บทที่ 1835 : กลุ่มพันธมิตรเฟยหยุน! หวังเต็งต่อสู้กับลู่เทียน! (2) (ตอนฟรี)
บทที่ 1835 : กลุ่มพันธมิตรเฟยหยุน! หวังเต็งต่อสู้กับลู่เทียน! (2)
“เราจะบอกลูกพี่ดีไหม?” เวดถาม
“บอกเขาสิ” เยว่ฉีเฉียวพูดอย่างหงุดหงิด “ผู้ชายคนนี้ทิ้งเรื่องไว้ให้เราแล้วหายตัวไปไหนก็ไม่รู้”
เวดหัวเราะคิกคัก เยว่ฉีเฉียวมักจะขี้บ่นอยู่เสมอ แต่เธอก็ยังคงทำงานตามหน้าที่ให้เจ้านายมอบหมายให้
เป็นธรรมดาของคนที่พูดแรงแต่ค่อนข้างซื่อสัตย์
“กลุ่มพันธมิตรเฟยหยุนม่ใช่กลุ่มเล็กๆ ฉันไม่คิดเลยว่าลูกพี่หวังเต็งที่จะดึงดูดกลุ่มที่มีอำนาจเช่นนี้ตั้งแต่เปิดตัวสมาคมดารา พวกเขาต้องประเมินเราไว้สูงมากแน่ๆ” เวดขมวดคิ้วและพูด
“พวกเขาไม่ได้สนใจเรามากนักหรอก พวกเขาสนใจแค่หวังเต็งก็เท่านั้นแหละ” เยว่ฉีเฉียวกล่าว “ฉันจะติดต่อหวังเต็งและดูว่าเขาจะว่ายังไง”
จากนั้นเธอก็ติดต่อหวังเต็ง
หวังเต็งกำลังฝึกฝนอยู่ในที่ราบพายุดาบ เขาสั่งให้ลูกกลมบล็อกข้อความทั้งหมดจากคนแปลกหน้า
อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆ สำหรับเยว่ฉีเฉียวและคนอื่นๆ ลูกกลมก็จะแจ้งให้เขาทราบทันทีหากมีคนใดคนหนึ่งติดต่อเขา
“เยว่ฉีเฉียว?” หวังเต็งรู้สึกงุนงง เขาถามว่า “เธอมีอะไร?”
ลูกกลมเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสมาคมดารา รวมถึงการมาเยือนของกลุ่มพันธมิตรเฟยหยุน
“กลุ่มพันธมิตรเฟยหยุน!” หวังเต็งค่อยๆ ลืมตาขึ้น มีประกายแวววาวอยู่ในนั้น เขายืนขึ้น เดินไปยังพื้นที่อันเงียบสงบ และสั่งให้ลูกกลมเชื่อมต่อสายของเยว่ฉีเฉียว
ภาพฉายของเยว่ฉีเฉียวปรากฏขึ้น
“นายอยู่ที่ที่ราบพายุดาบงั้นหรอ?” เยว่ฉีเฉียวมองไปรอบๆ เธอแล้วถามว่า “ไม่แปลกใจเลยที่ฉันจะไม่สามารถหานายเจอได้”
“ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักนะ” หวังเต็งไออย่างเชื่องช้า เขารู้สึกผิดเล็กน้อย
“ฮึ่ม อย่างน้อยนายก็ยังมีจิตสำนึกอยู่บ้าง” เยว่ฉีเฉียวตะคอก “นายน่าจะรู้แล้วใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น? ตอนนี้เราควรทำยังไงดี?”
“ไม้ต้องไปสนใจพวกเขา เราจะจัดการกับทุกสิ่งที่เข้ามาขวางทางเรา เราจะข้ามสะพานนั้นเมื่อเราไปถึงที่นั่น คนเหล่านี้คิดว่าพวกเขาต้อนฉันได้ แต่มาดูกันว่าพวกเขาจะทำได้จริงรึเปล่า” หวังเต็งกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ
“เอาล่ะ นายพูดแบบนี้ก็ค่อยมั่นใจได้หน่อย” เยว่ฉีเฉียวตอบ
“เอาล่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันจะวางสายล่ะนะ” ฉันจำเป็นต้องฝึกฝนต่อไป” หวังเต็งกล่าว
“เดี๋ยวก่อน” เยว่ฉีเฉียวเรียกเขาอย่างเร่งรีบ
“มีอะไร?” หวังเต็งถามด้วยความประหลาดใจ
“ยากำลังขายหมดอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเราจะขายเป็นชุดตามที่นายแนะนำ แต่มันก็คงจะใช้เวลาไม่นานก่อนที่ยาของเราจะหมด” เยว่ฉีเฉียวกล่าว
“เร็วขนาดนั้นเลยหรอ!” หวังเต็งอุทานด้วยความประหลาดใจ
“ฉันไม่ได้คาดคิดว่าพวกมันจะขายดีขนาดนี้เหมือนกัน” เยว่ฉีเฉียวพูด เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะมีความสุขหรือกังวลดี
“ค่อยคิดหลังจากมันขายหมดแล้วก็ได้ ความแข็งแกร่งของเราคือสิ่งสำคัญ เพราะงั้นปรับปรุงความแข็งแกร่งของตัวเองก่อนเลย” หวังเต็งเตือนเธอ
“ได้เลย!” เยว่ฉีเฉียวพยักหน้า
ทั้งสองคนวางสายไป หวังเต็งยืนอยู่ตรงจุดนั้นและไตร่ตรองอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาก็กลับไปยังจุดเดิมและฝึกฝนต่อไป
ไม่ไกลนัก ลู่เทียนยังคงนั่งขัดสมาธิ คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันโดยไม่ได้ตั้งใจ
ไอ้เวรนั่นกลับมาอีกแล้ว!
ในทางกลับกัน หวังเต็งก็รู้สึกยินดี โดเมนดาบกระหายเลือดของเขาได้มาถึงระดับสามแล้ว กำไรที่เขาทำได้ในช่วงไม่กี่วันนี้มีความสำคัญมาก
หวังเต็งรู้สึกได้ถึงความพิเศษของโดเมนดาบกระหายเลือดระดับสาม
มันมีประสิทธิภาพมากกว่าโดเมนผสมบางโดเมนด้วยซ้ำ
ความกระหายเลือดโดยธรรมชาติแล้วเป็นพลังที่น่าเกรงขามอยู่แล้ว และการทำความเข้าใจในระดับโดเมนก็ยิ่งทำให้มันน่ากลัวมากยิ่งขึ้น
หวังเต็งมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความกระหายเลือด ดังนั้นหลังจากเชี่ยวชาญโดเมนดาบกระหายเลือดแล้ว เชาจึงรู้ซึ้งถึงความน่ากลัวที่แท้จริงของมัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากเก็บฟองสบู่มาได้บางส่วนแล้ว ลู่เทียนก็ไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป เขายืนขึ้นและจ้องมองไปที่หวังเต็ง
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา หวังเต็งยึดติดกับเขาเหมือนปูนปลาสเตอร์ เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
เมื่อสักครู่นี้ เขาคิดว่าหวังเต็งจากไปแล้ว แต่เขาก็กลับมาใหม่อีกครั้ง
เขากำลังล้อฉันเล่นอยู่!
ลู่เทียนยังคงเงียบและยืนอยู่กับที่และจ้องมองไปที่หวังเต็งอย่างเย็นชา
หวังเต็งค่อนข้างทำอะไรไม่ถูก ผู้ชายคนนี้หมดความอดทนแล้วหรอ?
“พี่ลู่ ทำไมพี่ถึงจ้องมองผมแบบนั้นล่ะ” หวังเต็งลืมตาขึ้นและถามอย่างไร้เดียงสา
“สถานที่แห่งนี้ใหญ่มาก นายเห็นฉันมองนายหรอ?” ลู่เทียนละสายตาจากไปและพูดอย่างใจเย็น
หวังเต็ง: …
ให้ตายเถอะ เขาเสียสติไปแล้ว!
ไม่เลว!
“ไปดวลในกระดานผู้นำน้องใหม่กันเถอะ!” ลู่เทียนพูดอย่างเย็นชาเมื่อความพึงพอใจฉายแววผ่านดวงตาของเขา
“อะแฮ่ม แน่นอน… ไปที่กระดานผู้นำน้องใหม่กันเถอะ” หวังเต็งไออย่างเชื่องช้าและพูดต่อ “แต่เรารีบๆ ทำให้จบได้ไหม?”
“ตกลง!” ลู่เทียนพยักหน้า
หลังจากที่พวกเขาพูดจบ พวกเขาก็มุ่งตรงไปที่กระดานผู้นำน้องใหม่
หลายคนตื่นเต้นเมื่อได้ยินการสนทนาของพวกเขา
“ลู่เทียนและหวังเต็งกำลังจะไปที่กระดานผู้นำน้องใหม่!”
“เร็วเข้า! เร็ว! เร็ว! ตามพวกเขาไปกัน เราไม่ควรพลาดแมตช์นี้”
“โอ้พระเจ้า ฉันเริ่มจะตื่นเต้นแล้ว ฉันสงสัยจังว่าใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน!”
“ต้องเป็นหวังเต็งแน่อยู่แล้ว!”
“ลู่เทียนก็ทรงพลังมากเช่นกัน เขามาจากวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งการสังหาร ไม่มีใครเคยเห็นเขาเอาจริง แต่มันก็มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับเขา”
“นายหมายถึงอะไรที่ว่ามีข่าวลือมากมาย? ผลการต่อสู้ของหวังเต็งล้วนเป็นของจริง พวกเขาจะเปรียบเทียบกันได้ยังไง”
“เอาไอ้เวรนี่ แกอยากจะเดิมพันกับฉันไหมล่ะห้ะ? ฉันพนันได้เลยว่าลู่เทียนจะต้องชนะ 1,000 แต้ม!”