่เฉินหนานตั้งสติได้อย่างรวดเร็วแล้วรีบโยนถุงน่องทิ้งไป
เขากอดอกด้วยความกังวลอย่างมาก
[เมื่อคืนฉันขโมยไอ้นี้มาขณะที่เดินละเมอจริง ๆ เหรอ? แต่ฉันไม่เคยละเมอมาก่อนเลยนะ!]
[แล้วของนี้เข้ามาอยู่ในห้องฉันได้อย่างไงกัน?]
[ไป๋หยูเทียนจะเอามันมาให้ที่นี่ด้วยตัวเองเหรอ? เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! เธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น!]
[แม้ว่าบุคลิกของเธอจะเปลี่ยนไปเหมือนซูเฉียนโม่และคนอื่น ๆ แต่เธอก็คงไม่ทำถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง!]
[ช่างเถอะ ฉันจะไม่ขอคิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าสิ่งนี้จะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ฉันจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วกัน!]
กู่เฉินหนานยืนพยักหน้าให้กับตัวเอง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก~
ทันใดนั้น ก็มีเสียงเคาะประตูของเขา
กู่เฉินหนานรีบยัดถุงน่องลึกลับไว้ใต้หมอนของเขาและพูดว่า "เข้ามาสิ"
ประตูเปิดออกแล้วคนที่เข้ามาคือหม่าปิง
เขาพูดว่า “คุณชายกู่ครับ มีหญิงสาวคนหนึ่งที่ประตูคฤหาสน์ต้องการพบท่าน”
กู่เฉินหนานขมวดคิ้วอย่างสับสน “เธอบอกหรือเปล่าว่าชื่ออะไร?”
“ครับ” หม่าปิงตอบ “เธอบอกว่าชื่อถังหยุนจินครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของกู่เฉินหนานก็เบิกกว้างขึ้นทันที
ถังหยุนจิน?
เธอกำลังพยายามจะทำอะไรกันแน่? ฉันไม่ได้ตอบกลับข้อความของเธอเมื่อคืนนี้ ดังนั้นเธอจึงเข้ามาหาฉันที่บ้านเลยเหรอ?
แล้ววันนี้ เธอจะลองอีกหนึ่งในสามสิบหกกลยุทธ์ทำให้คล้อยตามหรือไงกัน?
ไม่ว่าเธอจะใช้แผนอะไร ฉันจะตอบโต้ได้ตลอดแหละ
“ฉันไม่อยากเจอเธอ!” กู่เฉินหนานกล่าวอย่างไม่แยแส
“ครับคุณชายกู่ ผมจะบอกเธอกลับไปเช่นนั้น”