ตอนที่แล้วบทที่ 151: จักรกลอุตสาหกรรม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 153: ปฏิบัติการซาวด์เนสท์

บทที่ 152: ข้อมูลจากเนสท์


[แฟนเพจBamแปลNiyay:ลงแบบราคาถูกโคตรในmy-novel(ลงช้ากว่าThai-novel100ตอน)กับthai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นนอกจากสองเว็บนี้คือไม่ใช่ผมนะ ถ้าเจอคนอ่านก็อปดันเยอะกว่าก็ท้อเป็นนะครับ]

[ถ้าอ่านฟรีแบบเถื่อนไม่ว่าจะได้มายังไงนั้น ผมไม่ว่าเลยครับ และต่อให้ไม่มีคนอ่าน ผมก็ยังจะแปลต่อจนจบด้วย แต่ถ้าจะจ่ายเงินให้เว็บหรือคนที่copyไปขายอีกที คุณโคตรแย่เลยครับ]

[หลังแปลจบจะมีการแก้คำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าคุณอ่านแบบเถื่อน ก็เชิญเลยครับ เพราะมันไม่มีอัพเดทให้หรอก]

บทที่ 152: ข้อมูลจากเนสท์

หลังจากการออกแบบจักรกลอุตสาหกรรมเสร็จสมบูรณ์แล้ว แอตลาสและทีมของเขาก็ได้หยุดงานทั้งหมดชั่วคราว มุ่งเน้นไปที่การผลิต "หัวใจ" และ "สมอง" ของจักรกลอุตสาหกรรม

ส่งผลให้ภายในหนึ่งสัปดาห์ มีการผลิตจักรกลอุตสาหกรรมมากกว่าสิบตัวได้ผลิตขึ้นสําเร็จ

สถานการณ์ภายในประเทศสหรัฐอเมริกายังไม่ชัดเจน ซุนเฉิงตั้งใจที่จะเร่งการก่อสร้างฐานทัพแห่งที่สองในบราซิล ดังนั้นเมื่อผลิตจักรกลอุตสาหกรรมแล้ว เขาจึงวางแผนที่จะส่งจักรกลทั้งสิบสี่ตัวไปยังบราซิลโดยไม่เหลือใครไว้ในฐานแรก ซึ่งฟอร์เรนเนอร์เป็นผู้รับผิดชอบฐานที่สอง และหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน ซุนเฉิงก็พบว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

พื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในถ้ำใต้ดิน เทียบเท่ากับสนามฟุตบอลมาตรฐาน 3 สนาม มันได้ถูกสร้างขึ้นภายในฐานที่ 2

พื้นดินและเพดานถ้ําที่ไม่เรียบก่อนหน้านี้ ถูกปรับให้เรียบด้วยเครื่องบด นอกจากมีเสาสองสามต้นใหม่ตั้งอยู่แล้ว ยังมีเสาหินที่ถูกถอดออกด้วย มันถูกแทนที่ด้วยเสาโลหะผสมเหล็กกล้าพิเศษหลายสิบต้นหรือมากกว่านั้น

เมื่อซุนเฉิงมาถึงฐานที่ 2  อีกครั้ง เขาก็สังเกตเห็นว่ามีการตั้งค่ามาตรการป้องกันแผ่นดินไหวในห้องโถงใหญ่ด้วย อาจเพราะภูเขาอามัมไบอยู่ใกล้กับวงแหวนแห่งไฟแถบแปซิฟิกกระมัง ถึงสิ่งมีชีวิตจักรกลจากดาวเคราะห์ไซเบอร์ตรอนจะไม่กลัวภัยธรรมชาติ แต่ของอย่างอื่นภายในถ้ำใช่ว่าจะปลอดภัยเสียหน่อย

"... นายท่าน พวกนี้คือดีเซปติคอนอุตสาหกรรมหรือเปล่าขอรับ?"

จักรกลอุตสาหกรรมชุดแรกสามตัวได้ถูกส่งไปยังฐานที่ 2 แล้ว ซึ่งเมื่อฟอร์เรนเนอร์เห็นซุนเฉิงเปิดใช้งานพวกเขา เขาก็ขยับเข้ามาใกล้และไม่อาจปิดซ่อนความสงสัยของเขาได้เลยในขณะที่เขาถามออกมา

เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็สังเกตเห็นถึงความแปลกประหลาดของหุ่นยนต์อุตสาหกรรมเหล่านี้ด้วย

พวกเขามีรูปแบบคล้ายกับดีเซปติคอน แต่พวกเขาดูแตกต่างไปอย่างมาก เย็นชาและเหมือนเครื่องจักรทั่วไป

"เปล่า..."

ซุนเฉิงมองดูฐานและพอใจกับประสิทธิภาพของฟอร์เรนเนอร์และทีมของเขามาก "จักรกลเหล่านี้เป็นจักรกลที่ออกแบบใหม่ของเรา ซึ่งมีความสามารถบางอย่างของดีเซปติคอนอุตสาหกรรม ทว่าพวกมันเองไม่สามารถถือเป็นสิ่งมีชีวิตทางจักรกลได้ พวกมันเหมาะสำหรับการทำงานหนักมากว่า.."

สายตาของเขาหยุดอยู่ที่จักรกลอุตสาหกรรมหลายตัว และทันใดนั้นเขาก็มีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมา

ข้อมูลที่ได้จากออลสปาร์คถูกเรียกว่า "พลังชีวิต" โดยเหล่าดีเซปติคอน หลังจากที่ซุนเฉิงแบ่งปันบางส่วนไปให้กับแอตลาส เขาก็สัมผัสได้ว่าตัวแอตลาสมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน

ดังนั้นแล้ว ตั้งแต่เริ่มสร้างจักรกลอุตสาหกรรมเหล่านี้ขึ้นมา เขาจึงลองคาดเดาดูว่า หากเขาแบ่งปันข้อมูลส่วนหนึ่งกับพวกเขา บางทีมันอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ได้

แต่เมื่อพิจารณาถึงคุณค่าของข้อมูล การละทิ้งส่วนหนึ่งของข้อมูลไป มันหมายถึงการสูญเสียบางส่วนของเขาไป ดังนั้นแม้ว่าสิ่งที่เขาคาดเดาจะถูกต้อง แต่เขาก็ไม่รีบร้อนทดลอง

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟอร์เรนเนอร์ก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองจักรกลอุตสาหกรรมครู่หนึ่ง จากนั้นเองมันจึงจําได้ว่าซุนเฉิงยังอยู่ที่นี่ มันจึงรีบเรียกหาวิศวกรเพื่อนําทางพวกเขาลงไปชั้นล่างและมอบหมายงานให้

คราวนี้ในบราซิล ซุนเฉิงวางแผนที่จะอยู่ต่ออีกสักสองสามวัน

"โรงไฟฟ้าต้องได้รับการจัดการโดยเร็วที่สุด..." เขาพูดกับฟอร์เรนเนอร์ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหงุดหงิด

ในข้อตกลงครั้งก่อนกับออนสลอต ซุนเฉิงได้รับชุดอุปกรณ์เก็บเกี่ยวและแปลงพลังงานจากกองทัพดีเซปติคอน

นี่เป็น

นี่เป็นสิ่งที่ดีมากจริง ๆ ด้วยสิ่งนี้ เขาก็จะสามารถแปลงพลังงานไฟฟ้าเป็นที่เก็บพลังงานมาตรฐานเหมือนในดาวเคราะห์ไซเบอร์ตรอนได้โดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อจัดหาพลังงานให้กับซุนเฉิงและดีเซปติคอนของเขาได้อีก

แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีโรงไฟฟ้า แต่ดีเซปติคอนก็สามารถดึงกระแสไฟฟ้าโดยตรงเพื่อเติมเต็มพลังงานของพวกเขาได้

ทว่าหลังจากสร้างจักรกลอุตสาหกรรมขึ้นมาแล้ว ความต้องการพลังงานไฟฟ้าของเขาก็เพิ่มขึ้นมากโข

ในฐานที่ 1 เครื่องกําเนิดไฟฟ้าดีเซลสี่ชุดผลิตกระแสไฟฟ้าที่สามารถสร้างแกนพลังงานเพียงพอสําหรับจักรกลอุตสาหกรรมสิบสี่ชุดได้ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนเท่านั้น หากซุนเฉิงต้องการขยายขนาดของจักรกลอุตสาหกรรมและวิจัยจักรกลประเภทอื่น ๆ ความต้องการด้านพลังงานก็จะเพิ่มขึ้น มันกลายเป็นความท้าทายที่เขาไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลย

ขณะนี้รัฐบาลสหรัฐได้เป็นพันธมิตรกับออโต้บอตส์ ดังนั้นซุนเฉิงจึงมีแต่ต้องหาโรงไฟฟ้าของตัวเองนอกสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

เนื่องจากฐานที่ 2 อยู่ในบราซิล มันจึงกลายเป็นตัวเลือกแรกของเขา

ไม่กี่วันที่ผ่านมา ซุนเฉิงพยายามขอซื้อโรงไฟฟ้าโดยใช้เส้นสายการค้าอาวุธของบราซิล ทว่าคำตอบที่เขาได้นั้นชัดเจนมาก

มันยากมาก!

ในฐานะที่เป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ โรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ในบราซิลมีการลงทุนจากต่างประเทศอยู่แล้ว แม้ว่ากําไรในภาคพลังงานพลเรือนจะไม่มากนัก แต่ก็มีเสถียรภาพดี ดังนั้นเหล่าโรงงานไฟฟ้าจึงไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้เขาเข้ามามีส่วนร่วมด้วย

ซึ่งอาจเพราะตัวตนของซุนเฉิงที่กลายเป็นดีเซปติคอนในโลกนี้ไปแล้ว ทำให้เขาไม่เต็มใจที่จะร่วมมือกับบริษัทของมนุษย์ สิ่งนี้ยิ่งทําให้เขาพบกับความท้าทายอันยากเย็น

ในตอนนั้นเอง ฟอร์เรนเนอร์ดูเหมือนจะมีความคิดบางอย่าง

เมื่อรู้ว่าซุนเฉิงพบอุปสรรค ฟอร์เรนเนอร์จึงรีบแนะนําด้วยเสียงเบา ๆ ว่า "นายท่าน ทําไมท่านถึงยืนกรานที่จะต้องเอาโรงไฟฟ้าจากมือมนุษย์ด้วย? พวกเราสร้างเองไม่ได้เหรอ?"

"สร้างเอง?"

ซุนเฉิงขมวดคิ้ว เขาได้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ข้อนี้แล้ว แต่การสร้างโรงไฟฟ้าด้วยตัวเองจะใช้เวลานาน แถมมันอาจไม่พอกับความกระหายพลังงานของพวกเขาด้วย

เขาจึงส่ายหัวทันที "ไม่ต้องพูดถึงการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่หรอก แม้แต่โรงไฟฟ้าขนาดกลางก็คงต้องใช้เวลาสร้างสองหรือสามปี ถึงประสิทธิภาพของเราจะสูงกว่ามนุษย์ แต่การขาดกําลังคนก็จํากัดการก่อสร้างของเรา..."

"เช่นนั้นทําไมไม่เริ่มต้นด้วยการสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กล่ะนายท่าน?"

ฟอร์เรนเนอร์โต้ตอบทันทีว่า "เทือกเขาอามัมไบเต็มไปด้วยแม่น้ำและลําธาร ดังนั้นเราจึงสามารถหาสถานที่ที่เหมาะสมในการสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำได้อย่างแน่นอน ภูมิประเทศอาจจํากัดประสิทธิภาพการทํางานของมนุษย์ แต่มันมีผลกระทบต่อเราน้อยมาก หากเราได้รับวัสดุ เราก็สามารถสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่มีกําลังการผลิตติดตั้ง 30,000 ถึง 50,000 กิโลวัตต์ในเวลาประมาณสองสัปดาห์ เมื่อถึงตอนนั้น มันจะเพียงพอต่อพลังงานของฐานอย่างแน่นอน บางทีอาจมีพลังเหลือเฟือพอใช้ได้..."

"โรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็ก?"

ซุนเฉิงครุ่นคิดพลางลูบคาง ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว

จริงสิ!

เขารู้ว่าเขาเคยติดอยู่ในความคิดที่ผิดพลาดมาก่อน เขาหลงใหลในประสิทธิภาพของอุปกรณ์ดูดซับและแปลงพลังงานที่ได้รับจากออนสลอต ทําให้เขามุ่งเน้นไปที่โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และขนาดกลาง จนลืมเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวิศวกรดีเซปติคอนและเรื่องที่เขาเพิ่งผลิตจักรกลอุตสาหกรรมมาเป็นชุดไปเลย ลืมไปเสียสนิทเลยว่าพวกเขาสามารถสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กท่ามกลางภูเขาเหล่านี้ได้ในเวลาอันสั้น

เมื่อรู้ว่าเขาลืมคิดเรื่องพวกนี้ไป ซุนเฉิงจึงเตือนตัวเองให้ระมัดระวังมากขึ้นในอนาคต

ข้อเสนอของฟอร์เรนเนอร์ไม่ต้องสังสยเลยว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขา

ซุนเฉิงพยักหน้าเห็นด้วยและชมเชยเขาว่า "ข้อเสนอของเจ้าดีมาก เมื่อข้ากลับไปสหรัฐอเมริกา ข้าจะซื้ออุปกรณ์สําหรับการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำขึ้น ข้าจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้า แต่ข้ามีข้อกําหนดเพียงอย่างเดียวคือ มันต้องถูกปิดซ่อนไว้อย่างมิดชิด!"

“รับทราบ นายท่าน!”

ข้อเสนอของฟอร์เรนเนอร์ตอบสนองความต้องการเร่งด่วนที่สุดของพวกเขา

หลังจากยืนยันความเป็นไปได้ของแผนการนี้แล้ว ซุนเฉิงก็ไม่มีความคิดที่ตั้งใจที่จะอยู่ในบราซิลอีกต่อไป เขาออกจากบราซิลอย่างรวดเร็วและกลับไปที่สหรัฐอเมริกา

เมื่อเขามาถึงเม็กซิโก ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าโทรศัพท์ของเขาสั่นในกระเป๋าเสื้อ

ซุนเฉิงหาที่เงียบ ๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา ขณะที่เขาตรวจสอบ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น

มันเป็นสายมาจากสายลับที่เขาได้คัดเลือกเข้าไปในกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ขณะที่เขาตอบกลับไป เสียงใจร้อนเสียงหนึ่งก็ดังมาจากปลายสาย "คุณเอส ผมได้รับข่าวจากเนสท์ที่คุณต้องการมาแล้ว"

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด